เมื่อเหตุการณ์เปลี่ยน โจทย์ก็เลยเปลี่ยน
ผมจึงหันไปใส่ใจระบบน้ำ และระบบไฟฟ้า อย่างจริงจังก่อน (เดิมวางแผนไว้ว่าทำคู่ๆ กันไป เพราะพืชบางชนิด ใช้สูบน้ำเครื่องยนต์ สูบรดได้)
หลังจากศึกษาระบบน้ำ นอกจาก บ่อ 2 ไร่ ที่ต้องขุดเมื่อมีเงิน แล้วผมต้องเจาะบาดาลเพิ่มเติมด้วย
จึงหารายชื่อช่างเจาะบาดาลจากกรม เจอชื่อช่างใกล้ๆ ที่ดิน อยู่หนองบัวลำภู ก็ติดต่อ นัดหมาย ทำเรื่องให้เรียบร้อย
วันมาเจาะก็เป็นเรื่องอีก
ผมเดินทางจาก กทม ตีสอง เพื่อไปถึงเช้าแปดโมง ตามนัดหมาย
แต่พอไปถึง ฝนตก ไม่มาก ตกไม่ทั่วฟ้า แต่บ้านของช่างที่หนองบัวลำภู ตกหนัก
แปดโมง ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เรียกมา ผมก็เลยเรียกไป เพื่อถามว่าช่างอยู่ไหน คำตอบคือ "ผมให้ลูกน้องไปเจาะที่อื่นแล้ว ฝนมันตกหนัก ชุมแพคงหนักไม่แพ้กัน"
จุกครับ จุก... งงครับ งง
ผมเลยถามช่างไปว่า "พี่ตกขนาดไหนพี่ถึงเจาะไม่ได้"
ได้คำตอบว่า "ก็ถ้าปรอยๆ เจาะได้ แต่ถ้าลงมาแรง ก็ต้องหยุดเจาะ ฝนหยุดก็เจาะใหม่ได้"
ปกติผมเป็นคนใจดี ใจเย็น แต่งวดนี้ต้องงัดวิชาการบริหารมาใช้ "พี่ครับ ผมนัดกับพี่ไว้ พี่บอกว่า ลุยเป็นลุย ถึงฝนตกก็เจาะ ผมถึงตีรถขึ้นมารอพี่ตั้งแต่แปดโมง แต่ตอนนี้พี่ดันเอารถไปเจาะที่อื่น ผมเสียเวลานะครับ"
"แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะว่างอีกทีเมื่อไร จะนัดให้พี่มาเจาะอีกทีเมื่อไรก็ไม่รู้ ยังไงวันนี้ยังมีเวลา พี่จัดการเรียกช่างมาเจาะให้ผมตามเดิมเลยครับ เพราะที่ชุมแพนี้ ฝนมันไม่ตก"
"ฝนไม่ตกครับ ดูจากเมฆแล้ว ตกอีกทีคงเย็นนู้น" ...(สรุปวันนั้น ตกแค่ตอนเช้าเบาๆ แล้วไม่ตกอีกเลย)
ช่างรีบขอโทษแล้วบอกว่า จะเคลียร์รถมาเจาะให้
กว่าจะมาเจาะได้ก็เกือบสิบเอ็ดโมง ใช้เวลาเจาะห้าชั่วโมง
ภาพรวมถือว่าทำงานดีครับ ถ้าไม่ติดเรื่องมาเปลี่ยนนัดหมายเราโดยไม่แจ้ง
เจาะเสร็จก็ล้างบ่อให้เรียบร้อย แต่ไม่ได้วัดปริมาณน้ำ ว่าได้น้ำเท่าไร แต่จากการล้างบ่อช่างบอกว่า น้ำเยอะใช้ได้
--------------------------------------------------------
จากนั้นผมก็ศึกษา เรื่องปั้มน้ำบาดาล ต่อ
สรุปง่ายๆ
1. ยอมซื้อของแพง มียี่ห้อเถอะครับ เพราะอุปกรณ์ครบ การติดตั้งปั้มน้ำบาดาล ต้องมี ตัวปั้ม ตัวมอเตอร์ สายไฟ 3X1.5 อย่างน้อยๆ มากกว่าความลึกสัก 5 เมตร สายดิน(สำหรับกรณีปั้มที่ใช้ระบบ 4 สาย) ตู้คอนโทรลป้องกันไฟตก ไฟเกิน มอเตอร์ร้อน ไฟกระชาก ฝาบ่อ
ทั้งหมดนี้รวมๆ กัน ของจีนหรือไต้หวัน ก็ต้องใช้งบหลักหมื่น
ผมจึงเลือก แฟรงกิ้น ซึ่งซื้อได้ถูกที่ 12,500 บาท มีครบหมด (ยกเว้นสายดิน ซื้อเพิ่มอีก 250 บาท) ร้านในเว็บนี่ละครับ ส่วนร้านที่อำเภอชุมแพ 13,900 บาท ก็ถือว่าคุ้มที่วิ่งรถอ้อมไป 30 โล ไปซื้อมา
2. ขนาดที่ซื้อควรซื้อขนาดที่ H มากกว่าความลึกของบ่ออย่างน้อย 10 เมตร และควรดูว่าขนาด Q สูงสุดที่ส่งได้นั้น อยู่ที่ H ที่เท่าไร ผมเลือกแฟรงกิ้น เพราะที่ 40 เมตร ส่งได้ Q สูงสุด 6Q ต่อชั่วโมง แต่ของจีนหรือไต้หวัน หย่อนไป 40 เมตร จะดูดได้แค่ 2Q ทั้งๆ ที่ใช้กำลังไฟฟ้าเท่ากัน
