สวัสดีครับคุณครู
เท่าที่ดูภาพไผ่จืดที่ว่า น่าจะเป็นพันธุ์ที่ผมมีแล้วครับ
เรียกว่า ไผ่ร้อยกอ คือแตกกอเยอะมาก ผมเก็บมาเพื่อจะเอาไว้ต้มเป็นชาไว้ดื่มครับ
สรรพคุณหายห่วง แก้ได้หลากหลาย ขยายก็ง่าย เหมาะปลูกไว้บ้างนะครับ
กราบขอบพระคุณจริง ๆ ครับ

เอ่ยถึงงานเกษตรแฟร์ในปีนี้สักนิดครับ
เดิน ๆ ดูไปเรื่อย เพราะไม่กล้าซื้อต้นอะไรเลย ราคาสูงเกินความสามารถกระเป๋า
ถึงบูธสวนสุโขทัย สนใจที่พี่แกเล่นฟิกส์เยอะแยะหลากหลายสายพันธุ์
นัดไว้คร่าว ๆ จะขอไปชมที่สวน แต่ก่อนออกจากบูธ ก็ได้ข้าวโพดสีชมพู 4 เมล็ด
และที่ชอบใจคือถั่วแปปยักษ์เมล็ดสีชมพูสวยงามมาก ที่สำคัญใหญ่ได้ใจจริง ๆ
ได้มา 2 เมล็ด จะเพาะเอาไว้ทำพันธุ์ (เมล็ดละ 20 บาท ราคาดีสุด ๆ 5555)
ขออนุญาตเทียบกับเหรียญ 10 บาทนะครับ

ใหญ่จริงครับ แบบนี้เอามาต้มน้ำตาลใส่ขิงซดร้อน ๆ ท่าจะดี 4 เมล็ดอิ่มเลย 5555
ที่สำคัญ ผมชอบสีครับ หวานซะขนาดนี้
......
คราวนี้มาว่าถึงอาหารฉบับ หลน กันสักหน่อยครับ
เคยไหมครับ ซื้อปลาอินทรีเค็มมา 1 ตัว ทำอาหารไปจนหมดแล้ว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับหัว
จะทิ้งก็ยังเสียดาย ทำไงดีหนอ ... ไม่ยากครับ จับมาหลนซะเลย
วัตถุดิบง่าย ๆ
1. หัวปลาอินทรีเค็ม 1 หัว
2. มะพร้าวขูดคั้นเอากะทิ 1 ถ้วย
3. หมูสับ 1 ขยุ้มมือ (ตาชั่งไม่ว่าง ท่านนายกฯเอาไปชั่งไข่ขายอยู่ 555)
4. หอมแดง 1 ขยุ้มมือ
5. พริกชี้ฟ้าคละสี ประมาณตามชอบเผ็ดมากน้อย
6. มะดันหรือมะขามเปียก
7. น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผงนัว
ตั้งน้ำเล็กน้อยให้เดือด เอาหัวปลาอินทรีเค็มลงไปเคี่ยวจนยุ่ย
กรองเอากากและก้างออกทิ้งไป ยกหม้อตั้งไฟใส่กะทิลงไปเคี่ยวกับน้ำกรองปลาอินทรี
ตักน้ำในหม้อมาใส่ถ้วยหมูสับเล็กน้อย ยีให้หมูสับกระจาย ไม่เกาะติดกันเป็นก้อน
ผ่ามะดันแล้วใส่ลงเคี่ยวในหม้อ เติมน้ำตาลปี๊บไปหน่อย ผงนัวอย่าลืม
ลองชิมรสดูก่อน เอากลาง ๆ ไว้ อ่อนเค็ม อ่อนหวาน อ่อนเปรี้ยว
เคี่ยวไปเรื่อย จากนั้นใส่หอมแดงซอย พริกชี้ฟ้าหลากสี เคี่ยวให้น้ำขลุกขลิก
ชิมรสอีกครั้ง หากได้เหมาะแล้วก็พอ แต่หากอ่อนรสใดค่อยปรุงเพิ่ม
หวานหน่อย ๆ เค็มนิด ๆ และอมเปรี้ยวหน่อย ๆ ได้รสมันของกะทิด้วย
ได้ผักสด ๆ ริมรั้ว ที่สำคัญขมิ้นขาวครับ จะเข้ากันมาก
ข้าวสวยร้อน ๆ ก่อนตักเข้าปากก็ยกจอกยาดองแก้เมื่อยขบสักจอก 2 จอก
อาหารสูตรนี้ อนุญาตให้คนหลายใจร่วมวงกินด้วยได้ 5555

ไปละ อิอิอิ
