หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ... 27   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านไร่ปลายนา ตอน วิศวกรวันธรรมดา ชาวนาวันหยุด  (อ่าน 199805 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 10:31:14 AM »

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวเกษตรพอเพียง เข้าสมัครเป็นสมาชิกเวปนี้มาตั้งแต่ปี 2011 แต่ยังไม่เคยตั้งกระทู้ของตัวเองซักทีครับ
ได้แต่ไปแจมดูของแต่ละคนในนี้ ซึ่งได้ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์กันอย่างไม่มีกั๊ก วันนี้จะเริ่มทำเกษตรแล้วเลยขอมีกระทู้ตัวเองซะหน่อย
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ชื่อในเวปคือ batistula มีที่มาที่ไปครับ คือชื่อเล่นผมว่า หล้า la (ลูกคนสุดท้อง) แล้วไอ้ batistu นี่มันคืออะไรหว่า
สำหรับคนที่เป็นคอบอลร่นเก่าหน่อยเมื่อเกือบ 20 กว่าปีที่แล้วน่าจะพอรู้จักกับนักฟุตบอลคนนี้ เป็นกองหน้าทีมชาติอาร์เจน ชื่อ กาเบรียล บาติสตูต้า
Gabriel Batistuta ซึ่งเราก็ชอบมาก เลยเอาชื่อเค้ามาใส่+เติมท้ายด้วยชื่อเรา 555 มันก็เลยออกมาเป็น batistula นี่หละครับ
รำลึกความหลัง รูปนักบอล

ท่าดีใจประจำตัวเมื่อทำประตูได้ ก็ต้องรัวปืนกลนี่แหละครับ


บันทึกการเข้า

batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 10:50:59 AM »

มาแนะนำตัวต่อ เรียนจบวิศวกรรมเครื่องกล จาก ม.เทคโนโลยีสุรนารี โคราชครับ เครื่องกลทั่วไปรุ่นที่ 4
สมัยเรียนตอนเข้ามาปี 2539 หรือ 1996 ช่วงนั้นก็บอลยูโร 96 พอดีนะครับ ชอบดูฟุตบอล เล่นฟุตบอล
แต่ไม่เล่นพนันบอลครับ เคยเล่นอยู่ครั้งเดียวตอนเรียนปวส. ช่างสำรวจ ที่เทคโนตีนดอย
( เทคโนราชมงคลวิทยาเขตภาคพายัพ เชียงใหม่ ) เพื่อนที่แผนกมันชวน ยังจำได้ถึงวันนี้
ตอนนั้น มีฟุตบอลคิงส์คัพ ไทยเจอเดนมาร์ก แล้วก็ ฟิออเรนติน่าเจอทีมอะไรจำไม่ได้ละ เพื่อนมันจัดการให้หมด
ตังค์ไม่ต้องออก เราก็เอากะเขาหน่อย เล่นเดนมาร์ก กะ ฟิออเรนติน่า ไป ตอนนั้นเดนมาร์กชนะไทย 3-1
ส่วนฟิออเรนติน่าทีมของบาติสตูต้า ชนะไปน่าจะ 2-0 ได้เงินมาประมาณ 2,000 บาท เอาไปซื้อกางเกงยีนส์ Leeสีดำ
พันกว่าบาท และก็ไม่เคยเล่นพนันบอลอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น 555 เพื่อนมันคงงง ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 11:06:24 AM »

สมัยเรียนอยู่ที่มหาลัย ทางชมรมฟุตบอลจะมีการจัดการแข่งขัน SUT LEAGUE ทุกปี โดยนักศึกษาที่รวมกลุ่มกันจัดตั้งทีมเข้ามาและก็มาสมัครแข่ง
ตอนมาปี1 ไปออกกำลังกายแล้วมีรุ่นพี่มาชวนเข้าทีม ชื่อทีมเค้า ตะกายมิ้นท์ ก็ไปเล่นกับเขาแต่ไม่ค่อยได้ลงเท่าไหร่ สำรองซะมาก ปีนั้นทีมได้ที่ 3
จาก 32 ทีม พออยู่ปี 2 เลยชวนเพื่อนๆกันตั้งทีมเองซะเลย ชื่อทีม ฝันไปเถอะ...เพื่อน ปีนี้แข่งตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย แพ้ทีมน้องใหม่เด็กใต้ เล่นแรงมาก
ไม่ไหวแพ้ทาง จะมีเรื่องกันให้ได้ มาตอนที่อยู่ปี 3 ครับ ช่วงบอลโลก France98 ที่ฝรั่งเศสได้แชมป์ ปีนี้ทีมเราพร้อมเต็มที่ เลือกชุด อาร์เจนตินา
สวมเบอร์ 9 ตามนักเตะคนโปรด แต่เล่นกองหลัง เนื่องจากปีที่แล้วยิงไม่ได้ซักลูก ปีนี้เลยสลับกันกับเพื่อนที่เล่นกองหลังให้มาเล่นหน้า กลายเป็นว่า
Put the right man on the right job ทีมเรายิงกระจายครับ แมทช์แรกชนะเด็กปี1ไปเบาะๆ 12-0 แมทช์ที่ 2 ก็ชนะแต่จำสกอร์ไม่ได้
แต่มาแพ้แมทช์ที่3 กลายเป็นเข้าที่สองของกลุ่ม เหมือนจะเป็นใจเพราะไม่ต้องไปเจอพวกเด็กใต้ที่รอบไขว้กัน จากนั้นเราก็ชนะกันจนได้แชมป์มาครับ
ภาพทีมสมัยนั้น 16ปีแห่งความหลังครับ ผมเป็นกัปตันทีมแถวล่างขวาสุดนะครับ
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 11:18:57 AM »

จบมาแล้วก็ทำงานโรงงานอยู่แถวนิคมอีสเทอร์นซีบอร์ด อ.ปลวกแดง จ. ระยอง ตอนนี้อายุงานจะครบ 13 ปีเดือนกันยานี้ครับ
ก่อนหน้านี้สัก 3 ปี เบื่อมาก เครียดกับงานอยากออกไปทำเกษตร แต่พอดีเข้ามาอ่านเจอกระทู้ของอาหมอ PONGDIT เจาะลึกพืชเชิงเดี่ยว
ซึ่งแบ่งกลุ่มคนไว้แล้วบทความแกจะโดยใจและตรงกับตัวเรามาก ทำให้ยังต้องเตรียมความพร้อมกันก่อน ผมอยู่ในกลุ่มที่สองนะครับ

Re: เจาะลึกพืชเชิงเดียวเพื่อเลี้ยวเข้าหาความพอเพียง
« ตอบ #111 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 10:20:37 AM » อ้างถึง 

ผมแบ่งกลุ่มคนในนี้ก่อนน๊ะแล้วค่อยเสนอแนวทางพอเพียงของแต่ล่ะกลุ่ม ใครอยู่กลุ่มหลังๆก้ใจเย็นๆหน่อยล่ะกัน จะเล่าทั้งทีต้องให้ถึงกึ้น ให้ทะลุจุดเป้นจุดตายไปเลยข้างหนึ่ง  พื้นฐานต่างกันวิธีการบรรลุเป้าหมายก็ต้องต่างกันจริงมั้ย...

กลุ่มแรก กลุ่มมีทีอยู่แล้ว4-5ไร่อาจจะไม่มีเงินเก็บหรืออาจจะมีหนี้อยู่บ้าง แต่มีทุนหรือต้นคือที่ดินกะแรงงานในครอบครัวตีว่า1-2แรงเอ้า จอบ2อันกะพร้า1เล่ม กะกำลังใจจากคนในเวปนี้ (ต้องชมคุณชาวนาบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวเวปถูกลบ หรือย้ายตกกระป็องไป อิอิ ล้อเล่น)

กลุ่มสอง พวกมีรายได้ประจำแล้ว มีเงินเก็บบางส่วน ไม่มีที่ดินที แต่อยากอะ  อยากทำเกษตรพอเพียง อยากสัมผัสชีวิตที่เป้นนายตัวเอง  ใจเย็นๆครับนาย เดี๋ยวจะซี้ทางที่เดินไม่สะดุดให้
 
กลุ่มสาม มีรายได้ประจำเหมือนกัน มีมรดกเป็นทีมากพอควรเอาว่า20ไร่อัฟ รักเกษตรเหมือนกันแต่รักพี่เสียดายน้องเอาไงดี

กลุ่มสี่ รวยแล้ว ช่างเค้าเถอะ ก็มาอ่านๆได้อะไรไปก็ไปต่อยอดเองแหละอิอิ ก็พวกมีเงินก้อน อยากมีที่ดินเยอะๆบ้านไร่ปลายนา อยากใช้ชีวิตอยู่ในชนบท  กลุ่มนี้ระวังอย่างเดียวอย่าเพลินจนเงินคงคลังหมดก็แล้วกัน อิอิ
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 12:49:01 PM »

เอาเรื่องเกษตรที่เคยทำมาลงให้เพื่อนๆดูก่อนครับ เมื่อก่อนเคยเลี้ยงกบในกระชังครับ ไม่รู้ในนี้มีใครเลี้ยงกันอยู่บ้าง
เอาภาพมาให้ดูหน่อย ยิ้ม
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 12:59:16 PM »

ตอนที่เลี้ยงนั้นประมาณ 6 ปีที่แล้วครับ พ่อแม่แฟนแบ่งให้เลี้ยงบ่อนึง เนื้อที่ประมาณ 1 งาน เลี้ยงไปประมาณ 60-70 กระชัง จำไม่ค่อยได้แล้ว
วิธีเลี้ยงก็เริ่มตั้งแต่เพาะพันธุ์ก่อนครับ เราจะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์กบไว้ในท่อซีเมนต์ ท่อส้วมนั่นแหละครับ ใส่น้ำไว้ประมาณ 3-4 เซนติเมตร
แยกตัวผู้-ตัวเมีย นะครับ
รูปพ่อแม่พันธุ์ เป็นพันธุ์กบนา ตัวออกสีเหลืองๆนะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 02, 2014, 07:43:16 AM โดย batistula » บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:09:23 PM »

เวลาจะเพาะก็เตรียมน้ำในบ่อเพาะพันธุ์ เป็นบ่อปูนซีเมนต์ฉาบเรียบ มีท่อระบายน้ำออกได้ ใส่น้ำไว้ไม่สูงมากประมาณ 5 ซม.
ถ้าสูงมากไปเวลากบตัวผู้มันรัดตัวเมียเพื่อรีดไข่แล้วตัวมียมันจะจบอยู่ข้างล่างไข่ไม่ค่อยออกมาเยอะครับ เวลาเพาะถ้าช่วงหน้าฝน
ยิ่งมีฝนตกก็สบายครับ กบมันจะร้องและรู้ตามธรรมชาติของมัน ถ้าไม่มีก็อาจติดสปริงเกอร์ จำลองสร้างบรรยากาศไว้ให้มันหน่อย
เอากบใส่ตอนเย็นๆค่ำๆพอเช้ามาก็จับออกครับ เสียดายตอนที่ทำไม่ได้ถ่ายภาพไว้ครับ
เมื่อปล่อยพ่อแม่พันธุ์แล้วตอนเช้าจะเห็นไข่กบลอยจับกลุ่มอยู่พอเจอแดดดีๆประมาณ 1 วันก็จะมีลูกอ๊อดตัวเล็กๆให้เห็นแล้วครับ
เราจะให้ไข่แดงในช่วงแรกกอนที่จะฝึกให้กินอาหาร โดยเริ่มจากอาหารกบเบอร์ 0 ครับ เป็นเบอร์ที่แพงที่สุดแล้วครับ กระสอบนึง
น้ำหนัก 20 กว่าโล ราคากระสอบละ 7-8 ร้อยครับ
ภาพอาหารกบเบอร์0 จะมีขนาดเล็กสุด ลูกอ๊อดจะกินได้ครับ
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:15:10 PM »

พอลูกอ๊อดเริ่มโต หางหายไปแล้ว เวลาที่เราเอาใส่ไว้ในกระชังก็จะมีแผ่นยางบางๆประมาณ 0.5 ซม. รองไว้เพื่อให้กบขึ้นมาตอนกินอาหารครับ
ในภาพอาจจะไม่ชัด ตอนนั้นก็ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ครับ

บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:22:34 PM »

เมื่อกบเริ่มโตก็เริ่มเปลี่ยนเป็นอาหารเบอร์ 1,2และ3สำหรับกบโตเต็มไว ระยะเวลาเลี้ยงประมาณ 3-4 เดือนครับ
จะได้น้ำหนักประมาณ 7-8 ตัว/กิโลกรัม
ภาพอาหารเบอร์ 3 ครับ สำหรับกบโต ราคาตอนนั้นก็กระสอบละ 500 บาทครับ ตอนนี้น่าจะแพงขึ้นอีกเยอะอยู่ครับ

ต้นทุนหลักสำหรับการเลี้ยงกบในกระชังก็ค่าอาหารนี่แหละครับ
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:33:22 PM »

เจอแต่ภาพบ่อพ่อแม่พันธุ์กับบ่อเพาะพันธุ์ครับ

บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:39:29 PM »

ที่เราเห็นสังกะสีปิดท่อพ่อแม่พันธุ์กบไว้นั้นเพราะต้องการอบให้อากาศร้อนเพื่อต้องการให้แม่พันธุ์มีไข่ เวลาไปเพาะเจอน้ำเย็น ฝนตก ก็จะพร้อมผสมพันธุ์
แต่นี่ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเวรกรรมด้วยมั๊ย ที่บ้านแฟนจะร้อนมาก ขนาดตอนต่อเติมบ้าน ชั้นใต้หลังคาผมก็ให้ทำช่องลม เป็นอิฐบล็อกแบบรู ระไว้อากาศไว้
ตั้ง 2 แถว ๆละยาวประมาณ 3 เมตร แต่ก็ไม่พอ ความร้อนจากใต้หลังคาลงมาเข้าตัวบ้าน ร้อนมาก อยู่นอกบ้านอากาศเย็นสบาย แต่ในตัวบ้านร้อนจริงๆ
ยิ่งหน้าร้อนไม่ต้องพูดถึง นอนแทบไม่ได้
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:44:17 PM »

มาเรื่องเลี้ยงกบกันต่อ พอกบเริ่มโต ต้องนำมาคัดขนาด จะคัดในกระชังในน้ำ หรือ ตักขึ้นมาคัดบนบก ในผ้ากระชังก็ได้แล้วแต่สะดวก
คัดขนาดทำไม ก็เพื่อไม่ให้กบมันกินกันเองครับ แล้วเวลาให้อาหารเช้า-เย็น ก็ให้สังเกตุตรงมุมกระชังครับ กบเล็กจะไปอออยู่แถวนั้น
เพราะสู้ตัวใหญ่ไม่ได้ เลยไม่ค่อยได้อาหาร เราต้องจับไปใส่กระชังที่ตัวไร่เลี่ยกัน ถ้ามีเวลาคัดบ่อยก็ยิ่งดี ครับ
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:58:53 PM »

การให้อาหารจะให้ 2ครั้ง คือตอนเช้า กับตอนบ่ายๆ ก่อนให้อาหารก็ต้องไปตักตัวที่ตายออกแล้วล้างผ้ายางหรือโฟมหรือแผ่นยางรองเท้าแตะ
ล้างพวกเศษอาหารเก่าที่ค้างและขี้กบที่อยู่ข้างบนโดยวิดน้ำสาดจากนอกกระชังกบนั่นแหละครับ กบเค้าน่าจะรู้ว่าถ้าคน
มาทำความสะอาดกระชังแล้วก็จะได้เวลาหม่ำแล้วครับ
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 02:07:57 PM »

อาหารเม็ดบางทีอาจจะผสมวิตามินซี ช่วยป้องกันหวัด หรือ บางครั้งผสมหัวเชื้อEM ช่วยในการขับถ่าย หรือบางทีเจอโรคระบาดมากก็ต้อง
พึ่งร้านขายยา จัดหายาปฏิชีวนะให้ ค่าต้นทุนอีกส่วนก็ค่ายานี่แหละครับ ช่วงกบยังเล็ก ไม่ค่อยเจอโรค แต่เมื่อโตขึ้นกินมากขึ้น ถ่ายมากขึ้น
น้ำก็เริ่มเสีย ต้องคอยถ่ายน้ำเก่าออกแล้วสูบน้ำใหม่เข้าไปแทน น้ำขี้กบนี่แหละครับปุ๋ยอย่างดี ต่อไปผมจะดูว่าปุ๋ยขี้กบกับนาข้าวจะให้ผลยังไง
ค่อยๆติดตามกันไปนะครับ
อาหารที่ผสมแล้วก็เอาใส่กะละมังพลาสติกใบใหญ่อยู่เหมือนกัน รับน้ำหนักอาหารได้สบายๆ

ต้องคอยดูตัวเล็กไปด้วย
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 02:34:07 PM »

มาต่อครับ เมื่อเราเลี้ยงไปได้3-4เดือน ก็ถึงเวลาที่รอคอยครับ เมื่อโทรนัดกับพ่อค้าหรือคนจับดิบดีแล้ว คนจับก็จะเข้ามาพร้อมกับ
รถปิ๊กอัพเสริมแหนบพร้อมบรรทุกหนักอย่างต่ำ 2 ตัน มาพร้อมกับตะกล้าพลาสติกอย่างที่เห็น
บันทึกการเข้า
batistula
เกษตรกรมือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447


« ตอบ #15 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 02:39:23 PM »

ตะกร้าพลาสติกก็เอาไว้บรรทุกซ้อนกันได้หลายๆชั้นโดยที่ตัวกบไม่เป็นอะไรครับ ก่อนที่จะจับต้องงดอาหารก่อนด้วยนะครับ
ไม่ใช่ว่าอยากให้ได้น้ำหนักดีแล้วก็อัดอาหารให้เต็มที่ เวลาขนย้ายจะเกิดความเสียหายคือกบตายครับ
เราจะเตรียมกระชังขึงไว้แล้วน้ำกบที่เลี้ยงตักขึ้นมาเพื่อจับหรือคัด ทางพ่อค้าจะคัดตัวที่ได้ขนาด7-8ตัวต่อกิโลกรัมเท่านั้น ขนาดเล็กเขาไม่รับครับ

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ... 27   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: