ขอสอบถามแบบนี้ครับ ถ้าเราไม่ได้อยู่ในเขตที่มีสหกรณ์โคนม แต่เราอยากเลี้ยงโคนมไว้เพื่อ
1. กินเอง
2. แปรรูปผลิตภัณฑ์
3. เก็บปุ๋ย
4. ไม่อยากเลี้ยงโคเนื้อ สงสารมัน
5. ขายให้คนในชุมชน
คำถามคือ เราสามารถทำได้ไหม และทำอย่างไร มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงไร ต้นทุนในการบริหารจัดการหลังจากรีดนมวัวแล้วสูงหรือไม่

ขอบคุณในคำชี้แนะครับ
คำถามนี้ตอบยากสักหน่อย เพราะไม่ทราบปัจจัยแวดล้อมทั้งพื้นที่ทั้งสภาพตลาด ละแวกแถวที่คุณคิดจะเลี้ยงวัวนมเลย
ด้านต้นทุนนั้นเรียกว่าสูงมากพอสมควร เพราะถ้าเลี้ยงด้วยอาหารถุง ก็ตกกิโลละสิบกว่าบาท ยังไม่รวมค่ายาบำรุง ค่าหญ้า ค่าฟาง ค่าหมอนะครับ
วัวหนึ่งตัวก็กินอาหารถุงมื้อละ 2-4 กิโล วันละ 2 มื้อ นั้นคือต้นทุนต่อวัน ทั้งนี้ แต่ละท่านอาจจะบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลงได้ตามกำลังและปัจจัยแวดล้อม เช่น ของผมก็พยายามปลูกหญ้ามาหมักกินเอง เพื่อลดการซื้อฟางกิน แล้วหน้าด้านไปขอกากถั่วเหลืองจากร้านขายน้ำเต้าหู้ 2-3 ร้านมาให้วัวกินเพื่อลดอาหารถุง เรื่องความรู้การเลี้ยง เรื่องต้นทุนการเลี้ยงคิดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรค ถ้ามีเวลาสัก 10 วันไปลงทะเบียนเรียนที่ อสค. มวกเหล็ก ดูครับ
แต่ถึงต้นทุนจะสูง แต่ถ้าเราจัดสัดส่วนวัวของฝูงได้ดี ก็พออยู่ได้(กรณีส่งนมสหกรณ์) ยิ่งถ้าหาตลาดเองได้ก็ยิ่งน่ามีโอกาสมาก ถ้าอ่านกระทู้ก่อนหน้านี้ ผมเคยไปเยี่ยมฟาร์มโคนมของพี่อ๋อย แกเลี้ยงวัวนมมานานมากนับ 30 ปี อยู่ที่บาดกระบัง กทม ทุกวันนี้แกขายนมหน้าฟาร์ม กิโลละ ยี่สิบกว่าบาทอัพ น่าจะถึง สามสิบแล้วมั่ง ถ้าคุณหาตลาดแบบนี้ได้ ก็น่าจะอยู่ได้ ของพี่อ๋อยนั่งเลี้ยงนั่งรีดก็มีพ่อค้าแม่ค้าร้านนม ร้านกาแฟ แวะมาขอซื้อคนละสิบโลยี่สิบโล ก็ทยอยขายไป แกก็อยู่ได้ครับ โดยไม่ต้องมีสหกรณ์โคนมเข้ามาช่วย ผมว่าดีไม่ดีคนเลี้ยงวัวในเขตสหกรณ์โคนมยังสู้พี่อ๋อยไม่ได้ อย่างเมืองหล่มสักผม ถึงจะมีสหกรณ์โคนมแต่ก็มีบางฟาร์มเขาก็ไม่ส่งนมให้สหกรณ์นะครับ เขาขายเองเขาบริหารจัดการเอง เขาก็อยู่ได้และได้ดีกว่าขายให้สหกรณ์อีก สิ่งที่เป็นปัจจัยก็เลยอยู่ที่ว่า ถ้าคุณสามารถหาตลาดเองได้ หรือมีแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมเองได้ ก็คงเป็นตอบต่อคำถามของคุณเองได้นะครับ
ถ้าช่วยคิดก็ต้องให้คุณสำรวจละแวกแถวบ้านดู ว่ามีร้านค้าร้านรวงที่ไหนบ้างมั้ย ที่เขาต้องใช้นมในการค้าขาย แล้วลองสอบถามทีเล่นทีจริงกับเขาดูว่าซื้อนมมาจากไหน ราคาแพงมั้ย แล้วรวบรวมข้อมูลแบบนี้ดูว่ามันมีปริมาณมากพอที่เราจะทำการตลาดแถวนี้ได้มั้ย
อย่าถือว่าตอบเลยครับ อ่านแล้วอาจไม่ได้คำตอบ ถือว่าชวนคุยแล้วกันครับ และสำคัญอย่าเพิ่งหมดกำลังใจที่ไม่ได้คำตอบ ค่อยๆคิดค่อยๆดูครับ เมื่อพร้อมก็ค่อยวิ่งใส่โอกาสเลยครับ