คุณSinghto+Kaowsuayครับ
กับคำว่า "รอได้เสมอ" คุณรู้ไหมครับว่า คนฟังรู้สึกอบอุ่นเพียงใด
เป็นคำพูดหนึ่งที่สร้างกำลังใจให้อย่างมหาศาล
บ่งบอกถึงความมีตัวตน ความมีคุณค่า และการคลี่คลาย "อัตตา"
ขอบคุณสำหรับคำนี้ครับ
คุณpenpenครับ
กับคำว่า "ชอบสำนวนการเขียน" ทำให้ผมรู้สึก
ผิด อย่างมาก
ผมละเลยงานเขียนมาเกือบ 2 ปีเต็ม ๆ กับการเข้าไปใช้ชีวิตนักศึกษา
จากนี้ไป คงมีงานเขียนใหม่ ๆ ทยอยมาลงเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ ... สัญญา
......
สำหรับวันนี้ วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554
เหมาะอย่างยิ่งที่จะกล่าวคารวะกูรู ซึ่งผมนับเป็นครูผู้กระตุ้นต่อมสวนเกษตรในใจผม
ครูคนแรกที่ผมเรียนรู้และติดตามอยู่เสมอคือ "ลุงนิล" ครับ
นี่คือคนที่ถมเงินลงไปกับทุเรียนเกือบ 2 ล้านบาท หมดอาลัยตายอยากในชีวิต
จวบจนปี พ.ศ. 2540 ได้ฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านทางโทรทัศน์ว่า
“คนเราส่วนมากรู้จักแต่คนอื่น ไม่รู้จักตนเอง การรู้จักตนเองคือเราต้องทบทวนตัวเองว่าเราเก่งอะไร ทำอะไรได้”
เมื่อลุงนิล "พลันได้คิด"
ตรงนี้สำคัญมากครับ คนเราที่ประสบผลสำเร็จส่วนมากล้วนผ่านกระบวนการ "พลันได้คิด" ทั้งสิ้น
ลุงนิลรู้จักตัวเองแล้วว่าถนัดอะไร จึงปฏิญาณว่า “ลูกจะเดินตามรอยเท้าพ่อหลวง”
จากนั้น สวนคอนโดก็ได้เริ่มขึ้น ลุงนิลปลูกทุกอย่างมากมาย
จนมีคนพูดว่า “ปลูกต้นไม้ จนไม่มีที่ให้หมาเดิน”
ระดับที่ 1 ไม้ใช้สอย เช่น ตะเคียนทอง หรือจะเพิ่มยางนาก็ไม่ผิดกติกา
ระดับที่ 2 ไม้ผลและไม้ยืนต้น คือ ทุเรียนหมอนทอง หมาก ลองกอง ลางสาด มังคุด สะตอ
ระดับที่ 3 ปลูกพริกไทยแซมตามโคนต้นไม้
ระดับที่ 4 กล้วยเล็บมือนาง ส้มจี๊ด ส้มโชกุน
ระดับที่ 5 พืชสมุนไพรต้นเตี้ย เช่น ตะไคร้ ข่า
ระดับที่ 6 พืชหัว เช่น ขมิ้น กระชาย กลอย มันหอม
ระดับที่ 7 พืชน้ำ เช่น บัว จากการปลูกพืช 7 ระดับ ส่งผลให้ลุงนิลมีรายได้รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี
ซึ่งเพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
มีสิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากคือน้ำกระชายสูตรลุงนิลครับ รับรองไวอะกร้ายังชิดซ้าย 555
นี่คือครูคนแรกครับ อ้อ! ต้องสังเกตดี ๆ นะครับ คนไหนทิดโสคนไหนลุงนิล เพราะกลืนกันมาก 55555

ไปละ อิอิอิ
