AnnAnn
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 810
|
เครื่องปลูกแต่ละะพื้นที่ควรบริหารจัดการได้ตามสภาพพื้นที่ เพื่อให้ตรงกับการใช้งานของตัวเอง
การปรุงดินปลูกไม่มีสูตรตายตัว ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับพื้นที่แล้ะสภาพแวดล้อม
ที่ส่วนไม่ใช่มะพร้าวเพราะปลวกชอบมากินหมด ใช้ดินร่วน แกลบขี้ไก่ แกลบเผา ดินทราย ผสมๆ กันไป
บัวดินชอบดินร่วน น้ำระบายได้ดี. ผมสยังไงก้ได้ให้ดินมีลักษณะแบบนี้ครับ
ถ้าไม่ใช้มะพร้าวสับ ใช้ไรรองกระถางได้ค่ะ เพราะดินจะร่วงลงมาพื้นสกปรกค่ะ พื้นที่วางต้นไม้ปูกระเบื้องหมดเลยค่ะ จะไปวางนอกบ้านก็กลัวหายย บัวดินนอก ใช้วัสดุปลุกเหมือนกันไหมค่ะ ได้ลูกเจี๊ยบมาหลายตัวมี POSด้วย กลัวชีตาย จะเสียดาย  ขอบคุณค่ะ พึ่งปลุกลงดินไปวันเดียว ใบนอกเหลือง เลยดึงทิ้ง ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
เครื่องปลูกแต่ละะพื้นที่ควรบริหารจัดการได้ตามสภาพพื้นที่ เพื่อให้ตรงกับการใช้งานของตัวเอง
การปรุงดินปลูกไม่มีสูตรตายตัว ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับพื้นที่แล้ะสภาพแวดล้อม
ที่ส่วนไม่ใช่มะพร้าวเพราะปลวกชอบมากินหมด ใช้ดินร่วน แกลบขี้ไก่ แกลบเผา ดินทราย ผสมๆ กันไป
บัวดินชอบดินร่วน น้ำระบายได้ดี. ผมสยังไงก้ได้ให้ดินมีลักษณะแบบนี้ครับ
ถ้าไม่ใช้มะพร้าวสับ ใช้ไรรองกระถางได้ค่ะ เพราะดินจะร่วงลงมาพื้นสกปรกค่ะ พื้นที่วางต้นไม้ปูกระเบื้องหมดเลยค่ะ จะไปวางนอกบ้านก็กลัวหายย บัวดินนอก ใช้วัสดุปลุกเหมือนกันไหมค่ะ ได้ลูกเจี๊ยบมาหลายตัวมี POSด้วย กลัวชีตาย จะเสียดาย  ขอบคุณค่ะ พึ่งปลุกลงดินไปวันเดียว ใบนอกเหลือง เลยดึงทิ้ง ค่ะ ถ้าปูกระเบื้อง ก็ใส่มะพร้าวได้ไม่ต้องกลัวปลวกหรอกครับ ที่สวนวางบนดิน ปลวกเยอะเลยไม่ใช้มะพร้าวกับใบไม้ครับ บัวดินนอกต้องโปร่งที่สุด หลายๆ คนใช้เพอร์ไลท์และหินภูเขาไฟผสมดินร่วนครับ แต่ที่สวนใ้ทรายผสมแกลบและก็ดูแลเรื่องน้ำอย่างใหล้ชิดครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AnnAnn
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 810
|
เครื่องปลูกแต่ละะพื้นที่ควรบริหารจัดการได้ตามสภาพพื้นที่ เพื่อให้ตรงกับการใช้งานของตัวเอง
การปรุงดินปลูกไม่มีสูตรตายตัว ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับพื้นที่แล้ะสภาพแวดล้อม
ที่ส่วนไม่ใช่มะพร้าวเพราะปลวกชอบมากินหมด ใช้ดินร่วน แกลบขี้ไก่ แกลบเผา ดินทราย ผสมๆ กันไป
บัวดินชอบดินร่วน น้ำระบายได้ดี. ผมสยังไงก้ได้ให้ดินมีลักษณะแบบนี้ครับ
ถ้าไม่ใช้มะพร้าวสับ ใช้ไรรองกระถางได้ค่ะ เพราะดินจะร่วงลงมาพื้นสกปรกค่ะ พื้นที่วางต้นไม้ปูกระเบื้องหมดเลยค่ะ จะไปวางนอกบ้านก็กลัวหายย บัวดินนอก ใช้วัสดุปลุกเหมือนกันไหมค่ะ ได้ลูกเจี๊ยบมาหลายตัวมี POSด้วย กลัวชีตาย จะเสียดาย  ขอบคุณค่ะ พึ่งปลุกลงดินไปวันเดียว ใบนอกเหลือง เลยดึงทิ้ง ค่ะ ถ้าปูกระเบื้อง ก็ใส่มะพร้าวได้ไม่ต้องกลัวปลวกหรอกครับ ที่สวนวางบนดิน ปลวกเยอะเลยไม่ใช้มะพร้าวกับใบไม้ครับ บัวดินนอกต้องโปร่งที่สุด หลายๆ คนใช้เพอร์ไลท์และหินภูเขาไฟผสมดินร่วนครับ แต่ที่สวนใ้ทรายผสมแกลบและก็ดูแลเรื่องน้ำอย่างใหล้ชิดครับ ขอบคุณค่ะ ใช้มะพร้าวสับ+ดิน ใส่ครึ่งกระถาง ครึ่งบนพีทมอส ผสมเพอรไลท์ ประหยัดค่ะ ( มีเหลืออยู่นิดหน่อย) :Dจับลูกเจีียบ 5 ตัว 5 ชนิดไว้ในกระถางงเดียวกันเลยค่ะ จะได้ดูแลง่าย ขอบคุณนะค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
เครื่องปลูกกที่สวนใช่แบบง่ายๆ ดินร่วน (ชานอ้อยหมัก) ผสมกับแกลบขี้ไก่ค้างปี ปลูกบัวดินและไม้หัวทั้งหมด ส่งนบัวดินตัวที่อ่อนแอหรือราคาแพงก็ผสมทรายเพิ่มเข้าไปอีก. แต่นี้ก็ปลูกได้ละครับ ทรายใช้ที่เหลือจากงานก่อสร้างผสมกับดินที่ผสมแล้วอย่างละเท่าๆ กัน  บางอย่างก็ใช้แค่ครึ่งกระถาง บางอย่างก็ใช้แค่ส่วนบนเท่านั้น  เครื่องปลูกพยาามเน้นให้ใช้วัสดุที่เรามีแล้วนำมาปรุงให้โปร่งๆระบายน้ำได้ดี แค่นี้บัวดินเราก็งามแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AnnAnn
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 810
|
เครื่องปลูกกที่สวนใช่แบบง่ายๆ ดินร่วน (ชานอ้อยหมัก) ผสมกับแกลบขี้ไก่ค้างปี ปลูกบัวดินและไม้หัวทั้งหมด ส่งนบัวดินตัวที่อ่อนแอหรือราคาแพงก็ผสมทรายเพิ่มเข้าไปอีก. แต่นี้ก็ปลูกได้ละครับ ทรายใช้ที่เหลือจากงานก่อสร้างผสมกับดินที่ผสมแล้วอย่างละเท่าๆ กัน  บางอย่างก็ใช้แค่ครึ่งกระถาง บางอย่างก็ใช้แค่ส่วนบนเท่านั้น  เครื่องปลูกพยาามเน้นให้ใช้วัสดุที่เรามีแล้วนำมาปรุงให้โปร่งๆระบายน้ำได้ดี แค่นี้บัวดินเราก็งามแล้วครับ ทรายที่ใช้นี่ทรายละเอียดหรือทรายหยาบค่ะจะได้ไปซื้อหามาไว้ใช้เพราะของแพงใกล้จะหมด  ดินร่วนชานอ้อยหมัก กทม ไม่เห็นมีขายเลยค่ะ แกลบขี้ไก่ นี่ใช่เอามาจากฟาร์มไก่ไหมค่ะ จะได้ ไปเอาที่ฟาร์มญาติ ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
เครื่องปลูกกที่สวนใช่แบบง่ายๆ ดินร่วน (ชานอ้อยหมัก) ผสมกับแกลบขี้ไก่ค้างปี ปลูกบัวดินและไม้หัวทั้งหมด ส่งนบัวดินตัวที่อ่อนแอหรือราคาแพงก็ผสมทรายเพิ่มเข้าไปอีก. แต่นี้ก็ปลูกได้ละครับ ทรายใช้ที่เหลือจากงานก่อสร้างผสมกับดินที่ผสมแล้วอย่างละเท่าๆ กัน  บางอย่างก็ใช้แค่ครึ่งกระถาง บางอย่างก็ใช้แค่ส่วนบนเท่านั้น  เครื่องปลูกพยาามเน้นให้ใช้วัสดุที่เรามีแล้วนำมาปรุงให้โปร่งๆระบายน้ำได้ดี แค่นี้บัวดินเราก็งามแล้วครับ ทรายที่ใช้นี่ทรายละเอียดหรือทรายหยาบค่ะจะได้ไปซื้อหามาไว้ใช้เพราะของแพงใกล้จะหมด  ดินร่วนชานอ้อยหมัก กทม ไม่เห็นมีขายเลยค่ะ แกลบขี้ไก่ นี่ใช่เอามาจากฟาร์มไก่ไหมค่ะ จะได้ ไปเอาที่ฟาร์มญาติ ค่ะ ทรายเป็นทรายหยาบเหลือจากทำโกดังที่บ้าน ดินร่วนเอาในสวน ชานอ้อยซื้อเป็นรถจากโรงงานเพราะที่บ้านใกล้โรงงานน้ำตาล. ทิ้งไว้ข้ามปี แกลบขี้ไก่ซื้อมาจากเล้าไก่แต่ทิ้งไว้ข้ามปี ผมอยู่ต่างจังหวัด ของพวกนี้เลยหาง่ายครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
จากบัวดิน 1 หัวในวันนั้น มาเป็นหลายหัวในวันนี้ และจะเป็นหลายๆ หัวในวันต่อไป ความสุขของคนปลูกดอกไม้ แค่ได้เห็นการเจริญเติบโตของไม้ที่เราปลูก แค่นี้ก็ทำให้เรามีความสุขมากละ บัวดินสามารถปรับสภาพได้ตามสภาพแวดล้อม การสังเกตุและเรียนรู้ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลี้ยงบัวดินให้เจริญงอกงามได้ ปลูกบัวดินที่นี่ ปลูกแบบนี้ แล้วงาม ไม่ได้หมายความว่าไปปลูกที่อื่นในแบบเดียวกันแล้วจะงามเหมือนกัน. แต่ละพื้นที่ควรปรับตามสภาพแวดล้อมพยายามเข้าใจบัวดินแต่ละสายพันธุ์ให้มากที่สุด ค่อยๆเรียนรู้ให้เป็นประการณ์ ไม่นานเราก็จะเข้าใจเขาได้เองและถึงเวลานั้นไม่ว่าบัวดินจะออกดอกหรือมีแต่ใบ แค่ได้มองเห็นการเจริญเติบโต แค่นี้มันก็ทำให้เรามีความสุขได้แล้วครับ บางสายพันธุ์ราคาสูง ด้วยงบประมาณจำกัด ต้องซื้อมาแค่หัวเดียว ต้องใช้เวลาและความอดทนกว่าจะขยายจำนวนให้ได้เยอะๆ ตามที่เราต้องการได้  ที่สวนใช้วิธีผ่าหัวและเพาะเมล็ดในการขยายพันธุ์ของบัวดินและไม้หัว ก็มีทั้งงอกงามบ้าง เน่าตายบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติที่เราต้องแก้ไขต่อไป  ไม้หัวที่เราปลูก แม้ไม่มีดอกเลย แต่ก็ยังมีความงดงามให้เราได้ชมเสมอ  การปลูกบัวดิน การเอาใจใส่ การดูแล คือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะพวกที่ราคาสูงๆ เผลอๆ ไม่ดูแลแค่ อาทิตย์เดียว อาจจะยุบหายไปเลยก็ได้นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
ความสนุกอีกอย่างของการปลูกบัวดินคือ การทำลูกผสม ซึ่งระยะเวลาในการปลูกใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่เราผสมขึ้นมาด้วย นี่คือลูกผสมจากสวนของผมเองครับ ใช้่เวลา ปีเศษๆ    ขนาดดอกใหญ่พอสมควร สียังไม่จัดจ้านเท่าไร ต้องรอดูว่าจะสามารถติดฝักและเพาะงอกได้อีกรึเปล่า ถ้าติดฝักได้ก็สามารถทำลูกผสมในรุ่นต่อๆ ไปไก้อีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AnnAnn
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 810
|
สอบถามค่ะ ปลายใบที่งอกใหม่เหลืองนิดหนึ่ง เกิดจากอะไร ค่ะ หวาดเสียวกลัวชีตาย ยิ่งมีหัวเดียวด้วยค่ะ  วัสดุที่ใช ้ พีทมอส + เพอร์ไลท์ ค่ะ โดนแดดไม่จัดนะค่ะ เพราะเอาวางไว้บนกระถางมะเดื่อฝรั่ง ไม่กล้าให้โดนแดดเต็ม เพราะเปนลุกเจี๊ยบค่ะ เวลาปลุกบัวดิน หัวต้องลอยนิดๆ หรือว่ากลบพอดีหัวค่ะ ขอบคุณค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
สอบถามค่ะ ปลายใบที่งอกใหม่เหลืองนิดหนึ่ง เกิดจากอะไร ค่ะ หวาดเสียวกลัวชีตาย ยิ่งมีหัวเดียวด้วยค่ะ  วัสดุที่ใช ้ พีทมอส + เพอร์ไลท์ ค่ะ โดนแดดไม่จัดนะค่ะ เพราะเอาวางไว้บนกระถางมะเดื่อฝรั่ง ไม่กล้าให้โดนแดดเต็ม เพราะเปนลุกเจี๊ยบค่ะ เวลาปลุกบัวดิน หัวต้องลอยนิดๆ หรือว่ากลบพอดีหัวค่ะ ขอบคุณค่ะ ปลายใบเหลืองเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ใบหมดอายุจะทิ้งใบตามธรรมชาติ ระบบรากมีปัญหาไม่สามารถนำอาหารมาเลี้ยงได้ กรณีปลูกใบ ถ้ายังไม่มีราก ใบที่ยืดยาวออกมาเพราะได้อาหารจากส่วนหัว เบี้ยงไปซักระยะใบก็จะเหลืองเป็นปกติ พีชมอสจะเก็บความชื้นได้มาก ควรต้องระวังการให้น้ำสำหรับบัวดินที่ปลูกใหม่ๆ การปลูกบัวดินปลูกได้ทั้งแบบลอยและกลบ แบบลอย ต้องไม่โดนแดดจัด ไม่โดนฝน เพราะอาจจะทำให้เน่าหรือตายนึ่งจากโดนแดดเผา แต่ข้อดีคือ ได้เห็นสภาพหัวได้ตลอดเวลา แบบฝังทั้งหัว ปลูกง่าย ดูแลง่ายแค่กลบแล้วก็ยกกระถางวางร่มรำไร แต่ต้องควบคุมความชื้นให้ดีๆเพราะเราไม่รู้ว่าบัวดินที่อยู่ด้านล่างได้รับความชื้นมากไปหรือน้อยไป ถ้ามากไปอาจจะทำให้ช้ำน้ำและเน่าตายได้ ทั้งสองอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน จะปลูกแบบใหนขึ้นอยู่กับความถนัดของเรา แต่ถ้ามีราก มีใบแล้ว นำออกแดดต้องกลบหัวให้มิดครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
ลูกผสมหลายร้อยหัว ออกมีสีเด็ดๆ ซีกหัวสองหัวก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว. แต่ถ้าออกมาเหมือนพ่อหรือแม่ อย่างน้อยเราก็ได้จำนวนเพิ่มละ ปลูกปีนี้ดูดอกปีหน้านะครับ  เพาะแบบลืมๆ แปบๆ ก็ได้ดูดอกละครับไม่ต้องซีเรียส
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
บัวดินในกลุ่ม Habranthus. ส่วนมากชอบแดดจัดๆ ดินแห้งๆ ที่สวนมีทั้งปลูกในกระถางและปลูกลงแปลง. จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่ปลูกลงแปลงได้รับแดดจัดๆ ทั้งวันจะแจ่มกกอได้ดีมากๆ แถมอาการเน่าเวลาโดนฝนหนักๆ ไม่มีให้เห็นเลย จากหัวเดียวปลูกปีกว่าๆ  แตกกอจนหัวลอยพ้นดิน หมดฝนแล้วต้องตัดใบและกลบดินให้อีกรอบ  บัวดินแต่ละชนิดลักษณะนิสัยไม่เหมือนกัน ผู้ปลูกต้องศึกษาและสังเกตุให้ดี จะได้มีบัวดินสวยๆ ไว้ชมในวันข้างหน้านะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Bebright_garden
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 140
|
วันนี้แย่แต่เช้าเลย candida เน่าไปแล้ว ทั้งๆ ที่เติบโตสวยงาม งอกงาม แล้วตั้ง 3 ใบยาวๆๆ แล้วค่ะ เมื่อวานยังเขียวอยู่เลย เช้ามาใบอ่อนที่สุด เหี่ยว แต่ไม่เหลือง เลยลองดึงดู หลุดมาทั้งยวงเลย เน่าเกินเยียวยา หัวช้ำน้ำ เละไปแล้ว ไปแล้วหนึ่ง สงสัยดินแน่นเกินไป และอุ้มน้ำมาก ขนาดไม่ค่อยรดน้ำน่ะค่ะ จะรดเมื่อเห็นหน้าดินแห้งเท่านั้น แต่ช่วงนี้ ฝนตกทุกวันมา 4 วัน ช่วงไม่ตกก็ร้อนมากๆๆ เดี่นวร้อนเดี่ยวเย็นค่ะ บัวดินเลยไปเลย ส่วนตัวที่เหลือ มี primunila Fadjar's king sodiac grand เริ่มมีใบสั้นๆๆ เล็กๆ ประมาณ ต้นละ 2ใบ แต่โตช้ามากๆๆ กลัวเน่าจัด รีบจัดการไปแล้วคือ ค่อยๆๆ ถอนอย่างเบามือ เอามาล้างน้ำให้สะอาด ล้างรากเบาๆๆ แล้วเปลี่ยนดินใหม่ คือผสมทรายไปอีกเท่าตัว แล้วนำลงปลูกใหม่ แล้วราดด้วยยากันเชื้อราค่ะ ใจจริงไม่อยากจะเปลี่ยนดินหรอกค่ะ พวกนี้กว่าจะงอกใบลุ้นแทบแย่ แต่กลัวเน่าจัดเลยลองแกะมาดู แต่พบว่ามีรากขึ้นหลายรากแล้ว เสียใจแทบร้องให้ ไม่น่าถอนขึ้นมาเลย แต่ถอนมาแล้วก็ต้องลุยต่อ ไม่รู้ถูกหรือผิด แต่ทำไปแล้ว มันคือประสบการณ์ ถ้าทั้ง5 หัว ไม่ไปต่อ สงสัยต้องโทษตัวเองแล้วหล่ะค่ะ แต่มีแพรวชมพู งอกใบเล็กๆ มาแค่ 1 แล้วนิ่งอยู่นานมากเลยถอนออกมา ปรากฏว่า หัวยังแข็ง ไม่เละ แต่ไม่มีรากสักรากเลย เลยนำออกมาล้าง แล้วแช่น้ำยากันเชื้อรา ประมาณ ครึ่งชั่งโมง แล้วนำผึ่งลม คาดว่าเย็นนี้จะเอาลงปลูกอีกครั้ง ไม่มีสัปรดสีเลยไม่รู้จะแช่อะไรให้รากงอกค่ะ ทั้งหมดนี้ทำไปหมดแล้วค่ะ ไม่รู้ถูกผิดอย่างไร แนะนำด้วยค่ะ
ปล ที่ชื่นใจ คือ santonio เริ่มเห็นช่อดอกแทงขึ้นมาแล้วค่ะ และ labuff hybrid กำลังแตกใบงามมากค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 28, 2015, 10:38:53 AM โดย Bebright_garden »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Bebright_garden
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 140
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 28, 2015, 04:32:53 PM โดย Bebright_garden »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kakkak
เกษตรกรมือใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 2509
|
คงจะเป็นที่เคื่องปลูกแหละครับ อาจจะอุ้มน้ำเกินไป ทำให้บัวดินดูดน้ำเข้าไปเยอะ และถ้ามีแสงแดดในการคายน้ำไม่พอ จะทำให้รากช้ำน้ำและเน่าไปได้ การปรุงดินเน้นที่โปร่งๆ ไว้ครับ รดน้ไปนานๆ มันจะแน่นเอง ผสมทราย ผสมใบก้ามปูเข้าไปด้วยก็ได้
ถ้าดินระบายน้ำดี ฝนทุกทุกวันก็ไม่มีปัญหา
แคนดิด้าผมเลี้ยงกระถางแช่น้ำก็อยู่ได้ แต่แดดต้องจัดดินที่เอามาต้องสะอาดไม่มีเชื้อรา ส่วนมากผมใช้ดินที่ผสมใหม่ๆ นะครับ ดินเก่าต้องเทตากแดดทิ้งไว้ 2-3 เดือนค่อยเอามาใช้ใหม่นะ
พวกที่ไม่มีรากก็ฝังครึ่งหัววางร่มรำไร เดี๋ยวรากก้มาเองอาจจะช้าหน่อยเพราะเข้าหน้าหนาวรากจะมาช้ากว่าปกติ
พวกที่ถอนแล้วก็ปรุงดินและปลูกใหม่ครับ
ประสบการณ์แบบนี้ผ่านมาทุกคนสำหรับคนปลูกบัวดิน อย่าคิดมากครับ ต่อไปเราก็รู้วิธีจัดการละว่า บัวดินที่บ้านเราเองจะดูแลเขายังไงถึงจะดีที่สุด
อย่าลืมว่า การปลูกบัวดินแต่ละพื้นที่การดูแลแตกต่างกันไป เราต้องสังเกตุและปรับเปลี่ยนเองตามสภาพแวดล้อมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|