หน้า: 1 ... 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167 [168] 169 170 171 172 173 174 175 176 177 178 ... 183   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รวมพล คนปลูกมัน ... สำปะหลัง  (อ่าน 1990617 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2672 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2015, 07:11:02 PM »

  อันนี้เป็นสูตรหรือขั้นตอนวิธีการทำมันฯของผมเองครับ 4.8-5.6ตันต่อไร่ ในพื้นที่ดูแล4.5ไร่ ถือว่าน้อยมากในการจัดการครับ


ผมแบ่งใจความหลักๆของการปลูกมันออกเป็น3ช่วงสำคัญ 3ช่วงที่มันฯมีความต้องการที่แตกต่างกัน

ช่วงที่1 การเริ่มปลูก
  ระยะที่1นี้การเริ่มต้นปลูกส่วนมากจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากไม่ว่าจะเป็นเซียนมันฯหรือไม่ใช่เซียนมันฯ
ก่อนอื่นคือไถพรวนดินกำจัดวัชพืชโดยรถไถใหญ่ เสร็จแล้วหว่านปุ่ย 15-15-15 รองพื้น แล้วแต่ทรัพย์จะให้ได้ผลต้อง
อย่างน้อย 30กิโลกรัมต่อไร่ หรือขี้ไก่ก็ได้ตามสะดวก การใส่รองพื้นต้องมองให้ขาดว่ามันเพื่ออะไรไม่ใช่ว่าใส่ตามคนโน้นคนนี้ที่เข้าทำประสบความสำเร็จ ควรจะดูด้วยว่าเดิมทีดินเราสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าสมบูรณ์อยู่แล้วก็ใส่ขี้ไก่รองพื้นนิดหน่อย
ก็พอ หรือ 15-15-15 ประมาณ 15 กก.ต่อไร่ ก็พอ ถ้าดินไม่สมบูรณ์ ก็ 15-15-15 25-30กก.ต่อไร่ หรือขี้ไก่เน้นๆ
ปุ๋ยรองพื้นมันจะไปช่วยในตอนที่มันอายุ1-3เดือนช่วงนี้รากจะเดินได้กินปุ๋ยรองพื้นพวกนี้มันจะไปทุกทิศทุกทาง ที่เราใส่ขี้ไก่
คือมันฯสำปะหลังจะได้กินเมื่ออายุ1-3เดือนเป็นช่วงมันจะลำต้นงามใบงามใบสวย แต่ช่วงนี้ก็ต้องเอาหญ้าให้อยู่ด้วยใครที่คิดว่าใส่แค่ขี้ไก่แล้วจะได้ผลดีอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะมันไม่ได้ส่งผลยาวจนถึงช่วงมันสะสมแป้ง แต่ที่ได้ผลดีคือท่านใส่ขี้ไก่เยอะและเอาหญ้าอยู่รากเดินดีใบสมบูรณ์ พอถึงช่วงสะสมแป้งใบทำงานได้ดีสังเคราะแสงสร้างอาหารมาสะสมที่รากได้เยอะจนเป็นหัวมันขนาดใหญ่ และยิ่งมีฮอร์โมนระเบิดหัวหรือปุ๋ยสำหรับพืชกินหัว อย่าง0-0-60 มันยิ่งลงหัว เพราะฉนั้นรองพื้น
สำคัญกับมันฯระยะที่1 คือ1-3เดือนมากและส่งผลในช่วง 6-9หรือ12เดือนน้อยมาก เพราะฉนั้นเลือกรองพื้นให้เหมาะสม
อย่าให้มากเกินความจำเป็นเพื่อการลดต้นทุนลงมาเพราะยังไงในช่วง 1-3เดือนผมเชื่อว่าหลายคน จะต้องใส่ปุ๋ยหรือฉีดปุ๋ย
เพิ่มเติมหรือบำรุงมันฯอยู่แล้ว เรื่องการใส่ปุ๋ยฮอร์โมนหรือบำรุงต้นใบในช่วงอายุ1-3เดือนึค่อยไปว่ากันในช่วงที่2ของการ
ทำมันฯครับ เดี๋ยวเอาช่วงที่1 ให้จบก่อน หลังจากไถพรวนเสร็จแล้ว อาจจะปลูกหลังไถพรวนได้ทันทีหากดินยังชุ่มอยู่หลัง
1-3วัน จากนั้นก็ไถยกร่องปลูก  ไถย่องร่องให้ใหญ่ตามที่เราต้องการ ปลูกโดยท่อนพันธ์ที่ตัดตรงเพื่อให้รากแตกออกทั่วทิศ
ปลูกเสร็จก็ฉีดยาคลุมหญ้า  นี่คือส่วนสำคัญครับคือหลังจากไถพรวน แล้วไถยกร่อง ก็ฉีดยาคลุมหญ้าได้เลย หรือจะไถยกร่อง
เสร็จปักตันพันธ์ลงปลูกแล้วฉีดก็ได้ หรือปลูกวันนี้วันหลังค่อยมาฉีดก็ได้แต่อย่าเกินหลังจากปลูก2-5วัน เพราะถ้าฉีดหลัง
จาก 5วัน มันฯอาจแตกตาเมื่อยาคลุมหญ้าไปโดนมันจะชะลอการแตกยอดของต้นที่โดนนั่นแหละครับ ที่สำคัญ เม็ดพันธ์
ของหญ้าที่ไถยกร่องแล้วพลิกกลับขึ้นมาก็จะทยอยเกิด ถ้าเราฉีดก่อนหน้านั้นมันมีฤทธิ์ไปเคลือบเม็ดหญ้าไม่ให้แตกเมล็ดเป็น
ต้นอ่อนและชะลอได้นาน1.5-2เดือนเลยครับ ข้อดีของการฉีดยาคลุมหญ้าคือระยะ1-2เดือนนี้รากฝอยของมันฯจะแตกออกไป
รอบมันก็ไปหากินปุยที่เรารองพื้นไว้นี่แหละครับ ช่วงนี้ถ้าเป็นแต่ก่อนเราจะดายหญ้าจ้างคนถากหญ้า(ด้วยจอบ) มันไปตัด
รากฝอย แน่นอนครับหลายคนแย้งว่ารากฝอยมีเยอะแยะเหลือเฟือ  แต่รากที่สมบูรณ์ก่อนที่เราจะดายหญ้าถากหญ้า(ด้วยจอบ)
มันก็ไม่ทุกรากฝอย พอเราถากหญ้า(ด้วยจอบ)  ไปตัด1ใน10หรือ1ใน5มันก็สำคัญอยู่แล้วครับ นอกจากนั้นการฉีดยาคลุมหญ้า
เมื่อเอาหญ้าระยะแรกอยู่โดยไม่ต้องดายหญ้าแบบดั้งเดิมร่องดินที่เรายกก็ ไม่เสียรูปทำให้รากที่แตกออกมาคงสภาพเพิ่มโอกาสกลายเป็นหัวมันขนาดใหญ่ในคูดินนั้นๆครับ เมื่อมันแตกยอดแตกใบได้ประมาณ3-5สัปดาห์ จะบำรุงยังไงก็ได้ตามสูตรที่เรารับรู้มาหรือพ่อแม่เคยทำ ถ้าใส่ปุ๋ยเม็ดก็หยอดหรือวาง(จากกำมือ) ลงระหว่างต้นได้เลย หากดินชุ่มชื้นหรือมีความชื้นอยู่ ฤทธิ์ปุ๋ยจะซึมลงกระจายไปทั่วบริเวณที่เราหยอดหรือหว่านลง หรือที่ได้ผลดีอีกแบบคือการฉีดให้ปุ๋ยทางใบจะเป็นแบบ
เคมีน้ำก็ได้หรือปุ๋ยน้ำชีวภาพก็ได้ ถ้าเป็นปุ๋ยเคมีน้ำถึงจะเป็นเคมีแต่ก็ส่งผลเสียกับดินน้อยมาก คือไม่ทำลายสภาพดิน
ปลอดภัยกับดินสูงและพืชดูดซึมไปใช้ได้เร็ว และถ้ายิ่งเป็นปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วยิ่งปลอดภัยต่อทั้งคนดินและพืชครับ
ถ้าจะใส่ปุ๋ยเม็ดก็ 15-15-15 ก็ได้หรือ ยูเรียเพื่อบำรุงใบ ถ้าทั้งปุ๋ยน้ำและเม็ดพร้อมกันก็แนะนำเป็น 15-15-15 หรือ46-0-0(ยูเรีย)
แค่15-20 กก.ต่อไร่ แล้วฉีดปุ๋ยน้ำเพราะปุ๋ยน้ำจะมีธาตุอาหารรองเยอะจะเป็นยี่ห้อใดก็แล้วแต่ท่านถนัดครับหรือคุ้นเคยครับ
แต่ต้องฉีดให้ได้10-15วันต่อครั้งตลอด 1-3เดือน จะได้ผลมากส่งผลให้ได้ผลผลิตดี (คือมันจะไปส่งผลให้เกิดความต่อเนื่อง
กับช่วงที่2และ3จนทำให้ผลผลิตออกมาดี)


Liked By: Taweekrit, sompol
บันทึกการเข้า

t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2673 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2015, 07:16:59 PM »

 ช่วงที่ 2ระยะที่2

ช่วงที่2  ต่อจากช่วงแรกเมื่อเม็ดหญ้ารวมทั้งหญ้าบางส่วนที่ไม่ตายหลังจากการไถพรวน แต่มันถูกฤทธิ์ยา
คลุมหญ้าคลุมไว้ ทำให้ไม่มีหญ้ามาแย่งอาหาร(พวกปุ๋ยรองพื้น)ของมันสำปะหลัง ก็จะทำให้มันฯกินปุ๋ยและสาร
อหารในดินได้ดี(ดีกว่าแต่ก่อน) ทำให้มันงามแบบพุ่งปรี๊ดเกือบจะคุมหญ้าอยู่แต่ยังครับ ช่วง1.5เดือน-2เดือนนี้เองเม็ดพันธ์
ของหญ้าและศัตรูพืชทั้งหลายจะเริ่มแตกเม็ดแตกยอดหญ้าที่ไม่ตายตั้งแต่ไถพรวนคงจะพ้นจากฤทธิ์ยาคุลมหญ้าช่วงนี้และ
ก็จัดการ ฉีดยาแบบดูดซึมได้เลยคราวนี้เป็นการล้างบางหญ้าในฤดูกาลนี้ จุดหมายหลักคือ กำจัดวัชพืชโดยไม่ทำลายรากที่สำคัญของมันฯ(รากดีหรือรากที่จะกลายเป็นหัวมันฯ) และไม่ทำลายคูมันที่ยกร่อง ให้คงรูป  ผลเสียมีแน่นอน แต่น้อย แต่ผลดีคุ้มกว่า โดยอาจจะมีผลต่อต้นมันฯ
คือชะลอมันเรานิดๆหน่อย ขอแค่ฝนไม่ทิ้งช่วงไกลมากก็พอ คือเมื่อฉีดยาฆ่าหญ้าแล้วเริ่มออกฤทธ์2-3วัน หลังจากนั้นถ้าฝน
ทำท่าจะตกก็จัดปุ๋ย ยูเรีย 46-0-0 (30กก.ต่อไร่)เข้าไปเพื่อเร่งใบเร่งต้น ช่วงนี้เรื่องรากน่าจะหายห่วงต้องบำรุงต้นและใบเต็มที่
สำหรับใครที่ใส่ขี่ไก่รองพื้นไว้แล้ว ก็ ไส่แค่ 15-15-15ก็พอ(30กก.ต่อไร) ระยะ1-3เดือน มันจะยังไม่สะสมแป้งต้องบำรุงใบ
ให้งามๆเพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ส่วนต้นก็เปรียบเป็นเส้นทางที่จะลำเลียงสารอาหารมาเก็บไว้ที่รากซึ่งกลาย
เห็นหัวมันฯนั่นเอง (อันนี้เป็นข้อเปรียบเทียบเชิงสมมุติของผมเองเพื่อให้เห็นภาพ  คือผมสมมุติใบเป็นโรงสีลำต้นเป็นเส้น
ทางลำเลียงข้าวมาเก็บไว้ในโกดัง โดยโกดังคือรากช่วงนี้) ช่วงนี้รากจะชอนไชหาอาหารไปสังเคราะห์แสงทางใบเพื่อแตกใบ
แตกยอดเพื่อเตรียมใบไว้ใช้การในอีก2-4เดือนข้างหน้า  เพราะฉนั้นช่วง1-3เดือนถ้าเอาหญ้าไม่อยู่หญ้าจะแย่งอาหารมันฯ
ต้นเล็กใบเหลืองรากไม่เดินเพราะถูกหญ้าสกัด จากนั้นก็จบเห่ครับ หลังจาก2-3เดือนรากที่จะกลายเป็นหัวอยู่แค่ใหนก็แค่นั้น
พอถึงช่วง4-8เดือน ที่มันเริ่มจะสะสมแป้งแบบเต็มอัตรา แต่โกดังสภาพไม่ดี(ราก) โรงสี(ใบ)ก็มีน้อย  ใส่ปุ๋ยหรือฮอร์โมนไปก็
งั้นๆครับ(หมายถึงแปลงใหนที่ต้นแคระหญ้าเยอะใบน้อยจบเห่แน่นอนครับ)

    ข้อแนะนำสำหรับช่วงที่2นี้ คืออย่าพึ่งใส่ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับกระบวนการการสะสมแป้ง หรือฮอร์โมนระเบิดหัวแล้วแต่จะเรียกเพราะถ้าถูกกระตุ้นมากๆมันแค่2-3เดือนอาจจะมีทะยอยสะสมแต่จะมีผลกับใบทันทีทั้งการแตกยอดและก้านใบด้านล่างจะผลัดเร็ว พูดง่ายๆคือเสียเปล่าหรือมีประโยชน์แต่ก็น้อย(เสียแรงหรือค่าจ้างในการฉีดโดยไม่คุ้ม)
 การบำรุงต่างๆทั้งปุ๋ยและฮอร์โมนสำหรับช่วงที่1และ2 คือการบำรุงตัวเดียวกัน คือ การบำรุงมันอายุ1-3เดือนด้วยปุ๋ยและหรือฮอร์โมนที่ส่งผลต่อ
ใบและลำต้น ไม่ว่าจะเป็น 46-0-0 ยูเรีย หรือ 15-15-15หรือ 16-16-16 หรือ หรือยูเรียในปริมาณที่น้อยๆแล้วตามด้วยปุ๋ยน้ำ
ต่างๆที่ถนัด ถ้าไม่มีปุ๋ยน้ำหรือฮอร์โมน ก็ใส่ปุ๋ยเม็ดที่ว่ามาในปริมาณ 25-30กก.ต่อไร่ ถ้าดินมีสภาพดี และได้ใส่รองพื้น
ไว้พอสมควรแล้ว ก็ดูตามสภาพของมันฯเรา ถ้ามันฯงามตามที่ควรเป็นแล้วก็ใสปุ๋ยบำรุงลดลงจะได้ประหยัดต้นทุน
 


Liked By: Taweekrit, sompol
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2674 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2015, 10:01:20 PM »

  ก่อนจะว่าถึงระยะที่3 มาพูดเรื่องระยะปลูกทำไมหลายคนปลูกห่างดูแลดีๆถึงได้ผลผลิตสูกมาก
เคยสังเกตสวนหรือไร่มะม่วงหิมะพานต์ มั๊ยครับ ส่วนมากขอบๆไร่จะติดดอกออกผลเยอะเพราะมันโดนแสงมาก
ที่กลางไร่มะม่วงหิมะพานต์ไม่ค่อยออกดอกหรือติดผลเลย เพราะใบมันชนกันหรือชดกัน ยิ่งเป็นป่ามะม่วงหิมะพานต์ที่
อายุเยอะ กลางๆไร่(สวน)ยิ่งทืบแสงและไม่ค่อยติดผล เนื่องมาจากสาเหตุเรื่องประสิทธิภาพการสังเคราะแสงค์มีน้อย
เพราะโดนแสงน้อยการสร้างอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆลดลง เมื่ออาหารที่ได้จากการสังเคราะห์แสงน้อยอาหารก็จะเพียงพอแค่เลี้ยงต้นและใบ
และยิ่งน้อยมากๆมันจะยิ่งผลัดใบลดภาระลง
 
   นั่นละครับผมเกร่นเพื่อให้มองเรื่องมันสำปะหลังให้เข้าใจง่ายๆ เราลองเมื่อมาเทียบกันดู
เพราะส่วนมากจะชอบปลูกถี่ๆเพื่อให้ได้ปริมาณจำนวนหัวเยอะๆ หลักการมันจะประมาณว่า
ถ้าเราปลูกระยะถี่มากๆ แน่นนอนเพราะเราใส่รองพื้นเยอะดูแลช่วงแรกได้ดี ปรากฏว่ามันอายุ1-3เดือนของเรามันงามมากๆ
ใบสวยเพราะว่าปลูกถี่และชิดจะทำให้มันฯทืบมากๆ พอถึงช่วงอายุ4-5เดือนเป็นช่วงที่ มันฯจะเริ่มสะสมอาหารไปเก็บไว้ที่หัว(แป้งนั่นเอง)
นั่นแหละครับ ใบของมันฯจะมีส่วนในการสร้างอาหาร(แป้ง) อย่างเต็มที่มันจะทำการสังเคาระห์แสงห์อย่างเต็มที่เพื่อสร้างอาหารไปเก็บที่ราก
ซึ่งรากจะกลายเป็นหัวมันที่เก็บแป้งนั่นเอง แต่!เมื่อต้นชิดกันมากจะมีใบส่วนนึงที่ไม่โดนแสง หรือโดนน้อย ต้นมันฯจะผลัดก้านใบและใบเหล่านั้นที้ง
ซึ่งหลายคนจะสังเกตุเห็น นั่นและครับปลูกถี่มากๆแต่ส่วนที่โดนแสงที่จะสังเคราะแสงสร้างอาหารมาเก็บที่หัวกลับมีน้อย ปริมาณอาหารหรือแป้งที่
มาเก็บน้อยหัวมันก็จะเล็ก เห็นมั๊ยครับ ตรงกับความจริงที่ใครๆเห็นมั๊ยว่าปลูกถี่ได้หัวเยอะแต่หัวเล็ก
 ยิ่งใครที่ปลูกถี่หรือชิดแล้วบำรุงช่วง1-3เดือนมันฯงามต้นสูงใบเขียวแล้วคิดว่า น่าจะพอสำหรับการทำมันฯแล้วปล่อยเลยจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว
ไม่ได้ใส่ปุ๋ยหรือฮอร์โมนที่เกี่ยวกับพืชตระกูลหัว ผลผลิตที่ได้ก็จะตามบุญตามกรรม หลายคนก็จะยิ่งบ่นว่า มันใบเขียวสมบูรณ์แต่ทำไมได้น้อย
หรือเป็นที่มาของคนอิสานที่ว่า **มันฯมันขึ้นใบ**  หลายคนที่ได้2.8-3.5 ตันต่อไร่เกือบทุกๆปีที่ผมเห็นก็ประมาณนี้ครับ ทำมันสำปะหลังจะให้ความสำคัญ
เฉพาะช่วง1-3เดือนพอมันงามมากๆแล้วก็ปล่อยเลย แต่จริงๆช่วงหลังจากนั้นจะยิ่งสำคัญ
  มาต่อกันในกรณีที่ปลูกห่าง(ห่างพอดีๆ) คือกรณีปลูกห่างแน่นอนสิ่งสำคัญคือถ้าปลูกห่าง กว่าต้นมันฯจะโตจนใบชิดกัน จะต้องใช้ความพยายามในการเอาหญ้า
หรือจัดการหญ้าเป็นอย่างมาก ใครที่ปลูกห่าง(70-90เซนฯ) ไม่มีเวลาดูแลเท่าทีควรเรียบร้อยแน่นอนครับ หญ้าขึ้นรกสูงเร็วมากถ้ามันขึ้นเยอะมากๆและสูง
มันจะไปแย่งอาหารมันฯเราระบบรากจะไม่ดีมีรากน้อย ส่งผลให้มันฯแคระแกรน เมื่อมาจัดการภายหลังจะถอน ดายหรือใช้ยาฆ่าหญ้าก็สายไปแล้วครับ
ระบบรากไม่ดีในช่วงที่อายุทีมันควรจะดี รากดีๆทีจะเปลี่ยนไปเป็นหัวมันมีน้อยเพราะรากฝอยไม่เดินเนื่องจากโดนหญ้าแย่งอาหาร นั่นแหละครับ
รากฝอยที่ว่า ถ้ามันฯเราสมบูรณ์รากฝอยจะกลายไปเป็นรากดี และรากดีจะกลายไปเป็นหัวมันฯอีกทีครับ
 แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันทำให้มีการใช้ยาคลุมหญ้าในการทำมันฯ นั่นแหละครับ ถึงเราจะปลูกห่างปกติ 70-90เซนฯ ก็ไม่ต้องห่วง วางแผน
การปลูกดี ปลูกระยะห่างซัก 80เซนฯ โดยฉีดยาคลุมหญ้าแล้วลงปลูก แน่นอนมันจะคลุมหญ้าชัวร์คือช่วง1-2เดือน ถ้ามีเวลา
ดูแลบำรุงให้มันฯงามและโตพอที่จะคลุมหญ้า หญ้าที่รอดจากฤทธิ์ยาคลุมหญ้าจะงอกแต่จะเป็นส่วนน้อย ดังนั้นถ้า
บำรุงช่วงที่มันฯอายุ2สัปดาห์แรก-2เดือนกว่า ให้มันฯมีต้นและใบงามจนชนหรือชิดกัน จนมันคลุมหญ้าเองได้ ธรรมชาติของมันสำปะหลังเมื่อมันโตกว่า
หญ้ามันจะมันฯจะสามารถคุมหญ้าได้เองจะเพราะเหตุใดมันปล่อยสารอะไรออกมาไปหาข้อมูลกันเองครับ ถึงมันฯในช่วงนี้จะคุมหญ้าได้เองแล้ว
แต่ถ้ามีหญ้าเกิดขึ้นมาก็จัดการโดยถ้าไม่มากก็ถอนเองหรือจ้างคนถอน ถ้ามากหน่อย ก็เอาให้สิ้นซากด้วยยาฆ่าหญ้า ซึ่งใครหาแบบปลอดภัยๆแต่ประสิทธิภาพสูงๆ
ได้ก็อย่าลืมบอกต่อๆกัน เพราะชีวิตปลอดภัยได้จากสารพวกนี้จะดีที่สุดครับเห็นว่ามียาฆ่าหญ้าแบบชีวภาพลองๆไปหาดูกันครับผมก็จะหามาลองเหมือนกัน
 ครับเมื่อมันฯอายุ3-4เดือนโตและใบระหว่างต้นชนหรือชิดกัน แน่นอนชิแต่พอมีแสงส่องลงไปถึงใบด้านล่างได้เป็นหย่อมๆ เพราะเราปลูกในระยะห่าง
ช่วงนี้ต้องบำรุงต่อเลย ถ้าง่ายๆก็หว่านด้วย 15-15-15 ผสมกับ 0-0-60 หรือ12-8-36จบเลย แต่ถ้าจะเอาระเอียดปราณีตหน่อยก็ ด้วยกาฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ
หรือสารชีวภาพ หรือฮอร์โมนที่มีธาตุอาหารหลัก ประมาณปุ๋ยเคมีสูตร 12-8-36หรือไกล้เคียง แต่ข้อดีคือ พวกปุ๋ยน้ำหรือสารฉีดพ่นชีวะภาพ
จะมีธาตุอาหารรองเยอะ และถ้าเป็นการฉีดพ่นก็ควรจะ15-20วันต่อครั้งในช่วงมันฯอายุ3-4เดือน หรือ10วันครั้งยิ่งดี
ในช่วงนี้จะเห็นว่าเมื่อมันมีระยะห่างพอดี แสงจะส่องลงไปถึงใบข้างล่างถึงไม่ทั้งหมดแต่ก็มากพอสมควร ซึ่งเมื่อใบส่วนใหญ่ของต้นได้รับแสงอย่างทั่วถึง
ก็จะสามารถสร้างอาหารได้เต็มที่ รวมถึงมันช่วงอายุ4-5เดือน เป็นต้นไปจะต้องใส่ปุ๋ยหรือฉีดพ่นปุ๋ยที่เกี่ยวข้องกับพืชกินหัว
เมื่อให้ปุ๋ยหรือฮอร์โมนที่ถูกต้องแก่มันฯในช่วงอายุนี้ บวกกับเมื่อใบของมันฯได้รับแสงอย่างทั่วถึง มันจะยิ่งสร้างอาหารไปเก็บที่รากหรือหัวมันได้ดียิ่งๆขึ้นครับ
แต่หลังจากนั้นไม่ว่าจะปลูกชิดหรือห่างเมื่อถึงช่วงที่มันฯจะสะสมแป้งเต็มอัตรามันจะไม่เผื่อแผ่สารอาหารไปให้ส่วนใดเลยแม้กระทั่งใบผู้มีพระคุณ
มันจะค่อยๆผลัดใบ จะเห็นใบเหลืองและร่วงเพราะมันไม่ค่อยได้ส่งอาหารไปเลี้ยงแล้ว เห็นมันใบร่วงเร็วผิดปกติก็อย่าไปสนใจ
ซึ่งเหตุการณ์นี้จะไล่ไปตั้งแต่มันอายุ5เดิอนเป็นต้นไปครับ
นี่คือความสัมพันธ์ของการปลูกระยะชิดถี่(40-60เซนต์) และปลูกห่าง(70-90เซนต์)


Liked By: Taweekrit, nikom2516, sompol
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2675 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2015, 10:09:50 PM »

   ช่วงที่3
ช่วงนี้มีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกับช่วงที่สองมากครับคือเมื่อมันฯ อายุได้4หรือ5เดือนขึ้นไป ลำต้น
และใบที่ผ่านการบำรุงรักษาจากช่วงที่สอง จะสมบูรณ์มากและคลุมหญ้าอยู่หมัด ก็จัดการขั้นตอนสำคัญนี้ได้เลยคือ
มันช่วง4-6หรือ7เดือนจะสะสมแป้งแบบเต็มอัตรา(ในกรณีปลูกตามฤดูกาลคือเริ่มมีนาเมษาพฤษภา) ซึ่งช่วงอายุที่ว่า
สาหุตหนึ่งที่สะสมแป้งดีคือมันจะเป็นช่วงฤดูฝน แต่ถ้า 8 9หรือ10เดือนก็ยังทะยอยสะสมแต่จะทำได้ไม่เท่ากับ4-6เดือน
เพราะช่วงนั้นๆฝนเริ่มหมดแต่ก็อาศัยน้ำใต้ดินเป็นสำคัญ นี่คือสาเหตุหลักละสำคัญที่ใครสามารถให้น้ำและปุ๋ยต่อไปได้
หลัง6-7เดือนคือ 8 9 10 เดือนมันจะหัวใหญ่ดกและได้ผลผลิตต่อไร่มาก  ฉนั้นเมื่อมันของผม อายุ3เข้า4เดือนก็จัดการ
ใส่ปุ๋ย 0-0-60 เต็มที่30กก.ต่อไร่ หลังจากนั้น5-7วันตามด้วยตามด้วย ไคโตซาน+ฮอร์โมนระเบิดหัวมันและปุ๋ยน้ำทางใบ
โดยปุ๋ยน้ำจะเป็นจำพวกที่มีประโยชน์กับพวกพืชกินหัวต่างๆ ยี่ห้อใดก็แล้วแต่ถนัด สารทั้งสามชนิดที่ฉีดนอกเหนือ
จากปุ๋ย0-0-60 นั้น จะฉีดก็ได้ไม่ฉีดก็ได้ คือ ถ้าใส่ 0-0-60 ในช่วงนี้ 2-3ครั้ง ในช่วงทีสามนี้ก็ไม่ต้องฉีดก็ได้ แต่ถ้าทุนน้อย
ไม่สามารถซื้อปุ๋ยเพื่อบำรุง2-3ครั้งในช่วงที่สามนี้ การฉีดสารทั้งสามตัวถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีและประหยัดกว่ามาก
เพราะสารทั้งสามราคาลดลงกว่าแต่ก่อนมาก ไคโตซานที่ลิตรละแค่ 200-250หรือ300แล้วแต่ความเข้มข้นแต่ละยี่ห้อ
ปุ๋ยน้ำสกัดก็ถูก ฮอร์โมนก็ถูกมากแถมประสิทธิภาพดีมาก  และทุกวันนี้เกษตรกรชาวมันฯ ก็ผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้น
มันให้สะสมแป้งและเป็นปุ๋ยทางทางใบก็มีเยอะแยะ ดังนั้นการฉีดหรือการให้ปุ๋ยทางใบก็เป็นทางเลือกที่คุ้มอีกทาง
แต่จะต้องฉีดสม่ำเสมอ คือ เดือนละครั้ง หรือ3เดือน 2ครั้งก็ยังดี(ช่วงมันอายุ4-6หรือ7เดือน) ช่วงนี้ถึงจะเข้าฉีดยาก
ก็ต้องทนและพยายาม(ไม่ก็จ้าง) เพราะมันเป็นผลประโยชน์ที่เราจะได้รับ ดังนั้นที่พ่อค้าปุ๋ยหลายเจ้าหลายคน
โฆษณาว่าปุ๋ยระเบิดหัวและสารระเบิดหัวก็คือ ปุ๋ยพวกที่จำเป็นหรือมีประโยชน์ในการที่ทำให้มันเราเกิดการสังเคราะและ
สร้างอาหารไปเก็บไว้ที่หัวแบบเต็มที่เต็มอัตรา ดังนั้นน้ำก็เลยจำเป็นมากๆในการทำมันฯ แต่มันสำปะหลังไม่ชอบน้ำขัง
นะครับอันตรายมากพอๆกับมะละกอ  ในช่วงที่สามนี้โดยเฉพาะมันอายุ4-5เดือน ใบจะเริ่มเหลืองและผลัดใบ ก้านใบ
ด้านล่างทยอยร่วงอย่าไปตกใจ หรือใครมาทักก็ไม่ต้องไปสนใจครับ หรือโดยรวมมันทั้งแปลงใบไม่เขียวเข้มเหมือนช่วง
ที่สองก็ไม่ต้องไปสน เพราะมันฯจะเริ่มสะสมแป้งอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์แสงจะทะยอยสะสมที่ราก(เป็นหัวมันนั่น
เอง) ดังนั้นใบและก้านใบที่อยู่ด้านล่างที่ประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงน้อย(โดนแสงน้อยด้วยแหละ) ต้นมันฯก็จะ
ผลัดทิ้ง เพราะถ้าเก็บไว้ก็ต้องเปลืองจ่ายอาหารไปเลี้ยงใบที่ประโยชน์น้อยพวกนี้ (อย่าลืมใบมันฯก็ต้องการอาหารมาก
ถึงมันจะเป็นส่วนหลักที่ผลิตอาหารก็ตาม) ดังนั้นการให้ปุ๋ย(น้ำ)และฮอร์โมนทางใบก็มีผลต่อผลผลิตไม่น้อยครับ
และนี่เป็นสาเหตุที่ว่ามันงามแต่ไม่เป็นหัวเพราะมันฯงามทุกช่วงอายุทั้งต้นทั้งใบ โดยเจ้าของมันฯก็ใส่แต่ยูเรีย (ปุ๋ยบำรุงใบ
และต้น) และคิดว่าตัวเองทำถูกแล้วและคงจะประสบความสำเร็จเพราะมันงามมากทั้งต้นและใบเขียวได้เขียวดี
แต่...หารู้ไม่ว่ามันฯมันไม่สะสมแป้ง(อาหาร) เพราะมันไม่มีสารที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปสังเคราะแสงให้เป็นอาหาร
เพื่อที่จะมาเก็บไว้ที่รากหรือหัวมันฯ หัวมันก็จะเล็ก ยิ่งเป็นแปลงที่ปลูกถี่ๆก็จบเลย พอเก็บเกี่ยว เจ้าของมันก็จะบ่นในเชิง
แปลกใจว่าทำไมมันฯงามอยู่แล้วทำไมไม่มีหัว ก็นั่นและครับ เพราะใบและต้นงามหลอกเจ้าของมันฯ นั่นเอง
   


Liked By: Taweekrit, nikom2516, sompol
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2676 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2015, 10:11:31 PM »

