ช่วงเดือนธันวาคม 2553
พี่วิทย์แห่งทีวีบูรพาชวนโดดงานไปเกี่ยวข้าว
ผมไปพักที่บ้านโนนค้อทุ่ง อ.หัวตะพาน อำนาจเจริญ
แม่บัวรี พาเราไปเกี่ยวข้าวในแปลงนาอินทรีย์
สารภาพว่านี่คือครั้งแรกในชีวิตที่กำเคียวเกี่ยวข้าวด้วยตัวเอง
ผมภูมิใจจริง ๆ ครับ ขอบคุณโอกาสดี ๆ ในครั้งนี้ครับ

และก็มาถึงครูคนที่ 4 ของผม
เด็กหนุ่มที่มีพลังเต็มเปี่ยม เจ้าของรางวัลคนนอกกรอบจาก คนค้นฅนอวอร์ดครั้งที่ 1
"ผมมีความเชื่ออยู่เสมอว่า ชีวิตนี้ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็เชื่ออยู่เสมอว่า
ชีวิตนี้ก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ชีวิตนี้จะยังคงดำเนินไปอยู่เสมอ ทุก ๆ คนมีความฝัน ทุก ๆ คนมีความหวัง
ทุก ๆ คนมีหนทางเดินเป็นของตัวเอง ทุก ๆ คนเลือกเกิดไม่ได้
แต่ทุก ๆ คนเลือกที่จะทำในสิ่งที่ดี ทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจได้
และในสิ่งที่ผมทำผมก็หวังว่า แม้จะเป็นเพียงแสงหิ่งห้อยดวงหนึ่ง
แต่ ณ วันหนึ่ง เมื่อดวงอาทิตย์ และจันทราลับหายไป แสงหิ่งห้อยนี้
อาจจะมีความหมายบ้างในวันนั้น และสิ่งที่ผมทำผมตั้งใจไว้ว่า
ผมจะทำเพื่อ... ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่จะทำเพื่อคนอื่น ๆ เท่าที่ผมจะสามารถทำได้"คำกล่าวนี้เป็นของ "ตุ๊หล่าง" ครับ


และในงานกรีนแฟร์ที่สวนลุมพินี ตุ๊หล่างก็นับเมล็ดข้าวพันธุ์ "บุญกอง" ให้ผม
ตอนนี้ก็ทำให้ผมมีข้าวพันธุ์ใหม่อยู่ 24 เมล็ด(ที่คัดจากตุ๊หล่างมาแล้ว) ครับ
ไม่เกิน 3 ปีคงมีเมล็ดพันธุ์ที่เพียงพอจะนำไปปลูกได้ครับ
วันหลังจะนำภาพเมล็ดมาให้ชม กระซิบว่าใหญ่และยาวกว่า 105 ครับ
ขอบคุณหลายเด้อ ตุ๊หล่าง

ไปละ อิอิอิ
