"หว่านข้าว - หว่านแห้ง"
แรกทีผมตั้งใจจะหว่านน้ำตม โดยจะเริ่มหว่านประมาณเดือนกรกฎาคม โดยผมทำการสั่งซื้อหัวเชื้อไตรโคเดอร์ม่า มาเพื่อจะลองทำตามแบบของ "พี่ชัยพร พรมพันธุ์ แห่ง ชาวนาเงินล้าน" ด้วยการแช่เมล็ดพันธุ์เพื่อคัดข้าวดีด และช่วยเรื่องการบำรุงราก ป้องกันรากเน่า พอเย็นวันที่ 02.06.54 พ่อโทรมาบอกว่าหว่านข้าวนาผมเรียบร้อยแล้ว โดยทำการหว่านแห้งเพราะกลัวฝนมาแล้วจะหว่านไม่ได้ เล่นเอาผมอึ้งไปเลย.. ผิดแผนครั้งที่ 1 พ่อให้เหตุผลว่าพ่อต้องทำนาเยอะไม่มีเวลามาทำนาตมเพราะต้องใช้เวลามาก .. ผมก็ต้องทำใจครับได้แต่หวังว่าปีหน้าผมจะลงไปทำเองจริงๆ
19.06.54 ผมกลับบ้านได้ไปเดินดูข้าวในท้องนาและบันทึกไว้ว่า
1.การหว่านแห้ง ไถกลบ ข้อดีคือ ทำง่าย สะดวก (โดยประมาณหว่านเมล็ดพันธุ์ประมาณ 40 กก./ไร่)
2.อัตราการงอกของข้าวอยู่ในอัตราดี ไม่หนา หรือ บางเกินไป เนื่องจากหลังหว่านเสร็จยังพอมีน้ำฝนลงมาบ้างเป็นระยะทำให้ดินชุ่มเหมาะสำหรับการงอกของข้าวดี
3.การที่ฝนตกซึ่งทำให้แค่ดินชุ่ม ไม่มีน้ำขังทำให้มีปัญหาอื่นตามมาเยอะ เช่น หญ้าเริ่มขึ้นแข่งกับข้าวต้นเล็กๆ, แมลงด้วงดำ(ชาวบ้านเรียกซัดดัม) เริ่มกินต้นข้าว รวมถึงเมล็ดข้าวที่ยังไม่งอก ทำให้ยืนต้นแห้งตายจำนวนมาก
4.ฝนเริ่มทิ้งช่วงแล้ว น้ำตามสระน้ำ, ลำคลองไม่มีให้สูบเข้านา
5.ชาวบ้านเริ่มใช้สารเคมีแล้ว ฟูราดาน สำหรับกำจัดแมลงด้วงดำ (ถุงบรรจุละ 550 บาทปริมาณใช้ได้ 7 ไร่ต่อถุงบรรจุ)
6.ลำดับต่อไปเริ่มซื้อยาฆ่าหญ้ามารอแล้ว.... เฮ้อ!!

"ภาพล่าสุดที่หว่านข้าวไปแล้วเมื่อ 02.06.54 ถ่ายเมื่อ 19.06.54" ข้าวกำลังตั้งตัวไม่มีน้ำขัง เริ่มเป็นแหล่งหากินพี่ซัดดัม

สังเกตุว่าในสีเขียวๆ ของต้นข้าวเล็กนั้นแฝงไปด้วยต้นหญ้าที่แอบทำตัวเนียนๆ กลมกลืนได้ดี