ดังนั้นต้นทุนค่าไฟในการสูบน้ำ แฟรงกิ้นจะประหยัดกว่า
จึงยิ่งตอกย้ำว่าในระยะยาวแล้ว ปั้มแฟรงกิ้น แม้จะแพงกว่าในตอนเริ่ม แต่ค่าใช้จ่ายรวมถูกกว่าแน่นอน แถมได้ปริมาณน้ำมากกว่าในเวลาที่เท่าๆ กัน
3. พิจารณาปริมาณน้ำที่ต้องใช้งาน ว่า แต่ละวันต้องใช้งานกี่คิว เนื่องจากผมยังไม่ได้ทดสอบปริมาณน้ำ ผมจึงประเมินไว้ที่ 50% หรือ 12 ชั่วโมง เช่น สูบชั่วโมงเว้นชั่วโมง เท่ากับว่าวันๆ หนึ่งผมจะได้น้ำที่ 72Q หรือ 72,000 ลิตร หรือเท่ากับ ถ้าจ่ายน้ำทั้งพื้นที่ 20 ไร่ ก็ไร่ละ 3,600 ลิตรต่อวัน
ปริมาณขนาดนี้ อาจไม่พอสำหรับพืชบางชนิด แต่หากบริหารจัดการดีๆ ก็ถือว่าพอเพียง (เพราะอนาคตผมจะมีบ่อน้ำอีก 2 ไร่ด้วย)
แต่กลับกัน หากใช้ปั้มไต้หวัน หรือจีน ได้น้ำแค่ 2Q ต่อชั่วโมง วันหนึ่งจะได้แค่ 24Q หรือเท่ากับไร่ละ 1,200 ลิตร ก็เรียกว่าอาจจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำ
จาก 3 ข้อในการคำนวณ ผมจึงเลือกปั้มมียี่ห้อไปเลยดีกว่า
----------------------------------------------------
ได้ของมา แกะดูก็พบว่า คุ้มค่า การออกแบบอุปกรณ์ทำได้ดี มีมาตรฐานมาก กล่องคอนโทรล ก็ออกแบบมาดีครับ ชุดกล่องนี้ ถ้าจ้างเขาทำมี 2,000 บาทขึ้นแน่ๆ แต่อันนี้ดูดี ใช้ง่าย ต่อง่ายกว่าเยอะ

การต่อสายของปั้มแฟรงกิ้น ขนาด 1 แรง มีทั้งหมด 4 สาย
ดังนั้นสายไฟที่แถมมาในชุดจะไม่พอ ต้องวิ่งไปซื้อเพิ่มอีก 1 เส้น (ใครจะซื้อก็ซื้อสายดินมาเลยครับ)
ส่วนการต่อก็ง่ายๆ ต่อตามสีเลย ส่วนไฟเมนวิ่งเข้า ต่อบวกหรือลบสลับยังไงก็ได้ เพราะไฟกระแสสลับอยู่แล้ว
จากนั้นก็นำไปทดสอบในโอ่ง เอาสายไฟที่เป็นข้อต่อที่พันเทปละลาย ลงไปในน้ำด้วย เพื่อทดสอบการรั่ว
เสียบปลั้กปุ๊บ น้ำพุ่งสูงชนหลังคาเลยครับ รีบปิดแทบไม่ทัน 555

เตรียมอุปกรณ์เสร็จ ก็เอาลงไปติดตั้ง
โดยใช้ท่อ 1 1/4 นิ้ว ใส่ข้อต่อเกลียวนอก เกลียวใน ลงไปทั้งหมด 10 เส้น ได้ระยะ 40 เมตรโดยประมาณ
ใช้ข้อต่อเกลียวเพื่อสำหรับอนาคตไว้เซอร์วิสปั้ม (อย่าลืมจดข้อมูลปั้มไว้ด้วย)
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ลองปริมาณน้ำ
เพราะไม่มีไฟฟ้า 555
---------------------------------
ความจริง ผมเตรียมอุปกรณ์ทดสอบไว้แล้ว โทรคุยกับช่างแฟรงกิ้นแล้ว ช่างบอกว่า ตู้คอนโทรลเขียนไว้ว่าใช้ 7.5A (หมายถึงถ้าต่อเบรกเกอร์ก็ต่อ 10A ก็พอ) ซึ่งคำนวณง่ายๆ
P = IV ดังนั้น
P = 7.5*220 = 1650W
ผมเลยซื้อ Inverter แบบไม่แพงมาก ขนาด 2000W มาแทน ซึ่งรับ Peak ได้ 4000W ก็คิดว่าน่าจะพอ
แต่ทดสอบแล้วครับ อินเวอร์เตอร์ ร้องตลอดเวลา เพราะจ่ายไฟไม่พอ
ไม่รู้ว่าเพราะอินเวอร์เตอร์ห่วย ได้ไม่เต็ม W จริง หรือเพราะ มันกินไฟกระชากตามทฤษฎีที่ 8 เท่า หรือ 750*8 = 6000W กันแน่
