>> ไร่น้ำทิพย์ แก่นตะวันออร์แกนิค ปากช่อง วันนี้...ไม่ได้มีแค่..แก่นตะวัน <<

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

สวัสดีเวปเกษตรพอเพียงทุกท่านครับผมชื่อ สิทธิเดช น้ำทิพย์ อยู่ที่ปากช่อง โคราช.. ตอนนี้ได้เริ่มกิจการไร่แก่นตะวัน ภายไต้ชื่อ...

 "ไร่น้ำทิพย์ แก่นตะวัน@ปากช่อง"   เอาไว้หลบเลี่ยงความเครียดจากงานประจำ สู่วันอาทิตย์ ที่สวยงาม..

    ผมกับแฟน เป็นพนักงานบริษัททั้งคู่ ผมทำงานอยุธยา หยุดเสาร์-เว้นเสาร์ //แฟนทำงานกรุงเทพ ทำงาน 5 วัน แต่ไร่อยู่ปากช่อง @@@ เรามีเวลาจำกัด แต่ก็อยากมีอะไรเป็นของตัวเอง หลังแต่งงาน - วางแผนไว้ว่าวันนึง จะหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง มาใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ที่บ้านนอก ++  

และขอแนะนำไร่อย่างเป็นทางการครับ เพื่อนๆสามารถเยี่ยมชมเราได้ที www.rainamthip.com ได้นะครับ
และสามารถเยี่ยมชมหน้าร้านผมได้ที่ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=92474.0

ทุกอย่างในไร่นี้ สร้างขึ้นด้วยมันสมองและสองมือของผมกับภรรยา 100%  
ภายไต้การสนับสนุนและช่วยเหลือของพ่อ - แม่ - พี่ชาย และน้องสาว
เราเริ่มลองผิด ลองถูกกันมาหลายอย่างทั้งผิดหวังทั้งสมหวัง ทั้งถูกหลอก ทั้งได้รับการส่งเสริม จนวันนี้ 18 เดือนแล้ว เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ เผื่อว่าเป็นตัวอย่างให้ทุกท่านได้เอาไปเป็นความรู้ครับ

ปล. ผมจะไม่ update ความคืบหน้าในโพสนี้นะครับ จะต้องตามอ่านในโพสด้านหลังๆนะครับ ^^

" ผ่านมาปีครึ่งแล้ว มา update ชีวิตตัวเองนิดนึงครับ "

ก่อนทำเกษตร
ผมเองทำงาน จันทร์-เสาร์ หยุดอาทิตย์วันเดียว
แฟนทำงาน จันทร์-ศุกร์ หยุดเสาร์อาทิตย์
ที่ทำงานผมอยู่ใกล้หอพัก เดินทาง  3 นาทีถึง
ที่ทำงานแฟนอยู่กรุงเทพ เดินทาง 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว วันละ 4 ชั่วโมง
ไร่อยู่ปากช่อง

ช่วงทำเกษตร
ทำเองทุกอย่าง ทำไร่เอง ทำตลาดเอง ขายเอง ทำเอง
ทั้งๆที่.....
ผมเองทำงาน จันทร์-เสาร์ หยุดอาทิตย์วันเดียว นอนน้อยลง
แฟนทำงาน จันทร์-ศุกร์ หยุดเสาร์อาทิตย์ นอนน้อยลง
ที่ทำงานผมอยู่ใกล้หอพัก เดินทาง  3 นาทีถึง
ที่ทำงานแฟนอยู่กรุงเทพ เดินทาง 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว วันละ 4 ชั่วโมง
ไร่อยู่ปากช่อง

ปัจจุบัน
ผมเองทำงาน จันทร์-เสาร์ หยุดอาทิตย์วันเดียว นอนมากขึ้น
แฟนทำงาน ผมให้ออกมาทำไร่ที่บ้าน อยู่กับธรรมชาติ ชิวๆ
ที่ทำงานผมอยู่ใกล้หอพัก เดินทาง  3 นาทีถึง
ที่ทำงานแฟนอยู่ไร่ที่ปากช่อง

สิ่งที่เรียนรู้ได้คือ

ถ้าไม่ทำเกษตร เราก็ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ
ถ้าเริ่มทำเกษตร เราก็ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ และเพิ่มไปด้วยเรื่องเกษตร
เมื่อเกษตรของเราลงตัว ชีวิตเราจะขยับขยายไปได้อีก ครับ

เรื่องความเหนื่อย
เป็นลูกจ้างบริษัท  โคตรเหนื่อย  เงินได้เท่ากันทุกเดือน
เป็นเกษตรกร  โคตรเหนื่อย เงินได้มากน้อยตามความขยันและคราวสามารถ
เป็นเกษตรกรควบคู่กับการทำงาน โคตรเหนื่อยเหมือนเดิม มีเงินส่งเสริมกันไปมา

แล้ววันนึงเมื่อพร้อม...

"เรือเล็กควรออกจากฝั่ง"   (แต่กลับมาให้ทันเคอร์ฟิวนะ  ฮาาาาา)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เพื่อเป็นการลำลึกความหลัง
และทบทวนว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรกันบ้าง กันตัวเองจะลืม เอาเป็นว่าสรุปคร่าวๆเท่าที่จำได้ตามนี้ครับ..

ปี 2554 เริ่มต้นด้วยมันสำปะหลัง บ้านยาย เนื่อที่ ไร่กว่าๆ

Timeline ไร่น้ำทิพย์ & BunnyCactus.
วันที่ 10 เดือนที่ 11 ปี 2555 แต่งงาน...
23 ธันวาคม 2555 เดินงานเกษตรแฟร์ที่ไร่สุวรรณ ปากช่อง
12 มกราคม 2556 เข้าไปดูงานแก่นตะวันที่ไร่พิริยะ ปากช่อง
14 กุมภาพันธ์ 2556 Facebook Fanpage Rainamthip (Rainamthip.com : ไร่น้ำทิพย์ เกษตรเสาร์-อาทิตย์ ณ ปากช่อง)
23 กุมภาพันธ์ 2556 แก่นตะวันต้นแรกของเรา ได้ฤกษ์ลงแปลง
14 เมษายน 2556 เวปไซต์ ไร่น้ำทิพย์ (www.rainamthip.com) ถูกจด domain และเริ่มพัฒนาเวปไซต์
18 เมษายน 2556 เช่าพื้นที่ทำมันสำปะหลัง 5 ไร่
25 พฤษภาคม 2556 ผลผลิตแก่นตะวันชุดแรกของเรา ออกสู่ตลาด
16 ธันวาคม 2556 ไร่น้ำทิพย์ ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย แคปซูลแก่นตะวัน จาก ม.เกษตร กำแพงแสน
28 ธันวาคม 2556 จัดงานครบรอบ 1 ปี ไร่น้ำทิพย์
8 มกราคม 2557 ได้ฤกษ์ ลงมะนาว 7 สายพันธุ์ ณ ไร่น้ำทิพย์ ( 76 ต้น)
14 เมษายน 2557 ได้ฤกษ์สร้าง Facebook Fanpage พันธุ์ไม้ไร่น้ำทิพย์ (พันธุ์ไม้ไร่น้ำทิพย์) เพื่อเป็นอีกช่องทางในการทำเกษตรอีกอย่างของไร่
16 มีนาคม 2557 เก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง 5 ไร่
20 เมษายน 2557 ลงมันสำปะหลัง 5 ไร่
1 มิถุนายน 2557 ต่ายออกจากงาน ลุยไร่อย่างเต็มตัว
28 มิถุนายน 2557 ได้ฤกษ์เปิดตัว ต้นอ่อนทานตะวัน / โต๋วเหมี่ยว เป็นอาชีพเสริม
3 กรกฏาคม 2557 ตู้แช่แก่นตะวัน ขนาด 2.3 * 3.4 เมตร สูง 2.3 เมตร ตู้แช่แบบประหยัดด้วยมือเรา ถูกติดตั้งที่ไร่น้ำทิพย์ เพื่อรองรับผลผลิตของไร่ ไม่ให้สินค้าขาด
4-13 กรกฏาคม 2557 ไร่น้ำทิพย์ ได้ถูกเชิญเข้าร่วมออกงาน SEACON Farmer Market 2014 ที่ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
19 กรกฏาคม 2557 KCTV ขอเข้ามาถ่ายทำรายการเกี่ยวกับ แก่นตะวัน (3ตอน) ต้นอ่อนทานตะวัน (1ตอน) ฝรั่ง "เย็นสอง" (1ตอน)
20 กรกฏาคม 2557 เริ่มเรียนรู้ "แคคตัส" เพื่อเป็นทางเลือกในอนาคต
12 สิงหาคม 2557 โรงเรือนแคคตัส โรงแรกของเรา ได้ถูกสร้างขึ้น ที่ไร่น้ำทิพย์ พื้นที่ 20 ตารางเมตร เพื่อใช้ในการเพาะและขยายพันธุ์
17 สิงหาคม 2557 ไม้ชุดแรก ถูกย้ายไปในโรงเรือน..
3-7 กันยายน 2557 ไร่น้ำทิพย์ ได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ออกงานสมุนไพรแห่งชาติ ครังที่ 11 ณ.เมืองทองธานี
18-21 ธันวาคม 2557 ไร่น้ำทิพย์แก่นตะวัน และ พันธุ์ไม้ไร่น้ำทิพย์ ได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้้ออกงานเกษตรแฟร์ สถาบันวิจัยข้าวโพดข้าวฟ่างแห่งชาติ ม.เกษตรศาสตร์ (ไร่สุวรรณ ปากช่อง)
1 มกราคม 2558 เฟสบุคแฟนเพจ BunnyCactus ( http://www.facebook.com/thebunnycactus ) ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ
1 มกราคม 2558 เรื่องราวของแก่นตะวันไร่น้ำทิพย์ ได้ถูกถ่ายทอดผ่านนิตยสาร "เคหะการเกษตร" ฉบับมกราคม 2558
8 มีนาคม 2558 เริ่มทำโรงเรือนแคคตัสอย่างเป็นทางการ 3 โรงเรือน
28 มีนาคม 2558 โรงเรือนสำเร็จอย่างเป็นทางการและเริ่มนำแคคตัสเข้าโรงเรือน
