หน้า: 1 ... 160 161 162 163 164 165 166 167 168 169 [170] 171 172 173 174 175 176 177 178 179 180 ... 183   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รวมพล คนปลูกมัน ... สำปะหลัง  (อ่าน 1990744 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Wimonchai
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1107


ทำในสิ่งชอบ ชอบในสิ่งที่ทำ


« ตอบ #2704 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2015, 11:25:54 AM »

เรียนถามคุณ t.hnongkinpen ครับ ว่าการปลูกมัน ยกร่อง กับไม่ยกร่อง จะมีผลดีและเสียอย่างไร และแบบไหนดีกว่ากันครับ


Liked By: sompol
บันทึกการเข้า

ทำเพื่อลูก...ทำเพื่อฝัน และวันเกษียณ

t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2705 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2015, 09:08:23 AM »

เรียนถามคุณ t.hnongkinpen ครับ ว่าการปลูกมัน ยกร่อง กับไม่ยกร่อง จะมีผลดีและเสียอย่างไร และแบบไหนดีกว่ากันครับ

 ปกติการปลูกมัน ควรยกร่องดีที่สุดครับ เพราะมันฯไม่ชอบน้ำขัง ถ้าน้ำขังรากจะเน่าตาย ถ้าไม่ตายก็จะแคระแกร็น อีกอย่างการยกร่องก็มีผลกับการเจริญเติบโต ความสมบูรณ์ของหัวมันฯด้วย  แต่การปลูกแบบไม่ไถย่องร่องก็ทำได้ครับ ซึ่งงการปลูกแบบไม่ยกร่อง
ก็เฉพาะพื้นที่ ที่ดินมีสภาพร่วนซุยมากๆ และอยู่ตามเนินหรือภูเขาหรือที่สูงที่น้ำไม่ท่วมขัง สภาพที่น้ำไม่ท่วมขัง คือประเด็นสำคัญ
ของการปลูกแบบไม่ยกร่อง อีกประเด็นคือ สภาพดินต้องมีความร่วนพอสมควร พอฝนตกลงมามากๆแทนที่จะยุบอัดแน่น
ก็ประมาณว่าดินยังร่วน ยุบยับ นุ่มนิ่ม ไม่มีผลกับการแทงรากหรือเติบโตของหัวมัน ถ้าเราไปปลูกกับดินสภาพร่วนปนเหนียว
หรือทรายปนเหนียวแล้วไม่ยกร่อง พอฝนตกลงมาบ่อยๆแล้วดินแห้ง ดินมันจะอัดแน่น แข็ง ยากที่รากหรือหัวมันจะแทงหรือโต

  แต่การจะปลูกแบบ ไม่ยกร่องยังไงก็ยังคงมีการไถพรวน หรือไถระเบิดหน้าดิน นะครับ เพื่อให้ดินร่วนซุยมากๆเข้าไว้  ข้อดีของการ
ไม่ยกร่อง คือค่าใช้จ่ายครับ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ไถยกร่องมันฯ แต่ต้องมั่นใจด้วยว่า ที่ดินที่ท่านจะปลูก ต้องดีและน้ำไม่ท่วมขัง
ดินไม่อัดแน่นหลังฝนตก  กรณีปลูกแบบไม่ยกร่อง แถวโคราช ทำกันเยอะครับ
อีกอย่าง ถ้าสภาพดินร่วนซุยมากๆ ดินดีๆ เวลาไถยกร่องปลูกมัน หลังจากเจอฝนหนักๆ ก็จะมีบ้างที่คูมันที่ยกร่องแทบจะยุบลงเรียบ
เป็นแนวระนาบ ก็เลยทำให้ คนที่ปลูกมันฯหลายๆท่าน เลือกที่จะไม่ยกร่องซะเลยครับ

โดยส่วนตัว ผมยังให้การปลูกมันแบบยกร่องดีกว่าครับ  ง่ายกับการดูแล และเก็บเกี่ยว แต่เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ สุดท้ายก็
ยังคงแล้วแต่ความเหมาะสมของพื้นที่ครับ

  


Liked By: sompol
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2015, 09:10:18 AM โดย t.hnongkinpen » บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2706 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2015, 03:38:06 PM »

 ขออณุญาตินะครับ ตามที่มีเพื่อนสมาชิกในเวป สอบถามเกี่ยวกับสารบำรุงที่ใช้ ในการทำมันฯของผมมีตัวใหนอย่างไร
ทั้งข้อความ โทรศัพย์ ไลน์ ฯลฯ ผมจะให้ดูคร่าวๆครับ(ออกแนวขายของ)
  จะเป็นผู้ปลูกรายใหม่ รายเก่า  จะมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญ ถ้ามีปัญหาเรื่องการบำรุงมัน ผมแนะนำ สารชีวภาพเหล่านี้ครับ
พวกนี้เป็นของที่ผมใช้กับมันสำปะหลังเพื่อลดต้นทุน แต่มันกลับได้ผลดีหลายๆอย่าง เรื่องลดต้นทุนแน่นอนครับได้ผลมาก
แต่ที่ตามมาคือการตอบสนองของมันฯต่อสารชีวภาพเหล่านี้ ปกติจะรองพื้นด้วย15-15-15 ประมาณ25กกใต่อไร่ ทุกวันนี้
ไม่ได้ใช้แล้ว แต่เป็นขี้ววัว เท่าที่หาได้ แต่พออายุมันประมาณ 2 สัปดาห์หรือ แตกยอดพอประมาณ จะใส่ 2ตัวนี้ครับ
    ไคโตซาน(สตาร์โกลด์)+ปุ๋ยน้ำชีวภาพสกัดเข้มข้น(ไบโอแมก)

ตัวไคโตซาน


ตัวปุ๋ยน้ำชีวภาพเข้มข้นบำรุงต้นใบ

บำรุงฉีดพ่น 1ถังต่อไร่ ต้นทุนนิดเดียวประมาณ 10-15บาทต่อไร่เท่านั้น ฉีด 10-15 วันต่อครั้ง จนมันฯอายุได้ประมาณ 3เดือน


 พอมัน3เดือนโดยประมาณ ผมก็จะเปลี่ยนเป็น ชุดนี้ครับ ไคโตซาน+ปุ๋ยเคมีน้ำ ซุปเปอร์แมกซ์99

ตัวไคโตซาน


ปุ๋ยน้ำเข้มข้นตัวนี้พี่ที่เป็นเจ้าของบอกว่า
มันมีธาตุหลัก ประมาณ 20-10-30 และธาตุรองอีเยอะมาก
ตัว99(ซุปเปอร์แมกซ์99 )นี้ใช้ได้ผลดีมากครับฉีดไปประมาณ2-3ครั้ง
จะเห็นดินเริ่มแตก ใบเริ่มร่วง คือมันจะเริ่มสะสมแป้ง แต่ผมจะไม่พึ่งเจ้า 99 อย่างเดียวในการให้มัน ลงหัวและสะสมแป้ง
ผมจะใช้ 0-0-60 ในปริมาณ20 กก.ต่อไร่ หว่านหรือหยอดเมื่อประมาณ มันฯอายุ4เดือนเศษหรือ5เดือนครับ คือหลังจากเปลี่ยนมาฉีด
ไคโตซาน+ซุปเปอร์แมกซ์99 ซัก1หรือ สองครั้ง ก็ใส่ปุ๋ย 0-0-60 ตามได้เลยเพื่อความชัวร์ เรื่องหัวซึ่งปกติผมจะทำประมาณนี้ซึ่ง
ได้ผลผลิตที่ 5ตันเศษๆทุกปีต่อไร่ ครับ
 
 ต้นทุนของสารบำรุงที่ใช้ฉีดมันที่ว่า ในช่วง 2สัปดาห์-3เดือนก็ประมาณ 4-6ครั้ง ครั้งละประมาณ 15-20บาทต่อไร่ (แล้วแต่ปริมาตรความเข้มข้นที่จะใช้ผสมน้ำ20ลิตรต่อถังฉีด)  อันนี้คือคิดที่ 2ตัวครับ ทั้ง ไคโตซานและไบโอแมกซ์ (ปุ๋ยสกัดชีวภาพเข้มข้น)
ซึ่งตลอด 3เดือนก็ไม่ถึงพันบาท ในพื้นที่ 4ไร่กว่าๆครับ ถ้าใครไม่อุ่นใจก็อาจจะใส่ 15-15-15 ในอัตรา 15-20กก.ต่อไร่ ก็ได้ถ้ายังไม่แน่ใจ
ว่าที่ผมแนะนำ ใช้ได้ผลจริงหรือปล่าว ส่วนต้นทุน ของสารบำรุงที่ใช้ฉีดมันที่ว่า ในช่วง 3-4.5 เดือนก็ประมาณ 4-6ครั้ง
ครั้งละประมาณ 15-20บาทต่อไร่เช่นกัน  นอกจากนี้ก็จะมีต้นทุน ของปุ๋ยสำหรับพืชกินหัว อย่าง 0-0-60 อัตราเฉลี่ย20กกต่อไร่
ซึ่งต้องใส่ให้ได้ซักครั้งในช่วงมันฯอายุ4-5เดือน เอาราคาถูกสุดก็ประมาณ800 ต่อกระสอบต่อ50กก. ถ้า4.5ไร่ ก็ประมาณ 2กระสอบ
ตกประมาณ 1600 บาทครับ
  รวมๆ ต้นทุน ของปุ๋ย บำรุงและสารสำหรับบำรุงมันฯของผม ก็ตกประมาณ 3000-4000 บาท ต่อ4.5ไร่ครับอันนี้หมายถึงรวมค่าปุ๋ย
สูตร15 ตอนใส่รองพื้นนะครับ เผื่อพวกรองพื้นตระกูลขี้ ไม่พอ แต่ถ้า เกิดไม่อุ่นใจตอนช่วง 2สัปดาห์ –3เดือนเกี่ยวกับตัวปุ๋ยบำรุง
แล้วถ้าท่านเพิ่มเติมใส่สูตร 15 เข้าไปในช่วงนี้ วักครั้ง ก็จะมีต้นทุนเพิ่ม ประมาณ 1500-1800 แล้วแต่ยี่ห้อ รวมสุทธิก็ประมาณ
5500-5800บาท คือต้นทุนปุ๋ยและสารบำรุงมันสำปะหลัง ตามแบบฉบับของผมครับ จะมีความยืดหยุ่น ในช่วง  การใส่รองพื้น
และ ใส่บำรุงช่วง 2สัปดาห์-3เดือน ที่ถ้าใครเอาไปใช้แล้วอาจจะไม่อุ่นใจก็ใส่ ปุ๋ยสูตร15-15-15 วึ่งก็จะทำให้ตุ้นทุนเพิ่มมาอีกนิดหน่อย
เหมือนกับที่ผมเคยทำในช่วงที่ใช้สารชีวภาพพวกนี้ในยุคแรกๆ จนทุกวันนี้เริ่มมั่นใจและตัดต้นทุนส่วนนั้นทิ้งไปแล้ว
การจะเพิ่มผลผลิตเพื่อให้ได้มากขึ้นๆทำได้ครับแต่ปัจจัยหลักคือมีเวลาดูแลทั่วถึงทุกซอกมุมเป็นพอ การบำรุงให้ถูกช่วงเต็มที่
แต่ไม่มากจนต้นทุนบานปลาย ก็จะได้ผลผลิตที่ คุ้มทุนครับ

  ผมป็นคนอิสาน ครอบครัวทำมันฯมาตั้งแต่ราคา กก.ละ30สตางค์ 50,75สตางค์ ปีที่ได้1บาท เฮลั่นครับ เพราะฉนั้น พอมาเจอ
2บาทกว่าๆอย่างทุกวันนี้ถือว่าอยูได้ครับ ถึงต้นทุนการทำมันฯจะสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่มันยังมีกำไร พอสมควร

รูปแบบหรือสูตรที่ผมทำ มันฯไม่ได้ใช้ได้ผลแค่ทำในพื้นที่ 4.5ไร่ของตัวเอง แต่ผมเคยทำในพื้นที่ ขนาด 24 ไร่ คือผมเช่าที่
เพื่อปลูกมันฯ ถือว่าประสบความสำเร็จมาก และถูกช่วงราคามัน 3บาทเศษๆ จนปีและ2ปีจากนั้น ค่าเช่าเพิ่ม เป็น 2-3เท่าตัว
ผมจึงลดลงมาเหลือแค่ปลูกในที่ของตัวเอง ปีที่ฝนดีๆสม่ำเสมอ ได้ที่6ตันต่อไร่ แต่ปกติอยู่ที่ 5ตันกว่าครับ ถือว่าอยู่ได้ครับ

สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ก็สอบถามเพิ่มเติมได้ทั้งทางกล่องข้อความ ไลน์ ไอดีไลน์: TNT7252  ไม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑืแต่เกี่ยวกับการปลูกมันฯ ก็คุยกันได้ครับ

ลิ๊งหน้าผลิตภัณฑ์ต่างที่ใช้ในการเกษตรครับ ค่อนข้างครบ
 
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=117835.0

  นอกจากนี้ยังมีพวกผลิตภัณฑ์ สารชีวภาพฆ่าแมลง และจุลลินทรีย์ผงฆ่าแมลง ที่ปลอดภัยกับมนุษย์100% แต่ได้ผลดีเยี่ยม
ใครต้องการข้อมูลเพิ่มอยากให้ส่งข้อมมูลให้ ก็ลง e-mail ไอดีไลน์ หรือจะให้ส่งทางกล่องข้อความก็ยินดีครับ
  
  ***เน้นนะครับ ใจความหลักๆผมยังยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำมันฯเสมอนะครับ***


Liked By: Komm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2015, 03:40:13 PM โดย t.hnongkinpen » บันทึกการเข้า
vigo2011
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #2707 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2015, 04:18:07 PM »

ใครต้องการ พันธุ์ระยอง9 เชิญทางนี้ครับ 087-7375053
บันทึกการเข้า
peerapath
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237


« ตอบ #2708 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2015, 10:58:02 AM »

1 เดือน กับ 24 วัน ห้วยบง พวงเพชร นาคขาว( 2 แถว ขวามือ ต่อจากพวงเพชร)




Liked By: sompol
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2709 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2015, 12:07:34 PM »

1 เดือน กับ 24 วัน ห้วยบง พวงเพชร นาคขาว( 2 แถว ขวามือ ต่อจากพวงเพชร)




 ต้องรีบบำรุงเลยครับ มันค่อนข้างห่างไม่แน่ใจว่าเพราะฝนทิ้งช่วงเลยตายไปบ้างหรือปล่าว และะต้นยังดูไม่สมบูรณ์เท่าไหร่
จะอัด15-15-15 หรือ16-16-16 ก็ได้ เพื่อให้ใบชนกัน จะได้คลุมหญ้าอยู่หมัดไปด้วย


Liked By: sompol
บันทึกการเข้า
phaitoontriton
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 30


« ตอบ #2710 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2015, 09:04:48 PM »

ขอรายละเอียดการปลูกมันตั้งแต่เริ่มต้นหน่อยครับ  ว่า  ใช้ยาอะไรคลุมหญ้าตอนใหน   ใช้ปุ๋ยอะไรตอนใหน      ตั้งแต่ตอนเตรียมดินเลยครับ    ****ไร่เป็นดินทรายครับ   ใช้มันพันธุ์อะไรดีครับ


Liked By: sompol
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2711 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2015, 10:14:39 PM »

ขอรายละเอียดการปลูกมันตั้งแต่เริ่มต้นหน่อยครับ  ว่า  ใช้ยาอะไรคลุมหญ้าตอนใหน   ใช้ปุ๋ยอะไรตอนใหน      ตั้งแต่ตอนเตรียมดินเลยครับ    ****ไร่เป็นดินทรายครับ   ใช้มันพันธุ์อะไรดีครับ
หน้า 168 จะมีในส่วนของผมอยู่ ตั้งแต่เริ่ม แต่ถ้าต้องการรายละเอียดในส่วนใหนเพิ่มก็สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ถ้ามีเวลาก็จะมาตอบให้
หรืออาจจะรอท่านอื่นเพิ่มเติมอีกก็ได้ครับ  หรือแอดไลน์มาเพื่อสอบถามรายละเอียดบางช่วงบางตอนของการปลูกมันเพิ่มเติม หลังจากอ่านหน้า168ก็ยินดีครับ


Liked By: nootnoi
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2712 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2015, 10:51:12 PM »

ขอรายละเอียดการปลูกมันตั้งแต่เริ่มต้นหน่อยครับ  ว่า  ใช้ยาอะไรคลุมหญ้าตอนใหน   ใช้ปุ๋ยอะไรตอนใหน      ตั้งแต่ตอนเตรียมดินเลยครับ    ****ไร่เป็นดินทรายครับ   ใช้มันพันธุ์อะไรดีครับ
จากที่เคยทำแปลงที่ปนทรายหนักๆ เน้นห้วยบง 60 และ ระยอง72ครับ ธาตุอาหารในดินน้อยแต่จะตอบสนองปุ๋ยหรือสารต่างๆทีเราเติม(หว่าน พ่น ฉีด)
ให้กับมันฯ พยายามใส่รองพื้น พวกขี้ไก่ หรือขี้วัว หรือกากมัน จะดีมาก ในส่วนขี้ไก่ควรใส่ให้พอดีอย่ามากจนเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตครับ
เน้นๆครับ ถ้าเป็นดินปนทรายมากๆ ช่วงอายุ4-6เดือนอย่าปล่อยตามมีตามเกิด ช่วงนี้ต้องการธาตุอาหาร เพื่อใช้ในการสังเคราะแสง สร้างอาหาร(แป้ง) ไปเก็บที่หัว
ดังนั้น ถ้าไม่มีการฉีดพ่นสารใดๆฮอร์โมนใดๆ ก็ขอให้ใส่ 12-8-36 หรือ 0-0-60ซัก 2ครั้งก่อนปล่อย จนถึงช่วงเก็บเกี่ยวครับ
หว่านรือหยอดบนคูมันฯระหว่างต้นครับผม

 ในส่วนสายพันธ์มัน รอท่านอื่นมาเพิ่มเติมครับ ผมแนะนำของกรมฯไว้ก่อน หาง่ายไม่แพงตามกระแส


Liked By: sompol
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2713 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2015, 11:05:59 PM »

การฉีดพ่นสารบำรุงก็ยังมีความจำเป็นทั้งลดต้นทุนและให้ธาตุอาหารที่มันฯสามารถนำไปใช้ได้เลย
โดยเฉพาะพื้นที่ที่แล้งฝนทิ้งช่วง จะรอฝนเพื่อให้ได้หว่านปุ๋ยคงไม่ได้การนะครับ
ถ้าแล้งมากๆปุ๋ยที่หว่านลงไปก็ถูกมันฯดูดซึมไปใช้ได้ค่อนข้างน้อยครับ


ภาพที่ลูกค้าส่งมาคือฉีดพ่นวันที่ 11 มิถุนายน2558
ส่งรูปหลังใช้มาวันที่21มิถุนายน2558ครับ หลังการใช้1ครั้ง มาดูกันครับ
ระยะที่ฉีดและส่งรูปมาเห็นบอกว่าฝนตกแค่วันเดียวในรอบเดือนเศษด้วยซ้ำ


มุมแรก
ก่อนใช้

หลังใช้


มุมที่สอง
ก่อนใช้


หลังใช้


มุมที่3
ก่อน

หลัง


หากพื้นทีของท่านแล้งฝน ฝนทิ้งช่วงก็ลองหยิบปุ๋ยน้ำที่มีอยู่ไปฉีดพ่นมันฯของท่านซะนะครับไม่ต้องรอฝนเพื่อที่จะใส่ปุ๋ย
ฉีดช่วง เช้าตรู่ หรือ5-6โมงเย็นๆก็ได้ เป็นทริกเล็กๆน้อยๆ ของการพามันฯสู้ภัยแล้งจะใส่สารไล่(ฆ่า)เพลี้ย แมลงที่เป็นภัยกับมันไปด้วยก็ดีครับ



Liked By: sompol
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 20, 2015, 11:09:04 PM โดย t.hnongkinpen » บันทึกการเข้า
ออนซอน เกษตร
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 189



« ตอบ #2714 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2015, 02:07:47 PM »






พอมีวิธีแก้ไขไหมครับ.. เป็นเยอะมาก
บันทึกการเข้า

ออนซอน เกษตร by โจโฉ  บ้านดอนแดง คำเตย เมือง นครพนม  ประเทศไทย
จำหน่าย ลูกเป็ด ลูกไก่บ้าน ห่าน 
โจ 086 229 8556
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2715 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2015, 09:20:31 PM »






พอมีวิธีแก้ไขไหมครับ.. เป็นเยอะมาก

มีรูปมุมกว้างที่ทำให้เห็นความเสียหายทีเป็นพื้นที่กว้างๆไหมครับ
เท่าที่ดูมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นโรคใบไหม้ ถ้าเป็นมากๆรักษายากมากครับ
ต้นใหนที่เป็นหนักๆส่วนมากจะถอนไปกองๆรวมกันแล้วเผาทำลายเลย
อยากเห็นมุมภาพที่กว้างกว่านี้ครับ
บันทึกการเข้า
ออนซอน เกษตร
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 189



« ตอบ #2716 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2015, 08:41:11 AM »






พอมีวิธีแก้ไขไหมครับ.. เป็นเยอะมาก

มีรูปมุมกว้างที่ทำให้เห็นความเสียหายทีเป็นพื้นที่กว้างๆไหมครับ
เท่าที่ดูมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นโรคใบไหม้ ถ้าเป็นมากๆรักษายากมากครับ
ต้นใหนที่เป็นหนักๆส่วนมากจะถอนไปกองๆรวมกันแล้วเผาทำลายเลย
อยากเห็นมุมภาพที่กว้างกว่านี้ครับ


รูปมุมกว้างไม่มีครับ ส่วนมากใบเริ่มเป็นประมาณนี้ครับ  ที่เริ่มเป็นต้องแก้ไข ยังไงครับ


บันทึกการเข้า

ออนซอน เกษตร by โจโฉ  บ้านดอนแดง คำเตย เมือง นครพนม  ประเทศไทย
จำหน่าย ลูกเป็ด ลูกไก่บ้าน ห่าน 
โจ 086 229 8556
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2717 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2015, 09:43:20 AM »

เรียน คุณ โจโฉครับ
โรคที่มันของคุณโจโฉเจอ มันกล่ำกึ่งอยู่สองอย่างแต่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นใบไหม้ ผมไม่รู้ว่าเป็นหนักแค่ใหน
คำว่าหนักมี 2ระดับคือ20-30% ของเนื้อที่ให้หาสารเคมีที่มีสารประเภท เมตาแลคซิล (metalaxyl)
มาฉีดพ่น ตัวนี้ไม่การันตีว่าจะหายขาดเป็นปลิดทิ้งทั้งแปลง ครับเพราะถ้าเป็นโรคใบไหม้จริงแสดงว่ามันมาจากท่อนพันธ์
คือติดมากับท่อนพันธ์ ที่ซื้อมาหามาแล้วก่อนปลูกเราไม่ได้แช่ยาให้ดีก่อน หรือถ้าเป็นท่อนพันธ์ของเราเอง
ก็แสดงว่าเราใช้มาหลายรุ่นจนมันเริ่มอ่อนแอในแปลงปลูกเดิมๆ
    ถึงฉีดพ่นไปแล้วก็ต้องคอยตรวจตาเพื่อเก็บทำลายนะครับ ตัวยาทีแนะนำลองไปสอบถามที่ร้านเกษตรภัณฑ์
ถ้าจะให้ดีเก็บต้นมันฯพร้อมใบที่เป็นโรคไปให้ที่ร้านแนะนำว่าจะใช้ยาตัวใหนยี่ห้อใดและฉีดพ่นถี่แค่ใหน
และที่จะแนะนำถ้าเป็นไปได้ปีถัดไปให้ใช้ท่อนพันธ์ชุดใหม่ ส่วนที่มีให้เผาทำลายทั้งหมดอย่าให้คนอื่นไปนะครับ

 ถ้าแล้งๆจัดฝนท้ิงช่วงจะมีโรคพวกนี้โผล่ในหลายพื้นที่ครับ ยิ่งกับมันอายุ3สัปดาห์-2เดือนถ้าแล้งมากๆพืชขาดความสมบูรณ์จะดดนโรคนี้เล่นงานครับ
หลังฉีดพ่นสารที่แนะนำไปแล้วก็พยามฉีดสารบำรุงต่างให้มันฯไปด้วยเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แข็งแรงให้กับมันฯด้วยจะดีมากครับ

ป.ล. รอฟังท่านอื่นว่ามีความคิดเห็นอย่างไรครับ
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2718 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2015, 09:45:25 AM »

เรียน คุณ โจโฉครับ
โรคที่มันของคุณโจโฉเจอ มันกล่ำกึ่งอยู่สองอย่างแต่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นใบไหม้ ผมไม่รู้ว่าเป็นหนักแค่ใหน
คำว่าหนักมี 2ระดับคือ20-30% ของเนื้อที่ให้หาสารเคมีที่มีสารประเภท เมตาแลคซิล (metalaxyl)
มาฉีดพ่น ตัวนี้ไม่การันตีว่าจะหายขาดเป็นปลิดทิ้งทั้งแปลง ครับเพราะถ้าเป็นโรคใบไหม้จริงแสดงว่ามันมาจากท่อนพันธ์
คือติดมากับท่อนพันธ์ ที่ซื้อมาหามาแล้วก่อนปลูกเราไม่ได้แช่ยาให้ดีก่อน หรือถ้าเป็นท่อนพันธ์ของเราเอง
ก็แสดงว่าเราใช้มาหลายรุ่นจนมันเริ่มอ่อนแอในแปลงปลูกเดิมๆ
    ถึงฉีดพ่นไปแล้วก็ต้องคอยตรวจตาเพื่อเก็บทำลายนะครับ ตัวยาทีแนะนำลองไปสอบถามที่ร้านเกษตรภัณฑ์
ถ้าจะให้ดีเก็บต้นมันฯพร้อมใบที่เป็นโรคไปให้ที่ร้านแนะนำว่าจะใช้ยาตัวใหนยี่ห้อใดและฉีดพ่นถี่แค่ใหน
และที่จะแนะนำถ้าเป็นไปได้ปีถัดไปให้ใช้ท่อนพันธ์ชุดใหม่ ส่วนที่มีให้เผาทำลายทั้งหมดอย่าให้คนอื่นไปนะครับ

 ถ้าแล้งๆจัดฝนท้ิงช่วงจะมีโรคพวกนี้โผล่ในหลายพื้นที่ครับ ยิ่งกับมันอายุ3สัปดาห์-2เดือนถ้าแล้งมากๆพืชขาดความสมบูรณ์จะดดนโรคนี้เล่นงานครับ
หลังฉีดพ่นสารที่แนะนำไปแล้วก็พยามฉีดสารบำรุงต่างให้มันฯไปด้วยเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แข็งแรงให้กับมันฯด้วยจะดีมากครับ

ป.ล. รอฟังท่านอื่นว่ามีความคิดเห็นอย่างไรครับ

ลืมบอกไปครับ ว่าเป็นหนักอีกระดับคือ40-60%นี่คือต้องไถทิ้งเลยครับไม่น่าจะเอาอยู่ครับ
บันทึกการเข้า
ออนซอน เกษตร
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 189



« ตอบ #2719 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2015, 11:07:10 AM »

เรียน คุณ โจโฉครับ
โรคที่มันของคุณโจโฉเจอ มันกล่ำกึ่งอยู่สองอย่างแต่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นใบไหม้ ผมไม่รู้ว่าเป็นหนักแค่ใหน
คำว่าหนักมี 2ระดับคือ20-30% ของเนื้อที่ให้หาสารเคมีที่มีสารประเภท เมตาแลคซิล (metalaxyl)
มาฉีดพ่น ตัวนี้ไม่การันตีว่าจะหายขาดเป็นปลิดทิ้งทั้งแปลง ครับเพราะถ้าเป็นโรคใบไหม้จริงแสดงว่ามันมาจากท่อนพันธ์
คือติดมากับท่อนพันธ์ ที่ซื้อมาหามาแล้วก่อนปลูกเราไม่ได้แช่ยาให้ดีก่อน หรือถ้าเป็นท่อนพันธ์ของเราเอง
ก็แสดงว่าเราใช้มาหลายรุ่นจนมันเริ่มอ่อนแอในแปลงปลูกเดิมๆ
    ถึงฉีดพ่นไปแล้วก็ต้องคอยตรวจตาเพื่อเก็บทำลายนะครับ ตัวยาทีแนะนำลองไปสอบถามที่ร้านเกษตรภัณฑ์
ถ้าจะให้ดีเก็บต้นมันฯพร้อมใบที่เป็นโรคไปให้ที่ร้านแนะนำว่าจะใช้ยาตัวใหนยี่ห้อใดและฉีดพ่นถี่แค่ใหน
และที่จะแนะนำถ้าเป็นไปได้ปีถัดไปให้ใช้ท่อนพันธ์ชุดใหม่ ส่วนที่มีให้เผาทำลายทั้งหมดอย่าให้คนอื่นไปนะครับ

 ถ้าแล้งๆจัดฝนท้ิงช่วงจะมีโรคพวกนี้โผล่ในหลายพื้นที่ครับ ยิ่งกับมันอายุ3สัปดาห์-2เดือนถ้าแล้งมากๆพืชขาดความสมบูรณ์จะดดนโรคนี้เล่นงานครับ
หลังฉีดพ่นสารที่แนะนำไปแล้วก็พยามฉีดสารบำรุงต่างให้มันฯไปด้วยเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แข็งแรงให้กับมันฯด้วยจะดีมากครับ

ป.ล. รอฟังท่านอื่นว่ามีความคิดเห็นอย่างไรครับ

ลืมบอกไปครับ ว่าเป็นหนักอีกระดับคือ40-60%นี่คือต้องไถทิ้งเลยครับไม่น่าจะเอาอยู่ครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำชี้แนะ จะลองหาสารเคมีที่มีสารประเภท เมตาแลคซิล (metalaxyl) มรฉีดพ่นดู ได้ผลยังไงจะรายงานอีกทีนะครับ


Liked By: Taweekrit
บันทึกการเข้า

ออนซอน เกษตร by โจโฉ  บ้านดอนแดง คำเตย เมือง นครพนม  ประเทศไทย
จำหน่าย ลูกเป็ด ลูกไก่บ้าน ห่าน 
โจ 086 229 8556
หน้า: 1 ... 160 161 162 163 164 165 166 167 168 169 [170] 171 172 173 174 175 176 177 178 179 180 ... 183   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: