หน้า: 1 ... 566 567 568 569 570 571 572 573 574 575 [576] 577 578 579 580 581 582 583 584 585 586 ... 595   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มือใหม่ลองเพาะ อินทผลัม  (อ่าน 4143357 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nhong srisaket
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 113


« ตอบ #9200 เมื่อ: กันยายน 18, 2014, 12:34:25 PM »

รบกวนขอสอบถามหน่อยครับ

พอดี พ่อ-แม่ ผมมาบอกว่ามี บริษัท มาให้ความรู้ที่ หมู่บ้าน (จ.อุทัยธานี)
เรื่องเกี่ยวกับการปลูก อินทผาลัม
โดยบอกว่า จะขายเป็นต้นกล้าพันธุ์เดตเลตนัวร์ จำนวน 1 ไร่ (30 ต้น ต้นละ 400-500 บาท อายุประมาณ 1 ปี)
พร้อมปัจจัยการผลิต โดยจะอยู่ที่ 16000-18000 บาท ต่อ 1 ไร่
พร้อมกับบอกว่ารับประกัน รับซื้อผลผลิตคืนโดย ให้ กิโลละ 300 บาท รับประกัน 30ปี

ซึ่งพอผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับบริษัทที่มาจัดการเรื่องการเกษตรแบบครบวงจร
ผมก็เลยนึกถึงคลิป เกษตรพันธสัญญา นี้เลยครับ อุตสาหกรรมเกษตรระบบนายทุน

ก็เลยกลัวว่าจะถูกหลอกน่ะครับ
เลยอยากถามความเห็นท่านสมาชิกหน่อยครับ ว่าแบบนี้ถือเป็นการหลอกลวงไหม
แล้วการหลอกลวงนี้ จะเป็นในลักษณะไหนได้บ้างครับ

ปล. หลังจากที่ได้ไปลองค้นคว้าเพิ่มมา
พบว่า บริษัทที่มาที่หมู่บ้านนั้น เป็นบริษัทนี้ http://pp1219marketing.com/hna_hlak.html
ซึ่งดูไปดูมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับ พอเพียงพัฒนา ที่เห็นเคยมีข่าวในแง่ลบเลยครับ

ที่ท่าน ปล.น่ะถูกต้องแล้วครับ รูปอินทผลัมในถังดำก็เป็นของแปะชล ซึ่งเป็นเจ้าของกระทู้นี้ บางรูปก็เป็นของคุณป้อน และรูปของสมาชิกเวบเราท่านอื่น ๆ อีกหลายท่านครับ ตัวย่อ pp ก็พอเพียง พัฒนาไงครับ
กราบเรียนทุกท่านนะครับถ้าเห็นเข่งสีฟ้าๆลูกอินทผาลัมสวยๆย้อยลงมาข้างเข่งเป็นพวงละก็ของtid-koครับ หากนำไปแปะขายต้นพันธุ์อินทผาลัมละก็ประนามให้อายไปเลยครับผมละเบื่อจริงๆพวกนี้


ผมอยู่ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ยืนยันครับว่ามี บริษัทประเภทนี้จริง ขายต้นกล้า ต้นเล็กมาก ราคา 500 บาท
ชาวบ้านที่เข้าไม่ถึงสื่อ พอมีคัยมาพูดเรื่องสิ่งที่จะได้ผลกำไร ต่าง ๆ ก็หลงเชื่อซื้อต้นกล้า อนาคตก็คงต้องขุดทิ้ง เสียเงิน เสียเวลา เสียพื้น
ผมเพาะเอาไว้ไม่ได้ลงอีกราว 200ต้นได้มัง แต่ชุดนี้ว่าจะไม่เอาลง เพราะที่มีน้อย ว่าจะเอาบาฮีกับเม็ดจูนลง ยังเหลือเมล็ดอีกนิดหน่อย
(ที่เพาะไว้เป็นเด็กเร็ทนัวร์ เลยไม่เอาลงปลูก)  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ;Dยังไม่รู้จะทำไงกับกร้าที่เหลือเลย ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

nhong srisaket
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 113


« ตอบ #9201 เมื่อ: กันยายน 29, 2014, 10:09:25 AM »

โพ๊สได้ไหม
โพ๊สอะไรหรือครับ ฮืม ฮืม ฮืม
บันทึกการเข้า
rongs955
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 227


« ตอบ #9202 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2014, 04:37:54 AM »