28 มิถุนายน 2558 โรงเรือนกระบองเพชรโรงที่ 4 เสร็จเรียบร้อย
10 กรกฎาคม 2558 แปลงตอการะบองเพชร แปลงใหญ่ของเรา เสร็จเรียบร้อย..
19 กันยายน 2558 เริ่มส่งออกกระบองเพชร ออกต่างประเทศ...
16 ตุลาคม 2558 ทีมงานรายการ "ตะวันรุ่ง" สถานีโทรทัศน์แห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ได้เข้ามาถ่ายทำเรื่องราวของแก่นตะวัน ไร่น้ำทิพย์
9-13 ธันวาคม 2558 ไร่น้ำทิพย์ พร้อม BunnyCactus ได้เข้าร่วมแสดงสินค้างานเกษตรแฟร์ปากช่อง ณ ไร่สุวรรณ
20 ก.พ. 2559 โรงเรือนกระบองเพชร โรงเรือนที่ 5 ของ BunnyCactus ได้ถูกสร้างขึ้น (80Sq.m)
12 มิย 2559 TAC #2 ออกร้านขาย Cactus ครั้งแรกในพื้นที่ร้านของคุณพงษ์ The Nine
27 พฤษจิกายน 2559 Cactus Fair #9 ออกร้านครั้งแรกในนาม BunnyCactus The Nine
6 ธันวาคม 2559 โรงเรือนหลังที่ 6 เสร็จเรียบร้อย (155 Sq.m)
9-12 ธันวาคม 2559 เชิญพบกับ ไร่น้ำทิพย์ ที่ งานเกษตรแฟร์ ปากช่อง ณ ไร่สุวรรณ
12 กุมภาพันธ์ 2560 ออกร้านขายแคคตัสในงาน Thailand Astrophytum Club (TAC) #3 The Nine
25-26 กุมภาพันธ์ 2560 ออกร้านขายแคคตัสในงาน Farmer Market #1 Vinich วัชรพล
10-11 มิถุนายน 2560 ออกร้านขายแคคตัสในงาน Cactus Fair #10 The Nine
17 กันยายน 2560  ออกร้านขายแคคตัสในงาน Farmer Market #2 CDC
25 กันยายน 2560 โรงเรือนหลังที่ 7 เสร็จเรียบร้อย (100 Sq.m)
25-26 พฤษจิกายน 2560 ออกร้านขายแคคตัสในงาน Cactus Fair #11  The Nine
8-11 ธันวาคม 2560 ออกร้านขายแคคตัสในงาน เกษตรแฟร์ ไร่สุวรรณ
11-14 มกราคม 2561 ออกร้านขายแคคตัสในงาน เกษตร มทส.
25 กุมภาพันธ์ 2561 ออกร้านขายแคคตัสในงาน Farmer Market #3  CDC
4 มีนาคม 2561  ออกร้านขายแคคตัสในงาน TAC #4 The Nine
26 มีนาคม 2561 โรงเรือนหลังที่ 8-9 เสร็จเรียบร้อย ( 310 Sq.m)
9-10 มิถุนายน 2561  ออกร้านขายแคคตัสในงาน Cactus&Succulent Fair #12 The Nine
30 กันยายน 2561 ออกร้านขายของงาน Cactus Farmer Market #4
1 กันยายน 2561 โรงเรือนที่ 10 ของเราเริ่มสร้าง
10-11 พฤศจิกายน 2561 ออกร้านขายแคคตัสในงาน Cactus & Succulent Fair#13 The Nine
11-20 มกราคม 2562 ออกร้านขายแคคตัสในงาน เกษตร มทส.
9-10 กุมภาพันธ์ 2562 ออกร้านขายแคคตัสในงาน TAC  The
2-3 มีนาคม 2562 ออกร้านขายแคคตัสงาน Cactus Farmer Market #4  CDC
6 เมษายน 2562 โรงเรือนโรงที่ 11-12-13 เริ่มก่อสร้าง
8-9 มิถุนายน 2562 ออกร้านขายแคคตัสในงาน Colorful Cactus&Succulent #1 Paradise Park
10-11-12 สิงหาคม 2562 ออกร้านขายในงาน Cactus & Succulent Fair #14  Central Plaza Ladprao
23-24 พฤศจิกายน 2562 Cactus&Succulent Fair #15 Central plaza Rama2
8-9 กุมภาพันธ์ 2563 TAC2020 Central Plaza West Gate
เมษายน 2563 โรงเรือนขายแคคตัสขนาด 18x20 และ 18x6 ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงเรือนขายโดยเฉพาะ
3 กรกฎาคม 2563 เป็นวันเปิดโรงเรือนไม้ขายของเรา หมดภายในพริบตา..
1 สิงหาคม 2563 ออกจาก Tipco มาทำเกษตรเต็มตัว..
8-9 สิงหาคม 2563 Cactus&Succulent Fair #15.5 Central Plaza Ladprao
18-19 กันยายน 2563 Colorful cactus & Succulent
3-4 ตุลาคม 2563 Cactus Farmer Market
24-25 คุลาคม 2563 Isan Cactus & Succulent Lover1
21-22 พฤศจิกายน 2563 Cactus & Succulent Fair #16

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

เริ่มรู้จักแก่นตะวันได้อย่างไร?

    จริงๆแล้วเรารู้จักพืชชนิดนี้มาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีมาแล้ว เพราะหน่วยงานเกษตรของบริษัทที่อยู่ที่จังหวัดประจวบเคยปลูกและพี่ที่รู้จักกันเคยซื้อมาทาน แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจศึกษาเท่าไหร่...จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาสเดินเที่ยวงานเกษตรแฟร์ ที่ไร่สุวรรณ และได้พบกับ คุณหมอธวัชชัย พิริยะธรรมวงศ์ แห่งไร่พิริยะ (www.raipiriya.com)

    จากการพูดคุยอย่างเป็นกันเองทั้งในเรื่องข้อมูลการปลูกการดูแลรักษา ทำให้เรารู้สึกว่า "น่าสนใจ" ก่อนจบบทสนทนาคุณหมอยังได้ส่งท้ายด้วยคำว่า "ไร่พิริยะยินดีต้อนรับครับ" ...

    และด้วยความที่ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเริ่มว่าง(ซักที) หลังจากทุ่มเทเวลาให้กับงานแต่งของเราที่เพิ่งผ่านมา (10/11/12) และเริ่มคิดที่จะทำอะไรเป็นอาชีพเสริมให้กับครอบครัวเล็กๆที่เพิ่งจะเกิดขึ้นของเรา จึงเกิดการหาข้อมูลอย่างเต็มที่เกี่ยวกับการปลูกการดูแลรักษา การเริ่มต้นดำเนินการต่างๆ โดยใช้ "ไร่พิริยะ" เป็นโมเดล เพื่อให้ก้าวแต่ละก้าวของไร่น้ำทิพย์ของเรามั่นคงที่สุด

 จนถึงวันนี้ก็ 19 เดือนแล้วครับ เจ้าของบทสนทนานั้น ก็ยังคงเป็นทั้งอาจารย์ ทั้งเพื่อนร่วมอาชีพ ที่เราเคารพ และยังไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส....(ต้องขอขอบคุณมากๆครับ)..

     เมื่อเราคิดแล้วว่า "จะปลูกแก่นตะวัน" ความฝันมันสวยงามมากเลยนะครับ แต่ในชีวิตจริง...มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นซะด้วยสิ
มันต้องเริ่มตั้งแต่การหาพันธ์ // ตอนแรกๆเราสองคนก็ทำกันอบ่างลูกทุ่งๆเลย ที่ไหนขายพันธ์ เราไปซื้อมาหมด
นอกเหนือจากการซื้อพันธ์มาจากคุณหมอ

เมื่อได้พันธ์มาแล้ว ก็เริ่มเรื่องการเพาะ การเตรียมดิน การยกร่อง
จากที่เราไม่เคยปลูก ไม่ได้ไปดูงานที่ไหน เราอยากลองก่อน ก็ทำแบบลูกทุ่งที่แหล่ะ เอารถไรยกร่อง ตกแต่งร่อง และปลูก
เราไม่ได้ใช้ปุ๋ยเลย เราใช้ขี้วัวจากฟาร์มของเพื่อน ใช้มูลใส้เดือนจากกลุ่มเกษตรกรแถวๆบ้าน

มันสนุกมากเลยนะครับ ช่วงนั้น แต่ว่าเราไม่รู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำว่า ตลาดเป็นอย่างไร ขายยังไง

เราก็เริ่มมาดูว่าคนที่ทำในตลาดนี้เค้าทำไงกัน

จากนั้นผมก็เริ่มทำเวป (ทั้งที่เขียนไม่เป็นเลย เรียนรู้้มาเรื่อยๆ) จากนั้นที่ Facebook Fan Page
จากนั้นก็เริ่มหาช่องทางอย่างอื่นเรื่อยๆ
จนวันนึง ได้มาพบเวป "เกษตรพอเพียง" แห่งนี้

และได้สมัครเป็นผู้ขายในนี้ ต้องขอบคุณ google ที่ทำให้เรามาเจอกัน
++

เกริ่นๆ แค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาเล่าให้อ่านเป็นตอนๆไปนะครับ...



จะกล่าวถึงแก่นตะวัน
แม้จะเป็นพืชกินหัวก็จริง แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือ "ดอก" เพราะดอกแก่นตะวันเมื่อบานเต็มทุ่งแล้ว สวยมาก

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

คนปลูกแก่นตะวันจะรู้ว่าแก่นตะวันมีหลายสายพันธ์
และแต่ละสายพันธ์ก็จะมีลักษณะไม่เหมือนกัน

ช่วงแรกๆผมก็ไม่รู้หรอกว่าจะแยกกันออกอย่างไร
ก็ตระเวนหาซื้อแบบลูกทุ่งแหล่ะ ดุ่ยๆไปหาเลย เพื่อให้ได้รู้ได้เห็น
ตอนนั้นหลักของผมคือ "ไร่พิริยะ" ไร่นี้ดีมาก หัวพันธ์ดีมาก อัตรางอกสูง มีคำแนะนำแถมมามากมายด้วย..
และที่ซื้อพันธ์มาจากที่อื่นก็มี และด้วยคใวามโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้

"ผมถูกขายหัวพันธ์แบบปนกันมา" (จากคนขายอีกรายหนึ่ง)

แล้วตอนนั้น ชุดที่เราซื้อหัวจากไร่พิริยะเราเพิ่งขุดไป ได้หัวดีมาก แต่ลักษณะต้นไม่เหมือนกับแปลงนี้เลย

ตอนแรกกลุ้มเลย เพราะว่ามันเพิ่งเริ่มทำ มันไม่เหมือนกับที่เคยอ่านมา และไม่เหมือนรุ่นก่อนหน้า คือลักษณะต้นจะไม่เท่ากัน สีไม่เหมือนกัน ใบไม่เหมือนกัน คิดอะไรไม่ออก มืดไปหมด คิดไปต่างๆนาๆว่า ไม่ได้ผลดีแน่ๆ เดินผ่านแปลงทีไร น้ำตาจะไหล
เดินไปแปลงบ่อยๆ เริ่มจับสังเกตุได้ ว่ามันมีรูปแบบต้นที่ต่างกันอยุ่..



และเมื่อดอกออกมา มันก็มีความแตกต่างกัน...


ผลผลิตรุ่นที่มีปัญหานี้ออกมาแบบแย่มาก แถมคนที่ขายพันธ์ให้เรา บล๊อกเบอร์เรา ไม่รับโทรศัพท์เราเลยนับจากนั้น..
แต่ ความรู้ที่ได้จากความผิดพลาดครั้งนี้ ก็สอนเราหลายอย่างครับ... บางทีผมก็รู้สึกโชคดีนะที่ได้เรียนรู้ว่ลักษณะของต้น ของดอก ของหัวจะเป็นอย่างไรบ้าง

[5XXA]

ดอกสวยและหัวทานได้ด้วย เยี่ยมจริงๆ มาติดตามชมครับ 

[wilawan456]

จะรอชมนะคะดอกสวยจัง

[wilawan456]

เคยเข้าไปชมในเวปแล้วคะคิดว่าอยากจะทดลองปลูก
ไม่รู้ว่าต้องใช้พื่นที่เท่าไหร่ชอบดินยังไง
คิดว่าอยากจะสั่งมาปลูกให้คำแนะนำด้วยคะ
อยู่ที่กาฬสินธุ์ ดินส่วนมากจะเป็นดินทราย
อยากปลูกคะชอบดอกจัง

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

แก่นตะวัน..
นอกจากจะเป็นพืชมหัศจรรย์ เรื่องสรรพคุณแล้ว
การปลูก การดูแล ก็เป็นพืชมหัศจรรย์เช่นเดียวกัน

1 งาน เคยได้ผลผลิต 1 ตันกว่าๆ
และเช่นเดียวกัน 1 งาน ครึ่ง ผมก็เคยได้ผลผลิต 300 โลมาแล้วครับ

แก่นตะวันชอบดินร่วน ที่มีธาตุอาหารครบถ้วน
ถ้า N P มากไปต้นสูงใหญ่ ไม่มีหัว
ถ้า K มากไป หัวแตก
ถ้าแฉะไป หัวไหลเหมือนหลดบัว
ถ้าดินแข็งไป หัวจะบี้แบน เหมือนกล้วยทับ

ถ้าอยากปลูกแนะนำให้เตรียมดินก่อนครับ
ทำดินให้โปร่งๆ ซุยๆ
ช่วงหน้าฝน ยังเพาะไม่ค่อยขึ้นเพราะอากาศชื้นหัวเน่าหมด
ลองทำเรือนเพาะเชำครับผม
หรือไม่รบกวนโทร 081 669 8489 เดช// 088-239 2769 ต่าย
เพื่อสอบถามรายละเอียดครับผม

ไม่มีกั๊กแน่นอน

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

ขอโทษทีนะครับ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มา Update เรื่องราวเลย
พอดีช่วงนี้เป็นช่วงที่แก่นตะวันในไร่ผมขุดได้พอดี
แต่ว่า ผลผลิตแก่นตะวันหน้าฝน ไม่ค่อยดีอยู่แล้วครับ 
โชคดีที่เราได้บทเรียนจากคราวที่แล้วพอสมควร เลยจัดทำการระบายน้ำให้ดีขึ้น

ก็พอได้ครับ

หัวไม่ใหญ่มาก เพราะขึ้นต้นหมด

แก่นตะวัน ให้หัวดี หน้าร้อนครับ
ส่วนหน้าฝน+หนาว ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์เลยล่ะครับ
อันนี้ขนาดของไร่เราที่ขุดเมื่อวานครับ

[wee6]

  เข้ามาติดตามด้วยคนครับ

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

เมื่อเราสองคนตัดสินใจแล้วว่าจะปลูกแก่นตะวัน
เราก็มานั่งคุยกันว่าเราจะปลูกแบบไม่ใช้สารเคมีเลยซักอย่าง

แล้วทำไงล่ะ ??

คิดไว้ในใจ...พ่อมีที่อยู่ 25 ไร่ ผมคิดว่าจะขอพ่อซัก 2 ไร่เพื่อทำแก่นตะวัน

เริ่มที่คนคุยง่ายก่อน ... แม่ ...
ตอนแรกแม่ก็ไม่เห็นด้วย ผมก็หลอกล่อแม่ไปดูงานที่ไร่พิริยะ แล้วกลับจากนั้นก็มาเปิดใจพูดคุยกัน
เริ่มเล่าความฝัน เริ่มเล่าแผนการทำงานให้แม่ฟัง จนแม่คล้อยตาม

มาถึงคราวคุยกับพ่อ...
เมื่อแม่คล้อยตามแล้ว ทีนี้ผมก็ให้แม่ไปคุยกับพ่อ ในครั้งแรก
จากนั้น ผมก็เข้าไปคุยในอีกวันถัดมา  พ่อไม่ให้ ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ เพราะว่าผมไม่เคยทำไร่ ไม่เคยทำการเกษตรแบบเป็นธุรกิจ
และด้วยครอบครัวเราไม่เคยขายของเอง เคยแต่ทำส่งพ่อค้า ทุกอย่างมันเลยยากไปหมดในสายตาพ่อ

เมื่อคุยไม่สำเร็จ
ผมก็เลยวางแผนกับแม่ว่า "จะหลอกล่อพ่อไปให้เห็นของจริง" 
แล้วโอกาสมาถึง ผมก็สามารถหลอกล่อพ่อมาที่ไร่พิริยะได้ พร้อมโทรนัดคุนหมอธวัชชัยเจ้าของไร่พิริยะให้ช่วย

หลังจากวันนั้น เราก็ได้เริ่มกิจกรรม "การพลิกฟื้นดิน เพื่อปลูกแก่นตะวัน" กันซักที


รวม ศิริเวลาที่ต่อสู้กับความคิดพ่อ-แม่ 2 เดือน

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

หลังจากที่กล่อมพ่อกับแม่เสร็จ เพื่อเป็นการกดดันให้มีการพัฒนาที่ดิน ผมเลยได้ทำการซื้อหัวพันธ์มาจำนวนหนึ่ง

แล้วทำการลงปุ๋ยคอกวัวนม ไถกลบ

5วันต่อมา ลงปูนขาว ไถกลบ

ทิ้งตากหน้าดิน 7 วัน ไถกลบ

ทำแปลงปลูกด้วยการยกร่องแบบแปลงผัก
เพื่อรอปลูกแก่นตะวัน แปลงแรกของเรา

++++++++++++++++++++++++++++++

จากนั้น เราก็เพาะกล้าแก่นตะวัน



เมื่อได้ 10 วัน เริ่มย้ายลงแปลง


แล้ว 3 สัปดาห์ต่อมา
ก็ถึงเวลา ถากหญ้าแก่นตะวัน

[เพียรบ้านไร่]

สวัสดีครับ "ไร่น้ำทิพย์"

ดีใจที่มีเกษตรกรไม่ใช้สารเคมีเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย  ขอให้ประสบความสำเร็จไปตามลำดับนะครับ

ไม่ทราบว่าตอนนี้มีพิ้นที่ปลูกกี่ไร่และมีแหล่งน้ำจากที่ไหน  ช่วยลงภาพการติดตั้งระบบให้น้ำด้วยก็ดีนะครับ  ขอบคุณครับ

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

สวัสดีครับ "ไร่น้ำทิพย์"

ดีใจที่มีเกษตรกรไม่ใช้สารเคมีเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย  ขอให้ประสบความสำเร็จไปตามลำดับนะครับ

ไม่ทราบว่าตอนนี้มีพิ้นที่ปลูกกี่ไร่และมีแหล่งน้ำจากที่ไหน  ช่วยลงภาพการติดตั้งระบบให้น้ำด้วยก็ดีนะครับ  ขอบคุณครับ

ยินดีครับผม
ที่ไร่ของผมมีบ่อน้ำธรรมชาติที่ขุดไว้ 2 บ่อ มีบ่อบาดาล 1 บ่อ
ที่ไร่มีฝรั่ง 22 ไร่ แก่นตะวัน 3 ไร่ เราติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำขนาดใหญ่โดยใช้เครื่องยนต์รถ 6 ล้อเป็นตัวขับ
ใช้แป๊บน้ำ 4 นิ้วเป็นท่อเมน แล้วส่งน้ำผ่านท่อย่อยไปรดน้ำฝรั่งแบบน้ำหยดทั้งไร่

ส่วนแก่นตะวันถ้าจะรดน้ำเราก็ใช้วิธีเปิด ปิดวาล์วสลับเข้าเมนของไร่แก่นตะวันครับ
หน้าแล้งเราใช้วิธีดึงน้ำบาดาลมาพักไว้ในบ่อก่อนสูบจากบ่อไปรดน่ำแก่นตะวันและฝรั่งครับ

ปล. ผมค่อนข้างโชคดีที่มีอุปกรณ์ของพ่อค่อนข้างพร้อม ไม่เช่นนั้นคงลงทุนเป็นแสนอ่ะครับแค่เรื่องน้ำเรื่องเดียว ^^

[เพียรบ้านไร่]

ยินดีกับความโชคดีนะครับ  ไม่อยากอิจฉาแต่ห้ามยากจัง

ตอนนี้มีแผนที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกแก่นตะวันหรือเปล่าครับ

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

ยินดีกับความโชคดีนะครับ  ไม่อยากอิจฉาแต่ห้ามยากจัง

ตอนนี้มีแผนที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกแก่นตะวันหรือเปล่าครับ

ไม่มีแผนในการเพิ่มพื้นที่ครับ
กำลังเรามีเท่านี้เพาะเราทำกันแค่ ผม-แฟน สองคน (พ่แม่ดูแลเรื่องรดน้ำ)
คนงาน 4 คน

ปลูกครั้งละ 1000-2000 ต้น
แค่นี้ก็ทำไม่ทันแล้วครับ ครั้งที่แล้วก็กว่าจะเก็บหมด เกือบจะฝ่อ

แก่นตะวันมีรายละเอียดเยอะ ไม่เหมาะที่จะทำปริมาณมาก
เพราะเสียหายมากกว่าได้แน่นอน
โดยเฉพาะเรื่องการขุด คนงาน 4 คน สามารถขุดได้วันละประมาณ 3-400 ต้นเท่านั้น
เพราะหัวแก่นตะวันมันเลื้อยไปหากินไกล บางหัวขุดตามไปเกือบ 40 เซนต์ ถึงจะเจอหัว
ผมให้คนงานขุดเป็นหน้าไปเลย เหมือนการพลิกแผ่นดินหา

แต่บางไร่ใช้รถไถขุด ก็จะเร็วขึ้น แต่หากไม่ชำนาญหัวจะหลงเยอะหรือไม่ก็ขุดลึกไป ตื้นไปหัวเสียหาย
ผมเลยคิดว่า ทำแบบปัจจุบันนี้พอครับ เพียงแต่ดูแลตุณภาพให้ดี เน้นลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคโดยตรงอย่างนี้ ให้เค้าได้ทานในราคาที่จับต้องได้ ปลอดภัยจากสารเคมี แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว

^^

[สิทธิเดช - ไร่น้ำทิพย์]

สำหรับคนที่คิดจะเริ่มทำเกษตร แล้วกลัวไม่มีเวลาทำ
ผมขอแชร์ชีวิตของผมนะครับ

ผมเรียนจบ บริหารธุรกิจ
ผมเป็นโรคกระดูก ไม่สามารถใช้แรงงานหนักๆได้
ผมทำงานในออฟฟิต ที่แสนสบาย
แฟนผมทะงาน กรุงศรีออโต้ เป็นสาวออฟฟิตแสนสวย
ผมกับแฟนเป็นพนักงานบริษัททั้งคู่ ผมทำงานจันทร์-เสาร์ //แฟนทำงาน จันทร์-ศุกร์


ผมทำไร่แก่นตะวัน 3 ไร่
ทำเองกับแฟน 2 คน
พ่อกับแม่เป็นหน่วยแรงงานสนับสนุนและคนช่วยดูแล
มีแรงงาน ปลูก-ขุด 4 คน

เรามีเวลาทำงาน 2 วันต่อสัปดาห์

ตั้งแต่ทำแก่นตะวันมา
เหมือนทำงาน 8 วันต่อสัปดาห์
เดินทางประมาณเดือนละ 3-4000 กิโลเมตร
ชีวิตส่วนตัวหายไปหมด จะมีแต่ ที่ทำงาน กับไร่ เท่านั้น
แต่งงานกันมา ไม่เคยได้ไปฮันนิมูนที่ไหน เข้าไร่กันอย่างเดียว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนแรกที่จะทำไร่ ไม่มีใครเห็นด้วย
ใจเท่านั้น กำลังใจจากครอบครัวเท่านั้น
 
ใครที่อยากทำ และใจพร้อม ผมแนะนำให้ทำครับ
ทำเกษตรเดี๋ยวนี้ง่ายเพราะข้อมูลพร้อม ตลาดก็กว้าง แค่เรารู้จักหาและประยุกต์ความรู้มาใช้ได้

ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยมากครับ

แต่ความสุขที่ได้ คือได้ผ่อนคลายกับความเขียวขจีและสีเหลืองสดของแก่นตะวัน
ได้ติดต่อประสวานงาน ได้หาตลาด ได้ทำกิจการของตัวเอง
ได้ขายของ ได้มีความสุขกับการนับเงินที่มาจากน้ำแรงของตัวเอง

แม้มันจะไม่มากเท่าไหร่

++++++++++++++++++++
แรกๆอาจไม่ชิน อาจเหนื่อย ท้อ แต่เชื่อเถอะว่า
ทุกอย่างจะมีจุดสมดุลของมัน
เมื่อชีวิตเราเริ่มสมดุลแล้ว ท่านจะคิดใหม่ว่า รู้งี้ มาเป็นเกษตรกรนานแล้ว..