- คุณชาวนาคิดไม่คิดเปล่า...แต่คิดไปเพาะต้นกล้าอินทผลัมไปด้วย
กว่าจะคิดออกตัดสินใจได้...ต้นอินทผลัมคงออกช่อมาช่วยในการตัดสินใจแน่เลย...

นี่แหล่ะครับ..จุดเด่นของผู้นำ สมองคิด...ตาดู...หูฟัง...และนั่งเพาะเมล็ดไปด้วย....

- ผมมีความเห็นเหมือนคุณชาวนาทุกประการเลยครับ...การปลูกอินทผลัมนั้น...เท่าที่ได้ศึกษามา
ได้เห็นข้อดีหลายประการดังที่คุณชาวนาได้กล่าวมาบ้างแล้ว...และยังมีจุดเด่นอีกกล่าวคือ
- ต้นอินทผลัม มีความต้องการน้ำเหมือนกับผลไม้ชนิดอื่น...แต่เมื่อถึงหน้าแล้งเค๊าจะทนแล้งและอากาศร้อนได้ดีกว่า
- ผลของเค๊า( บางสายพันธุ์ ) เก็บขาดสดก็ได้ราคาอยู่แล้ว...หากตากหรืออบแห้งก็ทำให้เพิ่มมูลค่าได้ดีโดยที่ไม่ต้องแปรรูปใดๆ
- เพียงแต่มีบรรจุภันฑ์ที่ดี แข็งแรง สวยงาม ไม่มากไปและไม่น้อยไป พอดีๆก็เป็นของฝากที่ดูมากด้วยคุณค่า ราคาพอประมาณ
- เราสามารถรู้ว่าต้นที่เราปลูกอยู่มีคุณภาพเด่นหรือด้อยอย่างไรภายในระยะเวลา 3 ปีเท่านั้น
- หากพบว่าเป็นต้นตัวผู้จำนวนมาก หรือต้นตัวเมียแต่รสชาติไม่ได้...ก็สามารถย้ายไปปลูกรวมกันณ.ที่แห่งอื่น
บำรุงต้นให้สมบูรณ์ ทรงพุ่มสวยงาม ตัดเล็มก้านใบให้เป็นระเบียบ
เมื่อโตได้ที่ก็สามารถล้อมไปขายเป็นต้นปาล์มประดับ ราคาแพงได้อยู่แล้ว
- อากาศอันร้อนระอุ...ร้อนอบอ้าวในประเทศไทยที่จะรู้สึกอากาศหนาวก็เฉพาะตอนเป็นไข้เท่านั้น
เหมาะสมในการปลูกอินทผลัมอยู่แล้ว
- การดูแลรักษาถึงจะไม่มากเท่าผลไม้ชนิดอื่น แต่ก็ต้องให้เวลาเค๊ามากตอนผสมเกสร...ช่วยพยุงก้านผลและห่อผล
- เท่าที่ฟังมา ต้นอินทผลัมยิ่งอายุมากยิ่งให้ผลผลิตมากขึ้นเรื่อยๆปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวผลนับ ร้อยปีเลยเชียว
- และที่สำคัญผลของอินทผลัม อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
เท่าที่คิดได้แค่นี้ก็เพียงพอที่จะเอาจริงเอาจังกับการปลูกอินทผลัมได้แล้วล่ะครับ
เป็นเรื่องที่ดีที่จะมีคนหลายคนสนใจเรื่องเดียวกัน...เริ่มต้นไปพร้อมๆกัน คิดค้น..เสาะแสวงหา ข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันในวงกว้าง
จะได้ประสบผลสำเส็จไปพร้อมๆกันน่ะครับ...คุณชาวนา....อันนี้หมอชลประทาน ฟันธงครับ