         ฝนลากหล่า(ล้า)........
                ปีนี้พายุไม่เฉียดใกล้ สักลูก  ฟ้า ฝนก็ประหลาด ครึ่งค่อนเดือนมาครั้ง
        แต่หนัก ลมแรง ที่นาลุ่ม มีน้ำตลอดปีไม่มีขาด กบ เขียดปูปลาได้อาศัยแพร่พันธ์
          ข้าว ปลา อาหารอุดมสมบูรณ์ มากสุดในรอบสิบๆปี ก่อนหน้าวันนี้อาทิตย์หนึ่ง
       ฝนมาหนัก นิ่ง นาน น้ำล้นเหลือ ไหลบ่าล้นคันนา ฝูงปลา น้อยใหญ่แตกฝูงกระจาย
      เร่งวัน โตคืน ให้ทันเวลา  ข้าวใหม่ปลามัน...อีกไม่กี่วันก็จะเริ่มฤดูการเก็บเกี่ยวแล้วครับ
                คุณอินฯที่กำลังเพลิดเพลิน กับการเติบโตงอกงาม  แตกช่อ ชูใบ ถูกน้ำท่วมขัง
      ไหลเซาะ ซวนเซ เสียหายไปหลายสิบต้น...ระบายไม่ทัน..รอปรับปรุงยกดินให้หลุมสูงขึ้น
      อีกหน่อย ก็แก้ได้แล้วเนาะ  ...
                  ตอนนี้ตกอีกแล้ว ทะยอยมา เป็นจังหวะ...ปลาแล่น เต็มข้องคักๆ...หมาน


Liked By: Seksun_56, Donhun, tean
บันทึกการเข้า
YUMMYDEN
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


« ตอบ #9203 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2014, 10:35:56 AM »

วันนี้มีพี่ที่ได้เบอร์ผมมาจากเว็บ kasetporpeang โทรไปปรึกษาผมเรื่องอินทผาลัม
ก็เลยถือโอกาสมาแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ผมมีกับพี่ๆน้องๆหน่อยน่ะครับ..

ผมว่าหลายๆคนยังเข้าใจผิดเรื่องอินทผาลัมว่าเป็นพืชทนแล้ง ที่ไม่ต้องการน้ำ..
**อินทผาลัมเป็นพืชทนแล้งก็จริง(เพราะทางใบของอินทผาลัมมีwaxธรรมชาติเคลือบไว้)
 แต่ก็เป็นพืชที่ต้องการน้ำสูงด้วยเช่นกัน(ถึงจะได้ผลผลิตที่ดี)
[/color



ตารางการนำเข้า


ตารางการส่งออก

เรื่องราคาก็เป็นอีกตัวหนึ่ง ที่เข้าใจกันผิดๆ..
จากตารางเราจะเห็นได้ว่าราคาของอินทผลัมนั้นไม่ได้แพงกันอย่างที่คิด
1 กิโลผลแห้งนั้นประมาณ 1-2 USD(ในสายพันธุ์กลางๆทั่วๆไป ซึ่งเกรดต่ำ) เอง
ที่ประเทศไทยนั้นแพงเพราะเราต้องนำเข้า และมีการ + ราคาเพิ่มขึ้นไปต่างหาก ...
ใครไม่เชื่อ ลองไปดูที่อินโด และมาเลเซียซิ ถูกกว่าเราเป็นครึ่งๆๆ..
ปัจจุบันเท่าที่ผมเก็บตัวเลขจากแล็บต่างๆที่ติดต่อกันอยู่ (มิ.ย.2557) UAE 3 แล็บ+UK 1 แล็บ +Iran 1 แล็บ +other 1 แล็บ
ในประเทศไทย นั้นมีการนำเข้าอินทผาลัมเพาะเนื้อเยื่อ อยู่ประมาณ 40,000 กว่าต้นแล้วมากขึ้นเรื่อยๆๆๆ
เฉพาะ Barhee ก็เกือบ 30,000 ต้นแล้ว
40,000 ต้น x ~60kg แห้งต่อต้น = 2,400,000  kg!!..
จำนวนครึ่งหนึ่งปลูกเชิงพาณิชย์ = 1,200,000 Kg.
มากขนาดนี้ผมว่า รุ่นหลังๆ ที่ปลูกเตรียมตัวโดนสึกหนักได้เลย
 เพราะราคาจะตกแน่ๆๆ

เพราะในประเทศผมว่าล้นตลาดแน่ๆ ในอีก 7-10 ปีข้างหน้าเมื่อทุกต้นสมบูรณ์และออกเต็มที่..

วิเคราะห์ Barheeผลสด
ข้อมูลจากที่บินไปดูที่ UAE เมือง Dubai,Fujairah และ Abu Dhabi มา 2 ปีติด...
ในสวนใหญ่ๆที่ดูแลดีมากๆ น้ำและปุ๋ยถูกต้อง ตามความต้องการของต้นไม้..
ปีที่4 หลังลงปลูกจะได้ผลผลิต 100-150 kg/ต้น
ปีที่5 หลังลงปลูกจะได้ผลผลิต 150-200 kg/ต้น
ปีที่6 หลังลงปลูกจะได้ผลผลิต 200-250 kg/ต้น
มีรูปยืนยัน..

ฉนั้นสำหรับประเทศไทยโดยเฉลี่ย ~150 กิโล/ต้น(คิดอย่างต่ำๆ)
Barhee 30,000 ต้น  x ~150 กิโล/ต้น =4,500,000 Kg..
จำนวนครึ่งหนึ่งปลูกเชิงพาณิชย์ = 2,750,000 Kg.
2,750,000 Kg.. ในอีกประมาณ 4-5 ปีข้างหน้า!!...
คิดว่าคนไทยในประเทศจะกินเยอะขนาดนี้ไหม??
ฉนั้นอยากให้เตรียมตัวเรื่องการแปลรูปไว้เยอะๆน่ะครับ...
เพราะอินทผาลัมก็เป็น ผลไม้สดอีกชนิดหนึ่งที่
ช่วงการออกผลผลิตนั้นไปตรงกับช่วงที่ผลไม้อื่นๆของไทยออกเหมือนกัน
ก็คือเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม  

ด้วยปริมาณการผลิตที่เยอะขนาดนี้
จึงมีโอกาส ล้นตลาดสูง เพราะในประเทศอาจจะเหลือบริโภค
ถ้าไม่มีการแปรรูป อาจจะขายไม่ออกและเน่าเสียในที่สุด



ตารางปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตร ตัดมาเฉพาะประเภทผลไม้หลักๆ ซึ่งยังไม่รวมที่นำเข้าจากจีน
เราจะเห็นได้ว่า ช่วงที่น้องอินออกลูกนั้นเป็นช่วงพีคของผลไม้อื่นๆหลายๆตัวเช่นกัน
ตอนนี้ที่น้องอินราคาดีเพราะ ความต้องการสูงแต่ผู้ผลิตมีน้อย
อีกประมาณ  5 ปีคงซี้กันเป็นแถว 555+++


ตารางการนำเข้าผลไม้จากจีน ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผลไม้ไทยหลายๆตัวราคาตกแบบทุกวันนี้
การนำเข้าผลไม้ ๓,๔๑๘,๐๐๐ ตัน  มูลค่าการนำเข้า ๓,๑๑๐ ล้านเหรียญสหรัฐ...
การส่งออกผลไม้ ๔,๗๙๕,๐๐๐ ตัน มูลค่าการส่งออก ๕,๕๒๐ ล้านเหรียญสหรัฐ..
หวังว่าอินทผาลัมไทยจะส่งออกได้น่ะครับ..
ฉนั้นสิ่งที่ชาวสวนอินทผาลัมควรทำคือ มาตราฐานการผลิตครับ...


สายพันธุ์ก็เข้าใจกันผิดๆ
อินทผาลัมนั้น มีพันธุ์ ต้นฤดู กลางฤดู ปลายฤดู มีพันธุ์กินสด กินแห้ง เราควรจะดูว่าบริเวณพื้นที่ที่เราจะปลูกนั้นมันเป็นอย่างไร?
เพราะบางพื้นที่เช่น ภาคเหนือ,อีสาน และกลาง ในความคิดเห็นส่วนตัวไม่ควรปลูกพันธุ์กินแห้ง เพราะปริมาณความชื้นสัมพันธุ์สูง และฝนตกก่อนภาคอื่น
ควรที่จะปลูกพันธุ์กินสด หรือพันธุ์ที่ออกต้นฤดู เพื่อหลีกเลี่ยงลูกแตกและไม่จำเป็นต้องจัดการมากเพื่อให้แห้งและลูกไม่แตก...


พันธุ์สด และพันธุ์แห้ง

สายพันธุ์สด คือ พันธุ์ที่มีปริมาณแทนนินน้อย(ฝาดน้อย/ไม่ฝาด) เช่น ฺพันธุ์ Barhee จริงๆนั้นพันธุ์สดก็สามารถอบแห้งได้เช่นกัน...
โดยส่วนตัวผมชอบพันธุ์Barhee แห้งน่ะครับ..

พันธุ์แห้ง
คือพันธุ์ที่ยังมีปริมาณแทนนินมาก(ฝาด)ในขณะที่แก่ จึงทำให้ไม่เหมาะแก่การบริโภคสด..
สำหรับประเทศไทย พันธุ์แห้งอาจจะทำได้แค่เกรด B หรือ C เท่านั้น...

ไม่ว่าพันธุ์สดหรือแห้ง ก็สามารถกินสุกครึ่งลูกอร่อยได้เช่นกันครับ
และผมว่าเป็นช่วงที่อินทผาลัมอร่อยที่สุดด้วย...



รอมฏอน
ปฏิทินอิสลามจะมีวันในรอบปี 354 และ 355 วัน ซึ่งจะต่างกับปฏิทินไทยสากลซึ่งมี วันในรอบปี 365 และ366 วัน
ฉนั้นรอมฏอนจะเลื่อนขึ้นไปประมาณ 10 -11 วันต่อปีซึ่งรอมฏอนเป็นช่วงที่อินทผาลัมมีความต้องการสูงฉนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องรู้ว่า
รอมฏอนแต่ล่ะปีอยู่ช่วงไหนเพื่อที่จะสามารถวางแผนการตลาดได้ มิฉนั้นแล้วเราจะไม่สามารถพิชิตประชากรมุสลิมทั่วโลกที่มีสูงถึง 1.6 พันล้านคนได้เลย...

ตัวอย่าง วันเริ่ม รอมฏอน Ramadan (วันแรกเริ่มของการถือศีลอด)
พ.ศ.2557  ค.ศ.2014 ฮ.ศ.1435 = 29 มิถุนายน
พ.ศ.2558  ค.ศ.2015 ฮ.ศ.1436 = 18 มิถุนายน
พ.ศ.2559  ค.ศ.2016 ฮ.ศ.1437 =  7  มิถุนายน
พ.ศ.2560  ค.ศ.2017 ฮ.ศ.1438 = 27 พฤษภาคม
พ.ศ.2561  ค.ศ.2018 ฮ.ศ.1439 = 16 พฤษภาคม
พ.ศ.2562  ค.ศ.2019 ฮ.ศ.1440 =  6 พฤษภาคม

ที่ยกตัวอย่างวันถือศีลอดให้ดู เพื่อที่จะให้เห็นภาพว่า
อาจจะมีเพียงปี2557 และ 2558 เท่านั้น ที่เมืองไทยจะมีโอกาสที่ขายผลสดอินทผาลัมทัน รอมฏอน
(สำหรับคนที่ปลูกพันธุ์กินสดต้นฤดูที่จะออกช่วงเดือน 6)
ส่วนปีอื่นๆ ไม่มีทางทัน รอมฏอน สำหรับประเทศไทยต้องรออีกเป็น 10 ปีกว่าจะเวียนมาครบอีกรอบ ของรอมฏอน ช่วงเดือน 8-9 ที่อินทผาลัมพันธุ์ส่วนใหญ่สุก ...
แล้วเราจะขายใคร??


์Northern & Southern Hemispheres



ภูมิศาสตร์ไทยอยู่ northern hemisphere (ซีกโลกทางด้านเหนือเส้นศูนย์สูตร)
ซึ่งก็เป็นพื้นที่เดียวกับประเทศใหญ่ๆ ที่ปลูกและส่งออกอินทผาลัม ดังรูปด้าบน...

ฉนั้นระยะเวลาการออกผลผลิตจึงใกล้เคียงกันมาก..
ด้วยเหตุผลนี้ ในกรณีที่อีก 10 ปีข้างหน้าช่วงการออกผลผลิตไม่ตรงกับช่วง รอมฏอน หรือ ช่วงถือศีลอดเลย
ผลสดที่ปลูกกันเยอะในไทยก็อาจจะล้นตลาดได้ รายเล็กๆถ้าจะให้ลงทุนแปรรูปอาจจะไม่คุ้นทุน

รู้ไหมว่า ในตลาดโลกนั้น ตลาดสำหรับอินทผาลัมสดกรอบ Khalaal stage แช่แข็ง(โดยเฉพาะ Barhi) ที่จะเก็บไว้ขายทั้งปีนั้นแคบมากๆๆ
ส่วนใหญ่สำหรับ Barhi จะเก็บไว้ขายทั้งปี ในช่วงของ Tamar Stage แต่บ้านเรา
ช่วงอินทผาลัมสุกนั้นเป็นช่วงหน้าฝนการทำแห้งยากนิดนึงครับ ซึ่งตรงกันข้ามกับตะวันออกกลางซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนของเขา
ซึ่งไม่มีฝนและความชื้นสัมพัทธ์เลย จึงง่ายต่อการจัดการมากกว่า คุณภาพก็จะออกมาดีกว่าบ้านเรามาก..
ข้อนี้ต้องคิดหาทางออกกันไว้หน่อยน่ะครับ...

โดยส่วนตัวน่ะครับ ผมว่าถ้าจะทำเชิงพาณิชย์ ควรจะมีพื้นที่สัก 15-20ไร่ขึ้นไป  



รูปพันธุ์โคไนซี่ของแล็บในไทยครับ..เอามาให้ดูเล่นๆครับ..

ตอนนี้เมืองไทยมีคนทำเพาะเนื้อเยื่อได้แล้ว
แต่ยังไม่นิ่งตอนฟอกครับ คือฟอกแล้วติดเชื้อ ทำให้ตายเยอะมากครับ..
พันธุ์ที่ทำสำเร็จ 95 % มีเพียง Konaisy(ออกใบออกรากแล้ว เหลือเพียงเอาออกจากขวดเท่านั้น)  เท่านั้น
      ส่วน shishi 60% นั้นตอนนี้เป็น แคลลัสแล้วครับ..
พันธุ์อื่นๆทดลองแล้วแต่ยัง Contaminated แบคทีเรียอยู่เลยครับ...

คนที่คิดที่จะลงทุนปลูกอินทผาลัมเชิงพาณิชย์นั้น ควรคิดวิเคราะห์ให้ดีว่า
จะคุ้มทุนหรือไม่? เพราะราคา อินทผาลัมนั้นอาจจะไม่ได้ราคาดี อย่างที่คุณหวังไว้..
คุณรับได้หรือเปล่า? เมื่อราคามันตก..
คุณมีแผนอื่นๆ รองรับไหม? จะแปลรูปเป็นอะไรบ้างเมื่อล้นตลาด..
คุณศึกษาตลาดดีหรือยัง?
คุณศึกษาสายพันธุ์ดีหรือยังว่า พันธุ์นั้นเหมาะกับพื้นที่บ้านคุณ...

คุณรู้หรือเปล่าว่าตะวันออกกลางไม่ได้มีเพียง Barhee ที่กินผลสดเท่านั้น
ยังมีพันธุ์อื่นๆ ที่อร่อยๆอีกครับ รสชาติดีกว่า Barhee ด้วยซ้ำไป
ที่หลายๆประเทศเลือกปลูก Barhee เยอะอาจจะเป็น
เพราะปริมาณผลผลิต ต่อต้นของ Barhee นั้นสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ
และ Barhee เป็นพันธุ์ที่ทนพันธุ์หนึ่ง แต่สำหรับประเทศไทยผมว่า
ควรจะเลือกปลูกพันธุ์กินสดอื่นๆจะดีกว่าเพราะจะทำให้คุณมีข้อแตกต่าง
จากผู้อื่นและสร้างข้อได้เปรียบ...



อย่าเชื่อผู้ขายพันธุ์ทั้งหมด ควรศึกษาหาข้อมูลเองให้ท่องแท้เสียก่อน ค่อยตัดสินใจปลูก..


ขอจบการแลกเปลี่ยนข้อมูลเท่านี้น่ะครับ..
ด้วยปัญญาอันน้อยนิด ถ้าข้อมูลผิดพลาดอย่างไร ก็ขออภัยน่ะครับ ...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2014, 02:16:34 PM โดย YUMMYDEN » บันทึกการเข้า
tawatd
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 72


« ตอบ #9204 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2014, 06:28:05 PM »

^ ขอบคุณมากๆครับ
บันทึกการเข้า
piangdin
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 74


วนเกษตรในบริบทคนโทรคม


« ตอบ #9205 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2014, 07:56:11 PM »

^ ขอบคุณมากๆครับ
คุณปาล์มทำจริง รู้จริงครับ ผมเชื่อ ยิ้มเท่ห์


Liked By: rongs955, Donhun, tean
บันทึกการเข้า
PONDPLANTER
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12


« ตอบ #9206 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2014, 09:42:26 AM »

เป็นการวิเคราะห์ ที่เห็นภาพมากครับ ขอบคุณมากครับ


Liked By: rongs955, Donhun, tean
บันทึกการเข้า
nhong srisaket
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 113


« ตอบ #9207 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2014, 02:22:38 PM »

ผมเชื่อข้อมูลครับ เพียงแต่ว่า ผมมีความเชื่อว่า ถ้าลงมือทำถึงมันจะมีปัญหาบ้าง ก้อไม่น่าจะเกินความพยายามของเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่งอมืองอเท้ารอความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว ข้อเสียของการทำการเกษตรบ้านเราคือ
เห็นเค๊าทำแล้วมีทีท่าว่าจะดี ตรูก้อจะทำมั่ง ไม่สนว่าตนเองมีแนวทางหรือความเข้าใจในสิ่งที่ทำมากน้อยแค่ไหน
พอมีปัญหาก้อร้องเรียนหาความช่วยเหลืออย่างเดียว เอาเข้าจริงตอนนี้ เกษตรกรหลายคนยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่า
ต้นกร้าที่เค๊าเอามาขายให้ในราคาแพง พันธุ์อะไร ผลมันกินได้หรือเปล่าก้อยังไม่รู้
รู้เพียงว่าเป็นอินทผลัมและราคารับซื้อแพง กว่าจะรู้ว่าถูกหลอกก้อปาเข้าไป3-4ปีให้หลัง
ถึงตอนนั้นอ้ายคนที่เค๊าเอามาหลอกขาย มันหายไปถึงไหนแล้วก้อไม่รู้ โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2014, 02:24:15 PM โดย nhong srisaket » บันทึกการเข้า
ชนะชัย ชนะจน
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 251


เกิดดับ เกิดดับ สัพสิ่ง ทั้งหลาย สายน้ำไม่คอยท่า กาลเวลาไม่เคยคอยใคร


« ตอบ #9208 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2014, 05:08:19 PM »

ขอบคุณครับ ข้อมูลดีมากมีประโยชน์มาก
ผมเริ่มสนใจ อินทผลัม เพราะพ่อดูทีวี เห็นเขาโฆษณาขายต้นกล้า และรายได้ พ่อผมเลยสั่งซื้อต้นกล้า 73 ต้นผมจึงได้หาข้อมูลเรื่องอินทผลัมในอินเตอร์เน็ต ดีนะต้นกล้าอินทผลัมที่พ่อสั่งซื้อไปเขาไม่เอามาส่ง ไม่อย่างงั้นเสียเงินหมื่นกว่าบาทแน่ๆตอนที่ผมหาข้อมูลเรื่องอินทผลัมเเรกๆ ผมก็มีความสนใจจะปลูกอินทผลัมมากๆ ผมซื้อผลอบแห้งมากิน กล่องละ 150 บาท พันธุ์ Deglete Nour เอาเมล็ดไปเพราะ งอกดีครับได้ความรู้จากหลายเว็บ เพาะไปด้วย หาข้อมูลไปด้วย ผมได้บทสรุปเรื่องอินทผลัมให้กับตัวเอง นานสามสี่เดือนแล้วครับ สรุปว่าพักโครงการปลูกอินทผลัมไว้ก่อน ครับต้นที่เพาะและลงถุงดำเอาไว้ผมก็ถอนทิ้งหมดเมื่อต้นเดือน ส.ค ยากได้ต้นพันธุ์อินทผลัมเพาะเนื้อเยื่อ มาปลูกสัก 30-40 ต้นราคาก็แรงไป คิดว่าปลูกเอาไว้ถ้าขายไม่ได้ก็จะเอาไว้กินเองหรือขายถูกๆ กิโลกรัมละ 60-70 บาท คงต้องรอให้ราคาต้นพันธุ์เพาะเนื้อเยื่อลงมาก่อน ตอนนี้ก็ติดตามข่าวและทำอย่างอื่นไปก่อน ขอบคุณทุกๆข้อมูลที่แบ่งปันครับ
บันทึกการเข้า

จงยิ้ม เมื่อถูกเยาะ
จงหัวเราะ เมื่อถูกเย้ย
จงเฉย เมื่อถูกชม
จงข่มอารมณ์ เมื่อไม่พอใจ
YUMMYDEN
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


« ตอบ #9209 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2014, 05:10:41 PM »

ผมเชื่อข้อมูลครับ เพียงแต่ว่า ผมมีความเชื่อว่า ถ้าลงมือทำถึงมันจะมีปัญหาบ้าง ก้อไม่น่าจะเกินความพยายามของเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่งอมืองอเท้ารอความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว ข้อเสียของการทำการเกษตรบ้านเราคือ
เห็นเค๊าทำแล้วมีทีท่าว่าจะดี ตรูก้อจะทำมั่ง ไม่สนว่าตนเองมีแนวทางหรือความเข้าใจในสิ่งที่ทำมากน้อยแค่ไหน
พอมีปัญหาก้อร้องเรียนหาความช่วยเหลืออย่างเดียว เอาเข้าจริงตอนนี้ เกษตรกรหลายคนยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่า
ต้นกร้าที่เค๊าเอามาขายให้ในราคาแพง พันธุ์อะไร ผลมันกินได้หรือเปล่าก้อยังไม่รู้
รู้เพียงว่าเป็นอินทผลัมและราคารับซื้อแพง กว่าจะรู้ว่าถูกหลอกก้อปาเข้าไป3-4ปีให้หลัง
ถึงตอนนั้นอ้ายคนที่เค๊าเอามาหลอกขาย มันหายไปถึงไหนแล้วก้อไม่รู้ โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ


ถูกต้องแล้วครับ เราต้องลงมือทำถึงจะสำเร็จ..

ที่มาลงข้อมูลเพื่อต้องการแชร์ความจริงเท่าที่รู้ จะได้ช่วยกันวางแผนแก้ไขถูก
เพราะตอนนี้หลายๆคนยังเข้าใจผิด และคาดหวังว่าจะรวยกับอินทผาลัม
บันทึกการเข้า
rongs955
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 227


« ตอบ #9210 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2014, 05:32:24 AM »

         ผมตื่นมาเช้านี้  อากาศเย็น สบายดี อารมณ์แจ่มใส ไก่ขัน ....
              อ่านข้อมูล ดูตัวเลข ให้ละเอียด อย่างตั้งใจ เข้าใจ
              มีความคิด ความเห็น หลายๆท่าน ล้วนเป็นประโยชน์
              น้อมกลับมาใคร่ครวญ พิจารณาตัวเอง  การแสดงความคิดเห็น
          มากกว่าท่านอื่นๆ   มากไปหรือเปล่า?  ...มีสาระ ให้อะไรไปบ้าง...
               อย่างน้อยสุด ให้ความจริงใจ  ตั้งใจ มั่นใจว่าแผ่นดินทองไทยนี้
         เขตร้อนชื้น ชัยภูมิแสนวิเศษ มีความเหมาะสมสำหรับพืชดี ไม่ด้อยไปกว่า
        ท้องที่ใดๆในโลกใบนี้  ...ผมหลงรักหลายๆอย่างของคุณอินฯ ไปแล้ว
       และวันนี้ นาทีนี้ เชื่อสนิทว่าเหมาะแล้วครับ  ผมลงมือทำทันที ค่อยๆปล่อยวาง
       งานอื่นๆ  ทำอย่างมีความสุข
                  ผมเดินทางไปจีน เกาหลีใต้ เวียตนาม เขมร ลาว เมื่อหลายปีก่อน เพราะ
       อยากรู้ อยากเห็น อย่างเกาหลี ช่างแตกต่าง ห่างไกลกับบ้านเราราวฟ้ากับดิน พื้นที่
       ทำเกษตร น้อยนิดเดียว และหนาวเย็น ไปเหนือลงใต้ไม่กี่ชั่วโมงถึงแล้ว คนส่วนใหญ่
       ก็อยู๋ในรูไม่ต่างจากหนู กินอาหารกล่อง ท่านๆลองคิดดู วันใดที่เกิดไม่มีไฟฟ้าใช้
       ก๊าซไม่มาตามท่อ  น้ำจืดไม่ไหล จะโกลาหลสักเท่าใด จะดำรงคงชีพอยู่แบบไหน
       จะหุงหาอาหารกินอย่างไร  จะลงลิฟท์ ขึ้นห้องชั้นที่50 ด้วยวิธีใด  ช่วยเหลือให้มี
       ชีวิตอยู่รอดในวันแรก ก็คงสุดแสนลำบาก หลายท่านอาจบอกว่าเป็นไปไม่ได้
       นี่แค่ภูมิคุ้มกัน ความเสี่ยงเบื้องต้น เท่านั้นเอง  ทุนนิยมอันตรายมากต่อความอยู่รอด
      ของผู้ที่อ่อนแอ....
                                  แดนดินถิ่นไทยกว้างใหญ่ไพศาล ในน้ำมีปลาในนามีข้าว
     การเสาะแสวงหาพืช (สัตว์)ตัวใหม่ที่เหมาะสมกับบ้านเรา ผมมองว่า ยังทำกันเล่นๆ
     การศึกษา วิจัย นำมาสู่การพัฒนาน้อยมากๆ ต่างจากชนชาติอื่นจริงๆ มีปัญหาอยู่อย่าง
     มากมาย ภาครัฐฯ นักการเมือง ค่านิยม ฯลฯ..งบฯมหาศาลหมดเปลืองไปอย่างไร้ประโยชน์
     เป็นภาระให้อนุชน เกิดใหม่ ใหญ่หลัง จากนี้ชดใช้
               ผมมีโอกาสได้รู้ ได้เห็นได้พบ ครูบาอาจารย์ ที่ยอดเยี่ยมมากมาย ทั้งในและตปท.
     ร่วมจัดทำหลักสูตรสำคัญๆของหน่วยงาน ที่คัดสรรหัวกะทิจากยอดคนมารวมกัน ไม่กี่สิบคน
     เพื่อการเปลี่ยนแปลงบทบาท...ชนบท
               เพื่อตอบบุญแทนคุณแผ่นดินนี้ ด้วยสำนึก หามีสิ่งอื่นใดแอบแฝง จะเดินหน้าไป
    ไม่หวั่นไหว แม้อุปสรรค หนักหนา น้อยใหญ่...ขอให้สัญญา
    อยากบอกอยากเล่าเกี่ยวกับการวิเคราห์ โครงการ ความเหมาะสม เนื้อหาสำคัญ คิดดีแล้ว ไม่เหมาะ
                  ต้องขออภัยหากระคายเคือง...ส่วนหนึ่งส่วนใด คะรับ...


Liked By: Seksun_56, Donhun, tean
บันทึกการเข้า
BeeBee55
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26


« ตอบ #9211 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2014, 10:50:49 AM »

            เป็นสัจธรรมที่ต้องเกิดสำหรับผลไม้ล้นตลาด ราคาตกต่ำ ดีครับที่มีคนมาบอกภาพรวมให้เห็นภาพชัดๆ ไม่ต้องไปพูดถึงต้นเพาะเมล็ดเอาแค่เนื้อเยื่อ ดูตัวอย่าง ปัญหายางพารา ยางแพงอยากปลูก อินทผลัมแพงอยากปลูก ผลมันไม่ได้เกิดวันนี้เวลานี้ กว่าจะรู้ตัวมันก็สายเกิน เหมือนผลไม้หลายๆ ชนิด
พูดถึงผลไม้ทำตามกระแสไม่ทันกินครับ คนขายต้นรวยก่อนคนขายผลราคารตกต่ำ ดูความเป็นจริงที่ราคาตลาดโลกครับอย่ามองแค่ราคาในบ้านเราอย่างเดียว ต้นทุนถ้ามากกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็ขายลำบากแล้วครับ เราต้องแข่งกับตลาดโลกครับ ปลูกเล่นปลูกชอบใจรักไม่มีผลกระทบครับ แต่ถ้ามองเป็นการค้าคิดหนักผมเป็นคนหนึ่งที่มีความชอบใจรักอยากปลูก ก็ลงเนื้อเยื่อไว้พอสมควร เพาะเมล็ดก็มี สิ่งที่กลัวก็คือผลไม้ล้นตลาด ก็คอยเช็คอยู่ตลอดว่ามีคนนำเข้ามาเท่าไหร่แล้วปลูกสวนใหญ่ๆที่เป็นแบบเนื้อเยื่อหลักพันต้นมีเท่าไหร่ พวกที่หลอกขายต้นทำโครงแบบเพาะเมล็ดไม่นับเพาะคุณภาพสู้กันไม่ได้อยู่แล้วอีกอย่างตัวเมียคงไม่กี่ต้น  อยากให้เพื่อนๆคิดดีๆครับ ทำด้วยใจรักดีกว่าอย่าทำตามกระแส เพราะเราวิ่งไม่ทันนายทุนครับ อยากให้ทุกบ้านมีไว้ประดับที่ดินครับได้ผลกินตลอดอายุคนปลูกเลยครับ แต่ถ้าจะทำขายก็คิดดีๆหน่อยเท่านั้นเองครับ ถ้าต้นสูงเราจะผสมเกสรยังไง ผลแห้งขั้นตอนเยอะต้นทุนสูงจะสู้ได้ไหม ผลสดล้นตลาดแน่ๆเพราะทำง่าย คุณภาพสู้ต่างประเทศได้ไหม ผลสดไม่น่ามีปัญหา การเก็บเกี่ยว อายุการเก็บรักษาผลสด การแปรรูป อยากฝากไว้ให้เพื่อนๆวางแผนดีๆครับ หวังให้น้องอินที่รักของทุกคนโตวันโตคืนครับ เอาแค่ความสุขจากการได้ปลูกก็คงพอ เรื่องทำเป็นธุรกิจจริงจังที่ตั้งใจไว้ว่าจะปลูกเนื้อเยื่อเพิ่มอีก45ไร่ก็คงพักไว้ก่อน ไม่คิดว่าคนไทยจะรวยขนาดนี้ เราทำช้าไปหน่อย ทีแรกว่าต้นแพงคงไม่ค่อยมีคนสู้ราคาแต่ที่ไหนได้นำเข้ามากันเยอะมากเกินไปแล้ว ก็ยอมรับว่าอยากรวยจากพืชตัวนี้เหมือนกัน ศึกษาและทดลองหลายอย่าง นอกฤดูทำได้แน่นอนสำหรับพืชชนิดนี้สุกตอนมีนาเมษา คุณภาพเทียบเท่าต่างประเทศได้แน่นอนถ้าเป็นต้นเพาะเนื่อเยื่อ แต่ราคาอนาคตไม่แน่นอนกับต้นทุนที่สูงพอสมควร ฝากไว้เป็นแนวทางครับ
บันทึกการเข้า
่jatapana
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #9212 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2014, 02:27:28 AM »

ท่านสมาชิกครับ  ช่วยแนะนำแหล่งจำหน่ายพันธุ์อินทผาลัม
ในภาคใต้ให้หน่อยครับ มีเกษตรกรต้องการไปซื้อต้นพันธุ์จากแหล่งที่รับรองเชื่อถือได้ครับ ขอบคุณครับ
คุณครู


Liked By: Donhun, Seksun_56, tean
บันทึกการเข้า
pangwong
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« ตอบ #9213 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2014, 11:07:30 AM »

ผมขอสมัครเป็นสมาชิก   ด้วยนะครับ.............เพิ่งปลูก KL1 24 ต้น เมื่อ กรกฎาคม 57 ไว้ข้างบ้านแยกเพศก่อนลงแปลงปลูก และเพาะ บาฮี(อิสราเอล) 58 ต้น เพาะ KL1 89 ต้น) ได้วิธีเพาะจากเพจนี้ เข้ามาอ่านเลื่อยๆทดลองดู  ผมอยู่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ใครอยุ่ไกล้แถวนี้ก็ทักทานกันนะครับจะได้ไปเยี่ยมชมสวนกัน...เบอร์โทร 0816007065


Liked By: Donhun, Seksun_56, tean
บันทึกการเข้า
mam.bangon
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #9214 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2014, 02:48:05 PM »

สวัสดีค่ะ ขอร่วมกลุ่มด้วยคนน่ะค่ะ พยายามอ่านให้หมดอยู่ ค่ะ 500 กว่าหน้า อิอิ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


Liked By: jay, Donhun, Seksun_56, tean
บันทึกการเข้า
YUMMYDEN
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272


« ตอบ #9215 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2014, 11:19:41 PM »

วันนี้มีพี่ที่ เชียงใหม่โทรมาถามเรื่องคุ้มหรือที่จะปลูกอินทผาลัมเชิงพาณิชย์?...


ในความคิดเห็นส่วนตัว
ขอตอบดังนี้ว่า


ณ.ปัจจุบัน ถ้าคิดจะปลูกเล็กๆเชิงพาณิชย์หลักสิบต้น คิดว่าไม่คุ้มแล้ว เพราะอย่างที่บอกอินทผาลัมในไทย
อีกไม่กี่ปีคงเหลือกิโลล่ะ 50 บาท เพราะสวนผมก็ตั้งเป้าแค่นั้น ขอให้ขายหมดเถอะ...แต่ถ้าคิดว่าคุ้มลุยเลย...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2014, 11:22:02 PM โดย YUMMYDEN » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 566 567 568 569 570 571 572 573 574 575 [576] 577 578 579 580 581 582 583 584 585 586 ... 595   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: