
ในแต่ละยุคสมัยวงการเกษตรในเมืองไทย มีการพัฒนาพืชพันธุ์ชนิดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา บางอย่างก็นำเข้ามาปลูกและปั่นกระแสเพื่อขายต้นพันธุ์ในราคาที่แพงๆ อุปมาเหมือนวงการแฟชั่นเสื้อผ้า เดี๋ยวชุดนั้น เดี๋ยวทรงนี้ ได้รับความนิยมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เมื่อถึงที่สุดก็นำของเดิมกลับมาปัดฝุ่นแล้วขายกันใหม่ วงการเกษตรก็เช่นกัน ยุคปี 2540-2549 วงการมะเดื่อฝรั่งมีมะเดื่อฝรั่งไม่กี่สายพันธุ์ที่ทดลองปลูกในโครงการหลวง แต่ผ่านมาอีกสิบกว่าปี 2553-2559 เกษตรกรบางส่วนได้สั่งซื้อกิ่งพันธุ์มะเดื่อฝรั่งชนิดต่างๆ มาจากต่างประเทศเพื่อนำมาปลูกและขายให้กับกลุ่มผู้ที่มีความสนใจเหมือนๆกัน
พืชที่น่าจับตามองนับจากนี้ คือ วงการแก้วมังกร เริ่มมีการสะสมสายพันธุ์แปลกๆ ที่เราไม่เคยรู้จักว่าจะมีในเมืองไทย มีการสั่งนำเข้ากิ่งพันธุ์มาจากต่างประเทศเช่นกัน เท่าที่ทราบตอนนี้หลายๆ สวนกำลังสะสมพืชตัวนี้เพื่อขายพันธุ์ อนาคตอันใกล้นี้เมืองไทยเราจะมีแก้วมังกรหลากหลายชนิดให้ลิ้มลองรสอย่างแน่นอน
สิ่งที่จะวิเคราะห์ในวันนี้คือ วัฏจักรของต้นไม้ที่นำมาปั่นกระแสให้เกษตกรนำไปปลูก มันช่างคล้ายกับวงการแฟชั่นเสื้อผ้า ชุดแต่งกาย จากอดีตจนถึงปัจจุบันเราจะเห็นพัฒนาการที่ว่า "ทันสมัย" แต่เมื่อถึงที่สุดของความทันสมัยก็กลับไปนำเอาของเดิมเมื่อหลายสิบปีกลับมาใช้เช่นเดิม
ใครคือผู้ได้รับประโยชน์จากการเกาะกระแสเหล่านั้น พ่อค้าในรูปแบบนักสะสมสายพันธุ์ หรือเกษตรกร อย่าลืมว่ากว่าเกษตรกรระดับชาวบ้านจะตามทันกระแสพืชบางตัวก็ตลาดวายเสียแล้ว!!!