  สรุปใจความหลักในช่วงที่3นี้
คือใส่ปุ๋ยที่เกี่ยวกับบำรุงหัวตลอดจนหมดฝน เว้นเป็น เดือนละครั้ง ครั้งแรก
30กก.ต่อไร่ ครั้งสองและสามก็20-25 กก.ต่อไร่  ถ้ามีฮอร์โมนก็ฉีดถ้าทำเองได้และมีแรงงานก็จัดเต็ม15วันครั้งเลยครับ
ผลผลิตดีแน่นอน ฮอร์โมนระเบิดหัวจากน้ำขี้หมูหรือขี้หมาก็ลองดูครับ ปุ๋ยน้ำก็หาที่ราคาไม่แพงแต่ต้องมีประโยชน์
ตรงตามที่มันเราต้องการ ระยะปลูกก็มีส่วนสำคัญของการเพิ่มผลผลิตครับ คือช่วงที่สามที่เรา ใส่ปุ๋ย0-0-60และฉีดฮอร์โมน
ระเบิดหัวต่าง มันฯจะถูกกระตุ้นให้สะสมแป้งที่ราก(หัวมัน) โดยการสังเคราะห์อาหารที่ใบ ดังนั้นถ้าเราปลูกถี่มากจนต้น
ชิดกันเกินไปใบที่มันอยู่ด้านล่างที่มีประโยชน์น้อยต่อกระบวนการยิ่งถ้าไม่โดนแดดเลยยิ่งไร้ประโยชน์เปลืองอาหารไปเลี้ยง
เปล่าๆ ต้นก็จะผลัดก้านและใบที่ประโยช์น้อยขึ้นมาเรื่อยๆ บางครั้งในระยะ1-2เดือน(ของมันฯที่อายุ4-8หรือ10เดือน)ใบและก้านหายไปเกือบครึ่งต้นเลยก็มีซึ่งถ้าใบและก้านถูกผลัดหลุดออกเร็วเกินหรือมากไปก็ไม่ดีนะครับเพราะใบเป็นส่วนที่สังเคราะอาหารมาเก็บไว้ที่หัวแต่ก็เพราะระยะปลูกแหละครับเพราะถ้า ปลูกระยะพอดีไม่ชิดเกิน พอ3-4เดือนแดดพอส่องลงไปด้านล่างโดน ใบที่อยู่กลางๆหรือด้านล่างของต้นมันก็จะช่วยสังเคราะแสงและสร้างอาหารไปเก็บไว้ที่ราก เกิดหรือกลาย
เป็นหัวมันครับ ดังนั้นช่วงนี้จะไปสัมพันธ์กับระยะที่1และ2โดยอัตโนมัติ คือ คลุมหญ้าได้รากจะเดิน บำรุงมันช่วง1-3เดือนดีๆ รากดีที่เดินรอบต้นมันฯที่จะกลายเป็นหัวมันก็จะเยอะ เมื่อต้นและใบสมบูรณืถึงเวลาสะสมอาหาร(แป้ง) อาหารก็จะถูก
ส่งมาเก็บที่รากดีต่างๆจ้นเป็นหัวมัน และยิ่งมีฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสร้างสะสมแป้งหรือปุ๋ยที่เกี่ยวข้องไปใส่ไปกระตุ้นมันฯ
ในช่วงอายุ4-8หรือ12เดือน ก็จะยิ่งทำให้หัวมันโตและโต ครับ
   นี่คือการทำมันฯในเชิงสังเกตุการณ์ วิเคราะห์ รวบรวมข้อมูล และสรุป ของผมครับ ผมแทรกแซงการทำมันสำปะหลังของแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยผลผลิตที่ออกมาทำให้ท่านยอมรับ เมื่อสมัยก่อนหลายปีที่ผ่านมา การทำมันสำปะหลังและการจัดการในแต่ละช่วงเป็นหน้าที่ของพ่อกับแม่โดยแม่แทบจะควบคุมเบ็ดเสร็จ ก่อนมันฯจะมีราคา ผมได้ลองแนะนำให้ท่านเปลี่ยนแปลงวิธีการปลูก การบำรุงต่างๆ ซึ่งเปล่าประโยชน์ท่านไม่รับฟัง จนมีอยู่ปีนึงก่อนมันฯจะมีราคานั่นแหละ ประมาณ7-8 ปีที่แล้ว โดยผมไม่ได้อธิบายหลักการหรือที่มาให้ท่านรับรู้เพราะ
เพราะท่านไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่ผมจะซื้อโน่นนั่นนี่มาใส่มันฯเอง หรือการออกค่าใช้จ่ายในการจัดการมันในแต่ละช่วง
แค่นี้ท่านก็ยอมรับอยู่แล้วเพราะท่านไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ถ้าเราแนะนำให้ใส่โน่นนั่นนี่ ทำอย่างโน้นอย่างนี้ แต่
ไม่ได้ควักตังค์ช่วยท่านซักบาท ไม่มีทางที่ท่านจะทำตาม พอเก็บเกี่ยวถ้าผลผลิตเพิ่มแบบแตกต่าง ฤดูกาลทำมัน ต่อๆไปท่านก็จะเอาตามหมดครับ ผมได้เพิ่มเติมรูปแบบ เปลี่ยนโน่นเพิ่มนี่ในแต่ละช่วงอายุมันฯ ทั้งจากการสอบถามภูมิปัญญาของเซียนมันฯ และหนังสือ บทความต่างๆเกี่ยวกับมันฯ ทำมาเรื่อยจนมั่นใจ
 
ในวัฏจักรกลไกลของมันสำปะหลัง ครับ สำคัญที่สุดคือเอาหญ้าให้อยู่ บำรุงให้ถูกช่วงอายุมันฯ ดูแลให้ทั่วถึง ได้ตามต้องการแน่นอนครับ  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2015, 10:14:14 PM โดย t.hnongkinpen » บันทึกการเข้า
korat1977
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 386


« ตอบ #2677 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2015, 01:00:29 PM »

ขอบคุณท่าน t.hnongkinpen มากครับ สำหรับการแชร์ข้อมูล
แต่อยากให้ลองคำนวน ค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิต ตามขั้นตอนที่ท่านว่ามาให้ทีครับ เอาแบบจ้างหมดนะครับ ว่าตกไร่เท่าไร
เมื่อเทียบกับ น้ำหนักมันที่ได้ เหลือกำไรเท่าไร
คือผมมองว่า ต้นทุนอากจะสูงกว่าผลผลิตอ่ะครับ เฮ่อๆๆ


Liked By: Taweekrit, tophy, sompol
บันทึกการเข้า

"ฟาร์มฮัก" กะ "เศษตะกอน" ในความหมายของผม ก็คือ... "ความรัก ความอบอุ่น ที่มีต่อ น้ำ หิน ดิน ทราย และ การเป็น เกษตรกร"
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2678 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2015, 04:39:37 PM »

ขอบคุณท่าน t.hnongkinpen มากครับ สำหรับการแชร์ข้อมูล
แต่อยากให้ลองคำนวน ค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิต ตามขั้นตอนที่ท่านว่ามาให้ทีครับ เอาแบบจ้างหมดนะครับ ว่าตกไร่เท่าไร
เมื่อเทียบกับ น้ำหนักมันที่ได้ เหลือกำไรเท่าไร
คือผมมองว่า ต้นทุนอากจะสูงกว่าผลผลิตอ่ะครับ เฮ่อๆๆ

จ้างมีในส่วนไถ ปลูก และเก็บ แต่เอาหญ้าไม่ต้องเพราะฉีดยาคลุมไว้แล้วไม่เหมือนแต่ก่อนที่ต้องจ้างคนดายหญ้าครั้งแรกประมาณ มันฯอายุเดือนนึง ครั้งสองถอนประมาณมันฯอายุ2-3เดือน
เพราะฉนั้นขั้นตอนเอาหญ้า ลดค่าใช้จ่ายเยอะมาก รองพื้นผมไม่ได้เน้นใส่ขี้ไก่ แต่ที่แนะนำให้ใส่คือเป็นสูตรทางเลือกเพื่อเพิ่มผลผลิต
โดยส่วนตัว มีขี้วัวใส่อยู่แล้ว แต่ตอนที่ไม่มีวัวและขี้วัวเป็นของตัวเองก็ใช้ 15-15-15 รอง 2-3ไร่ต่อกระสอบ
ที่เหลือช่วงบำรุงอายุ1-3เดือน ผมใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพบวกไคโตซานตกไร่ละไม่ถึง 10บาทต่อครั้งหรือ4ไร่กว่าๆของผมก็ประมาณ40กว่าบาทเองครับ
และฉีดพ่นเอง แต่ถ้าจ้างก็คงไม่ถึง ครึ่งวันก็คงเสร็จ แต่ไม่เคยจ้าง ผมใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพและไคโตซานฯลฯของพี่ที่รู้จักกันท่านนึง ใช้มานานไปๆมามีคนมาขอซื้อต่อไปใช้
จนทุกวันนี้ผมเลยลองเอามาขายเองแบบได้มาถูกใช้ทั้งข้าวและมันชนิดถูกสะใจครับ ผลที่ได้ดีไม่แพ้เคมีเม็ด แต่ขั้นตอนเอาหัวผมยังต้องใช้
0-0-60 อยู่เพราะเห็นผลดีมากแต่แค่ปริมาณ20กกต่อไร่ กำไรที่ได้60-70เปอร์เซนต์หลังหักค่าใช้จ่ายตลอดครับ
 ใครที่ทำ 10ไร่ก็ไม่น่าต้องจ้างในส่วนใส่ปุ๋ยหรือฉีดพ่นสารชีวภาพหรือฮอร์โมน แต่ถึงจ้างก็คงไม่น่าเกิน 300-400ต่อครั้ง ผมก็ว่าคุ้ม การฉีดพ่นเพื่อให้มันหรือพืชได้กินปุ๋ยทางใบผมว่ามันได้ผลดีมากๆครับ
   ที่ผมลงเป็นสูตรการทำแบบเต็มประสิทธิภาพ มีอยู่ปีนึงเช่าที่ได้เยอะเลยทำแบบเต็มที่ได้ 6ตันกว่าต่อไร่ แต่พอหลังมันราคาดีค่าเช่าที่แพง
เลยทำเฉพาะที่ตนเองจำงลดหลายอย่างหลายเรื่องแต่ผลออกมาก็ 5ตันขึ้นไปตลอด แต่ที่ลงไว้ว่า4ตันคือเผื่อใครทำอาจจะได้ไม่ถึง5หรือได้แค่4เพราะปัจจัยเรื่องฟ้าฝน
หรือโดนเพลี้ย เพราะมีอยู่ปีนึงฝนทิ้งช่วงมันตายไปมากรวมๆเกือบไร่ต้องปลูกแซมบางส่วนแต่ก็ไม่ทันกัน ปีนั้นได้4.5หรือ4.8ประมาณนั้นครับไม่แน่ใจ
 ใจความของการบำรุงมันในช่วง1-3เดือนคือจะใช้ปุ๋ยอะไรหรือสารอะไรหรือไม่ใช้อะไรเลยก็ได้ขอแค่ให้มันๆงามสมบูรณ์และรากเดินแต่พอช่วง
4-5เดือนขึ้นไปต้องทำให้มันลงหัวให้ได้ไม่ต้องสนใจเรื่องใบเขียวไม่เขียวแล้ว ปุ๋ยมัน ฮอร์โมนระเบิดหัวมัน อะไรก็แล้วแต่จะใส่
ในส่วนของผมคือปุ๋ยน้ำที่ถูกแสนถูกบวกกับไคโตซานที่ถูกๆเพื่อกระตุ้นให้มันดูดซึมกินปุ๋ยได้ดีขึ้น และตบท้ายด้วย 0-0-60 20กกต่อไร่
แต่ก่อนปุ๋ยเม็ดใส่ประมาณ 30กกต่อไร่แตพอลดลงเพราะใช้ ปุ๋ยน้ำที่ได้มาก็ไม่ต่างกันครับ
  เดี๋ยวจะหาว่าโฆษณาขายปุ๋ยน้ำปุ๋ยชีวภาพ ไม่ต้องไปยึดติดนะครับใช้ของยี่ห้อใหนก็ได้ แค่คำนวนออกมาแล้วถูกกว่าปุ๋ยเม็ดพอ
คิดดูครับปุ๋ยเม็ด700-900ต่อกระสอบต่อการใช้ประมาณ 2ไร่ แต่สารฉีดพ่นพวกนี้รวมกัน2ตัวยังแค่20กว่าบาทต่อ2ไร่
ถ้าปลูกไม่เยอะก็ฉีดเอง ถ้าปลูกเยอะจ้าง1คนฉีด10ไร่ประมาณ 400-600บาท ค่าฉีดก็จะตกประมาณไร่ละ40-60บาทยังไงก็ถูกกว่า
เรื่องต้นทุนผมถึงไม่ห่วงมันจะหนักตอน จ้างเก็บเกี่ยวและค่ารถนะครับทุกวันนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน แต่ก่อนค่อยๆเก็บ 4ไร่เก็บกันเป็นเดือน
ทุกวันนี้4ไร่เก็บวัน-สองวันจบครับ


Liked By: nikom2516, prechaw1, sompol
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 06, 2015, 04:47:17 PM โดย t.hnongkinpen » บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2679 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2015, 05:09:53 PM »

การฉีดสารชีวภาพหรือปุ๋ยน้ำบวกไคตซานของผมฉีดประมาณ4ครั้งโดยเฉลี่ยตั้งแต่มันฯอายุ2สัปดาห์-3เดือน
ค่าใช้จ่ายตัวสารชีวภาพหรือปุ๋ยน้ำบวกกะไคโตซานเองก็ประมาณ ครั้งละ8-10บาทต่อไร่ 4ไร่ก็ประมาณ 40บาท
 ถ้าฉีด4ครั้ง ในช่วง1-3เดือน ก็ประมาณ160บาทค่าสารฉีดพ่นสองตัวนะครับ
จากนั้นช่วง 4-5เดือนฉีดปุ๋ยน้ำที่มีธาตุประมาณปุ๋ย12-8-36 ค่าใช้จ่ายก็เ่ทากัน ฉีดให้ได้ซัก2-3ครั้งจะดีมากๆ
ตัวสารยังถูกมากนะครับถ้ารวมหลายๆครั้งยังถูกอยู่. แต่การฉีดทั้งสองช่วงจะเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจ้างคนฉีด
แต่ถึงยังไงก็ถูกกว่าใช้ปุ๋ยเม็ดแบบครบวงจรอยู่มากๆถึงมากที่สุด และยิ่งใช้ปุ๋ยเม็ดแถมจ้างคนหว่านปุ๋ยอีก
ยิ่งไปกันใหญ่
มัน 5เดือนหรือจะเริ่มแต่4เดือนก็ได้ ก็หาฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสะสมอาหารหรือสะสมแป้งของพืชตะกูล
หัวมาฉีดสารพวกนี้ไม่แพงครับเหลือก็เก็บไว้ใช้อีกหลายครั้ง
คือ พอผมพูดถึงสารตัวนั้นตัวนี้กระมังครับหลายท่านอาจจะคิดว่าทำให้ต้นทุนสูง
ราคาสารโน่นนั่นนี่แต่ละตัวน่าจะแพง จริงแล้วไม่เลยครับ ที่สำคัญมันเก็บไว้ใช้ได้อีกนานหลายครั้งหลายโอกาส
ไคโตซานมีหลายยี่ห้อหลายราคา ปุ๋ยชีวภาพมีหลายยี่ห้อหลายราคาดีๆทั้งนั้น
ปุ๋ยเคมีน้ำมีหลายยี่ห้อหลายราคา ธาตุอาหารเสริมก็มีหลายยีห้อหลายราคา แต่โดยรวม
มันถูกกว่าการ้เคมีเม็ดอยู่มากครับ ที่สำคัญ มันฯดูดซึมไปใช้ได้เร็วมากครับ




Liked By: sompol
บันทึกการเข้า
aofja
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 457



« ตอบ #2680 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2015, 04:03:34 PM »

ไปดูเครื่องปลูกวันของคูโบต้ามา ดูมาสองรอบแล้ว แต่ยังไม่เป็นตอนทำงานจริง เลยเอารูปมาฝาก  ราคาแบบไม่มีที่ใส่ปุ๋ย 60,000 บาท แบบมีที่ใส่ปุ่ย 72,000 บาท (ราคาไม่แน่ใจว่ามันจะเท่ากันทั่วประเทศหรือเปล่านะ)  ใช้ได้กับรถคูโบต้า รุ่น l3608 กับรุ่น l4708 เท่านั้น แต่ถ้าจะซื้อไปใส่กับคูโบต้ารุ่นอื่นเช่น l3408 l2808 l3008 หรือ ยี่ฮ้ออื่นๆ เลยต้องรับความเสียงเรื่องระยะระหว่างต้นเองนะครับ เพราะคูโบต้าไม่ได้ให้ตารางรอบเครื่องที่ใช้กับเกียร์ pto มาให้ ต้องหารอบที่เหมาสมกับระยะที่เราต้องการเอาเอง  แต่ถ้าใครต้องการที่จะซื้อแบบที่ตัดวางรายแล้วคนเดินเสียบ มาซื้อตัวนี้ดีกว่า ราคาก็เท่า ๆ กัน แถมปักได้อีก











Liked By: Bankao, Taweekrit, sompol
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2015, 10:00:29 AM โดย aofja » บันทึกการเข้า
ton252525
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 504


« ตอบ #2681 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2015, 11:16:03 AM »

ว่าจะปลูกมันสำปะหลัง ยังหาท่อนพันธุ์ไม่ได้เลยครับ อ. หนองสองห้อง จ. ขอนแก่น


Liked By: Therk#26, sompol
บันทึกการเข้า
สุรศักดิ์
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47



« ตอบ #2682 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2015, 04:15:26 PM »



Liked By: nikom2516, sompol
บันทึกการเข้า
สุรศักดิ์
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47



« ตอบ #2683 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2015, 04:21:14 PM »

มันแปลงทดลองครับ อายุสามเดือน พันธ์ระยอง72 ใส่ปุ๋ยครั้งแรก ตอน2 เดือนครับ ไม่มีระบบน้ำ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์


Liked By: sompol
บันทึกการเข้า
pongpun_ratchada
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #2684 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 10:02:01 PM »

ขอคำแนะนำผู้รู้หน่อยครับ..
ที่แปลงมันสำประหลัง มันอายุ1 เดือน..ตอนนี้เพลี้ยระบาด ใบเป็นกระจุกเลย..
รังเล..ที่จะไถปลูกใหม่..หรือว่าจะใช้ย่าฉีดดูก่อนครับ..
ผู้รู้แนะนำด้วยครับ..ขอบคุณครับ


Liked By: sompol
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2685 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 11:05:51 PM »

ขอคำแนะนำผู้รู้หน่อยครับ..
ที่แปลงมันสำประหลัง มันอายุ1 เดือน..ตอนนี้เพลี้ยระบาด ใบเป็นกระจุกเลย..
รังเล..ที่จะไถปลูกใหม่..หรือว่าจะใช้ย่าฉีดดูก่อนครับ..
ผู้รู้แนะนำด้วยครับ..ขอบคุณครับ
ฉีดพ่นด้วยยา แอสทารา ลองไปถามตามร้านเกษตร ต่างๆได้ครับได้ผลดี
ถ้าไถกลบปลูกใหม่ ตัวเพลี้ยก็ยังอยู่ ฉีดยาที่ว่า แล้วก็พยายาม หัก ริด ปลิด ใบที่มีเพลี้ยเยอะๆเพื่อทำลายครับ
เอาไปกองๆไว้รวมกันแล้วเผาทำลาย
บันทึกการเข้า
pongpun_ratchada
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #2686 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2015, 08:35:01 AM »

ขอคำแนะนำผู้รู้หน่อยครับ..
ที่แปลงมันสำประหลัง มันอายุ1 เดือน..ตอนนี้เพลี้ยระบาด ใบเป็นกระจุกเลย..
รังเล..ที่จะไถปลูกใหม่..หรือว่าจะใช้ย่าฉีดดูก่อนครับ..
ผู้รู้แนะนำด้วยครับ..ขอบคุณครับ
ฉีดพ่นด้วยยา แอสทารา ลองไปถามตามร้านเกษตร ต่างๆได้ครับได้ผลดี
ถ้าไถกลบปลูกใหม่ ตัวเพลี้ยก็ยังอยู่ ฉีดยาที่ว่า แล้วก็พยายาม หัก ริด ปลิด ใบที่มีเพลี้ยเยอะๆเพื่อทำลายครับ
เอาไปกองๆไว้รวมกันแล้วเผาทำลาย
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
t.hnongkinpen
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 132


« ตอบ #2687 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2015, 09:50:47 AM »

มันแปลงทดลองครับ อายุสามเดือน พันธ์ระยอง72 ใส่ปุ๋ยครั้งแรก ตอน2 เดือนครับ ไม่มีระบบน้ำ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

ดูดีมีอนาคตเลยครับ ตอน4,5,6เดือนจนถึงเก็บเกี่ยว อัดพวกฮอร์โมน หรือปุ๋ยที่เกี่ยวกับพืชตระกูลหัวหรือง่ายๆก็ 0-0-60
คงจะได้หลายตันต่อไร่แน่นอนครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167 [168] 169 170 171 172 173 174 175 176 177 178 ... 183   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: