หัวข้อ: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง (มีสารบัญ) เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 10:48:22 AM - สวัสดีนะครับ ผมชื่อธีระพงษ์ สอนหนังสือที่แม่โจ้ รับผิดชอบดูแลฐานเรียนรู้การผลิตปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกอง โดยใช้เศษใบไม้ในมหาวิทยาลัยและมูลสัตว์ (ขี้วัว) มาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ แล้วเปิดให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมทุกวันเวลาราชการ ..ฟรี
- ฐานเรียนรู้นี้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2547 ระยะแรกก็ใช้วิธีแบบเติมอากาศที่ผมเป็นผู้คิดค้น ในช่วงนั้นสนุกมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเราและเกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้โดยไม่ต้องพลิกกลับกอง เสร็จภายในเวลา 1 เดือนเท่านั้น ทำได้ครั้งละ 10 กอง ๆ ละ 1 ตัน ต้นทุนตกกระสอบละ 25 บาท (30 กิโล) ราคาในท้องตลาดกระสอบละ 150 - 350 บาท - ในปี 2552 ผมวิจัยพบวิธีใหม่ กองเป็นแถวยาวไม่ต้องพลิกกลับกอง แต่ไม่ต้องใช้พัดลม ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า สองเดือนเสร็จ ใช้เศษพืชกับมูลสัตว์เหมือนเดิมโดยไม่ต้องพลิกกลับกอง เลยเลิกวิธีเติมอากาศครับ - ปัจจุบัน ทีมนักวิจัยของผมได้เดินสายไป 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อส่งเสริมให้มีการนำเศษพืชมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีใหม่นี้แทนการเผาทำลาย และพบว่าเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผักตบชวา เศษผักในตลาด และฟางข้าวสามารถย่อยได้เร็วกว่าสองเดือน รองลงมาก็เป็นเศษใบไม้สด และใบไม้แห้ง - วิธีใหม่นี้ผมเน้นให้เกษตรกรนำไปผลิตในนา หรือผลิตในสวนเลย จะได้ไม่ต้องขนไปมา - ผลิตในสวน ใช้ในสวน ลดการขนส่ง - ที่สำคัญครับ ปุ๋ยที่ผลิตได้จะมีคุณภาพตามที่มาตรฐานของประเทศ ปี 2551 กำหนด ไม่ว่าจะเป็นค่าการนำไฟฟ้า ค่าการย่อยสลายที่สมบูรณ์ (Germination Test) ค่าอินทรีย์วัตถุ และอื่น ๆ เรื่องโครงสร้าง "ครอบครัวปุ๋ย" แนะนำตัว (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469346#msg1469346) ปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469363#msg1469363) ข้อดี ของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469386#msg1469386) ทฤษฎีของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ก็คือ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469416#msg1469416) ถ้าจะให้มีคุณภาพดี ๆ จะทำอย่างไง? (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469435#msg1469435) กองปุ๋ยมีรูปสามเหลี่ยม เพื่อการพาความร้อน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469488#msg1469488) หัวใจของการทำปุ๋ยอินทรีย์คือ ต้องรักษาความชื้นในและนอกกองปุ๋ยให้มีอยู่เสมอ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469517#msg1469517) การทำปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้ แม่โจ้ตั้งชื่อว่าวิธี "วิศวกรรมแม่โจ้ 1" (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469532#msg1469532) ข้อห้ามของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์วิธี “วิศวกรรมแม่โจ้ 1” (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469540#msg1469540) วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 เป็นเงื่อนไขการย่อยสลายแบบใช้อากาศ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469546#msg1469546) วิธีการขึ้นกองปุ๋ย (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469562#msg1469562) ตัวอย่าง กองนี้ทำจากเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับขี้ไก่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469571#msg1469571) ในเศษพืช ไม่ว่าใบไม้หรือฟางข้าว ล้วนอุดมไปด้วยแร่ธาตุและจุลธาตุ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1471695#msg1471695) ทำปุ๋ยอินทรีย์ในกะละมัง (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1473088#msg1473088) การทำปุ๋ยอินทรีย์ในกะละมัง ถ้าขาดปัจจัยอันใดอันหนึ่งจะเกิดอะไรบ้าง (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1474212#msg1474212) ถ้าขาดปัจจัยอันใดอันหนึ่งจะเกิดอะไรบ้าง (ต่อ) (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1474285#msg1474285) คนจีนมีวัฒนธรรมที่จะไม่ให้ "ของดี" ของสวนเขาไหลไปให้คนอื่น (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1474462#msg1474462) การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1482393#msg1482393) ทำปุ๋ยจากเศษอาหารต่อนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1482743#msg1482743) ข้อแตกต่างในการทำปุ๋ยกองเล็กกับกองใหญ่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1488833#msg1488833) อีกแนวหนึ่งในการทำปุ๋ยอินทรีย์ คือทำในกรงตาข่ายเหล็ก หรือในเสวียนไม้ไผ่ ที่ไม่มีก้น (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1497668#msg1497668) วันนี้เราจะเรียนเรื่อง "ปุ๋ย" กัน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1502099#msg1502099) เกร็ดความรู้บางประการในการทำปุ๋ยหมักกองใหญ่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1505626#msg1505626) พื้นที่ไม่ยาวก็ทำเป็นแถวสั้น เรียงกันไปก็ได้จ้า เอาไกล้น้ำไว้ก่อน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1510316#msg1510316) เรื่องถ้าจะเอาปุ๊ปุ๊ของคนมาแทนขี้วัวได้อย่างไร (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1514312#msg1514312) ทั้งปุ๊ปุ๊ของคน ทั้งขี้วัว ทั้งเศษพืช เราจะนำไปใช้กับพืชโดยไม่ผ่านกระบวนการย่อยสลายเสียก่อนไม่ได้ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1514339#msg1514339) คำถามที่พบบ่อย ในการทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง "วิศวกรรมแม่โจ้ 1" คำถามที่พบบ่อย ชุดที่ 1 (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg2119230#msg2119230) เรื่องของ น้องจุล(ลินทรีย์) แสบ ซน ซ่า วันนี้มาเล่าสู่กันฟังเรื่องน้องจุลกันดีกว่า (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1502247#msg1502247) เรื่องน้องจุล ต่อ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1502320#msg1502320) น้องจุลมีกี่ชนิด (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1502393#msg1502393) น้องจุลมีในที่ต่าง ๆ ในอากาศทั่วไป ในน้ำ ก็มีสปอร์น้องจุลลอยไปลอยมา (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1502505#msg1502505) กระบวนการย่อยสลายแบบใช้อากาศ และไม่ใช้อากศ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1502536#msg1502536) เรื่องของ ฐานเรียนรู้ ฐานเรียนรู้ของผมนะครับที่แม่โจ้ ทำปุ๋ยทุกวัน ได้ปุ๋ยทุกวัน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469731#msg1469731) ที่ฐานเรียนรู้ เมื่อครบสองเดือนคนงานก็จะเอาปุ๋ยออกตากแดดให้ปุ๋ยแห้ง จุลินทรีย์จะได้สงบตัว (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469777#msg1469777) เปลือกมะม่วงสุกโรงงานนำมาทำปุ๋ยด้วยวิธีใหม่นี้ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1492283#msg1492283) น่าคิดนะครับว่าทำไมไม่มีน้ำเสียออกมา ทำไมไม่มีแมลงวัน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1492315#msg1492315) เคยพูดถึงกองปุ๋ยนี้ว่า มีความดีใจที่สุดในโลก (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1504785#msg1504785) กองปุ๋ย ดีใจที่สุดในโลก (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1513657#msg1513657) ในที่สุดกองปุ๋ยจากฟาง 4 กอง ที่อายุไล่กัน 7 วันก็เสร็จ และกองที่ 5 ทำจากใบไม้ก็มาแล้ว (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1524805#msg1524805) เรื่องของ โครงการความร่วมมือ โครงการที่แม่โจ้ร่วมมือกับ นสธ.ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 2552 (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469625#msg1469625) ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ มูลนิธิชัยพัฒนา อ.แม่สาย จ.เชียงราย (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469672#msg1469672) มาดูกองปุ๋ยยาวที่สุดในโลก ยาว 1 กิโลเมตร ของจังหวัดลำพูนนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469803#msg1469803) เทศบาลนครเชียงใหม่ผลิตปุ๋ยจากเศษใบไม้ที่มาตั้งแต่ปี 2553 (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469880#msg1469880) ไปช่วยสอนทำปุ๋ยที่ อบต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1483239#msg1483239) ทำปุ๋ยจากเศษผักในตลาด เทศบาลสำโรงใต้ สมุทรปราการ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1487505#msg1487505) โครงการที่แม่โจ้ร่วมกับห้างเซ็นทรัลที่เชียงใหม่ ทำปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1487786#msg1487786) การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร บ้านแม่โจ้ หมู่ 4 ต.หนองหาร อ.สันทราย เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1491137#msg1491137) เรื่องของ หน่วยงานหรือเกษตรกร ที่นำวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไปใช้ มีเกษตรกรน่ารักที่นำวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไปใช้ แล้วสร้างเป็นฐานเรียนรู้ ขยายผลไปหมู่บ้านอื่นอีกหลายแห่ง (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469905#msg1469905) กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านโพธิทองเจริญ อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470354#msg1470354) ข้อสังเกต จากกรณีของลุงเจริญ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470395#msg1470395) มีใครรู้จักลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้งจากสุพรรณบ้างครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1472099#msg1472099) ปราชญ์ชาวบ้านของลำพูนครับ ชื่อสุรัตน์ อยู่ที่บ้านห้วยแหนพัฒนา ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ ลำพูน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1472321#msg1472321) ฐานเรียนรู้ 5 ฐาน ของ พี่สุรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้าน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1472547#msg1472547) ปุ๋ยที่แห้งแล้ว แล้วนำไปตีป่น (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1472550#msg1472550) กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านแพะพัฒนา ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1472712#msg1472712) ประธานกลุ่มชื่อลุงศรี กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านแพะพัฒนา (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1472799#msg1472799) เรื่องตลกจากพี่ทวี แห่งบุรีรัมย์ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1476910#msg1476910) เรื่องตลกจากพี่ทวี แห่งบุรีรัมย์ต่อนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1477076#msg1477076) ชวนคุยเรื่อย ๆ นะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1477087#msg1477087) กองปุ๋ยจากฟางข้าวและขี้วัวครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1479030#msg1479030) กองปุ๋ยจากเศษใบไม้ของสวนไม้ไทยพ่อเลี้ยงหมื่น อำเภอเมือง ลำพูน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1479099#msg1479099) รูปวันที่วิศวกรแม่โจ้ไปแก้กองปุ๋ยยาว 1 กม.ที่อำเภอลี้ ลำพูน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1482893#msg1482893) รูปของกลุ่มครูดารา บ้านหนองแฝก ต.หนองแฝก อ.สารภี เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1486272#msg1486272) นักศึกษาวิศวแม่โจ้ ทำปุ๋ยหมักขาย ใช้ฟางกับเศษข้าวโพด (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1492367#msg1492367) ไอเดียโรงปุ๋ยพอเพียง ไม่มีหลังคา ไม่มีคอก ไม่มีพื้นคอนกรีต ไม่ต้องพลิก (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1496026#msg1496026) การทำปุ๋ยของกลุ่มเกษตรกรบ้านป่าลาน ต.สองแคว อ.ดอยหล่อ เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1496054#msg1496054) เทศบาลตำบลบ้านกลางมีปัญหาหลุมฝังกลบขยะ (แบบกอง ๆ บนดิน) (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1501746#msg1501746) ได้ไปส่งเสริมการทำปุ๋ยหมักแต่ก็ยังไม่สำเร็จนัก (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1508869#msg1508869) ผมได้มีโอกาสไปสอนทำปุ๋ยที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เพชรบุรี (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1515864#msg1515864) รูปของเกษตรกรบ้านบ่อโจง ต.หนองหนาม อ.เมือง ลำพูน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1516494#msg1516494) ไปอบรมเรื่องปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ แก้ปัญหาแอนแทรกโนส ที่บ้านบ่อแก้ว อ.สะเมิง เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1520083#msg1520083) สอนคูโบต้าทำปุ๋ย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการทำเอกสารเผยแพร่ให้กับเกษตรกร (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1522825#msg1522825) รูปพี่ถวิล โป่งงาม อ.แม่สาย เชียงราย ที่รับจ๊อบส่งปุ๋ยให้ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ 30 ตัน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1523166#msg1523166) เรื่องของ ภาพในหลาย ๆ ที่ ภาพการทำปุ๋ยอินทรีย์ในหลาย ๆ ที่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1475344#msg1475344) เอารูปกองปุ๋ยสวย ๆ มาให้ดูนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1483226#msg1483226) เรื่องเศร้าใจเกี่ยวกับวิธีการปลูกข้าวของเกษตรกร ที่เชียงใหม่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1483370#msg1483370) ภาพที่ไม่อยากให้เกิด แต่เป็นภาพปกติใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1483928#msg1483928) รูปการทำปุ๋ยหมักจากเศษผักในตลาด (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1487031#msg1487031) เอารูปมาให้ดูอีกนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1488896#msg1488896) สวนกินได้ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1491158#msg1491158) รูปหญ้าบนกองปุ๋ย (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1496313#msg1496313) รูปการเจาะรูห่างกัน 40 เซ็นติเมตร (ทุก 10 วัน) เจาะให้ถึงพื้น แล้วกรอกน้ำลงไป เสร็จแล้วปิดรู (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1496316#msg1496316) รูปทำปุ๋ยจากเศษใบไม้ในบ้านผมครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1496336#msg1496336) รูปกระทะเคี่ยวน้ำตาลที่คลองดำเนินสะดวกมาให้ดู รูปนี้คล้ายกับการไหลของอากาศในกองปุ๋ยครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1507845#msg1507845) นี่น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งของน้ำป่าไหลหลากครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1511547#msg1511547) ตอนผ่าน อ.แม่ขะจาน เจอโรงโม่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ข้างทาง (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1513498#msg1513498) น้องปุ๋ยตัวจริงเสียงจริง (นังปุ๋ย) (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1513768#msg1513768) ไปเจอหญ้าข้างถนนถูกฉีดยาฆ่าหญ้า ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่บ้านหรือ อบต.ฉีด (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1522243#msg1522243) ไปเจอภาพเก่า ๆ เลยเอามาฝากครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1524124#msg1524124) เรื่อง อื่นๆ รอบๆห้องเรียน กรณีสวนส้มที่อำเภอฝาง เชียงใหม่ครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1474518#msg1474518) เรื่องส้มต่อนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1474937#msg1474937) เรื่องส้มต่อนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1475137#msg1475137) สวนส้มเคมี เปรียบเทียบกับสวนส้มอินทรีย์ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1475181#msg1475181) ปัญหาโรคแอนแทรกโนส ที่สวนสตรอเบอรี่ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481413#msg1481413) การจัดฝึกอบรมเกษตรกรเรื่องการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์เพื่อต้านโรคแอนแทรกโนส (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481431#msg1481431) อบรมเดือนกันยายน 53 พอเดือนตุลาคม 53 ขึ้นไปตามงาน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481471#msg1481471) วิเคราะห์ ปัญหาสาเหตุ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481501#msg1481501) เดือนธันวาคม 53 ก็ขึ้นไปตามงานอีกครั้ง (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481546#msg1481546) เดือนมิ.ย. 54 สรุปว่าแนวทางการแก้ไขปัญหามีคร่าว ๆ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481670#msg1481670) เดือนมกรา 55 ออกพื้นที่ ก็พบว่าเกษตรกร 5 รายในโครงการประสบความสำเร็จ โรคไม่มี (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481763#msg1481763) นักท่องเที่ยวมากันเยอะ ที่สวนสตรอเบอรี่อินทรีย์ของคุณวิทยา (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1481789#msg1481789) มีใครสนใจซื้อเครื่องพลิกกลับกองปุ๋ยจากอเมริกาบ้างไหมครับ มือสอง อวมท. ราคา 5 ล้าน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1510065#msg1510065) มีอีกรุ่นครับ รุ่นนี้ใช้แทรคเตอร์ลาก (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1510086#msg1510086) . . . . . ความรู้เสริม เติมเต็มในช่องว่าง ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียว (http://msg1478899#msg1478899) ให้ปุ๋ยต้นไม้แบบวางกระสอบ (http://msg1482227#msg1482227) การทำปุ๋ยอินทรีย์ (http://msg1483458#msg1483458) การหมักปุ๋ยง่าย ๆ (http://msg1483482#msg1483482) การสูบน้ำเข้านาแบบพอเพียง ลดพลังงาน ลดการจ้าง (http://msg1483776#msg1483776) แบบถุงบรรจุปุ๋ยเป็นตัวอย่าง โดยคุณ James (http://msg1490377#msg1490377) ตารางเปรียบเทียบปริมาณ N P K จากวัสดุเกษตรต่าง ๆ (http://msg1493543#msg1493543) ทำปุ๋ยหมักแบบง่ายที่ ม.แม่โจ้ (http://msg1494603#msg1494603) ค่ามาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ของประเทศ ปี 2551 (http://msg1498507#msg1498507) การทำน้ำสกัดมูลสุกร (http://msg1499192#msg1499192) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 10:55:09 AM ขอบคุณมากครับ ดีใจที่มีอาจารย์ที่เป็นอาจารย์เกษตรจริงๆ ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนให้ความรู้แก่สมาชิกชาวเกษตรพอเพียง
และผู้ที่สนใจทั่วไป เป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะพัฒนาการเกษตรของเราไปได้อย่างถูกต้องและก้าวไกลต่อไป ขอบคุณมากๆเลยครับ ;D ;) คำถาม - คำตอบ ==> ถ้าใช้ถั่วมะแฮะบำรุงสวนยาง (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469397#msg1469397) ==> ยังไม่เข้าใจอยู่นิดนึงครับ คำว่า อัตราส่วน 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469677#msg1469677) ==> ทำความเข้าใจ ภาพรวม (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469736#msg1469736) ==> เรายังไม่ใช้สามารถวางทิ้งต่อไปได้เรื่อยๆไหมคะ ถ้าได้จะทิ้งไว้ได้นานแค่ไหน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1469858#msg1469858) ==> ไม่มีขี้วัว เอาขี้หมู หรืออย่างอื่นได้ไหมครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470167#msg1470167) ==> ด้านบนของกองปุ๋ยมันจะย่อยสลายหรือครับเมื่อมันโดนอากาศภายนอกตลอดเวลาไม่เกิดความร้อนด้านบน (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470173#msg1470173) ==> หญ้าสดๆที่ยังไม่แห้งแล้วเราเอาไปคลุมโคนต้นไม้เล็ก เช่น ต้นยางพาราที่ปลูกใหม่ มันจะเป็นอันตรายต่อรากของต้นไม้ไหมครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470211#msg1470211) ==> ต้องรดน้ำมากน้อยแค่ไหนเอาอะไรมาวัดว่าเพียงพอ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470375#msg1470375) ==> ในกรณีที่มีเศษใบไม้ไม่มากเช่นบ้านในหมู่บ้านเราสามารถใช้วิธีเดียวกันได้ไหมครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470594#msg1470594) ==> กรณีใช้เศษผักที่ได้จากตลาด (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65928.msg1470595#msg1470595) .. . . . . ปุ๋ยอินทรีย์ วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 (แบบไม่ต้องพลิกกลับกอง) (http://www.youtube.com/watch?v=mhke3N-SHB4#ws) มี Video เรื่องของปุ๋ยแม่โจ้ ที่เห็นภาพและทำตามได้เลย ช่วยกันนำไปเผยแพร่ด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:00:32 AM - กองปุ๋ยจากฟางข้าวและขี้วัว วันที่ 1
(http://image.ohozaa.com/i/d13/mnOUh.jpg) - กองปุ๋ยกองเดียวกันที่อายุ 2 เดือน โดยไม่ต้องพลิกกลับกอง กิจกรรมมีเพียงต้องดูแลความชื้นอย่างดีทั้งภายในภายนอกตลอดเวลา (http://image.ohozaa.com/i/324/AsGiXO.JPG) - พอเฉาะออกมาดู ก็พบว่าฟางข้าวกลายเป็นผงแบบนี้ เสร็จแล้วต้องทิ้งให้แห้ง ให้จุลินทรีย์ในกองปุ๋ยที่กำลังสนุกกับการย่อยเศษพืชสงบตัวเสียก่อน ก่อนที่จะนำไปใช้ (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/DSC01426-1.jpg) นักเรียน ในห้อง (คลิกที่ชื่อจะลิงค์ไปที่บอร์ดการบ้าน) เพื่อให้อาจารย์ตรวจ เพื่อนนักเรียนให้คำปรึกษา แนะนำ ลอกการบ้าน ********************************************************** อนาคต จำนวนการบ้านมีหลายหน้า เพื่อสะดวกต่อการไปตรวจการบ้าน คลิก ที่ชื่อ ไปยัง หน้าแรกของการบ้าน คลิก ที่เลขหน้า ไปยัง หน้านั้นๆ ***********************************************************
================================================ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: กัญจน์ ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:02:14 AM ขอบคุณครับกับความรู้ดีๆที่มาช่วยต่อเติมความฝันของใครหลายคนให้ก้าวเดินสู่หนทางแห่งความมั่นคงที่เราสามารถผลิตปุ๋ยเองไว้ใช้ได้โดยไม่ต้องจ่าย ;) :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:06:20 AM ขอบคุณมากครับ ดีใจที่มีอาจารย์ที่เป็นอาจารย์เกษตรจริงๆ ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนให้ความรู้แก่สมาชิกชาวเกษตรพอเพียง และผู้ที่สนใจทั่วไป เป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะพัฒนาการเกษตรของเราไปได้อย่างถูกต้องและก้าวไกลต่อไป ขอบคุณมากๆเลยครับ ;D ;) - ผมเป็นน้องใหม่ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวนะครับ ทำอะไรผิดพลาดไปก็ขอช่วยแนะนำครับ - ผมเองรู้สึกดีใจที่มีเว็บดี ๆ และเห็นสมาชิกมีความช่วยเหลือกัน เป็นปลื้มครับกับเรื่องดี ๆ สิ่งที่สมาชิกได้ทำกันมันหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของสมาชิกและเกษตรกรในอนาคต ผมอยากช่วยและเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่ครับ คำถามประจำห้องเรียน *** วันนี้มีโจทย์มาถามครับ หลังจากที่เรียนมา 20 วัน ว่าสองรูปนี้เป็นวิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องอย่างไร (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1496687#msg1496687) คำตอบจาก ==> ปากแดงดอทคอม (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1496704#msg1496704) ==> thepunyapat (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1496717#msg1496717) ==> konthain(นพ) (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1496893#msg1496893) ==> Gnoy (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1496906#msg1496906) ==> nongparei (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1497020#msg1497020) ==> patcha.c (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1497200#msg1497200) - เฉลยข้อสอบครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1497609#msg1497609) *** โจทย์มีอยู่ว่า ........ นายก (อ่านว่านาย ก.) มีลำไยขึ้นราตามในรูป 10 ตัน ต้องการทำเป็นปุ๋ยหมัก เราจะแนะนำนายกอย่างไรดี (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1499366#msg1499366) คำตอบจาก ==> Gnoy (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1499883#msg1499883) ==> spyman (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1500058#msg1500058) ==> Gnoy (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1500355#msg1500355) ==> ดวงพร (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1500390#msg1500390) ==> konthain(นพ) (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1500581#msg1500581) - เฉลยนะครับ (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=66750.0.msg1501111#msg1501111) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: เอ ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:11:39 AM สวัสดีครับอาจารย์ tera
ผมปลูกยางพาราไปเมื่อวันที่8นี้เองครับและผมได้หว่านถั่วมะแฮะทั่วทั้งแปลงยางด้วย ผมมีความคิดอย่างนี้ครับ เมือต้นถั่วมะแฮะโตและมีใบเยอะแล้วผมตั้งใจว่าจะขุดหลุมรอบต้นยางห่างประมาณ 2ฟุตแล้วสับใบถั่วมะแฮะลงหลุมแล้วราดด้วยน้ำหมักแล้วเอาดินกลบเลย อาจารย์มีความเห็นอย่างไรครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:17:05 AM - การผลิตปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้ เกษตรกรสามารถนำไปผลิตได้ครั้งละมาก ๆ กองนึงอาจยาวได้ถึง 100 เมตรก็ได้ถ้าอยากทำ
- กรมวิชาการเกษตรแนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 300 กิโลถึง 3,000 กิโลต่อไร่ ใช้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน - โดยเฉลี่ยสำหรับเกษตรกรที่ทำอินทรีย์ เขาใช้ 1 ตันต่อไร่ ซึ่งหมายความว่าหากเรามีที่ดินทำกิน 30 ไร่ ก็ต้องใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ 30 ตันทุกปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับการผลิตปุ๋ยอินทรีย์วิธีเดิม ๆ ที่ต้องพลิกกลับกอง - เราจึงพบว่า ทุกคนอยากซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของคนอื่นใช้ กระสอบหนึ่งอาจสูงถึง 350 บาท โดยไม่ทราบว่าคุณภาพจริง ๆ ดีหรือไม่ รู้แต่ว่าใช้แล้วได้ผลดี - เหตุที่ใช้แล้วได้ผลดีเป็นเพราะ จุลินทรีย์ในดินที่เป็นประโยชน์ได้สารอาหารจากอินทรีย์วัตถุที่เราเติมลงไป ก็จะเจริญเติบโตขยายจำนวนมากขึ้นแล้วไปแย่งอาหารจากจุลินทรีย์ที่เป็นโชื้อโรคในดิน - ปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ (เป็นอันเดียวกัน) มีคุณสมบัติช่วยลดการเป็นกรดจัดและด่างจัดของดิน ช่วยให้พีเอชดินเป็นกลางซึ่งเป็นสภาพที่พืชต้องการ - ในสภาพดินเป็นกรด เชื้อราโรครากเน่าชอบมาก รวมทั้งแอนแทรกโนส เกษตรกรจึงประสบปัญหาการระบาดของโรคเสมอ และความเป็นกรดยังละลายเอาอะลูมิเนียมออกมาจากดินและซึมเข้ารากพืช ทำให้พืชไม่แข็งแรง เป็นโรคง่าย เกษตรกรต้องไปซื้อยาเคมีมาฉีดพ่นอีก เปลืองเงิน เพื่มต้นทุน - ปุ๋ยอินทรีย์ที่เราผลิตเอง หากต้องการเพิ่มคุณค่าเข้าไปอีก ก็สามารถทำได้โดยเติมปุ๋ยเคมีในช่วงก่อนบรรจุกระสอบ รวมทั้งโดโลไมท์ หรือหินฟอสเฟต รวมทั้งน้ำหมักชีวภาพจาก พด 2 และ พด 3 หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: daecha1121 ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:18:24 AM ขอบคุณมากครับอาจารย์ที่มีความรู้ดีๆมาบอกกันผมหวังว่าชาวเกษตรพอเพียงจะได้รับความคำแนะนำความรู้ดีๆจากอาจารย์อีกนะครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:23:06 AM สวัสดีครับอาจารย์ tera ผมปลูกยางพาราไปเมื่อวันที่8นี้เองครับและผมได้หว่านถั่วมะแฮะทั่วทั้งแปลงยางด้วย ผมมีความคิดอย่างนี้ครับ เมือต้นถั่วมะแฮะโตและมีใบเยอะแล้วผมตั้งใจว่าจะขุดหลุมรอบต้นยางห่างประมาณ 2ฟุตแล้วสับใบถั่วมะแฮะแล้วราดด้วยน้ำหมักแล้วเอาดินกลบเลย อาจารย์มีความเห็นอย่างไรครับ ขอบคุณครับ - ฝังกลบถั่วอย่างเดียวก็เยี่ยมแล้วครับ เมื่อรากเขายื่นไปถึงก็จะได้ใช้ประโยชน์ได้ครับ น้ำหมักไม่ต้องครับเพราะเดี๋ยวดินบริเวณนั้นกลายเป็นกรดก็จะยิ่งแย่ ยกเว้นเป็นการราดแบบเจือจาง 200 เท่าจนไม่เป็นกรดครับผม - ผมคิดว่าการขุดหลุมให้กว้างและลึก จะทำให้ยางโตได้ดีเพราะรากระยะแรกจะได้ไม่ต้องทำงานมาก รวมทั้งการรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ที่แห้งและดินกลบหลุมที่ผสมปุ๋ยอินทรีย์ 10 ต่อ 1 (ดิน 10 ปุ๋ยอินทรีย์ 1 โดยปริมาตร) ก็จะทำให้ต้นยางเจริญเติบโตได้ดีครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:26:14 AM ขอบคุณมากครับ ดีใจที่มีอาจารย์ที่เป็นอาจารย์เกษตรจริงๆ ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนให้ความรู้แก่สมาชิกชาวเกษตรพอเพียง - ผมเป็นน้องใหม่ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวนะครับ ทำอะไรผิดพลาดไปก็ขอช่วยแนะนำครับและผู้ที่สนใจทั่วไป เป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะพัฒนาการเกษตรของเราไปได้อย่างถูกต้องและก้าวไกลต่อไป ขอบคุณมากๆเลยครับ ;D ;) - ผมเองรู้สึกดีใจที่มีเว็บดี ๆ และเห็นสมาชิกมีความช่วยเหลือกัน เป็นปลื้มครับกับเรื่องดี ๆ สิ่งที่สามชิกได้ทำกันมันหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของสมาชิกและเกษตรกรในอนาคต ผมอยากช่วยและเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่ครับ ขอบคุณ อาจารย์มากๆค่ะที่มาแนะนำการทำปุ๋ยอินทรีย์แบบใหม่ น่าสนใจมากค่ะดวงพรก็หมักปุ๋ยปีนึงหลายตันใช้ค่ะ ได้วิธีใหม่อีกแบบจากอาจารย์ ถ่ายทอดความรู้เสร็จขออนุญาตอาจารย์ ย้าย ความรู้นี้เข้าคลังความรู้นะคะ เพราะกระทู้ในเวปเราจะตกเร็วมาก ขอบคุณที่มาร่วมด้วยช่วยกันจริงๆค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: spyman ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:32:31 AM เข้ามารออ่านครับ
กำลังจะทำปุ๋ยหมักพอดีเลยครับ จะได้ลองวิธีใหม่เลยครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:36:52 AM - ทฤษฎีของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ก็คือ ต้องมีสภาวะที่เหมาะสมกับการทำงานของจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยให้มากที่สุด เพื่อให้การย่อยสลายแล้วเสร็จเร็วที่สุด
- จุลินทรีย์ต้องการอากาศในการทำงานเพราะเป็นกลุ่มใช้ออกซิเจน เพราะฉะนั้นการทำปุ๋ยอินทรีย์วิธีทั่วไปจึงต้องพลิกกลับกองเพื่อนำอากาศให้กับจุลินทรีย์นั่นเอง (ดังนั้น การนำผ้าไปคลุมกองปุ๋ยก็ผิด การเหยียบกองปุ๋ยให้แน่นก็ผิด และการเอาดินไปคลุมด้านบนก็ผิดครับผม) - แล้วจุลินทรีย์จะเอามาจากไหน? กรมพัฒนาที่ดินเขาจึงผลิตจุลินทรีย์ใส่ซอง เรียกว่าสารเร่ง พด 1 (พด 2 ใช้ทำน้ำหมักชีวภาพ พด 3 ใช้เติมในปุ๋ยอินทรีย์เพื่อให้มีจุลินทรีย์ที่ไปทำลายโรคเชื้อราในดิน คล้าย ๆ กับการเติมไตรโคเดอร์มาลงในปุ๋ยอินทรีย์ก่อนใช้) แล้วแจกเกษตรกรทั่วประเทศ ไปขอได้ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดครับ และในมูลสัตว์ทุกชนิดก็มีจุลินทรีย์ด้วย การทำปุ๋ยอินทรีย์บางวิธีก็ไปเอาจุลินทรีย์ขุยไผ่ในป่า (แต่ถ้าจะทำปุ๋ยอินทรีย์ครั้งละ 30 ตัน แล้วจะไปหาขุยไผ่ที่ไหนถึงจะพอ) - มีเศษพืชแล้ว มีจุลินทรีย์แล้ว ก็น่าจะเริ่มกิจกรรมการย่อยสลายได้ แต่............ถ้าไม่มีความชื้นจุลินทรีย์ก็ทำงานไม่ได้ เพราะฉะนั้น ใครขี้เกียจดูแลความชื้นกองปุ๋ย การเป็นปุ๋ยก็จะแล้วเสร็จช้ามาก ๆ ๆ ๆ หรือไม่เสร็จเลย ใบไม้ก็เป็นใบไม้เหมือนเดิม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:48:13 AM - พอมีจุลินทรีย์ มีเศษพืช มีอากาศ มีความชื้น จุลินทรีย์ก็จะเริ่มทำงานย่อยสลายเศษพืชและคายความร้อนออกมา ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้ก็จะมีคุณภาพห่วย ๆ
- อ้าว ... ไหงเป็นงั้น แล้วถ้าจะให้มีคุณภาพดี ๆ จะทำอย่างไง? - คืองี้ครับ จุลินทรีย์เมื่อเริ่มย่อยสลาย เขาต้องการธาตุคาร์บอนและไนโตรเจนไปในการสร้งเซลล์และเจริญเติบโต โชคดีที่ในเศษพืชมีคาร์บอนอยู่แล้ว (บางสูตรเลยต้องไปซื้อรำข้าวมาใส่) เราเลยไม่ต้องไปหาซื้อคาร์บอน ส่วนไนโตรเจนมีในปุ๋ยยูเรีย มีในกากน้ำตาล และมีในมูลสัตว์ ถ้าเราหาสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างเศษพืชและไนโตรเจนได้ จุลินทรีย์ก็สามารถย่อยสลายเศษพืชได้สมบูรณ์ ปุ๋ยอินทรีย์ก็จะมีคุณภาพดีตามมาตรฐาน ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมสูตรของ พด ต้องใส่ปุ๋ยยูเรียด้วย และบางสูตรต้องใส่กากน้ำตาลด้วย - ผมเลยใช้มูลสัตว์เป็นแหล่งทั้งจุลินทรีย์และไนโตรเจนครับ และวิจัยออกมาได้ว่า ถ้าเป็นเศษใบไม้ก็ใช้ใบไม้ 3 ส่วนกับมูลสัตว์ (ขี้วัว ขี้หมู ขี้ไก่ ขี้ช้าง อะไรก็ได้ ยกเว้นที่ออกมาจากบ่อไบโอแก๊ซ) อีก 1 ส่วนโดยปริมาตร และถ้าเป็นฟางข้าว เศษข้าวโพด ก็ใช้ 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร อย่างเช่น ถ้ามีเศษใบไม้ 300 เข่ง ก็ต้องใช้มูลสัตว์ 100 เข่ง เป็นต้น ซึ่งมากกว่าวิธีของ พด นิดหน่อย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: maprang ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:59:57 AM มาลงชื่อเข้าชมครับ..เพื่อศึกษาหาความรู้ในด้านนี้ครับ.. ;D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: testcha ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 12:17:58 PM มารอดูวิธีการ อีกคนครับ .....
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 12:21:40 PM - เมื่อมีเศษพืช มีจุลินทรีย์ มีคาร์บอน มีไนโตรเจน และมีความชื้น จุลินทรีย์ก็จะเริ่มการย่อยสลายและคายความร้อนออกมา และถ้าเราทำกองปุ๋ยให้สูงพอ ประมาณ 1.5 เมตร กองปุ๋ยสูงขนาดนี้จะสะสมความร้อนไว้ในกองปุ๋ยได้ดี ความร้อนในกองปุ๋ยบางครั้งขึ้นสูงถึง 70 องศา แต่ปรากฏว่าจุลินทรีย์ที่มาจากมูลสัตว์ชอบครับ ดันไม่ตาย แต่กลับย่อยได้เก่งเสียนี่ จุลินทรีย์กลุ่มนี้เรียกว่า Thermophiles และ Mesophiles (ลองค้นดูในกูเกิ้ลก็ได้นะครับ ค้นคำว่า Thermophiles in composting - compost แปลว่าปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ครับ ส่วน composting แปลว่าการทำปุ๋ยหมักครับ)
- ดีล่ะ ..... ในเมื่อมีความร้อนสะสมในกองปุ๋ย ผมเลยอาศัยหลักการทางวิชาการที่เรียกว่าการพาความร้อน มาช่วยให้เกิดการไหลของอากาศเข้าไปในกองปุ๋ยเองครับ หลักการพาความร้อน (Chimney Convection) กล่าวว่า เมื่ออากาศร้อนลอยตัวสูงขึ้น (ตามธรรมชาติแล้ว ความร้อนจะลอยตัวสูงขึ้นไปเอง) อากาศเย็นจะไหลเข้ามาแทนที่ ผมเลยกำหนดให้กองปุ๋ยมีรูปสามเหลี่ยมสูง 1.5 เมตรเพื่อให้กองปุ๋ยร้อน เมื่อกองปุ๋ยร้อน อากาศร้อนจะลอยตัวสูงขึ้นและอากาศเย็นกว่าที่อยู่ข้างนอกจะไหลเข้าไปในกองปุ๋ยแทนที่ ก็เลยกลายเป็นว่าตราบใดที่กองปุ๋ยร้อน เราจะมีการเติมอากาศเข้าในกองปุ๋ยแบบตามธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา เราเลยไม่ต้องพลิกกองปุ๋ยเลย - แล้วทำไมต้องเป็นสามเหลี่ยม ทำไมไม่เป็นสี่เหลี่ยม? คำตอบคือ ถ้าเป็นสี่เหลี่ยม เวลาอากาศร้อนลอยตัวสูงขึ้น อากาศเย็นจะไหลเข้ากองปุ๋ยแล้วลัดวงจรลอยขึ้นไปข้างบนโดยไม่ไหลเข้ามาข้างในกองปุ๋ย จุลินทรีย์ก็เลยจะไม่ได้อากาศสำหรับการย่อยสลาย - ดังนั้น เราสามารถทำกองปุ๋ยเป็นรูปสามเหลี่ยม สูง 1.5 เมตร ฐานกว้างสัก 2.5 เมตร ความยาวทำได้ไม่จำกัดเพราะความยาวไม่เกี่ยวกับกิจกรรมการย่อยสลาย เราอาจทำกองยาว 10 เมตร หรือ 100 เมตร หรือ 1,000 เมตรก็ได้ แบบที่จังหวัดลำพูนกำลังทำอยู่ http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=120329160233 - ทุก ๆ ความยาว 4 เมตร เมื่อครบสองเดือนจะได้ปุ๋ยอินทรีย์ 1 ตัน - ทุก 4 เมตรจะใช้มูลสัตว์ประมาณ 30 กระสอบ สมมติว่ากระสอบละ 30 บาท ก็จะเป็นต้นทุนการผลิตตันละ 900 บาท (ไม่คิดค่าแรง ซึ่งมีค่าแรงเฉพาะตอนขึ้นกองปุ๋ยกับล้มกองและใส่กระสอบ) แต่ถ้าเราไปซื้อของบริษัท เราอาจต้องจ่ายสูงถึงตันละ 7 พันบาททีเดียว หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 12:37:03 PM - แล้วอย่าลืมนะครับ หัวใจของการทำปุ๋ยอินทรีย์คือต้องรักษาความชื้นในและนอกกองปุ๋ยให้มีอยู่เสมอ อย่าให้บริเวณใดแห้ง
- การทำปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้เลยสามารถนำไปทำได้ในนา ในสวน ในแปลงเพาะปลูก (แต่ต้องอยู่ใกล้น้ำนะครับ) เพราะไม่ได้ใช้ไฟฟ้า ไม่ได้ใช้ท่อ จะได้ไม่ต้องขนวัสดุไปมา เปลืองเชื้อเพลิงอีก (ในสวนไม้ผลให้ทำนอกทรงพุ่มนะครับ ไม่งั้นต้นไม้จะตายจากความร้อนและความเค็มของปุ๋ย (ผมเคยทำต้นสักชาวบ้านตายมาแล้วครับ แฮ่ะ ๆ) - พื้นก็ไม่ต้องเทคอนกรีต หลังคาก็ไม่ต้องมี ตากแดดตากฝน วางบนดินไว้อย่างนั้นแหล่ะครับ สุด ๆ ของความพอเพียงครับ ลืมคำว่าโรงปุ๋ยที่ต้องมีคอก มีพื้นคอนกรีตได้เลย - แต่มันก็มีปัญหาบ้างนะครับ - ปัญหานั้นก็คือ เวลาเรารดน้ำกองปุ๋ย น้ำจะชุ่มแค่ผิว หนาสักคืบนึงเท่านั้น น้ำจะไม่ยอมซึมลงข้างล่าง :-\ - ขนาดที่ว่า ฝนที่ตกลงมาแถวภาคใต้ น้ำยังไม่ซึมลงไปเลยครับ (นี่แปลว่าเราสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในหน้าฝนได้ด้วย ไชโย......! :D) - ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เนื้อปุ๋ยในกองปุ๋ยมีคุณสมบัติที่เรียกว่า Field Capacity คล้ายกับอินทรีย์วัตถุในดินที่จะซับน้ำไว้กับตัว ไม่ยอมให้น้ำซึมลงข้างล่างง่าย ๆ (ทีนี้ทราบแล้วนะครับ ที่เขาสอนว่าดินที่อุดมสมบูรณ์ มีอินทรีย์วัตถุ จะช่วยซับน้ำซับแร่ธาตุ - สำหรับการซับแร่ธาตุนั้น ปุ๋ยอินทรีย์หรืออินทรีย์วัตถุจะมีคุณสมบัติที่ชอบจับประจุของแร่ธาตุไว้ด้วย ดังนั้น การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์จึงพบเสมอว่าเราสามารถใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณน้อย ๆ ได้ หรือเรียกว่าเป็นการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: MR.Kasetsart ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 12:40:26 PM อาจารย์ครับ ขอวิธีการทำเป็นขั้นตอนและการดูแลกองปุ๋ยตลอด 2 เดือนด้วยนะครับ ผมถือว่าเป็น
นวัตกรรมใหม่ในการผลิตปุ๋ยอินทรย์มีคุณค่าควรต่อการเผยแพร่เป็นอย่างยิ่งครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 12:44:59 PM - การทำปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้ แม่โจ้ตั้งชื่อว่าวิธี "วิศวกรรมแม่โจ้ 1" ครับผม
- วิธีการขึ้นกองปุ๋ยนะครับ 1. นำเศษข้าวโพดหรือฟางข้าว 4 ส่วนกับมูลสัตว์ 1 ส่วนโดยปริมาตร (ถ้าเป็นเศษใบไม้ให้ใช้อัตราส่วน 3 ต่อ 1 โดยปริมาตร) วางเป็นชั้นบาง ๆ สูงไม่เกิน 10 เซนติเมตร จำนวน 15 - 17 ชั้น รดน้ำแต่ละชั้นให้มีความชื้น ขึ้นกองเป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 1.50 เมตร ฐานกว้าง 2.5 เมตร ส่วนความยาวของกองจะยาวเท่าไรก็ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณเศษพืชและมูลสัตว์ที่มี ความสำคัญของการที่ต้องทำเป็นชั้นบาง ๆ 15 - 17 ชั้นก็เพื่อให้จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในมูลสัตว์ได้ใช้ทั้งธาตุคาร์บอน (มีอยู่ในเศษพืช) และธาตุไนโตรเจน (มีในมูลสัตว์) ในการเจริญเติบโตและสร้างเซลล์ของจุลินทรีย์ ซึ่งจะทำให้การย่อยสลายวัตถุดิบเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว 2. รักษาความชื้นภายในกองปุ๋ยให้มีความเหมาะสมอยู่เสมอตลอดเวลา (มีค่าประมาณร้อยละ 60 – 70) โดยมี 2 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 รดน้ำภายนอกกองปุ๋ยทุกเช้า (ถ้าฝนตกก็ให้งดขั้นตอนนี้) ขั้นตอนที่ 2 ใช้ไม้แทงกองปุ๋ยให้เป็นรูลึกถึงข้างล่างแล้วกรอกน้ำลงไป ระยะห่างของรูประมาณ 40 เซนติเมตร ทำขั้นตอนที่สองนี้ 5 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน 10 วัน เมื่อเติมน้ำเสร็จแล้วให้ปิดรูเพื่อไม่ให้สูญเสียความร้อนภายในกองปุ๋ย ขั้นตอนที่สองนี้แม้ว่าอยู่ในช่วงของฤดูฝนก็ยังต้องทำ เพราะน้ำฝนจะไม่สามารถไหลซึมเข้าไปในกองปุ๋ยได้ การที่ฝนไม่สามารถชะล้างเข้าไปในกองปุ๋ยได้เกษตรกรจึงสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีนี้ในฤดูฝนได้ด้วย ภายในเวลา 5 วันแรก กองปุ๋ยจะมีค่าอุณหภูมิสูงขึ้นมาก บางครั้งสูงถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับกองปุ๋ยที่ทำได้ถูกวิธี ความร้อนสูงนี้เกิดจากกิจกรรมการย่อยสลายของจุลินทรีย์ (จุลินทรีย์มีมากมายและหลากหลายในมูลสัตว์อยู่แล้ว) และความร้อนสูงนี้ยังเป็นสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมกับการทำงานของจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยอีกด้วย หลังจากนั้นอุณหภูมิจะค่อย ๆ ลดลงจนมีค่าอุณหภูมิปกติที่อายุ 60 วัน 3. เมื่อกองปุ๋ยมีอายุครบ 60 วัน ก็หยุดให้ความชื้น กองปุ๋ยจะมีความสูงเหลือเพียง 1 เมตร แล้วทำปุ๋ยอินทรีย์ให้แห้งเพื่อให้จุลินทรีย์สงบตัวและไม่ให้เป็นอันตรายต่อรากพืช วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ให้แห้งอาจทำโดยทิ้งไว้ในกองเฉยๆ ประมาณ 1 เดือน หรืออาจแผ่กระจายให้มีความหนาประมาณ 20 – 30 ซม. แล้วเกลี่ยไปมา ซึ่งจะแห้งภายในเวลา 3 – 4 วัน สำหรับผู้ที่ต้องการจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ก็อาจนำปุ๋ยอินทรีย์ที่แห้งแล้วไปตีป่นให้มีขนาดเล็กสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 4-7 บาท กองปุ๋ยที่สูง 1.5 เมตรจะสามารถเก็บกักความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาการย่อยสลายของจุลินทรีย์เอาไว้ในกองปุ๋ย ความร้อนนี้นอกจากจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับจุลินทรีย์ชนิดชอบความร้อนสูงที่มีในมูลสัตว์แล้ว เมื่อความร้อนนี้ลอยตัวสูงขึ้นจะทำให้อากาศภายนอกที่เย็นกว่าไหลเข้าไปในภายในกองปุ๋ย ซึ่งเกิดจากการพาความร้อนแบบ Chimney Convection อากาศภายนอกที่ไหลหมุนเวียนเข้ากองปุ๋ยนี้ช่วยทำให้เกิดสภาวะการย่อยสลายของจุลินทรีย์แบบใช้อากาศ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 12:50:12 PM - อย่าลืมนะครับ ...... หัวใจสำคัญของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีนี้ คือ ต้องรักษาความชื้นภายในกองปุ๋ยให้มีความเหมาะสมอยู่เสมอตลอดเวลาทั้งภายในและภายนอกกองปุ๋ยด้วยวิธีการ 2 ขั้นตอนข้างต้น บริเวณใดที่แห้งเกินไปจุลินทรีย์จะไม่สามารถมีกิจกรรมการย่อยสลายได้ ทำให้วัสดุจะไม่มีการย่อยสลาย กระบวนการอาจใช้เวลานานถึง 6 เดือนถึง 1 ปีก็ได้
- ข้อห้ามของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์วิธี “วิศวกรรมแม่โจ้ 1” 1. ห้ามขึ้นเหยียบกองปุ๋ยให้แน่น หรือเอาผ้าคลุมกองปุ๋ย หรือเอาดินปกคลุมด้านบนกองปุ๋ย เพราะจะทำให้อากาศไม่สามารถไหลถ่ายเทได้ 2. ห้ามละเลยการดูแลความชื้นทั้ง 2 ขั้นตอน เพราะถ้ากองปุ๋ยแห้งเกินไปจะทำให้ระยะเวลาแล้วเสร็จนานและปุ๋ยอินทรีย์มีคุณภาพต่ำ 3. ห้ามวางเศษพืชเป็นชั้นหนาเกินไป การวางเศษพืชเป็นชั้นหนาเกินไปจะทำให้จุลินทรีย์ที่มีในมูลสัตว์ไม่สามารถเข้าไปย่อยสลายเศษพืชได้ 4. ห้ามทำกองปุ๋ยใต้ต้นไม้ เพราะความร้อนของกองปุ๋ยอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ 5. ห้ามระบายความร้อนออกจากกองปุ๋ย เพราะความร้อนสูงในกองปุ๋ยจะช่วยให้จุลินทรีย์ทำงานได้ดีมากขึ้น และยังช่วยให้เกิดการไหลเวียนของอากาศผ่านกองปุ๋ยอีกด้วย - เพราะฉะนั้น ใครที่เอาท่อหรือไม่ไผ่เจาะรูมาเสียบกองปุ๋ยแนวดิ่ง แนวนอน ก็ผิดแล้วครับ เพราะที่หวังว่าจะได้อากาศไหลเข้ากองปุ๋ย แต่จะกลายเป็นว่าความร้อนหนีไปจากกองปุ๋ยเสียนี่ พอกองปุ๋ยเย็นจุลินทรีย์ก็เลยทำงานไม่ดี การไหลของอากาศเข้ากองปุ๋ยก็เลยไม่ได้ด้วย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 01:00:43 PM - แถมใครที่มีโรงปุ๋ย มีคอกซีเมนบล็อค ก็ผิดอีกครับ เพราะพออากาศร้อนลอยสูงขึ้น อากาศเย็นด้านข้างจะไหลเข้าแต่เข้าไม่ได้เพราะติดผนังบล็อค จุลินทรีย์ก็เลยไม่ได้อากาศสำหรับการย่อยสลาย
- ใครที่คิดขุดหลุมทำปุ๋ยก็ผิดครับ เพราะอากาศไหลเข้าด้านข้างไม่ได้ แถมพอฝนตกน้ำไปขังในหลุมจะเกิดกลิ่นเหม็นเน่า - วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 เป็นเงื่อนไขการย่อยสลายแบบใช้อากาศ จึงไม่มีทางจะมีกลิ่นเหม็นจากแอมโมเนียหรือแก๊ซไข่เน่า ไม่มีทางที่จะมีแก๊ซมีเทน ไม่มีทางจะเกิดน้ำเสีย หรือดึงดูดแมลงวัน ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จะมีค่าพีเอชเป็นกลางหรือเป็นด่างอ่อน ๆ พีเอชประมาณ 7-8 ที่เหมาะกับการใช้ของพืช และกระบวนการใช้เวลาสั้นกว่าแบบไม่ใช้อากาศมาก - การย่อยสลายแบบไม่ใช้อากาศ (ทำน้ำหมัก ทำบ่อไบโอแก๊ซ หรือทำปุ๋ยหมักแต่เอาผ้าคลุม) เราจะได้กลิ่นแก๊ซไข่เน่าเสมอ มีกลิ่นแอมโมเนีย ได้แก๊ซมีเทน มีน้ำเสียเกิดขึ้น ดึงดูดแมลงวัน ผลิตผลจะมีความเป็นกรด พีเอชประมาณ 3-4 (เพราะฉะนั้น เวลานำน้ำหมักชีวภาพไปใช้เราจึงต้องเจือจาง 200 เท่าก่อนใช้ ในขณะที่การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ไม่ต้องเจือจาง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่ไม่มากเพราะถ้าใช้มากไป ความเป็นปุ๋ยจะทำให้ต้นไม้ตายได้) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 01:14:37 PM - ฐานกว้าง 2.5 เมตร เอาฟางข้าว 4 เข่งมาวางบาง ๆ ให้หนาสัก 10 เซนติเมตร (ฟางใช้เส้นยาว ๆ ได้เลยไม่ต้องสับ ใช้ฟางจากการเพาะเห็ดยิ่งหมูครับ)
(http://image.ohozaa.com/i/3b1/55NXWp.jpg) - เอามูลสัตว์ 1 เข่ง (1 เข่งเท่ากับประมาณ 2 กระสอบ) มาเกลี่ยให้ทั่วฟาง (อย่าเหยียบกองปุ๋ย) แล้วรดน้ำให้ชุ่ม (http://image.ohozaa.com/i/478/7au3OH.jpg) - ทำชั้นที่สอง โดยเอาฟางข้าวอีก 4 เข่งมาวางบาง ๆ หนาไม่เกิน 10 เซนติเมตร แล้วเอามูลสัตว์ 1 เข่งมาเกลี่ยให้ทั่วฟาง (เป็น 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร - ใครอยากรู้โดยน้ำหนักให้ไปลองชั่งเอง ฮิฮิ) - ทำไปสัก 15 ถึง 17 ชั้น ในระหว่างที่กองปุ๋ยค่อย ๆ สูงขึ้นก็ทำให้เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายแหลม ถ้าเศษพืชทำท่าจะหนาเกินไปก็ให้ลดสูตร เช่น ใช้ฟาง 2 เข่งมูลสัตว์ครึ่งเข่ง เป็นต้น (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/Picture4_resize_zps7002fb24.jpg) - ถ้าต้องการให้มีความยาวมากขึ้น ก็เพียงแต่ทำซ้ำขั้นตอนไปเรื่อย ๆ (http://image.ohozaa.com/i/2cc/KvBreW.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 01:23:45 PM - ภายในเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากขึ้นกองปุ๋ย จุลินทรีย์จะทำงานแล้วคายความร้อนออกมา ความสูงของกองปุ๋ย 1.5 เมตรจะทำให้สะสมความร้อนเอาไว้ได้ดี จนเกิดเป็นความร้อนในกองปุ๋ยที่ลอยออกมาจากกองปุ๋ย ที่ภาคเหนือหน้าหนาวหรือหน้าฝนช่วงเช้า ๆ จะเห็นเป็นไอสีขาวลอยออกมาจากกองปุ๋ย ในรูปสังเกตนะครับว่ากองปุ๋ยเป็นรูปสามเหลี่ยม กองนี้ทำจากเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับขี้ไก่ครับ (ทำบนดินในแปลงเพาะปลูก) ที่นี่เป็นของฟาร์มไก่ เคยขายขี้ไก่กิโลละ 0.25 บาท เลยเพิ่มมูลค่าโดยไปเอาเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาฟรี ๆ (เขาจะเผาทิ้งอยู่แล้ว) มาเข้ากระบวนการกับขี้ไก่ ฟาร์มนี้อยู่ที่เชียงรายครับผม
- ท่านที่ยืนอยู่คือรองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศของแม่โจ้ครับ (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/19a_zps79bfd845.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 01:57:53 PM - อย่าลืมเอาไปผลิตปุ๋ยในแปลงเพาะปลูกนะครับ ในรูปเป็นโครงการที่แม่โจ้ร่วมมือกับ นสธ.ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 2552 เอาไปช่วยเกษตรกรรอบมหาวิทยาลัยแม่โจ้จำนวน 10 ครัวเรือนผลิตปุ๋ยอินทรีย์ครัวเรือนละ 10 ตัน
- ตอนแรกใจก็กังวลว่าจะโดนโห่จากชาวบ้านหรือเปล่า เพราะเหมือนกับไปใช้ให้เขาทำงานหนัก (ทำปุ๋ยตั้ง 10 ตัน) แต่ปรากฎว่าพอครบหนึ่งปีผลออกมาดีครับ เกษตรกรชอบใจใหญ่ครับ หลายคนเอาไปใช้ในการเพาะปลูก หลายคนเอาไปขายในชุมชน เพื่อนบ้านแอบเอาวิธีไปทำเองบ้าง กลายเป็นทุกซอยทำกันหมด สนุกสนานมาก - โมเดลของโครงการนี้คือ จัดขี้วัวให้เกษตรกรครัวเรือนละ 300 กระสอบ สำหรับผลิตปุ๋ย 10 ตัน ก็ตกครัวเรือนละ 9,000 บาทครับ (มูลค่าของปุ๋ย 10 ตันคือ 4 หมื่นบาทครับ :-[) (http://image.ohozaa.com/i/78e/8hBXK.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/e21/eSllok.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/555/F9F862.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/e1b/7CwqWi.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/32c/x2DSKr.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/a4f/31e34K.JPG) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 02:08:37 PM ขอบคุณครับท่านอาจารย์ tera ผมนั่งอ่านข้อเขียนของท่านอาจารย์แล้วชอบใจมากๆเลยครับ อธิบายได้เข้าใจง่าย
ไม่มีศัพท์วิชาการมากมายให้ชาวบ้านงง ผมว่าอาจารย์น่าจะเขียนหนังสือสักเล่ม(พิมพ์ขาย)นะครับ จะได้ช่วยให้เกษตรกรที่เข้าไม่ถึงข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอย่างพวกผม ได้มีโอกาสรับรู้ด้วยขอบคุณครับ ;D :-[ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: jukgree ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 02:13:51 PM ขอขอบคุณอาจารย์ tera มากครับ ที่ช่วยเหลือเกษตรกรช่วยลดต้นทุนไปเยอะเลยทีเดียวครับ
แต่ผมยังไม่เข้าใจอยู่นิดนึงครับ คำว่า อัตราส่วน 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร หมายความว่ายังไงครับอาจารย์ช่วยขยายความให้ผมเข้าใจหน่อยนะครับ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 02:39:02 PM - ในปี 2554 มีความต้องการปุ๋ยอินทรีย์ของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ มูลนิธิชัยพัฒนา อ.แม่สาย จ.เชียงราย (อีก 5 กิโลเมตรก่อนถึงแม่สาย) จำนวน 30 ตัน เพื่อปรับปรุงดิน 30 ไร่ แม่โจ้เลยติดต่อกลุ่มเกษตรกรที่เป็นเครือข่ายที่บ้านโป่ง ต.โป่งงาม อ.แม่สาย ที่อยู่ใกล้ ๆ ศูนย์ ให้ช่วยผลิตปุ๋ยให้ ในรูปจ้างผลิตกิโลละ 4 บาท (ให้ยืมเงินค่าขี้วัว) ปรากฏว่าสมาชิกกลุ่มไม่ค่อยให้ความสำคัญ ตัวประธานคือพี่ถวิลเลยรับทำเอง ตอนนี้แกส่งปุ๋ยไปให้ศูนย์ครบแล้ว ผลคือรับเงินไปเหนาะ ๆ 120,000 บาท ผมพยายามบีบถามว่าตกลงแกกำไรเท่าไร แกไม่ยอมบอกครับ
- ใครอยากไปเยี่ยมแกก็เชิญนะครับ ไปดูกองปุ๋ยของแก ไปสอบถามที่ อบต.โป่งงาม ใกล้วัดบ้านถ้ำก็ได้ครับ ตอนนี้แกทำปุ๋ยอยู่เรื่อย ๆ และเดินหน้าเรื่องการปลูกผักและข้าวอินทรีย์ครับ ข้าวกล้องของแกอร่อยมากครับ (http://image.ohozaa.com/i/2c5/lJIyig.jpg) - ขอประชาสัมพันธ์นิดนึงว่า ร้านจันกะผักของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ มีสลัดอินทรีย์ ส้มตำ อาหาร กาแฟ และไอสครีมโยเกริ์ต ที่อร่อยมาก ทานเสร็จอยากขอเข้าไปดูงานในศูนย์ก็จะมีประชาสัมพันธ์พาเข้าไปดู ที่นี่เขาผลิตเมล็ดพันธุ์พืชและเก็บไว้ รอเวลาเกิดภัยพิบัติที่เกษตรกรต้องการเมล็ดพันธุ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ก็จะพระราชทานไปให้ครับ การจัดบริเวณที่นี่น่ารัก เรียบง่าย และพอเพียงครับ มีกองปุ๋ยของแม่โจ้ในศูนย์นี้ด้วยครับ (http://image.ohozaa.com/i/ef4/AjItcX.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/2bb/DFn0y.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/7d6/UWSWu.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 02:44:06 PM ขอขอบคุณอาจารย์ tera มากครับ ที่ช่วยเหลือเกษตรกรช่วยลดต้นทุนไปเยอะเลยทีเดียวครับ แต่ผมยังไม่เข้าใจอยู่นิดนึงครับ คำว่า อัตราส่วน 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร หมายความว่ายังไงครับอาจารย์ช่วยขยายความให้ผมเข้าใจหน่อยนะครับ ;D - คือว่า ในการทำปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ต้องมีสัดส่วนผสมใช่ไหมครับ สัดส่วนผสมก็มี 2 แบบ คือ โดยน้ำหนัก และโดยปริมาตร - ถ้าโดยน้ำหนักก็คือ เอาเศษพืชมา 2 ตันกับมูลสัตว์อีก 300 กิโลกรัม (สมมติเฉย ๆ นะครับ) เป็นต้น ซึ่งมีปัญหาว่าเกษตรกรคงไม่มีตาชั่งขนาดนั้น - ถ้าเป็นโดยปริมาตร ก็คือ ถ้ามีเศษพืช 400 เข่งก็ต้องมีมูลสัตว์ 100 เข่งไงครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 02:55:21 PM ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆค่ะ ได้การหมักปุ๋ยแบบไม่กลับกองไปใช้ในสวนยางของตัวเองแล้วค่ะ ฟางวัตถุดิบหาได้ง่ายอยู่ค่ะเพราะที่สวนหมักปุ๋ยทุกปีและจำนวนมากแต่ยังไม่ได้รายละเอียดแบบของ อาจารย์ที่เห็นภาพชัดเจนและทำง่าย
ใช้แกลบในการหมักแบบนี้ได้ด้วยใหมคะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: testcha ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 02:57:14 PM นึกออกแล้วที่บ้านมีใบยางพาราร่วงเยอะมาก กำลังคิดอยู่ว่าจะเอามาทำปุ๋ยแบบนี้ดีกว่า.....
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:01:31 PM ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆค่ะ ได้การหมักปุ๋ยแบบไม่กลับกองไปใช้ในสวนยางของตัวเองแล้วค่ะ ฟางวัตถุดิบหาได้ง่ายอยู่ค่ะเพราะที่สวนหมักปุ๋ยทุกปีและจำนวนมากแต่ยังไม่ได้รายละเอียดแบบของ อาจารย์ที่เห็นภาพชัดเจนและทำง่าย ใช้แกลบในการหมักแบบนี้ได้ด้วยใหมคะ นึกออกแล้วที่บ้านมีใบยางพาราร่วงเยอะมาก กำลังคิดอยู่ว่าจะเอามาทำปุ๋ยแบบนี้ดีกว่า..... สมาชิกท่านใดที่อ่านวิธีการทำจนเข้าใจแล้ว และได้นำไปลงมือปฏิบัติช่วยนำผลการปฏิบัติเอามาลงเป็นข้อมูล ไว้ด้วยนะครับ(กระทู้นี้ก็ได้)จะได้เป็นข้อมูลรวมให้สมาชิกที่สนใจ ได้ติดตามกัน ขอบคุณครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: spyman ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:08:33 PM ทำความเข้าใจว่า(ตามที่ผมเข้าใจ)
วัสดุ คือ ฟาง (เศษพืช) 3 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน วาง ฟาง 10 เซ็น โรยด้วย มูลสัตว์ รดด้วยน้ำ ทำ 16-17 ชั้น เป็นรูป 3 เหลี่ยม ฐาน2.5เมตร สูง 1.5 เมตร รดน้ำทุกวัน หรือ ฝนตกไม่ต้องรด วางไว้กลางแจ้งบนดิน ห้ามไต้ต้นไม้ ไม่ต้องมีหลังคา ไม่ต้องมีอีเอ็ม ไม่ต้องมี พด ไม่ต้องมีน้ำหมัก รอ 2 เดือน นำไปใส่ต้นไม้ได้เลยใช่ไหมครับ อาจารย์ ผมเข้าใจแบบนี้ถูกไหมครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:13:03 PM - มาดูฐานเรียนรู้ของผมนะครับที่แม่โจ้ ทำปุ๋ยทุกวัน ได้ปุ๋ยทุกวัน กองปุ๋ยที่ผลิตแล้วสุม ๆ ไว้ดันมีคนมาขอซื้อ ผมก็เลยขายครับ ขายไปขายมาได้เงินเฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นบาท จากการขาย 100 กระสอบต่อเดือน (กระสอบละ 30 กิโลกรัม ๆ ละ 4 บาท) ก็เลยมีเงินเดือนไปจ้างคนงานได้ 2 คนครับ นี่ถ้าเกษตรกรหรือสมาชิกนำไปผลิตขาย ก็รับรองว่ามีเงินค่าขนมสบาย ๆ ปีนึง ๆ ก็เป็นแสนเชียวนะครับ
- การขายปุ๋ยอินทรีย์ในชุมชนเท่าที่สังเกตจากเครือข่ายนะครับ พบว่าไม่ค่อยมีใครยอมขายเท่าไร พอสอบถาม ก็มักจะได้คำตอบว่าจะเอาเก็บไว้ใช้ในเองดีกว่า ดีกว่าที่จะขายได้เงิน แล้วพอจะใช้เองกลับไม่มีปุ๋ยใช้ ผมก็เลย ... เอ่อ ... แบบว่า ... เออเน๊าะ ผมมัวคิดแบบทุนนิยมนี่เอง ปัญญาเลยแพ้พี่น้องเกษตรกรครับ :) - ฐานเรียนรู้ของผมนี่มีความพอเพียงของแท้ ไม่ต้องเทพื้นคอนกรีต ไม่มีห้องแอร์ ทั้งคนมาเยี่ยมกับอาจารย์ก็เหยียบโคลนไปด้วยกัน แต่กลับเป็นว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ชอบใจ เพราะเหมือนพื้นที่ที่เขามีครับ - พอมีปุ๋ย หญ้าก็เลยงาม ผมก็เลยตัดหญ้าขึ้นกองปุ๋ยเป็นวัตถุดิบซะเลย ผมไม่ค่อยกลัวหรอกครับว่าหญ้าจะไปงอกงามในแปลงเพาะปลูก เพราะถึงเกษตรกรไม่ใส่อะไรเลย หญ้าก็ขึ้นของมันอยู่แล้ว (http://image.ohozaa.com/i/378/ZfKQ1v.jpg) - ถ้ามาเยี่ยม ก็จะพบกองปุ๋ยอายุ 1 อาทิตย์ 2 เดือน ไล่กันไป (http://image.ohozaa.com/i/2a4/OPxiF2.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/2b1/2PoeHO.jpg) - ผู้สนใจจะมาเยี่ยมชม ติดต่อโทร 053 873046 ซึ่งเป็นประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย แล้วบอกเขาว่าต้องการมาดูงานฐานเรียนรู้ปุ๋ยอินทรีย์ เขาก็จะนัดหมายให้ครับ ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็เสร็จ จะมาเป็นหมู่คณะสัก 100-200 คน ก็รับได้ ตากแดดตากฝนไปด้วยกัน สนุกดี - อันที่จริง มาแม่โจ้ทั้งที มาเยี่ยมฐานเรียนรู้อื่นด้วยสิครับ ที่นี่มีฐานไส้เดือน ฐานลำไยต้นเตี้ย ฐานเลี้ยงกุ้งฝอย ฐานเลี้ยงเห็ด ฐานสมุนไพร ฐานผักอินทรีย์ รวมประมาณ 20 กว่าฐานครับ ถ้ามาเป็นหมู่คณะก็จะมีบริการรถพ่วง 80 ที่นั่งพาเที่ยวฐานที่ต้องการ จ่ายแค่น้ำมันเชื้อเพลิงสัก 800-1,000 บาทเท่านั้นครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:19:01 PM ทำความเข้าใจว่า(ตามที่ผมเข้าใจ) วัสดุ คือ ฟาง (เศษพืช) 3 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน วาง ฟาง 10 เซ็น โรยด้วย มูลสัตว์ รดด้วยน้ำ ทำ 16-17 ชั้น เป็นรูป 3 เหลี่ยม ฐาน2.5เมตร สูง 1.5 เมตร รดน้ำทุกวัน หรือ ฝนตกไม่ต้องรด วางไว้กลางแจ้งบนดิน ห้ามไต้ต้นไม้ ไม่ต้องมีหลังคา ไม่ต้องมีอีเอ็ม ไม่ต้องมี พด ไม่ต้องมีน้ำหมัก รอ 2 เดือน นำไปใส่ต้นไม้ได้เลยใช่ไหมครับ อาจารย์ ผมเข้าใจแบบนี้ถูกไหมครับ - ฟาง 4 ส่วนมูลสัตว์ 1 ส่วนครับ (ถ้าเป็นใบไม้ 3 ต่อ 1 ครับผม) และทุก 10 วันให้ใช้ไม้แทงกองปุ๋ยระยะห่างรู 40 เซนติเมตร กรอกน้ำลงไป แล้วปิดรู (ภายในสองเดือนก็จะต้องเจาะอย่างนี้ 5 ครั้งเองครับ) - สาเหตที่ไม่ต้องเติมอีเอ็ม (จุลินทรีย์) ไม่ต้องมี พด (จุลินทรีย์) ไม่ต้องมีน้ำหมัก (จุลินทรีย์และไนโตรเจน) เพราะในมูลสัตว์มีจุลินทรีย์และไนโตรเจนครบอยู่แล้วครับ - ครบสองเดือน ทิ้งให้แห้ง แล้วค่อยนำไปใช้ - ในการใช้นั้น จะได้ประโยชน์เต็มที่ต่อเมื่อปุ๋ยอินทรีย์ลงไปอยู่ใต้ดิน นั่นคือต้องมีการพรวนให้ลงไปเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดินและปรับสภาพดินครับ ไม่ใช่ว่าแค่วางกองบนดินโคนต้นซึ่งธาตุอาหารจะระเหยหายไปได้ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ครูซอส ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:24:23 PM ;D ;D
สวัสดีค่ะอาจารย์ นิสิตคนนี้มาช้ามัวไปปลูกไผ่อยู่ค่ะ .. อย่าเพิ่งหักคะแนนนะคะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:35:02 PM - ขอรุ่นพี่อย่างครูซอสแนะนำด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:50:23 PM - ที่ฐานเรียนรู้ เมื่อครบสองเดือนคนงานก็จะเอาปุ๋ยออกตากแดดให้ปุ๋ยแห้ง จุลินทรีย์จะได้สงบตัว (จุลินทรีย์ตายไปก็ดีแล้ว เพราะเป็นกลุ่มที่เก่งในการย่อยเศษพืช ไม่ใช่เป็นจุลินทรีย์กลุ่มที่เป็นประโยชน์ในดิน ถ้าจุลินทรีย์จากกองปุ๋ยไม่ตาย ขืนเอาไปใช้ เดี๋ยวรากพืชจะหายหมด - อันนี้จริงนะครับ อย่าทำเป็นเล่น เพราะมีเกษตรกรหลายรายเอาปุ๋ยที่ยังไม่แห้งไปใช้ ผลปรากฏว่าพืชเฉาหมดครับ)
- ปุ๋ยที่ได้แมื่อแห้งดี จะกรอบแตกง่าย ไม่มีกลิ่น - หลังจากนั้นเอามาโม่ให้ปุ๋ยมีขนาดเล็กสม่ำเสมอ จะได้ขายได้ง่ายไม่น่าเกลียด - แล้วใส่ในกระสอบมือสอง ผมไปซื้อที่ร้านราคาใบละ 3.50 บาท ไม่ต้องมีตราหรือยี่ห้อ (ค่าจ้างทำกระสอบที่มีตราตกใบละตั้ง 7-8 บาท) ก็ในเมื่อไม่มีตราแล้วยังมีคนมาซื้อซ้ำ ก็แสดงว่าเขาไม่สนเรื่องยี่ห้อ แล้วจะทำยี่ห้อไปทำไม - กระสอบบรรจุ 30 กิโลกรัม ราคา 120 บาท ห้ามสมาชิกไปเยี่ยมและขอซื้อนะครับ ทุกวันนี้คิวจองค่อนข้างแน่น - สังเกตว่า ทุกปีจะมียอดจองมากในช่วงก่อนฤดูฝน และน้อยลงเมื่อฝนลงแล้วครับ - ผมไม่แนะนำให้อัดเม็ด หรือปั้นเม็ดครับ เพราะเมื่อเราทดลองเอาไปแช่น้ำ จะพบว่าเม็ดปุ๋ยไม่ละลายน้ำครับ ถ้าปุ๋ยไม่ละลายน้ำแล้วเมื่อนำไปใช้ แล้วเมื่อไรพืชของเราจะได้ใช้ครับ ???? - ถ้าเราผลิตเพื่อใช้เอง ก็ขอให้ใช้อย่างหยาบ ๆ (ที่แห้งดีแล้ว) ไม่ต้องโม่นะครับ จะได้ไม่เปลืองเวลาและแรงงาน (http://image.ohozaa.com/i/595/LmTJN.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/2fe/NM8DK2.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 03:57:53 PM - ปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำเสร็จ เมื่อแห้งดีแล้ว อย่าเอาไปปลูกไม้ในกระถางล้วน ๆ นะครับ พืชจะตายหมดเพราะเข้มข้นมากไป
- ที่ฐานเรียนรู้ ผมต้องคอยบอกลูกค้าว่าไม่ใช่ดินพร้อมปลูก แต่เป็นหัวปุ๋ยเข้มข้นครับ - พี่สมาน ทัดเที่ยง ที่เชียงใหม่ ท่านเรียกปุ๋ยอินทรีย์ของแม่โจ้เสียใหม่ เป็นปุ๋ยบริสุทธิ์ครับ ผมงี้อายจัง http://www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=120419164306 หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 04:09:07 PM - มาดูกองปุ๋ยยาวที่สุดในโลก ยาว 1 กิโลเมตรของจังหวัดลำพูนนะครับ เป็นโครงการต่อสู้กับปัญหาหมอกควันพิษจากการเผา ด้วยวิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 ครับ อยู่ที่อำเภอลี้ ลำพูนครับ
- วัตถุดิบเป็นเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับขี้วัวครับ วันที่ 22 พค.นี้ ทีมวิศวกรของแม่โจ้จะลงไปเยี่ยมดูและอาจปรับแก้ถ้าจำเป็นครับ (http://image.ohozaa.com/i/c40/2e32C3.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUswmrb7HXf3Lxi) (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/IMG_0658a_zps3ad2f791.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/2a3/f1aDm.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: eight ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 04:32:07 PM ขอบคุณมากเลยครับ....
ฟางข้าว 1 มัดข้างบ้านราคา 25 บาท เมื่อเช้าไปซื้อ คนขายบอกว่าไปแล้วประมาณ 200 มัด ขายดีจริง ๆ คุ้มครับ.... ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tumfum ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 04:43:27 PM ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะสำหรับความรู้และรายละเอียดสุดยอด
วันหลังจะขอไปชมแปลงสาธิตที่แม่โจ้นะคะ เอ่อ อาจารย์คะ ถ้าครบ 2 เดือนและทิ้งให้ปุ๋ยแห้งแล้ว เรายังไม่ใช้สามารถวางทิ้งต่อไปได้เรื่อยๆไหมคะ ถ้าได้จะทิ้งไว้ได้นานแค่ไหน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 04:51:13 PM ถ้าครบ 2 เดือนและทิ้งให้ปุ๋ยแห้งแล้ว เรายังไม่ใช้สามารถวางทิ้งต่อไปได้เรื่อยๆไหมคะ ถ้าได้จะทิ้งไว้ได้นานแค่ไหน - วางทิ้งได้เรื่อย ๆ ครับ แต่อย่าให้นานจนผ่านฝนผ่านหนาว เพราะหญ้าจะขึ้นเต็มแล้วแย่งธาตุอาหารไปหมด และแดดอาจทำให้ธาตุอาหารระเหยไปได้ - ไม่เกิน 4 เดือน คอยดึงหญ้าออก ก็น่าจะโอเคครับ - แต่ถ้าแห้งแล้ว บรรจุกระสอบแล้ว ก็อยู่ได้เป็นหลายปีครับ แต่กระสอบมักจะผุไปก่อน - ปุ๋ยอินทรีย์ในกระสอบทิ้งไว้ถ้าโดนแดด ถุงกระสอบจะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว แสดงว่าในเนื้อปุ๋ยมีจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง - สำหรับจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงนี่ มีบริษัทื่เขาผลิตขายแพงมาก และโฆษณาว่าช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้มาก - แสดงว่าปุ๋ยของเราก็มีของดีในตัว ไม่ต้องไปซื้อหา ขอเพียงลงมือทำเท่านั้นครับ - ถ้าอาจารย์ทำได้ปุ๋ยทุกวัน สมาชิกก็น่าจะมั่นใจได้ว่าถ้าลงมือทำ ก็จะต้องได้ปุ๋ยแน่นอน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ครูซอส ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 04:53:56 PM ที่ ม .แม่โจ้ มีฐาน ต้นแม๊คคาเดเมียร์นัท ให้ศึกษาไหมคะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tumfum ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 04:54:56 PM ถ้าครบ 2 เดือนและทิ้งให้ปุ๋ยแห้งแล้ว เรายังไม่ใช้สามารถวางทิ้งต่อไปได้เรื่อยๆไหมคะ ถ้าได้จะทิ้งไว้ได้นานแค่ไหน - วางทิ้งได้เรื่อย ๆ ครับ แต่อย่าให้นานจนผ่านฝนผ่านหนาว เพราะหญ้าจะขึ้นเต็มแล้วแย่งธาตุอาหารไปหมด และแดดอาจทำให้ธาตุอาหารระเหยไปได้ - ไม่เกิน 4 เดือน คอยดึงหญ้าออก ก็น่าจะโอเคครับ - แต่ถ้าแห้งแล้ว บรรจุกระสอบแล้ว ก็อยู่ได้เป็นหลายปีครับ แต่กระสอบมักจะผุไปก่อน - ปุ๋ยอินทรีย์ในกระสอบทิ้งไว้ถ้าโดนแดด ถุงกระสอบจะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว แสดงว่าในเนื้อปุ๋ยมีจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง - สำหรับจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงนี่ มีบริษัทื่เขาผลิตขายแพงมาก และโฆษณาว่าช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้มาก - แสดงว่าปุ๋ยของเราก็มีของดีในตัว ไม่ต้องไปซื้อหา ขอเพียงลงมือทำเท่านั้นครับ - ถ้าอาจารย์ทำได้ปุ๋ยทุกวัน สมาชิกก็น่าจะมั่นใจได้ว่าถ้าลงมือทำ ก็จะต้องได้ปุ๋ยแน่นอน ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ :-[ :-[ :-[ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 05:06:42 PM - ด้วยความง่ายของนวัตกรรมใหม่ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่ต้องพลิกกลับกอง เทศบาลนครเชียงใหม่ก็ได้ลงมือผลิตปุ๋ยจากเศษใบไม้ที่รวบรวมในเขตเทศบาลมาตั้งแต่ปี 2553 ผลิตที่สวนสาธารณะรถไฟ และจะย้ายไปที่สวนหลวงล้านนา ตอนนี้มีมูลนิธิเขียวสวยหอมเข้ามาช่วยนำไปจำหน่ายด้วยครับ
(http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/a_zps4a7a03cf.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 05:10:44 PM ที่ ม .แม่โจ้ มีฐาน ต้นแม๊คคาเดเมียร์นัท ให้ศึกษาไหมคะ - ไม่มีฐานเรียนรู้ครับผม แต่ตัวอาจารย์ผู้สอนจะให้ความรู้ได้ ให้โทรเข้าแม่โจ้ 053 873000 แล้วให้โอปะเรเตอร์ต่อไปที่สาขาไม้ผล แล้วขอปรึกษากับอาจารย์ท่านใดก็ได้ อย่าเพิ่งโทรไปช่วงนี้นะครับ ช่วงนี้อาจารย์อาจจะลาพักผ่อนเพราะเป็นช่วงซัมเมอร์ จะเปิดเรียนอีกทีก็หลังวันที่ 8 มิย. นะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Saithong ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 05:20:46 PM ขอบคุณอาจารย์มากคะสำหรับความรู้และรายละเอียดการหมักปุ๋ย
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 05:36:04 PM - มีเกษตรกรน่ารักที่นำวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไปใช้ แล้วสร้างเป็นฐานเรียนรู้ ขยายผลไปหมู่บ้านอื่นอีกหลายแห่ง ตัวประธานเองทำตัวเป็นตัวอย่างเรื่องความพอเพียง ลดต้นทุน ลดรายจ่าย โดยการลดปุ๋ยเคมีและสร้างรายได้เพิ่ม
- กลุ่มนี้อยู่ที่บ้านป่าถ่อน ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เข้าทางสี่แยกก่อนถึงแม่สายครับเลี้ยวไปทางขวา - ตัวประธานแกปลูกผักกินได้ในบริเวณบ้านพักด้วย ปลูกจนไม่มีที่เดิน ตลกมากเลย แกแสดงชุมชนให้เห็นว่าการปลูกผสมผสานแบบนี้ทำให้แกหยิบอะไรขึ้นมาก็เป็นเงิน ขายได้เงินวันละ 200 บาทนี่ ปีนึงคิดเป็นเงินก็เกือบแสนเชียวนะครับ (http://image.ohozaa.com/i/a86/eyoTdX.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/59e/OWCUPv.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/e70/HREJbi.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/7fd/YHKgC5.jpg) - ประธานกลุ่มครับ (http://image.ohozaa.com/i/4fb/lAh6KT.jpg) - กองปุ๋ยข้างหลังนั่นเสร็จแล้ว กองด้านหน้าที่กำลังรดน้ำเขาทำค้างไว้เพราะฟางข้าวหมด ถ้ามีฟางมาเพิ่มก็จะได้เติมให้เป็นสามเหลี่ยมต่อไป ให้สังเกตนะครับว่ามีเห็ดโคน เห็ดฟางขึ้นบนกองปุ๋ยที่สามารถนำไปรับประทานได้ด้วย (http://image.ohozaa.com/i/a47/VMn8fy.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: testcha ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 05:56:28 PM ไม่มีขี้วัว เอาขี้หมู หรืออย่างได้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: trak00l ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 06:55:49 PM ความรู้ ความรู้ เก็บ เก็บ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: mamai564 ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 08:32:35 PM ขอถามนะครับ แล้วด้านบนของกองปุ๋ยมันจะย่อยสลายหรือครับเมื่อมันโดนอากาศภายนอกตลอดเวลาไม่เกิดความร้อนด้านบน
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 08:46:10 PM ไม่มีขี้วัว เอาขี้หมู หรืออย่างได้ไหมครับ - ขี้หมู ขี้ไก่ ขี้ช้าง ได้หมดครับ ยกเว้นที่ออกมาจากไบโอแก๊ซ เพราะจุลินทรีย์ไม่เหลือแล้ว - ถ้ามีขี้ค้างคาว เอาไปขายเหอะครับ ได้ราคาดี ฮิฮิ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 08:48:49 PM ขอถามนะครับ แล้วด้านบนของกองปุ๋ยมันจะย่อยสลายหรือครับเมื่อมันโดนอากาศภายนอกตลอดเวลาไม่เกิดความร้อนด้านบน - นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องรดน้ำทุกวันครับ ก็เพื่อให้ผิวนอกชุมชื้นเพื่อที่จุลินทรีย์จะทำงานได้อย่างต่อเนื่องไงครับ ถึงไม่มีความร้อนที่ถูกใจ แต่จุลินทรีย์หลายสายพันธุ์ในมูลสัตว์ก็ยังทำงานได้ดีอยู่ครับ - ต้องลองครับ ต้องลอง หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: เอ ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 08:58:49 PM เวลาเราถากหญ้าในสวนหญ้าสดๆที่ยังไม่แห้งแล้วเราเอาไปคลุมโคนต้นไม้เล็ก เช่น ต้นยางพาราที่ปลูกใหม่ มันจะเป็นอันตรายต่อรากของต้นไม้ไหมครับ แบบว่าต้องการให้มันหมักหรือสลายตัวเองตามธรรมชาติครับ อิอิ..
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 09:06:10 PM เวลาเราถากหญ้าในสวนหญ้าสดๆที่ยังไม่แห้งแล้วเราเอาไปคลุมโคนต้นไม้เล็ก เช่น ต้นยางพาราที่ปลูกใหม่ มันจะเป็นอันตรายต่อรากของต้นไม้ไหมครับ แบบว่าต้องการให้มันหมักหรือสลายตัวเองตามธรรมชาติครับ อิอิ.. - ไม่เป็นไรครับ และไม่เป็นปุ๋ยด้วย เพราะขาดองค์ประกอบทั้งจุลินทรีย์ ไนโตรเจน อากาศ ดังนั้นจะไม่เป็นผลเสียกับต้นไม้ครับตราบใดที่ไม่มีการเน่าเกิดขึ้น เพราะการเน่าทำให้เกิดความเป็นกรดที่ต้นไม้เล็ก ๆ อาจทนไม่ได้ - วิธีนี้ช่วยป้องกันการงอกของวัชพืชได้เป็นอย่างดีครับ - ที่สำคัญ อย่าใช้ยาฆ่าหญ้านะครับ เพราะมีโอกาสที่ดินจะเป็นกรดสูงอยู่หรือจุลินทรีย์ดินที่เป็นประโยชน์ตาย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: nongparei ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 09:59:12 PM ยินดีครับอาจารย์ที่มีกระทู้ ของตนเอง เป็นกระทู้ที่ดีมาก ผมอยากรู้ มานานแล้ว ผมมีเปลือกข้าวโพดที่ช่วงชืงมาจากการเผาอย่างหวุดหวิด ถ้าไม่มีปัญหาหมอกควัน คงไม่ได้ ที่อื่นเขานวดข้าวโพดแล้วเผาทันที ของผมเปิดพื้นที่สวนให้มานวดได้เยอะจริงๆ
ผมมีข้อสงสัยจะเรียนถาม -ต้องรดน้ำมากน้อยแค่ไหนเอาอะไรมาวัดว่าเพียงพอ -การเจาะรูสำหรับใส่น้ำต้องเป็นรูขนาดไหน รูเฉียง(ทะแยง)หรือว่าตรง แต่ไม่ให้ขึ้นเหยีบ คงจะเป็นแบบเฉียงลงถึงพื้นหรือเปล่า หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 10:02:46 PM - มีกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านโพธิทองเจริญ อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ ที่ทำปุ๋ยอินทรีย์ปริมาณมากด้วยวิธีใหม่นี้ และเพาะปลูกแบบผสมผสานและเป็นอินทรีย์มาหลายปี กลุ่มนี้ทำการเพาะปลูกแค่คนละ 2 งาน โดยยืมพื้นที่ของโรงเรียนร้าง ดินก็เป็นดินทราย แต่ด้วยเทคนิคการรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ทำให้สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดอย่างได้ผลดี ประธานกลุ่มเป็นหมอดินอาสาชื่อเจริญ ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งรางวัลพระราชทานด้วย
(http://image.ohozaa.com/i/3de/J3zqOL.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/d1d/QaDi2n.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/267/WskU5K.JPG) - ปุ๋ยอินทรีย์ที่เพิ่มคุณค่าโดยการรดด้วยน้ำหมัก พด 2 และ 3 ในช่วงที่รอปุ๋ยแห้ง (http://image.ohozaa.com/i/2ad/pGmDZN.JPG) - มาในปีนี้ สามารถส่งขายผักอินทรีย์ในซูเปอร์มาเก็ตริมปิงของเชียงใหม่ได้ (ขายขาด ไม่ต้องรับคืน) โดยริมปิงส่งถุงพลาสติกติดบาร์โค้ดมาให้ (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/IMG_5770a_zps9f32f2a1.jpg) - ที่นี่ทำน้ำส้มควันไม้เพื่อผสมกับน้ำหมักชีวภาพที่สกัดจากสะเดา บรเพ็ด ก้านยาสูบ และเศษปลา ฉีดไล่แมลงและโรค และเป็นอาหารจานด่วนทางใบ (http://image.ohozaa.com/i/794/DQxKdc.JPG) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 10:12:06 PM -ต้องรดน้ำมากน้อยแค่ไหนเอาอะไรมาวัดว่าเพียงพอ -การเจาะรูสำหรับใส่น้ำต้องเป็นรูขนาดไหน รูเฉียง(ทะแยง)หรือว่าตรง แต่ไม่ให้ขึ้นเหยีบ คงจะเป็นแบบเฉียงลงถึงพื้นหรือเปล่า - สวัสดีครับ รดน้ำไม่ให้แห้งเกินไปครับผม เกษตรกรบอกว่าถ้าบีบแล้วไม่ร่วนก็ใช้ได้ บางคนบอกบีบแล้วมีน้ำหยดไม่เกิน 2-3 หยดครับ สำหรับผม ไม่แห้งเกินไป ไม่แฉะเกินไปครับ - เจาะเฉียงถูกต้องครับ เจาะจนถึงดินเลย ใช้ไม้ไผ่ขนาดสัก 1 นิ้วก็พอ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 10:24:01 PM - จากกรณีของลุงเจริญ มีข้อสังเกตหลายอย่างนะครับ
1. ขอให้ดินอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกได้โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีและยาเคมี 2. เมื่อไม่ใช้ปุ๋ยและยาเคมี ต้นทุนก็ลดลง กำไรก็เพิ่ม 3. เมื่อดินอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรก็สามารถเพาะปลูกแบบผสมผสาน ที่ลดความเสี่ยง ไม่เหมือนการปลูกเชิงเดี่ยวที่ต้องทำทีละมาก ๆ จึงจะได้ปีละแสน แต่ว่าสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนี้สามารถเก็บผักขายได้อย่างต่ำวันละ 200 บาท 365 วันก็เท่ากับ 7 หมื่นกว่าบาท ที่สำคัญคือไม่มีรายจ่ายที่จะต้องซื้อผักคนอื่นกิน 4. ถ้าเกษตรกรทั่วไปเข้าใจเรื่องพวกนี้ แล้วทำการเกษตรแบบเคมีผสมปุ๋ยอินทรีย์ รับรองได้ว่าระเบิดเถิดเทิง แล้วถ้ามั่นใจก็ค่อยลดปุ๋ยเคมีลงอีก 5. แต่มีปัญหาที่ว่า เกษตรกรรวมทั้งสมาชิกเว็บบางคนยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องลงมือทำกองปุ๋ย ยังสมัครใจที่จะซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของคนอื่นที่มีราคาแพง ก็ยิ่งเพิ่มต้นทุนไปกันใหญ่ (การทำปุ๋ยวิธีนี้มีค่าต้นทุนด้านมูลสัตว์ 900 บาทต่อตันปุ๋ย ในขณะที่ถ้าต้องซื้อปุ๋ยของโรงงานบางครั้งจะต้องจ่ายถึง 7 พันบาทต่อตันปุ๋ย หรือกระสอบละ 350 บาท) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะคงต้องใช้เวลาที่จะคิดได้อีกนาน หลักของความพอเพียงคือต้องลดปัจจัยภายนอกให้มากครับ การโทรสั่งซื้อปุ๋ยนั้นมีแต่จะให้ร้านรวยครับ 6. ผมสอนนักศึกษาเสมอว่า ปัญหาเดิม ถ้าแก้ด้วยวิธีการเดิม ๆ จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องใช้วิธีใหม่ ๆ จึงจะแก้ได้ 7. มีตรรกะอยู่ว่า เมื่อก่อน ก่อนที่จะมีปุ๋ยเคมีในโลก (ก่อนปี 2503) ทำไมสมัยนั้นเราสามารถปลูกข้าวได้เป็นที่หนึ่งของโลก ทั้ง ๆ ที่ใช้แค่ขี้วัวขี้ควายจากการผูกวัวควายในทุ่งนา แล้วทำไมตอนนี้เกษตรกรจึงต้องพึ่งปุ๋ยเคมีมากมาย ผมไม่ได้ต่อต้านปุ๋ยเคมีครับ ผมว่ามันมีวิธีใช้ปุ๋ยเคมีอย่างมีประสิทธิภาพได้แต่ต้องปรับปรุงบำรุงดินด้วยครับ ปุ๋ยเคมีไม่ได้เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินครับ มีแต่เร่งการเจริญเติบโต และในท้ายที่สุด ในระยะยาว มันกลับทำร้ายดิน ทำให้ดินกลายเป็นกรดที่ลดปริมาณผลผลิตลงเรื่อย ๆ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: AMOL ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 11:59:05 PM เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคนค่ะ และจะลงมือแน่นอนค่ะ ขอบคุณอาจารย์ที่นำความรู้มาให้กับชาวเกษตรพอเพียงค่ะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: mamai564 ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 12:49:23 AM ในกรณีที่มีเศษใบไม้ไม่มากเช่นบ้านในหมู่บ้านเราสามารถใช้วิธีเดียวกันได้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ไร่ร่มโพธิ์ทอง ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 12:50:57 AM ขอบคุณครับ ได้ความรู้มาก ๆ เลย
จะขอนำไปลองทำที่นาน่ะครับ ใช้เศษผักที่ได้จากตลาดครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 06:41:38 AM ในกรณีที่มีเศษใบไม้ไม่มากเช่นบ้านในหมู่บ้านเราสามารถใช้วิธีเดียวกันได้ไหมครับ - ได้ครับผม ก็จะเหมือนที่ฐานเรียนรู้ของแม่โจ้ทำครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 06:43:51 AM ขอบคุณครับ ได้ความรู้มาก ๆ เลย จะขอนำไปลองทำที่นาน่ะครับ ใช้เศษผักที่ได้จากตลาดครับ ขอบคุณครับ - ในกรณีมีเศษผัก ให้คลุกเศษผักจากตลาดเข้ากับใบไม้หรือฟางข้าวก่อน เพื่อลดการอัดตัวแน่นในกองปุ๋ย เสร็จแล้วนำ 3 ส่วนที่ผสมมาขึ้นกองปุ๋ยกับมูลสัตว์ทำเป็นชั้น ๆ บาง ๆ 15 ชั้นนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: rukmac ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 09:23:30 AM สวัสดีครับอาจารย์ กองปุ๋ยยาว 1 กิโลที่อ.ลี้ ลำพูนอยู่จุดไหนครับขอเ่ข้าเยี่ยมชมได้มั้ยครับ ถ้าได้ติดต่อที่ใครครับ ผมอยู่อ.ลี้ ลำพูน สนใจมากครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ไร่ร่มโพธิ์ทอง ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 10:20:56 AM ขอบคุณครับ ได้ความรู้มาก ๆ เลย จะขอนำไปลองทำที่นาน่ะครับ ใช้เศษผักที่ได้จากตลาดครับ ขอบคุณครับ - ในกรณีมีเศษผัก ให้คลุกเศษผักจากตลาดเข้ากับใบไม้หรือฟางข้าวก่อน เพื่อลดการอัดตัวแน่นในกองปุ๋ย เสร็จแล้วนำ 3 ส่วนที่ผสมมาขึ้นกองปุ๋ยกับมูลสัตว์ทำเป็นชั้น ๆ บาง ๆ 15 ชั้นนะครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: NoWhere_Man ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 10:25:00 AM ไม่ทราบว่าเศษอาหารจากครัวเรือน พอจะเข้ากระบวนการย่อยสลายแบบนี้ได้หรือไม่ครับ เช่นเปลือกส้ม เศษผลไม้ กะทิ ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากพืช
ส่วนเศษอาหารจากเนื้อสัตว์ คงไม่มีทางเข้าร่วมใช่ไม๊ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 10:52:47 AM http://www.youtube.com/v/fEmDqgqhvv4
เอา Video เรื่อง ปุ๋ยหมักไม่กลับกอง เพื่อให้ดูแล้วจะได้เข้าใจกันมากขึ้นครับมีทั้งแบบเติมอากาศ และแบบไม่เติมอากาศครับ ท่านอาจารย์ tera คงจะคุ้น Video ตัวนี้นะครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: deer art ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 11:53:47 AM (http://image.ohozaa.com/i/5be/sgnP.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/67n42)
ได้ความรู้มากครับ ฟางที่อัดไว้ก็ได้ประโยชน์แล้วครานี้ ต้องลอง หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 11:56:27 AM ปีนี้ล่ะครับ ผมจะลองทำปุ๋ยใส่มะพร้าวเองบ้าง สั่งซื้อมาสองปีล่ะครับ มีผักตบชวา มีสาหร่ายหางกระรอก แหน เต็มไปหมดเลยครับ มีใบมะพร้าวด้วยครับ
ส่วนปีหน้าก็ทำนาจะเอาฟางข้าวมาลองทำบ้างล่ะครับอาจารย์ จะทำปีนี้ไว้ใส่ปีหน้าเลยครับ (ใส่กระสอบเก็บไว้น่ะครับ) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 03:27:51 PM สวัสดีครับอาจารย์ กองปุ๋ยยาว 1 กิโลที่อ.ลี้ ลำพูนอยู่จุดไหนครับขอเ่ข้าเยี่ยมชมได้มั้ยครับ ถ้าได้ติดต่อที่ใครครับ ผมอยู่อ.ลี้ ลำพูน สนใจมากครับ - อยู่ที่โรงทวีพืชผล ใกล้ห้วยต้มครับผม ประตูเปิดตลอดน่าจะดูได้ ถ้าใครถามก็บอกว่ามาขอดูกองปุ๋ยที่จังหวัดลำพูนทำก็น่าจะได้ครับ - วันอังคารที่ 22 พค. จะมีทีมวิศวกรจากแม่โจ้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทสจ.ลำพูนไปประเมิน และอาจต้องมีการปรับรูปกองปุ๋ยและการให้น้ำใหม่ครับ - ให้ไปดูแนวคิดนะครับ ส่วนคุณภาพปุ๋ยนั้นผมไม่ค่อยหวังผลเลิศเท่าไร เพราะระบบไม่เอื้อให้มีคนงานคอยดูแลความชื้นตลอดเวลาครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 03:30:05 PM ไม่ทราบว่าเศษอาหารจากครัวเรือน พอจะเข้ากระบวนการย่อยสลายแบบนี้ได้หรือไม่ครับ เช่นเปลือกส้ม เศษผลไม้ กะทิ ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากพืช ส่วนเศษอาหารจากเนื้อสัตว์ คงไม่มีทางเข้าร่วมใช่ไม๊ครับ - เอาเศษอาหาร (ไม่เอาน้ำแกง) ยัดซ่อนในกองปุ๋ยได้เลยครับ (กะทิ น้ำแกงเว้นครับ) เนื้อสัตว์ก็ได้ครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 03:40:59 PM [url]http://www.youtube.com/v/fEmDqgqhvv4[/url] เอา Video เรื่อง ปุ๋ยหมักไม่กลับกอง เพื่อให้ดูแล้วจะได้เข้าใจกันมากขึ้นครับมีทั้งแบบเติมอากาศ และแบบไม่เติมอากาศครับ ท่านอาจารย์ tera คงจะคุ้น Video ตัวนี้นะครับ ;D ;) - ขอบคุณมากครับ ;) ผมเองก็ยังไม่เคยดูเลยครับ :o - ตอนนี้ได้เห็นคนงานสองคนของฐานเรียนรู้แม่โจ้แล้วนะครับ ลุงชัย กับพี่ไหล อยู่กับฐานเรียนรู้มาตั้งแต่ 2547 แล้ว - ตอนนี้ฐานเรียนรู้ไม่มีแบบเติมอากาศแล้วนะครับ ไม่ต้องไปขอดูนะครับ :) มีแต่แบบกองแถวยาวไม่พลิกกลับกองครับผม ง่ายกว่าเยอะเลย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 03:49:40 PM ปีนี้ล่ะครับ ผมจะลองทำปุ๋ยใส่มะพร้าวเองบ้าง สั่งซื้อมาสองปีล่ะครับ มีผักตบชวา มีสาหร่ายหางกระรอก แหน เต็มไปหมดเลยครับ มีใบมะพร้าวด้วยครับ ส่วนปีหน้าก็ทำนาจะเอาฟางข้าวมาลองทำบ้างล่ะครับอาจารย์ จะทำปีนี้ไว้ใส่ปีหน้าเลยครับ (ใส่กระสอบเก็บไว้น่ะครับ) - เยี่ยมเลยครับ ทำแล้วมีปัญหาอะไรก็โพสมาถามนะครับ - ใบมะพร้าวเป็นปัญหา คงต้องมีเครื่องย่อยขนาดใหญ่ทำการย่อยก่อน แต่เครื่องนึงเป็นแสนและใช้ไฟสามเฟส ผมคิดว่าถ้าจะพอเพียง เราเอาทางมะพร้าวมาคลุมดินป้องกันความชื้นก็น่าจะดีกว่านะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 03:56:12 PM ([url]http://image.ohozaa.com/i/5be/sgnP.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view/67n42[/url]) ได้ความรู้มากครับ ฟางที่อัดไว้ก็ได้ประโยชน์แล้วครานี้ ต้องลอง - อย่าลืมแกะเอาฟางออกจากที่มัดก่อนนะครับ แล้วค่อยมาเรียงบาง ๆ หนา 10 เซน - ได้ผลอย่างไรแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 04:27:07 PM - ในเศษพืช ไม่ว่าใบไม้หรือฟางข้าว ล้วนอุดมไปด้วยแร่ธาตุและจุลธาตุ เพราะรากพืชจะดูดซับเอาแร่ธาตุและจุลธาตุในดินมาสะสมในทุกส่วนของพืช พอเกี่ยวข้าวเสร็จหากเราดันไปเผาฟางทิ้ง ก็น่าเสียดายแร่ธาตุเหล่านี้นะครับ
- แร่ธาตุเหล่านี้ก็ได้แก่ธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม) ธาตุอาหารรอง (แคลเซียม แมกนีเซียม และซัลเฟอร์) และจุลธาตุ (โบรอน โบลิบดินัม เหล็ก และสังกะสี) ที่พืชต้องการในปริมาณน้อย ๆ มากไปก็สำลัก - ถ้าเรานำเศษพืชมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์แล้วนำกลับไปใช้ในการเพาะปลูก ต้นพืชก็จะได้รับแร่ธาตุต่าง ๆ อย่างพอเพียง เป็นการสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเกษตรอินทรีย์จึงเป็นไปได้ และมีผู้ทำสำเร็จทั่วประเทศ - จุลธาตุ และธาตุอาหารรองมีในพืชเท่านั้น จะหาซื้อก็ไม่ได้ ในปุ๋ยเคมีก็ไม่มีครับผม - ผมจึงเชื่อว่าการทำปุ๋ยคอก (นำเฉพาะมูลสัตว์มาเข้ากระบวนการจนจุลินทรีย์สงบตัว) จะมีคุณค่าด้อยกว่าปุ๋ยอินทรีย์มาก เพราะปุ๋ยอินทรีย์จะอุดมไปด้วยธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และจุลธาตุที่มาจากเศษพืชมากกว่า - หากนำปุ๋ยคอกไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ค่าอินทรีย์วัตถุจะด้อยกว่าปุ๋ยอินทรีย์ด้วยครับ - ดังนั้น สมาชิกเว็บเกษตรพอเพียงที่ผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ก็ย่อมจะมีดินเพาะปลูกที่สมบูรณ์ มีชีวิต การใช้ปุ๋ยเคมีจะลดลงได้มากครับ ลดลงได้มากกว่า 50% ครับ แล้วถ้าลองศึกษาในแปลงเล็ก ๆ ลองทำเกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ถ้าได้ผลดี ในปีต่อไปก็จะได้ขยายจำนวนพื้นที่ ซึ่งก็น่าจะลดต้นทุนได้มากนะครับ - หากเรามีพื้นที่เพาะปลูก 20 ไร่ เราก็ควรผลิตปุ๋ย 20 ตัน เพื่อให้ได้ไร่ละ 1 ตันปุ๋ย ทำกองปุ๋ยแบบนี้ให้มีความยาวรวม 80 เมตร (ทำหลายกองก็ได้ แยกย้ายไปตามมุมแปลง) ทุก ๆ ความยาวกองปุ๋ย 4 เมตรเราจะได้ปุ๋ย 1 ตันครับ หากเป็นการทำปุ๋ยวิธีอื่นที่ต้องพลิกกลับกองก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่วิธีนี้สบายมากครับ เพราะมีเกษตรกรทำมาเยอะแล้ว ลองดูนะครับ เผื่อว่าจะได้ช่วยกันขยายความรู้ไปเรื่อย ๆ เป็นประโยชน์กับเกษตรกรไทยไงครับ - ถ้าแม่โจ้ทำได้ ทำตลอดเวลา ทำทุกวัน ได้ปุ๋ยออกมาทุกวัน เราเหล่าสมาชิกก็ต้องทำได้เหมือนกัน.... ใช่ไหมครับ 8) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 08:08:49 PM พอดีวันนี้ออกไปข้างนอกบ้าน ที่ กทม น่ะค่ะ มองเห็นผักตบชวาต้นงามๆเต็มคลองให้นึกถึงการหมักปุ๋ยของอาจารย์ค่ะ ดวงพรคิดเล่นๆว่าถ้าทางราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเกษตร ลอกคูคลองเอาผักตบขึ้นมาเข้าเครื่อง สับ หรือไม่ก็ตากให้แห้ง แล้ว เอามาทำปุ๋ยหมักแบบอาจารย์แล้วขายให้ประชาชน ราคาไม่แพง น่าจะมีเงินเข้าหลวงหลายตังค์ นะคะ นั่งมองคลองผักตบแล้วก็คิดไปน่ะค่ะ ถ้าทุกที่ ใน กทม ลอกคลองผักตบเอามาทำปุ๋ยหมัก น่าจะได้หลายล้านตัน ;D ;D
ทางภาครัฐ น่าจะทำนะคะอาจารย์ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 08:53:07 PM พอดีวันนี้ออกไปข้างนอกบ้าน ที่ กทม น่ะค่ะ มองเห็นผักตบชวาต้นงามๆเต็มคลองให้นึกถึงการหมักปุ๋ยของอาจารย์ค่ะ ดวงพรคิดเล่นๆว่าถ้าทางราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเกษตร ลอกคูคลองเอาผักตบขึ้นมาเข้าเครื่อง สับ หรือไม่ก็ตากให้แห้ง แล้ว เอามาทำปุ๋ยหมักแบบอาจารย์แล้วขายให้ประชาชน ราคาไม่แพง น่าจะมีเงินเข้าหลวงหลายตังค์ นะคะ นั่งมองคลองผักตบแล้วก็คิดไปน่ะค่ะ ถ้าทุกที่ ใน กทม ลอกคลองผักตบเอามาทำปุ๋ยหมัก น่าจะได้หลายล้านตัน ;D ;D ทางภาครัฐ น่าจะทำนะคะอาจารย์ ;D - ถูกต้องครับคุณดวงพร ผักตบนี่เราเอาขึ้นมาพักสักวันนึง เอามีดสับขึ้นกองปุ๋ยแบบใหม่นี้ได้สบายเลยครับ ผักตบนี่เปื่อยง่ายที่สุดพอ ๆ กับฟางข้าวกับเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ - สักวันก็คงจะมีผู้รับผิดชอบหน่วยงานที่มีวิสัยทัศน์ใช้ประโยชน์จากผักตบครับ แต่ต้องใช้เวลาอีกนิด หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 09:10:49 PM - มีใครรู้จักลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้งจากสุพรรณบ้างครับ
- ลุงแกเคยปลูกข้าวเคมีมานาน ขาดทุนตลอด - เมื่อ 6-7 ปีก่อน แกหักดิบ หันมาปลูกข้าวใช้ปุ๋ยหมักแทนปุ๋ยเคมี ใช้น้ำหมักชีวภาพแทนยาฆ่าแมลง ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า - ผลคือ .......... เกี่ยวข้าวเสร็จ ได้ข้าวไม่ถึงครึ่งของที่เคยได้ - แต่ ............ เป็นปีแรกที่ได้กำไร !! - ต้นทุนต่ำ ผลผลิตน้อย แต่ได้กำไร - ปีต่อไป ๆ แกก็ทำอย่างนี้อีก ดินเพาะปลูกของแกก็ดีขึ้นทุกปี ผลผลิตได้มากขึ้นทุกปี จนแซงแปลงข้าวเคมีของเพื่อนบ้าน แกก็เลยมีกำไรทุกปีนับแต่นั้น - เมื่อ 4 ปีก่อน ผมได้มีโอกาสไปอบรมเกษตรกรที่อยุธยาพร้อมกับแก เลยรู้ว่าแกเลิกใส่ปุ๋ยหมักในนาแล้วครับ - เพราะว่าแกรู้สึกว่าดินในนาของแกอุดมสมบูรณ์มากพอแล้ว ทุกวันนี้เลยเติมแค่น้ำจุลินทรีย์ 1 ลิตรต่อ 1 ไร่ครับผม เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน :-[ โอ้โฮ ... สุดยอด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ :D - อันนี้เป็นของจริงครับ สามารถสืบค้นได้จากกูเกิ้ลนะครับ เขียนแค่คำว่าทองเหมาะ แจ่มแจ้ง ครับ - ทุกวันนี้ใครจะขอให้แกไปบรรยายต้องจองคิว 3 เดือนนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: oFFja ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 09:55:19 PM ก่อนอื่นต้องขอ ขอบคุณอาจารย์ tera มากเลยครับ
ผมจะำนำความรู้นี้ไปทำดูครับ ฟางแถวบ้านผมจะได้เกิดประโยนชนฺ์มากขึ้น มากกว่าการเผาทำลายก่อให้เกิดผลเสียหลายด้าน ผมอยู่จังหวัดชัยนาท มีการทำนาเป็นส่วนใหญ่หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วผมจะรีบเก็บฟางมาหมักปุ๋ย และจะนำวิธีการของอาจารย์เผยแพร่ต่อชุมชนให้รับความรู้มากทีสุดต่อไปครับ ก่อนหน้านี้ผมก็เก็บฟางมาคลุมต้นไม้ในสวน บอกกับคนข้างบ้านว่าอย่าเผาเลยดินเสียโลกร้อนด้วย"แต่ได้ีัรับคำตอบว่าถ้าไม่เผาแล้วจะเอาไปทำอะไร ขนก็เหนื่อยนะนาหลายไร่" ผมก็ได้แต่มึนงงตอบไม่ถูกได้แต่บ่นในใจทำไมไม่มีหน่วยงานคิดค้นวิธีนำฟางไปใช้ให้เกิดคุณค่าบ้าง"นอกจากการทำเห็ดฟาง แต่ตอนนี้ผมมีคำตอบแล้ว ;D ขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: namneung ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 10:07:05 PM น่าสนใจมากเลยค่ะ ฟางข้าวที่ไร่มน ปีที่แล้วเผาทิ้งเกือบครึ่้งปีนี้ คงต้องรบกวนอาจารย์ขอความรู้เรื่องทำปุ๋ยหมักมาใช่ใน่ไร่บ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 10:18:28 PM ก่อนอื่นต้องขอ ขอบคุณอาจารย์ tera มากเลยครับ ผมจะำนำความรู้นี้ไปทำดูครับ ฟางแถวบ้านผมจะได้เกิดประโยนชนฺ์มากขึ้น มากกว่าการเผาทำลายก่อให้เกิดผลเสียหลายด้าน ผมอยู่จังหวัดชัยนาท มีการทำนาเป็นส่วนใหญ่หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วผมจะรีบเก็บฟางมาหมักปุ๋ย และจะนำวิธีการของอาจารย์เผยแพร่ต่อชุมชนให้รับความรู้มากทีสุดต่อไปครับ ก่อนหน้านี้ผมก็เก็บฟางมาคลุมต้นไม้ในสวน บอกกับคนข้างบ้านว่าอย่าเผาเลยดินเสียโลกร้อนด้วย"แต่ได้ีัรับคำตอบว่าถ้าไม่เผาแล้วจะเอาไปทำอะไร ขนก็เหนื่อยนะนาหลายไร่" ผมก็ได้แต่มึนงงตอบไม่ถูกได้แต่บ่นในใจทำไมไม่มีหน่วยงานคิดค้นวิธีนำฟางไปใช้ให้เกิดคุณค่าบ้าง"นอกจากการทำเห็ดฟาง แต่ตอนนี้ผมมีคำตอบแล้ว ;D ขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งครับ - ขอบคุณมากครับ เราคงต้องทำเป็นตัวอย่างไปก่อน - ฟางในนา ควรนำไปขึ้นกองปุ๋ยในนา ใกล้ ๆ แหล่งน้ำ (คลอง คลองซอย) จะได้ไม่ต้องขนไปมา แบ่งทำหลายกอง หลายจุด ถ้ากลัวกองปุ๋ยแช่น้ำ ก็อาจจะปั้นคันดินล้อมรอบก็ได้ วุ่นวายนิดนึง แต่ดินจะอุดมสมบูรณ์ดีครับ - การเผาฟางในนา ส่งผลให้ดินแน่นแข็ง จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์จะตายหมด สวนทางกับสิ่งที่พวกเราจะทำกัน แถมอินทรีย์วัตถุในดินที่มีน้อยอยู่แล้วก็พลอยระเหยไปกับความร้อนด้วย น่าเสียดายครับ :-\ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 10:33:54 PM - แล้วก็มีเครือข่ายของแม่โจ้อีกแห่งหนึ่งครับ ที่ผลิตปุ๋ยหมักปริมาณมากแบบไม่ต้องพลิกกลับกอง แล้วนำไปใช้ในงานเกษตรกรรม แกทำปุ๋ยมากก็ใช้มาก จนไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเลย
- แกเป็นปราชญ์ชาวบ้านของลำพูนครับ ชื่อสุรัตน์ อยู่ที่บ้านห้วยแหนพัฒนา ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ ลำพูน เป็นประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านห้วยแหนพัฒนา เป็นคนหัวไว กล้าเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะช่วยเหลือเป็นวิทยากรให้กับชุมชนอื่นเสมอ - แกเคยมาอบรมที่แม่โจ้ปี 2547 เรื่องการทำปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ พอกลับไปบ้านก็ไปทำครับ และก็ได้ทำเรื่อยมา มาในปีนี้ก็ได้เปลี่ยนไปทำปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์แบบใหม่โดยไม่ต้องใช้พัดลมแล้ว - วันก่อนได้มีโอกาสไปเยี่ยม ก็พบว่าแกซื้อที่ดินอีกแปลงใกล้ ๆ ที่เดิม ที่นี่มีต้นลำไยของเจ้าของเดิม แกก็จัดการปรับปรุงทั้งดินทั้งใบ ที่ดินนอกทรงพุ่มก็จัดการปลูกพืชผสมผสาน แล้วแปลงโฉมที่ดินเป็นฐานเรียนรู้ 5 ฐานครับ เพื่อให้เกษตรกรมาดูงาน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ครูซอส ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 10:38:57 PM ที่โรงงานน้ำตาลใกล้บ้านครูซอส มีดินขี้เถ้ากับดินขี้ด่างมากมาย ราคาตันละ 40 บาท
ค่าขนส่ง คันสิบล้อ เที่ยวละ 300 บาท ..อาจารย์ช่วยคิดสูตรนำของเหล่านี้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้หน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: phueng ที่ พฤษภาคม 21, 2012, 11:24:54 PM ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 05:55:19 AM ที่โรงงานน้ำตาลใกล้บ้านครูซอส มีดินขี้เถ้ากับดินขี้ด่างมากมาย ราคาตันละ 40 บาท ค่าขนส่ง คันสิบล้อ เที่ยวละ 300 บาท ..อาจารย์ช่วยคิดสูตรนำของเหล่านี้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้หน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ - ครูซอสครับ ผมเคยข่วยโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ลำพูนเพื่อเอาขี้เถ้ามาผสมกับปุ๋ยอินทรีย์แล้วค่อยนำไปใช้ แต่ว่าการผสมยุ่งยากมาก เพราะขี้เถ้าเป็นผงปลิวเข้าตา แถมเป็นด่างจัด กัดมืออีก พีเอชตั้ง 12 ก็เลยไม่สำเร็จ กะว่าถ้าสำเร้จจะเอาไปใส่นาชาวบ้านที่ดินเป็นกรดจากการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างยาวนาน ตกลงล้มเหลวครับ - ไม่รู้ว่าขี้เถ้าจะเหมือนกันหรือไม่ แต่ของที่นี่เวลาโดนหญ้าแล้วหญ้าตายครับ - ในทางทฤษฎีแล้ว ผมคิดว่าน่าจะนำไปใส่นาที่ดินเป็นกรดได้ เพื่อปรับให้ดินเป็นกลาง เกษตรกรจะได้ไม่ต้องเผาฟางเอาขี้เถ้า แต่ในทางปฏิบัติแล้วยุ่งยากครับ ขนก็ลำบาก ใช้ก็ลำบาก เป็นฝุ่น กัดมือ - ต้องมีนักคิดอีกหลายท่านสามารถลงมือ นำขี้เถ้าไปใช้ประโยชน์แน่ ๆ ในอนาคตครับ - อย่างเช่น เอาไปทำสบู่ น้ำยาล้างจาน หรือเอาไปล้างน้ำเพื่อลดความเป็นด่าง แล้วเอาน้ำด่างนั้นไปใช้ในงานอุตสาหกรรมครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:11:31 AM - มาดูพี่สุรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้าน ยังดูหนุ่มแน่นมากเลย
(http://image.ohozaa.com/i/5ee/3I5NcY.jpg) - ฐานเรียนรู้ทำน้ำส้มควันไม้ของที่นี่ น้ำสัมก็ขายได้ ถ่านก็ขายได้ นอกจากนั้นก็ยังมีฐานน้ำหมักชีวภาพ ฐานสกัดสมุนไพร ฐานทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง ฐานปลูกผักอินทรีย์ (http://image.ohozaa.com/i/ea4/HndEHV.jpg) - แกปลูกผักผสมผสานระหว่างทรงพุ่มลำไยโดยใช้แค่ปุ๋ยหมักที่ทำเอง ติดสปริงเกลอร์ซะ แกอธิบายว่าด้วยการขายผักนี้ทำให้แกมีรายได้ประจำทุกวัน ปีนึงก็ได้เป็นแสน (วันละ 200-300 บาท) ได้พอ ๆ กับลำไย 6 ไร่ ตอนนี้ปลดหนี้ ธกส.ได้แล้วจากการเกษตรแบบนี้ (http://image.ohozaa.com/i/dcf/AYREaS.jpg) - โชว์ปุ๋ยจากในกองครับว่าเปื่อยขนาดไหน (http://image.ohozaa.com/i/a50/DVkqvG.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:26:38 AM - ปุ๋ยที่แห้งแล้ว แล้วนำไปตีป่น ถ้ามีเกษตรกรมาขอซื้อแกก็ขายครับ มีทั้งแบบป่นและแบบปั้นเม็ดแล้วแต่ลูกค้า เงินทั้งนั้น (ถึงตอนนี้จำได้ว่า พ่อเคยสอนว่าอย่าหมื่นเงินน้อย อย่าคอยเงินนาน และอีกประโยคครับ ให้สร้างโอกาสอย่ารอโอกาสอย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ)
(http://image.ohozaa.com/i/e8f/cFYQrp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUx6Fo8xTIQU1Dw) - ตรงไหนว่างก็ขึ้นกองปุ๋ยซะเลย (http://image.ohozaa.com/i/a31/mrfJB9.jpg) - ต้นข้าวโพดที่ขึ้นเองข้างกองปุ๋ย แกชี้ให้เห็นว่านี่ไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีเลยแต่ฝักก็เริ่มออกมาให้เห็นแล้ว (http://image.ohozaa.com/i/378/cbMa6U.jpg) - แกไปเก็บกะหล่ำปลีให้ผมเอากลับบ้านครับ หัวโตดีแท้ อร่อยครับ กรอบ หวาน (เคยทานคะน้าอินทรีย์ไหมครับ กรอบ หวาน และไม่มีกลิ่นยาเคมีน่ะ ..... ให้ไปหาซื้อมาผัดดูนะครับ) (http://image.ohozaa.com/i/a23/QypnZq.jpg) - วันนั้นพอดีช่วงบ่ายมีเกษตรกรมาฝึกอบรม 80 คน ก็เลยอยู่ฟังด้วย (http://image.ohozaa.com/i/d75/VCUbML.jpg) - คนมาอบรมเป็นปลื้มกับกะหล่ำปลีอินทรีย์หัวใหญ่ ๆ (http://image.ohozaa.com/i/a53/n94VCd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUx7Jkbop1K3l1y) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:36:28 AM - ขอขอบพระคุณปราชญ์ และตัวอย่างผู้นำเกษตรกรที่ได้เอ่ยถึงในกระทู้นี้ ที่ทำให้มีตัวอย่างดี ๆ :-[ สร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก กพพ. เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติใช้แล้วขยายผลไปมาก ๆ ช่วยคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยต่อไป จะได้ลดหนี้ลงให้หมด
- ผิดพลาดประการใด ผมก็จะขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวครับผม ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:23:50 AM - แล้วก็มีกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านแพะพัฒนา ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว เชียงใหม่ ประธานกลุ่มชื่อลุงศรี จะมาเล่าให้ฟังครับ
- ประธานศรีเคยปลูกผักเคมีมา แต่มีเหตุการณ์พลิกผันทำให้ต้องเลิกครับ คือแกเคยเกือบตายมาครั้งหนึ่ง ถึงขั้นนอนโรงพยาบาล เพราะไปกินผักสดของแม่ค้าส้มตำที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลง แกเลยสาบานว่าจะไม่กินผักของใครอีก และจะปลูกผักอินทรีย์เองให้ได้ ตอนนั้นแกถึงกับทะเลาะกับเมียอย่างหนัก เพราะเมียไม่เชื่อว่าจะมีใครปลูกผักได้โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีไม่ใช้ยาเคมี - ในปี 2548 ผมได้งบวิจัยจาก สวทช.ซื้อพัดลม ท่อ เพื่อให้กลุ่มของแกผลิตปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ กลุ่มนี้ก็เลยเหมือนกับติดปีก สามารถทำเกษตรอินทรีย์ได้มาเรื่อย ๆ - ตอนนี้กลุ่มนี้ก็เลิกทำปุ๋ยแบบเติมอากาศแล้ว และหันมาทำแบบกองแถวยาวไม่พลิกกลับกองแทน เพราะง่ายกว่ามาก โดยในปี 52 สวทช.ก็ตามมาสนับสนุนทุนเพื่อให้ 20 ครัวเรือนของหมู่บ้านนี้ทำปุ๋ยอินทรีย์ครัวเรือนละ 2 ตัน เพื่อศึกษาความพึงพอใจและความคิดเห็นครับ - กลุ่มนี้เป็น 1 ใน 4 ของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ดอกคำของเชียงใหม่ ที่ส่งข้าวอินทรีย์ขายต่างประเทศกิโลกรัมละ 40 บาท (ราคาในปี 49 ตอนนี้คงสูงกว่านี้) แถมพ่อกำนันประพันธ์ ซึ่งเป็นสมาชิก ตอนนี้ขึ้นไปเป็นนายก อบต.เขื่อนผาก ก็เลยทำให้เกษตรอินทรีย์เป็นยุทธศาสตร์ของตำบลนี้ไป กลุ่มนี้ส่งผักอินทรีย์ขายในราคาท้องตลาดปกติ โดยส่งไปขายที่แม่โจ้ทุกวันพุธ วันอื่นก็ขายที่ตลาดอิ่มบุญ ตลาดเจเจ นอกเหนือจากขายที่ตลาดในชุมชน - ที่เล่ามานี้ ก็เพื่อให้เห็นว่าการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ จะสามารถทำการเพาะปลูกได้โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีสารเคมีเลย ทีนี้หากสมาชิก กพพ.ยังไม่พร้อมที่จะหักดิบ ก็อาจใช้ปุ๋ยเคมีร่วมด้วยกับปุ๋ยอินทรีย์ ผลิตผลต้องได้แน่นอนครับ (แต่ไม่ควรซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของใครใช้นะครับ ถ้ามีความพอเพียงอยู่ในใจ ทำเองดีกว่า) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:36:35 AM ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะที่มีรูปภาพการทำเกษตรผสมผสานแบบบ้านๆที่ ทุกคนสามารถทำได้มาให้ สมาชิกท่านอื่นๆได้ชมและได้เป็นแรงบันดาลใจที่จะทำตามให้เกิดความสำเร็จ พึ่งตัวเองได้ ค่ะ
อาจารย์มีรูปภาพการทำเกษตรผสมผสานแบบบ้านๆอีกเอามาดูเยอะๆนะคะ ชอบมากค่ะ ;D ;Dมาร่วมด้วยช่วยกันให้สมาชิกได้ทำสำเร็จจะได้พึ่งตัวเอง ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: kmsmily ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:49:55 AM ก่อนอื่นต้องขอ ขอบคุณอาจารย์ tera มากเลยครับ ผมจะำนำความรู้นี้ไปทำดูครับ ฟางแถวบ้านผมจะได้เกิดประโยนชนฺ์มากขึ้น มากกว่าการเผาทำลายก่อให้เกิดผลเสียหลายด้าน ผมอยู่จังหวัดชัยนาท มีการทำนาเป็นส่วนใหญ่หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วผมจะรีบเก็บฟางมาหมักปุ๋ย และจะนำวิธีการของอาจารย์เผยแพร่ต่อชุมชนให้รับความรู้มากทีสุดต่อไปครับ ก่อนหน้านี้ผมก็เก็บฟางมาคลุมต้นไม้ในสวน บอกกับคนข้างบ้านว่าอย่าเผาเลยดินเสียโลกร้อนด้วย"แต่ได้ีัรับคำตอบว่าถ้าไม่เผาแล้วจะเอาไปทำอะไร ขนก็เหนื่อยนะนาหลายไร่" ผมก็ได้แต่มึนงงตอบไม่ถูกได้แต่บ่นในใจทำไมไม่มีหน่วยงานคิดค้นวิธีนำฟางไปใช้ให้เกิดคุณค่าบ้าง"นอกจากการทำเห็ดฟาง แต่ตอนนี้ผมมีคำตอบแล้ว ;D ขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งครับ - ขอบคุณมากครับ เราคงต้องทำเป็นตัวอย่างไปก่อน - ฟางในนา ควรนำไปขึ้นกองปุ๋ยในนา ใกล้ ๆ แหล่งน้ำ (คลอง คลองซอย) จะได้ไม่ต้องขนไปมา แบ่งทำหลายกอง หลายจุด ถ้ากลัวกองปุ๋ยแช่น้ำ ก็อาจจะปั้นคันดินล้อมรอบก็ได้ วุ่นวายนิดนึง แต่ดินจะอุดมสมบูรณ์ดีครับ - การเผาฟางในนา ส่งผลให้ดินแน่นแข็ง จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์จะตายหมด สวนทางกับสิ่งที่พวกเราจะทำกัน แถมอินทรีย์วัตถุในดินที่มีน้อยอยู่แล้วก็พลอยระเหยไปกับความร้อนด้วย น่าเสียดายครับ :-\ เช่น สมมุติในฟางข้าวมี N = 7.6 กก.,Ca = 3.8 กก.,Si = 41.9 กก. เป็นต้น (อาจารย์มีข้อมูลผลวิจัยไหมครับ) ผมอยากรู้มานานแล้ว จะได้คำนวนออกมาเป็นตัวเงินเวลาไปคุยกับชาวบ้านที่ชอบเผาฟาง หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:58:38 AM - ประธานศรีครับผม
(http://image.ohozaa.com/i/ce5/WxkHSh.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUAezLbEGfAbrbf) - กองปุ๋ยทำจากกากถั่วเหลืองกับขี้วัว (กองปุ๋ยต้องสูง 1.5 เมตร เป็นรูปสามเหลี่ยมนะครับ ทำสลับเศษพืชกับมูลสัตว์ 15-17 ชั้น ห้ามทำชั้นเศษพืชหนา ห้ามเหยียบ ห้ามเอาผ้าคลุม รดน้ำทุกชั้น ไม่ต้องพลิกกลับกอง หัวใจความสำเร็จอยู่ที่การรักษาความชื้นตลอดเวลา สองเดือนเสร็จ) (http://image.ohozaa.com/i/cf8/tgU7ez.JPG) - มีลุงอยู่คนนึงในกลุ่มดอกคำ ปลูกผสมผสานในแปลงเดียวกัน เอาฟางคลุมแปลงเพื่อป้องกันหญ้าและรักษาความชื้น ปลูกต้นหอมผักชี พร้อมกับพริกและขิงในแปลงเดียวกัน รดน้ำทีเดียวได้ทุกพืช ผักชีต้นหอมพอเก็บขายหมดก็เก็บพริกขายต่อ พอพริกเริ่มวายขิงก็โตพอดี ฟางก็เปื่อยพอดี ลุงแกเอามือเจาะดินให้เห็นเลยว่าดินของแกนุ่มอย่างไร ผมเห็นใส้เดือนดิ้นกระแด่ว ๆ ด้วย แสดงว่าจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินมีมาก ลุงแกปลูกไผ่ริมรั้วเพื่อใช้ทำค้าง ก็ลดปัจจัยภายนอกได้มากเลยครับ (http://image.ohozaa.com/i/393/6OOiXz.jpg) - ข้าวอินทรีย์ครับ ปลูกแบบนาหว่าน (http://image.ohozaa.com/i/673/Zt89Mg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUzDlZzSo0XnWUn) - ดูลุงคนนี้ปลูกสิครับ ผสมผสานสุดยอด ทุกอย่างเก็บขายได้หมด กล้วยพอตัดเครือก็ล้มเอาไปทำปุ๋ย มีต้นมะแคว่น (สมุนไพรใส่ลาบเชียงใหม่) ที่เก็บขายได้ แล้วยังมีสับปะรด ผักกินกับลาบ ขิงข่ากระชาย ที่สามารถขายได้ทุกวันหมุนเวียนไป แกบอกว่าแมลงไม่ค่อยมารบกวน สงสัยจะเวียนหัวครับ (http://image.ohozaa.com/i/ac7/rD01Hu.jpg) - ทางเดินในสวนแกปลูกผักที่ขายได้ทั้งหมด ส่วนลำไยแกไม่สนครับ เพราะไม่ทำกำไรมาหลายปีแล้ว ตอนนี้แกเอาต้นลำไยเป็นค้างปลูกฟักแฟงครับ ตลกมาก (http://image.ohozaa.com/i/590/B2Z0XV.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/e57/h2ilL2.jpg) - ส่วนพี่รสรินทร์นี่แกปลูกส้มอินทรีย์ครับ ทำสปริงเกลอร์ผสมน้ำหมักที่โคนต้น ก็ได้ส้มเยอะเหมือนกัน แกเคยปลูกส้มเคมีแล้วเจ๊งครับ ตอนนี้พ่อค้าเขามาเหมาสวนทุกปี จะเปรี้ยวยังไงก็เอา ส้มจะลายก็เอา แถมไม่ต้องแว็กซ์อีกด้วย ก็ได้ดีไปครับ เรื่องส้มเคมีนี่ต้องขยายในเวลาต่อไปครับ (http://image.ohozaa.com/i/a29/ZVeHnL.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: chauat ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 10:00:42 AM ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 10:04:22 AM การเผาฟางในนาข้าวจะทำให้สูญเสียธาตุอาหารหลัก ธาตุรอง และจุลธาตุ แต่ละธาตุไปกี่เปอร์เซ็นครับ
เช่น สมมุติในฟางข้าวมี N = 7.6 กก.,Ca = 3.8 กก.,Si = 41.9 กก. เป็นต้น (อาจารย์มีข้อมูลผลวิจัยไหมครับ) ผมอยากรู้มานานแล้ว จะได้คำนวนออกมาเป็นตัวเงินเวลาไปคุยกับชาวบ้านที่ชอบเผาฟาง - ตอบคุณคุณ kmsmily นะครับ ผมขอลอกจากกรมพัฒนาที่ดินมาดังนี้นะครับ ลึก ๆ กว่านี้ผมก็ไม่ได้แล้วครับ :) - "ปัจจุบัน พื้นที่การเกษตรกรรมของประเทศไทยมีระดับปริมาณอินทรียวัตถุในดินค่อนข้างต่ำมาก ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 191 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด เนื่องจากธาตุอาหารในดินสูญเสียไปอยู่ในส่วนของพืชเป็นปริมาณสูง จากการสำรวจวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรพบว่า ในแต่ละปีมีปริมาณตอซังและฟางข้าวมากกว่า 29 ล้านตัน ตอซังข้าวโพด 7.8 ล้านตัน ตอซังและเศษใบอ้อย 2 ล้านตัน และเศษพืชตระกูลถั่วและข้าวฟ่างพืชไร่ชนิดอื่น 2.4 ล้านตัน จากปริมาณวัสดุดังกล่าวเมื่อคำนวณเป็นปริมาณปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเท่ากับ 2.8, 0.7 และ 5.9 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 1,930.2, 741.4 และ 4,731.4 ล้านบาท ตามลำดับ รวมเป็นมูลค่าของปุ๋ยทั้งสิ้น 7,043 ล้านบาท ดังนั้น การเผาทำลายเศษพืชแต่ละครั้งจึงเท่ากับเป็นการสูญเสียอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดินเป็นจำนวนมาก (กรมพัฒนาที่ดิน. ไม่ปรากฏปี)" หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 11:42:06 AM - ทีนี้ถ้าเรามีเศษใบไม้สัก 1 กะละมัง อยากเอาไปทำปุ๋ยอินทรีย์ จะทำได้ยังไง เพราะปริมาณมันน้อย ไม่พอที่จะทำเป็นกองใหญ่ ๆ
- ก็มีวิธีครับ ให้เอาเศษใบไม้ 3 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากับมูลสัตว์ (ขี้วัวก็ได้) อีก 1 ส่วนโดยปริมาตรในกะละมัง (คะเนด้วยสายตาก็พอครับ เช่นใบไม้ 3 ถุง มูลสัตว์ 1 ถุง) (http://image.ohozaa.com/i/26e/RmTUdy.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/ac0/4vTMmH.jpg) - ผสมน้ำลงไปแล้วคลุกเคล้า เติมน้ำในปริมาณที่ทำให้วัสดุไม่แห้งเกินไป ไม่เปียกโชกเกินไป (http://image.ohozaa.com/i/30f/jNm9BN.jpg) - คลุกเคล้าวันละครั้ง จะบีบไป ขยำไป ก็ยิ่งดี จะใส่ถุงมือก็ได้ จะเอาไม้เขี่ยพลิกก็ดีครับ ถ้าแห้งก็เติมน้ำซะ วัสดุในกะละมังก็จะเริ่มเปลี่ยนสี เริ่มเปื่อยยุ่ย แต่ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำเสีย ไม่ดึงดูดแมลงวัน และปริมาตรเริ่มหดลงทุกวัน - เอากะละมังแอบไว้ใต้ต้นไม้ก็ดี จะได้ไม่แห้งเร็วและเวลาฝนตกน้ำจะได้ไม่ขัง ใครจะใช้กะละมังแตกที่ก้น หรือจะเจาะรูที่ก้นก็ได้ (http://image.ohozaa.com/i/e8c/lK31f6.JPG) (http://image.ohozaa.com/i/e3a/McsXd8.JPG) - พลิกกลับวันละครั้ง คอยเติมน้ำอย่าให้แห้ง พอครบ 30 วันก็ถือว่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์แล้ว แต่ยังใช้ไม่ได้ ต้องทำให้แห้งเสียก่อนโดยอาจตากแดดก่อนนำไปใช้ พอแห้ง ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จะมีขนาดเล็ก นุ่ม มีสีดำ สามารถนำไปใช้ในการปลูกต้นไม้ที่บ้านได้อย่างดี - เหตุที่ใช้เศษใบไม้ 3 ส่วน ใช้มูลสัตว์ 1 ส่วน ก็เพื่อให้มีคาร์บอนและไนโตรเจนเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ จุลินทรีย์ก็มาจากมูลสัตว์ คาร์บอนมาจากเศษใบไม้ ไนโตรเจนมาจากมูลสัตว์ - การคอยเติมน้ำจะทำให้จุลินทรีย์สามารถทำงานได้ ถ้าแห้งเกินไปก็ทำงานไม่ได้ - การพลิกกลับทุกวัน เป็นการนำอากาศไปให้จุลินทรีย์ใช้ เพราะจุลินทรีย์ที่ย่อยเศษพืชเก่งในกระบวนการทำปุ๋ยอินทรีย์เป็นจุลินทรีย์ที่ต้องการอากาศครับ - ทฤษฎีการทำปุ๋ยอินทรีย์มีแค่นี้ครับ ถ้าทำเล็ก ๆ ในกะละมังเป็น แล้วค่อยทำใหญ่ ๆ แบบวิศวกรรมแม่โจ้ 1 ก็น่าจะมั่นใจได้ - ลองทำนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: koncon929 ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 01:26:20 PM ขอบคูณครับอาจารณ์ ข้างบ้านมีใบไผ่ ใบกล้วย เดี๋ยวไปหาขี้วัวก่อน ลองทำในกะละมังก่อน จากน้อยค่อยไปหาใหญ่ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: supischa ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 02:14:09 PM :-[ ขอบคุณข้อมูลและเรื่องราวที่เป็นสิ่งดีๆที่เอามาฝากผู้ที่รักการเกษตรครับ ถ้ามีนักวิชาการที่เหมือนอาจารย์เยอะๆในบ้านเรา รับรองว่าบ้านเราคงเจริญมากกว่านี้แน่นอนครับ ขอบคุณด้วยใจจริงครับ... :-[
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: wirot ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 02:48:06 PM ดีจังเลย ขอยกให้เป็นกระทู้ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งกระทู้ครับ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 02:59:35 PM จารย์ครับ สมมติว่าผมใช้ผักตบชวา จอกแหน สาหร่ายหางกระรอกเอามาทำ ผมไม่จำเป็นต้องเอาพวกพืชพวกนี้ไปตากแห้งก่อนใช่มั้ยครับ คือ พอเก็บมันมาจากน้ำก็เอามาวางเป็นชั้น ๆ บนขี้วัวได้เลยใช่มั้ยครับ เพราะยังไงเราก็ต้องการความชื้นเพื่อให้จุลินทรีย์ย่อยสลายอยู่แล้วใช่มั้ยครับ
แต่ผมคิืดว่า ผักตบชวา หรือ ต้นกล้วยที่ออกเครือแล้วจะต้องทำให้มันเป็นชิ้นเล็ก ๆ ย่อย ๆ ลงมาด้วยใช่มั้ยครับเพื่อเพิ่มผิวสัมผัสจะได้ใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายได้เร็วใช่มั้ยครับ ปล. ผมสั่งขี้วัว 200 กระสอบมาที่สวนจะมาส่งเสาร์นี้ล่ะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Thailandranch ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 04:02:00 PM ขอสอบถามเพิ่มเติมครับว่า เราสามารถใช้ต้นกระถินมาบดสับได้ไหมครับ
เพราะที่ผมอยู่กระถินเยอะมาก ตัดเอาเฉพาะต้นเล็กๆประมาณ นิ้วก้อยเอาเข้าเครื่องสับ แล้วผสมมูลโค ตามสูตรนะครับ ขอบคุณมากครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 04:36:03 PM งั้นต้องลองหมักที่บ้านตึกเพราะมีเศษผักบุ้งจากร้าน ก๋วยเตี๋ยวข้างๆมีทุกวัน หมักเอาไว้ปลูกต้นไม้ที่สวนลอยฟ้า สมาชิกท่านใดลงมือหมัก ทั้งเล็กๆใหญ่ๆเราเอารูปมาส่งการบ้านให้อาจารย์ดีใหมคะ ถ้าใครลงมือทำเอารูปมาแบ่งปันกันค่ะ อีก 2วัน พี่ดวงพรรอเศษผักให้เยอะๆอีกนิดจะลงมือหมักและจะเอาการบ้านมาส่งอาจารย์ค่ะ ;D เชิญสมาชิกทุกท่านลงมือหมักปุ๋ยกันนะคะ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 04:58:26 PM :( ดินที่นามีปัญหามากค่ะอาจารย์ ไม่ทราบว่าปู๋ยอินทรีย์หรือปู๋ยไส้เดือนแบบไหนใหปรับปรุงดินกว่ากันค่ะ หรือจะทำทั้งสองอย่างดี ดินเหนียวและแข็งมากมาก >:( :( ใส่ปุ๋ยขี้ไกปนแกลบไป สองร้อยกระสอบแล้ว แต่ต้นทุนสูงมาก เลยคิดเลี้ยงไส้เดือนเพื่อเป็นปุ๋ยและอาหารกบ ปลา และไก่ อยากทราบว่าเราควรจะทำแบบไหนดีค่ะ :o แต่ในใจคิดว่าสองอย่างค่ะ เริ่มทำทีละนิดละหน่อยค่ะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: cjaranram ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 05:56:47 PM - การทำปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้ แม่โจ้ตั้งชื่อว่าวิธี "วิศวกรรมแม่โจ้ 1" ครับผม หมายความว่า ทำชั้นแรกเสร็จรดน้ำชั้นสองเสร็จแล้วรดน้ำ แบบนี้ไปเรื่อยจนถึงชั้นสุดท้าย ใช่ไหม?ครับ หรือว่า กองเสร็จทุกชั้นแล้วค่อยรดน้ำ- วิธีการขึ้นกองปุ๋ยนะครับ 1. นำเศษข้าวโพดหรือฟางข้าว 4 ส่วนกับมูลสัตว์ 1 ส่วนโดยปริมาตร (ถ้าเป็นเศษใบไม้ให้ใช้อัตราส่วน 3 ต่อ 1 โดยปริมาตร) วางเป็นชั้นบาง ๆ สูงไม่เกิน 10 เซนติเมตร จำนวน 15 - 17 ชั้น รดน้ำแต่ละชั้นให้มีความชื้น ขึ้นกองเป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 1.50 เมตร ฐานกว้าง 2.5 เมตร ส่วนความยาวของกองจะยาวเท่าไรก็ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณเศษพืชและมูลสัตว์ที่มี ความสำคัญของการที่ต้องทำเป็นชั้นบาง ๆ 15 - 17 ชั้นก็เพื่อให้จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในมูลสัตว์ได้ใช้ทั้งธาตุคาร์บอน (มีอยู่ในเศษพืช) และธาตุไนโตรเจน (มีในมูลสัตว์) ในการเจริญเติบโตและสร้างเซลล์ของจุลินทรีย์ ซึ่งจะทำให้การย่อยสลายวัตถุดิบเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว 2. รักษาความชื้นภายในกองปุ๋ยให้มีความเหมาะสมอยู่เสมอตลอดเวลา (มีค่าประมาณร้อยละ 60 – 70) โดยมี 2 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 รดน้ำภายนอกกองปุ๋ยทุกเช้า (ถ้าฝนตกก็ให้งดขั้นตอนนี้) ขั้นตอนที่ 2 ใช้ไม้แทงกองปุ๋ยให้เป็นรูลึกถึงข้างล่างแล้วกรอกน้ำลงไป ระยะห่างของรูประมาณ 40 เซนติเมตร ทำขั้นตอนที่สองนี้ 5 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน 10 วัน เมื่อเติมน้ำเสร็จแล้วให้ปิดรูเพื่อไม่ให้สูญเสียความร้อนภายในกองปุ๋ย ขั้นตอนที่สองนี้แม้ว่าอยู่ในช่วงของฤดูฝนก็ยังต้องทำ เพราะน้ำฝนจะไม่สามารถไหลซึมเข้าไปในกองปุ๋ยได้ การที่ฝนไม่สามารถชะล้างเข้าไปในกองปุ๋ยได้เกษตรกรจึงสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีนี้ในฤดูฝนได้ด้วย ภายในเวลา 5 วันแรก กองปุ๋ยจะมีค่าอุณหภูมิสูงขึ้นมาก บางครั้งสูงถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับกองปุ๋ยที่ทำได้ถูกวิธี ความร้อนสูงนี้เกิดจากกิจกรรมการย่อยสลายของจุลินทรีย์ (จุลินทรีย์มีมากมายและหลากหลายในมูลสัตว์อยู่แล้ว) และความร้อนสูงนี้ยังเป็นสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมกับการทำงานของจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยอีกด้วย หลังจากนั้นอุณหภูมิจะค่อย ๆ ลดลงจนมีค่าอุณหภูมิปกติที่อายุ 60 วัน 3. เมื่อกองปุ๋ยมีอายุครบ 60 วัน ก็หยุดให้ความชื้น กองปุ๋ยจะมีความสูงเหลือเพียง 1 เมตร แล้วทำปุ๋ยอินทรีย์ให้แห้งเพื่อให้จุลินทรีย์สงบตัวและไม่ให้เป็นอันตรายต่อรากพืช วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ให้แห้งอาจทำโดยทิ้งไว้ในกองเฉยๆ ประมาณ 1 เดือน หรืออาจแผ่กระจายให้มีความหนาประมาณ 20 – 30 ซม. แล้วเกลี่ยไปมา ซึ่งจะแห้งภายในเวลา 3 – 4 วัน สำหรับผู้ที่ต้องการจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ก็อาจนำปุ๋ยอินทรีย์ที่แห้งแล้วไปตีป่นให้มีขนาดเล็กสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 4-7 บาท กองปุ๋ยที่สูง 1.5 เมตรจะสามารถเก็บกักความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาการย่อยสลายของจุลินทรีย์เอาไว้ในกองปุ๋ย ความร้อนนี้นอกจากจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับจุลินทรีย์ชนิดชอบความร้อนสูงที่มีในมูลสัตว์แล้ว เมื่อความร้อนนี้ลอยตัวสูงขึ้นจะทำให้อากาศภายนอกที่เย็นกว่าไหลเข้าไปในภายในกองปุ๋ย ซึ่งเกิดจากการพาความร้อนแบบ Chimney Convection อากาศภายนอกที่ไหลหมุนเวียนเข้ากองปุ๋ยนี้ช่วยทำให้เกิดสภาวะการย่อยสลายของจุลินทรีย์แบบใช้อากาศ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:39:17 PM จารย์ครับ สมมติว่าผมใช้ผักตบชวา จอกแหน สาหร่ายหางกระรอกเอามาทำ ผมไม่จำเป็นต้องเอาพวกพืชพวกนี้ไปตากแห้งก่อนใช่มั้ยครับ คือ พอเก็บมันมาจากน้ำก็เอามาวางเป็นชั้น ๆ บนขี้วัวได้เลยใช่มั้ยครับ เพราะยังไงเราก็ต้องการความชื้นเพื่อให้จุลินทรีย์ย่อยสลายอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แต่ผมคิืดว่า ผักตบชวา หรือ ต้นกล้วยที่ออกเครือแล้วจะต้องทำให้มันเป็นชิ้นเล็ก ๆ ย่อย ๆ ลงมาด้วยใช่มั้ยครับเพื่อเพิ่มผิวสัมผัสจะได้ใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายได้เร็วใช่มั้ยครับ ปล. ผมสั่งขี้วัว 200 กระสอบมาที่สวนจะมาส่งเสาร์นี้ล่ะครับ -ทุกชนิดเศษพืชที่พูดมา ย่อยสลายได้ง่ายโดยไม่ต้องทำให้แห้งก่อน วางเป็นชั้น ๆ ได้เลย (ชั้นบาง ๆ ไม่หนาเกิน 10 ซม นะครับ) - ถูกต้องเลยครับที่การเพิ่มผิวสัมผัสจะลดเวลาในการย่อยสลายได้ แสดงว่าจบมาทางวิทยาศาสตร์หรือสิ่งแวดล้อมใช่ไหมครับ - หากเป็นต้นกล้วย ก็ควรนั่งสับให้เป็นแว่นหนาสัก 1 นิ้วก่อน ก็จะช่วยได้ดี - กลุ่มพืชเหล่านี้อาจใช้สัดส่วน 5 ต่อ 1 ก็ได้ เพราะอวบน้ำ ไม่งั้นจะเปลืองขี้วัวมากเกินไปครับ - เอารูปมาลงให้ดูด้วยนะครับ เป็นระยะ ๆ ก็จะดีเลย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:41:55 PM ขอสอบถามเพิ่มเติมครับว่า เราสามารถใช้ต้นกระถินมาบดสับได้ไหมครับ เพราะที่ผมอยู่กระถินเยอะมาก ตัดเอาเฉพาะต้นเล็กๆประมาณ นิ้วก้อยเอาเข้าเครื่องสับ แล้วผสมมูลโค ตามสูตรนะครับ ขอบคุณมากครับ - ขึ้นอยู่กับชนิดเครื่องย่อยด้วยครับ ถ้าเครื่องสามารถตีด้วย สับด้วย ก็จะย่อยสลายได้ แต่ถ้าสับอย่างเดียวผมคิดว่าก้านขนาดนิ้วก้อยเหล่านี้ไม่เปื่อยง่าย ๆ ครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:43:40 PM งั้นต้องลองหมักที่บ้านตึกเพราะมีเศษผักบุ้งจากร้าน ก๋วยเตี๋ยวข้างๆมีทุกวัน หมักเอาไว้ปลูกต้นไม้ที่สวนลอยฟ้า สมาชิกท่านใดลงมือหมัก ทั้งเล็กๆใหญ่ๆเราเอารูปมาส่งการบ้านให้อาจารย์ดีใหมคะ ถ้าใครลงมือทำเอารูปมาแบ่งปันกันค่ะ อีก 2วัน พี่ดวงพรรอเศษผักให้เยอะๆอีกนิดจะลงมือหมักและจะเอาการบ้านมาส่งอาจารย์ค่ะ ;D เชิญสมาชิกทุกท่านลงมือหมักปุ๋ยกันนะคะ ;D - เย้ .... จะได้ตรวจการบ้านแล้ว ไอเดียดีจังครับ :D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:47:11 PM :( ดินที่นามีปัญหามากค่ะอาจารย์ ไม่ทราบว่าปู๋ยอินทรีย์หรือปู๋ยไส้เดือนแบบไหนใหปรับปรุงดินกว่ากันค่ะ หรือจะทำทั้งสองอย่างดี ดินเหนียวและแข็งมากมาก >:( :( ใส่ปุ๋ยขี้ไกปนแกลบไป สองร้อยกระสอบแล้ว แต่ต้นทุนสูงมาก เลยคิดเลี้ยงไส้เดือนเพื่อเป็นปุ๋ยและอาหารกบ ปลา และไก่ อยากทราบว่าเราควรจะทำแบบไหนดีค่ะ :o แต่ในใจคิดว่าสองอย่างค่ะ เริ่มทำทีละนิดละหน่อยค่ะ - ถ้ามีที่นามาก จะต้องทำปุ๋ยไส้เดือนกี่ปีถึงจะได้ 1 ตันต่อ 1 ไร่ครับ ผมคิดว่าการทำปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกองนี่แหละที่จะได้ครั้งละมาก ๆ พอที่จะนำไปใช้ได้ แต่ถ้าถามถึงคุณภาพ ผมก็คิดว่าก็ไม่ขี้เหร่ทั้งคู่นะครับ ทำทั้งสองก็ดีเหมือนกันครับ เพราะยังไงก็ต้องทำเพื่อปรับปรุงดินและเป็นอาหารสัตว์อยู่แล้ว หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 06:51:03 PM - การทำปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้ แม่โจ้ตั้งชื่อว่าวิธี "วิศวกรรมแม่โจ้ 1" ครับผม หมายความว่า ทำชั้นแรกเสร็จรดน้ำชั้นสองเสร็จแล้วรดน้ำ แบบนี้ไปเรื่อยจนถึงชั้นสุดท้าย ใช่ไหม?ครับ หรือว่า กองเสร็จทุกชั้นแล้วค่อยรดน้ำ- วิธีการขึ้นกองปุ๋ยนะครับ 1. นำเศษข้าวโพดหรือฟางข้าว 4 ส่วนกับมูลสัตว์ 1 ส่วนโดยปริมาตร (ถ้าเป็นเศษใบไม้ให้ใช้อัตราส่วน 3 ต่อ 1 โดยปริมาตร) วางเป็นชั้นบาง ๆ สูงไม่เกิน 10 เซนติเมตร จำนวน 15 - 17 ชั้น รดน้ำแต่ละชั้นให้มีความชื้น ขึ้นกองเป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 1.50 เมตร ฐานกว้าง 2.5 เมตร ส่วนความยาวของกองจะยาวเท่าไรก็ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณเศษพืชและมูลสัตว์ที่มี ความสำคัญของการที่ต้องทำเป็นชั้นบาง ๆ 15 - 17 ชั้นก็เพื่อให้จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในมูลสัตว์ได้ใช้ทั้งธาตุคาร์บอน (มีอยู่ในเศษพืช) และธาตุไนโตรเจน (มีในมูลสัตว์) ในการเจริญเติบโตและสร้างเซลล์ของจุลินทรีย์ ซึ่งจะทำให้การย่อยสลายวัตถุดิบเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว 2. รักษาความชื้นภายในกองปุ๋ยให้มีความเหมาะสมอยู่เสมอตลอดเวลา (มีค่าประมาณร้อยละ 60 – 70) โดยมี 2 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 รดน้ำภายนอกกองปุ๋ยทุกเช้า (ถ้าฝนตกก็ให้งดขั้นตอนนี้) ขั้นตอนที่ 2 ใช้ไม้แทงกองปุ๋ยให้เป็นรูลึกถึงข้างล่างแล้วกรอกน้ำลงไป ระยะห่างของรูประมาณ 40 เซนติเมตร ทำขั้นตอนที่สองนี้ 5 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน 10 วัน เมื่อเติมน้ำเสร็จแล้วให้ปิดรูเพื่อไม่ให้สูญเสียความร้อนภายในกองปุ๋ย ขั้นตอนที่สองนี้แม้ว่าอยู่ในช่วงของฤดูฝนก็ยังต้องทำ เพราะน้ำฝนจะไม่สามารถไหลซึมเข้าไปในกองปุ๋ยได้ การที่ฝนไม่สามารถชะล้างเข้าไปในกองปุ๋ยได้เกษตรกรจึงสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีนี้ในฤดูฝนได้ด้วย ภายในเวลา 5 วันแรก กองปุ๋ยจะมีค่าอุณหภูมิสูงขึ้นมาก บางครั้งสูงถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับกองปุ๋ยที่ทำได้ถูกวิธี ความร้อนสูงนี้เกิดจากกิจกรรมการย่อยสลายของจุลินทรีย์ (จุลินทรีย์มีมากมายและหลากหลายในมูลสัตว์อยู่แล้ว) และความร้อนสูงนี้ยังเป็นสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมกับการทำงานของจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยอีกด้วย หลังจากนั้นอุณหภูมิจะค่อย ๆ ลดลงจนมีค่าอุณหภูมิปกติที่อายุ 60 วัน 3. เมื่อกองปุ๋ยมีอายุครบ 60 วัน ก็หยุดให้ความชื้น กองปุ๋ยจะมีความสูงเหลือเพียง 1 เมตร แล้วทำปุ๋ยอินทรีย์ให้แห้งเพื่อให้จุลินทรีย์สงบตัวและไม่ให้เป็นอันตรายต่อรากพืช วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ให้แห้งอาจทำโดยทิ้งไว้ในกองเฉยๆ ประมาณ 1 เดือน หรืออาจแผ่กระจายให้มีความหนาประมาณ 20 – 30 ซม. แล้วเกลี่ยไปมา ซึ่งจะแห้งภายในเวลา 3 – 4 วัน สำหรับผู้ที่ต้องการจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ก็อาจนำปุ๋ยอินทรีย์ที่แห้งแล้วไปตีป่นให้มีขนาดเล็กสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 4-7 บาท กองปุ๋ยที่สูง 1.5 เมตรจะสามารถเก็บกักความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาการย่อยสลายของจุลินทรีย์เอาไว้ในกองปุ๋ย ความร้อนนี้นอกจากจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับจุลินทรีย์ชนิดชอบความร้อนสูงที่มีในมูลสัตว์แล้ว เมื่อความร้อนนี้ลอยตัวสูงขึ้นจะทำให้อากาศภายนอกที่เย็นกว่าไหลเข้าไปในภายในกองปุ๋ย ซึ่งเกิดจากการพาความร้อนแบบ Chimney Convection อากาศภายนอกที่ไหลหมุนเวียนเข้ากองปุ๋ยนี้ช่วยทำให้เกิดสภาวะการย่อยสลายของจุลินทรีย์แบบใช้อากาศ - ทำชั้นแรกเสร็จรดน้ำชั้นสองเสร็จแล้วรดน้ำ แบบนี้ไปเรื่อยจนถึงชั้นสุดท้าย ครับผม - พอครบ 10 วันก็จะพบว่าข้างในกองปุ๋ยเริ่มแห้งจากความร้อนครับ (อย่าคิดว่าน้ำที่เรารดทุกชั้นจะอยู่กับเราไปตลอดนะครับ) ก็ต้องเอาไม้แทงถึงพื้นดินระยะห่าง 40 ซม.แล้วกรอกน้ำลงไป เสร็จแล้วปิดรูซะ - ถ้าไม่รักษาความชื้นให้ดี ก็ไม่มีทางได้ปุ๋ยครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 07:14:27 PM - กลับมาที่การทำปุ๋ยอินทรีย์ในกะละมังนะครับ ตอนนี้ในกระบวนการของเรามีสภาวะที่ครบสำหรับการย่อยสลาย คือมีทั้งจุลินทรีย์ คาร์บอน ไนโตรเจน ความชื้น และอากาศ เศษพืชก็เลยเป็นปุ๋ยได้ในเวลาอันสั้น
- ทีนี้ถ้าขาดปัจจัยอันใดอันหนึ่งจะเกิดอะไรบ้าง เรามาดูกัน - ถ้าขาดจุลินทรีย์ หรือมีไม่เพียงพอ กระบวนการก็ใช้เวลานานขึ้น คุณภาพก็ลดลงด้วย - ถ้าขาดความชื้น กระบวนการก็ใช้เวลานานขึ้น และถ้าแห้ง กระบวนการก็ยุติครับ - ถ้าขาดอากาศ อย่างเช่นไม่ได้พลิกกลับเลย วัสดุในกะละมังก็จะไม่มีอากาศ จุลินทรีย์ก็จะไม่ได้รับอากาศ จุลินทรีย์กลุ่มไม่ใช้อากาศก็จะเข้ามาทำงานแทน จุลินทรีย์กลุ่มนี้มีลักษณะเด่นที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นจากแก๊สไข่เน่า เกิดมีเทน มีกลิ่นแอมโมเนีย และมีน้ำเสียออกมา (เกิดการเน่านั่นเองหรือ Fermentation) ผลคือการย่อยสลายจะช้าลง ปุ๋ยของเราจะมีลักษณะไม่น่าใช้ ส่งกลิ่นเหม็นทั้งขณะทำและตอนเป็นปุ๋ย คุณภาพก็ลดลงด้วย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: looknat ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 07:28:16 PM อาจารย์คะ ถ้าแถวบ้านไม่มีการเลี้ยงสัตว์เลย และหาซื้อไม่ได้ จะมีอะไรมาใช้แทนมูลสัตว์ได้บ้างคะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 07:54:45 PM - และถ้าสัดส่วนผสมระหว่างเศษพืชกับมูลสัตว์ไม่ถูกต้อง การเจริญเติบโตและสร้างเซลล์ของจุลินทรีย์ก็เกิดได้ไม่เต็มที่ คุณภาพปุ๋ยก็จะลด ค่า C/N ของปุ๋ยก็ไม่ได้ตามที่มาตรฐานกำหนด
- การทำปุ๋ยในกะละมังแล้วจะหวังให้มีความร้อนเกิดขึ้นสูงก็คงจะยาก เพราะมีความสูงของวัสดุไม่มาก ความร้อนที่เกิดจะหายไปหมด อย่างมากก็อาจรู้สึกอุ่น ๆ ที่ก้นกะละมังครับ - สรุปว่า การทำปุ๋ยอินทรีย์ทั่วไปวิธีอื่นเขาจึงสอนให้พลิกกองปุ๋ยเพื่อเอาอากาศให้กับจุลินทรีย์ ถ้าสอนให้พลิกทุกเดือน จุลินทรีย์ก็จะได้อากาศประมาณชั่วโมงเดียวแล้วก็ต้องรอไปอีก 30 วันถึงจะมีใครมาพลิกอีกที แล้วมันจะเป็นปุ๋ยได้ยังไงครับ แถมไม่มีใครสอนให้สนใจและดูแลความชื้นกองปุ๋ยอีก การเป็นปุ๋ยก็เลยช้าและคุณภาพตกเกณฑ์ โชคดีที่การวิคราะห์คุณภาพปุ๋ยทำได้ยากไม่ค่อยมีหน่วยงานทำให้และแพง ก็เลยไม่มีใครพูดถึงคุณภาพปุ๋ยกัน - บางวิธีก็สอนให้ใส่กากน้ำตาล ซึ่งก็คือเติมไนโตรเจนให้กับกระบวนการครับ บางวิธีให้ใช้รำข้าว ซึ่งก็คือคาร์บอนนั่นเอง - บางวิธีให้ไปเอาจุลินทรีย์ขุยไผ่ในป่า นั่นก็คือหาจุลินทรีย์ให้กับกองปุ๋ยครับ แต่คงทำปุ๋ยได้ครั้งละไม่มากนักเพราะจะหาจุลินทรีย์ปริมาณทีละมาก ๆ ก็คงจะยากอยู่ - บางวิธีให้ใช้สารเร่ง พด 1 ซึ่งก็คือจุลินทรีย์นั่นเองครับ และสูตรของ พด (กรมพัฒนาที่ดิน) ท้ายสุดก็ต้องใช้มูลสัตว์ 200 กิโลอยู่ดีครับ - บางวิธีกำหนดสัดส่วนวัสดุเป็นโดยน้ำหนัก เช่น ให้เอาเศษพืชมา 2 ตัน เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นผมผมคงจนปัญญาที่จะหาเครื่องชั่งให้เกษตรกรครับ เลยกำหนดสูตรเป็นโดยปริมาตรจะดีกว่า อย่างเช่น เอาเศษพืชมา 300 เข่งใช้มูลสัตว์ 100 เข่ง ก็เท่ากับสัดส่วน 3 ต่อ 1 โดยปริมาตรไงครับ น่าจะง่ายที่สุดแล้ว หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 07:58:05 PM กลับบ้านนอกไปใส่ปุ๋ยยาง
ไปหว่านข้าว..มีคนโทร.ไปบอกว่า มีกระทู้ใหม่ในกระดานถาม-ตอบ เรื่อง การทำปุ๋ยหมักไม่ต้องพลิกกลับกอง ให้รีบกลับมากรุงเทพฯ..มาดูกระทู้นี้..ว่างั้น เข้ามาดูแล้ว..ดีใจที่มีกระทู้ดีๆแบบนี้ ;) ;)เพราะชอบหมักปุ๋ยใช้เอง หมักแบบสเปะสะปะ ..ไร้ความรู้..แต่ยางพารา..กับพืชผัก+ต้นไม้ที่ได้รับปุ๋ยเรา..เค้าก็ชอบน่ะ ดูได้จากการที่กลับไปสวนแต่ละครั้ง..ต้นไม้ยิ้มๆให้น่ะ..รู้สึกอย่างนี้จริงๆ ;D ;D ขอบพระคุณท่านอาจารย์ธีระ..ที่เข้ามาประสิทธิ์ประศาสน์ให้ความรู้ค่ะ ถ้าทำอย่างที่อาจารย์สอนแนะสำเร็จ..เท่ากับว่าศิษย์คนนี้ได้เรียนสำเร็จจาก ม.แม่โจ้ นะเนี่ย คาดว่าในฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะถึงนี้..ศึกชิงฟางข้าวจะเกิดขึ้นค่ะอาจารย์ เมื่อก่อน..การทำปุ๋ยหมัก..ไม่รู้ก็พยายามศึกษาค้นคว้า เมื่ออาจารย์มาสอน (ทางเน็ต) รู้แล้วก็จะลงมือทำ... เมื่อรู้แล้ว..ไม่ลงมือทำ..ถือว่าศิษย์คนนี้..โง่เขลายิ่งนัก หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 08:05:34 PM อาจารย์คะ ถ้าแถวบ้านไม่มีการเลี้ยงสัตว์เลย และหาซื้อไม่ได้ จะมีอะไรมาใช้แทนมูลสัตว์ได้บ้างคะ - ตามปกติผมสอนให้เกษตรกรใช้การบริหารจัดการ เช่น สั่งซื้อจากชุมชนอื่น หมู่บ้านอื่น หรืออำเภออื่น ซึ่งมันจะยากแค่ครั้งแรก แต่หลังจากนั้นก็สบายแล้วครับ ก็เหมาะกับการสั่งซื้อทีละ 200 กระสอบขึ้นไป (ยิ่งมากก็ยิ่งถูก ถ้าไม่เอากระสอบก็ยิ่งถูก) - ถ้าจะทำปุ๋ยครั้งละไม่มากและไม่มีมูลสัตว์ ก็ต้องไปหาจุลินทรีย์จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่มูลสัตว์ นั่นคือ ไปขอสารเร่ง พด 1 จากหมอดินอาสาในหมู่บ้านหรือจากสำนักงานที่ดินจังหวัด (ขอทีนึงก็ให้ขอเป็นกล่องเลยนะครับ เขาคงปลื้มที่จะมีคนทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้กัน) แล้วใช้ปุ๋ยยูเรียเป็นแหล่งไนโตรเจน แต่สัดส่วนจะใช้ยังไงก็ขอให้ทดลองดูเองนะครับ เพราะผมยังไม่ได้ทดลองครับผม (ทำเปรียบเทียบกัน 2-3 กอง ภายในเวลา 2 เดือนก็จะทราบแล้วล่ะครับ) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 08:11:17 PM กลับบ้านนอกไปใส่ปุ๋ยยาง ไปหว่านข้าว..มีคนโทร.ไปบอกว่า มีกระทู้ใหม่ในกระดานถาม-ตอบ เรื่อง การทำปุ๋ยหมักไม่ต้องพลิกกลับกอง ให้รีบกลับมากรุงเทพฯ..มาดูกระทู้นี้..ว่างั้น เข้ามาดูแล้ว..ดีใจที่มีกระทู้ดีๆแบบนี้ ;) ;)เพราะชอบหมักปุ๋ยใช้เอง หมักแบบสเปะสะปะ ..ไร้ความรู้..แต่ยางพารา..กับพืชผัก+ต้นไม้ที่ได้รับปุ๋ยเรา..เค้าก็ชอบน่ะ ดูได้จากการที่กลับไปสวนแต่ละครั้ง..ต้นไม้ยิ้มๆให้น่ะ..รู้สึกอย่างนี้จริงๆ ;D ;D ขอบพระคุณท่านอาจารย์ธีระ..ที่เข้ามาประสิทธิ์ประศาสน์ให้ความรู้ค่ะ ถ้าทำอย่างที่อาจารย์สอนแนะสำเร็จ..เท่ากับว่าศิษย์คนนี้ได้เรียนสำเร็จจาก ม.แม่โจ้ นะเนี่ย คาดว่าในฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะถึงนี้..ศึกชิงฟางข้าวจะเกิดขึ้นค่ะอาจารย์ เมื่อก่อน..การทำปุ๋ยหมัก..ไม่รู้ก็พยายามศึกษาค้นคว้า เมื่ออาจารย์มาสอน (ทางเน็ต) รู้แล้วก็จะลงมือทำ... เมื่อรู้แล้ว..ไม่ลงมือทำ..ถือว่าศิษย์คนนี้..โง่เขลายิ่งนัก - ดีจัง มีนักเรียนเพิ่มอีกคนนึงแล้ว อีกสองเดือนทุกคนในห้องคอยฟังผลงานกับรูปนะครับ - เอ.... วันแรกที่ขึ้นกองก็น่าจะโพสรูปได้นะครับนักเรียน - นักเรียนคนนี้พูดถูกเลยครับ ที่ว่า ปุ๋ยทำสะเปะสะปะ พืชก็ยังชอบ ข้อแตกต่างของวิธีการทำของแม่โจ้ก็คือ ง่ายขึ้นกว่าเดิม ได้ปริมาณครั้งละมาก ๆ แค่นั้นครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: เอ ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 08:17:17 PM อาจารย์ครับ ถ้าจะขอหมักง่ายๆแบบไม่ต้องใช้ปุ๋ยคอกได้ไหมครับ(มันหายากและอยากประหยัด) จะขอหมักแบบเอาจอบถากหญ้ามากองๆรวมกันข้างๆต้นไม้ที่เราปลูกแบบต้นต่อต้นเลยจะได้ขนไปใส่ต้นไม้ได้ใกล้ๆหน่อยประหยัดแรงงานด้วยถ้าทำแบบนี้มีเทคนิคอย่างไรให้มันย่อยสลายได้เร็วครับ อย่าโมโหกะคำถามนะครับ อิอิ...
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: neiizpooh ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 08:21:26 PM ขอติดตามค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: eight ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 08:23:31 PM - จากกรณีของลุงเจริญ มีข้อสังเกตหลายอย่างนะครับ 1. ขอให้ดินอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกได้โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีและยาเคมี 2. เมื่อไม่ใช้ปุ๋ยและยาเคมี ต้นทุนก็ลดลง กำไรก็เพิ่ม 3. เมื่อดินอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรก็สามารถเพาะปลูกแบบผสมผสาน ที่ลดความเสี่ยง ไม่เหมือนการปลูกเชิงเดี่ยวที่ต้องทำทีละมาก ๆ จึงจะได้ปีละแสน แต่ว่าสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนี้สามารถเก็บผักขายได้อย่างต่ำวันละ 200 บาท 365 วันก็เท่ากับ 7 หมื่นกว่าบาท ที่สำคัญคือไม่มีรายจ่ายที่จะต้องซื้อผักคนอื่นกิน 4. ถ้าเกษตรกรทั่วไปเข้าใจเรื่องพวกนี้ แล้วทำการเกษตรแบบเคมีผสมปุ๋ยอินทรีย์ รับรองได้ว่าระเบิดเถิดเทิง แล้วถ้ามั่นใจก็ค่อยลดปุ๋ยเคมีลงอีก 5. แต่มีปัญหาที่ว่า เกษตรกรรวมทั้งสมาชิกเว็บบางคนยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องลงมือทำกองปุ๋ย ยังสมัครใจที่จะซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของคนอื่นที่มีราคาแพง ก็ยิ่งเพิ่มต้นทุนไปกันใหญ่ (การทำปุ๋ยวิธีนี้มีค่าต้นทุนด้านมูลสัตว์ 900 บาทต่อตันปุ๋ย ในขณะที่ถ้าต้องซื้อปุ๋ยของโรงงานบางครั้งจะต้องจ่ายถึง 7 พันบาทต่อตันปุ๋ย หรือกระสอบละ 350 บาท) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะคงต้องใช้เวลาที่จะคิดได้อีกนาน หลักของความพอเพียงคือต้องลดปัจจัยภายนอกให้มากครับ การโทรสั่งซื้อปุ๋ยนั้นมีแต่จะให้ร้านรวยครับ 6. ผมสอนนักศึกษาเสมอว่า ปัญหาเดิม ถ้าแก้ด้วยวิธีการเดิม ๆ จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องใช้วิธีใหม่ ๆ จึงจะแก้ได้ 7. มีตรรกะอยู่ว่า เมื่อก่อน ก่อนที่จะมีปุ๋ยเคมีในโลก (ก่อนปี 2503) ทำไมสมัยนั้นเราสามารถปลูกข้าวได้เป็นที่หนึ่งของโลก ทั้ง ๆ ที่ใช้แค่ขี้วัวขี้ควายจากการผูกวัวควายในทุ่งนา แล้วทำไมตอนนี้เกษตรกรจึงต้องพึ่งปุ๋ยเคมีมากมาย ผมไม่ได้ต่อต้านปุ๋ยเคมีครับ ผมว่ามันมีวิธีใช้ปุ๋ยเคมีอย่างมีประสิทธิภาพได้แต่ต้องปรับปรุงบำรุงดินด้วยครับ ปุ๋ยเคมีไม่ได้เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินครับ มีแต่เร่งการเจริญเติบโต และในท้ายที่สุด ในระยะยาว มันกลับทำร้ายดิน ทำให้ดินกลายเป็นกรดที่ลดปริมาณผลผลิตลงเรื่อย ๆ ทำไมต้องชอบข้อนี้ด้วย บทสรุปของการยิ่งทำยิ่งหนี้เยอะ ขอบคุณมากมาย.....:-[ :-[ :-[ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:03:50 PM อาจารย์ครับ ถ้าจะขอหมักง่ายๆแบบไม่ต้องใช้ปุ๋ยคอกได้ไหมครับ(มันหายากและอยากประหยัด) จะขอหมักแบบเอาจอบถากหญ้ามากองๆรวมกันข้างๆต้นไม้ที่เราปลูกแบบต้นต่อต้นเลยจะได้ขนไปใส่ต้นไม้ได้ใกล้ๆหน่อยประหยัดแรงงานด้วยถ้าทำแบบนี้มีเทคนิคอย่างไรให้มันย่อยสลายได้เร็วครับ อย่าโมโหกะคำถามนะครับ อิอิ... - ถ้าสุมเศษหญ้ามากองข้างต้นไม้ เนื่องจากขาดองค์ประกอบตามที่จุลินทรีย์ต้องการ มันก็จะไม่ย่อยสลายครับ ข้อดีคือ การคลุมโคนต้นช่วยเรื่องความชื้นได้ ลดการงอกของวัชพ์ชได้ อีกสัก 3-4 ปีพอลืม ๆ ก็คงย่อยสลายครับ - แต่ถ้าโดยเศษหญ้า เศษใบไม้ทำกองปุ๋ยที่นอกทรงพุ่ม เราก็จะได้ปุ๋ยในเวลา 2 เดือน มีต้นทุนจากมูลสัตว์แค่ 900 บาทต่อ 1 ตันปุ๋ยแค่นั้นครับ อดใจสักนิด อดทนอีกหน่อย เดี๋ยวก็ได้ปุ๋ยแล้วครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:11:27 PM ขอบคุณมากครับ ดีใจที่มีอาจารย์ที่เป็นอาจารย์เกษตรจริงๆ ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนให้ความรู้แก่สมาชิกชาวเกษตรพอเพียง โอ้โหมีนักวิชาการมาให้ความรู้ด้วยแล้ว ดีใจจริงๆ ครับ นึกว่าจะมีแต่ชาว กพพ ที่ช่วยกันแนะนำ ตามความรู้และประสพการณ์ และแล้วก็ยังมี นักวิชาการดีๆที่คอยช่วยเหลือประชาชน ขอบพระคุณอย่างสูงครับ ชาวกพพ เป็นกำลังใจให้ครับ ขอบคุณครับ :-[ :-[และผู้ที่สนใจทั่วไป เป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะพัฒนาการเกษตรของเราไปได้อย่างถูกต้องและก้าวไกลต่อไป ขอบคุณมากๆเลยครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:14:15 PM อาจารย์ครับ ถ้าจะขอหมักง่ายๆแบบไม่ต้องใช้ปุ๋ยคอกได้ไหมครับ(มันหายากและอยากประหยัด) จะขอหมักแบบเอาจอบถากหญ้ามากองๆรวมกันข้างๆต้นไม้ที่เราปลูกแบบต้นต่อต้นเลยจะได้ขนไปใส่ต้นไม้ได้ใกล้ๆหน่อยประหยัดแรงงานด้วยถ้าทำแบบนี้มีเทคนิคอย่างไรให้มันย่อยสลายได้เร็วครับ อย่าโมโหกะคำถามนะครับ อิอิ... http://www.youtube.com/v/DXOavN-PJag ขออนุญาตเสริมท่านอาจารย์ tera สักเล็กน้อยนะครับ ผมมี Video เทคนิคการทำปุ๋ยหมักดิน โดยใช้หญ้าวัชพืชโดยถากหญ้าพร้อมดินและใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพที่หมักจากผักผลไม้ เพื่อใช้ปรับโครงสร้างดิน ฯลฯ ลองดูกันสำหรับท่านที่หามูลสัตว์ยากหรือหาไม่ได้ครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:17:19 PM - มีคนเล่าให้ฟัง (ไม่รู้ถูกหลอกหรือเปล่า) ว่าคนจีนมีวัฒนธรรมที่จะไม่ให้ "ของดี" ของสวนเขาไหลไปให้คนอื่น
- เกษตรกรของเขาจึงนำเศษพืชมาทำปุ๋ยหมักใช้ แม้แต่ฟางสักเส้นก็ไม่ให้ปลิวไปหาสวนอื่น หรือแม้แต่มูลคนก็รวบรวมมากวน ๆ ทิ้งไว้ให้จุลินทรีย์สงบตัว แล้วนำไปใช้ในการเพาะปลูก ดินของเขาจึงอุดมสมบูรณ์ดี พอใช้ปุ๋ยเคมีร่วมด้วย พืชผักของเขาจึงใหญ่โตอย่างมาก แล้วส่งมาขายให้ไทย ฮิฮิ - น่าเศร้าที่เกษตรกรไทยไม่ได้ถูกสอนสั่งมาแบบนี้ ปัจจุบันใครทำปุ๋ยหมักใช้เองดูเหมือนจะเป็นผีบ้า เพื่อนบ้านดูเหมือนจะหัวเราะเยาะเอา ดูเหมือนว่าการโทรสั่งซื้อปุ๋ยอินทรีย์ โทรสั่งซื้อปุ๋ยเคมีใช้ ดูจะเป็นเรื่องปกติ (ผมไม่ได้พูดกระทบใครนะครับ :-\ ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้อยู่แล้วครับผม) มันจึงทำให้ต้นทุนของพวกเราสูงโดยใช่เหตุ เราเลยเป็นเกษตรกรที่ขยันแบบผิดเป้า ยิ่งทำยิ่งจน - เมื่อเกษตรกรไทยเติมความอุดมสมบูรณ์ไม่เป็น ใช้แต่ปุ๋ยเคมี แถมด้วยยาฆ่าหญ้า ความอุดมสมบูรณ์ของดินก็เลยถูกใช้ไปทุกครั้งที่เพาะปลูก จนหมดความอุดมสมบูรณ์ ไม่มีชีวิต จะหาไส้เดือนสักตัวก็ยาก ดินแน่น แข็ง เป็นผง และเป็นกรด - ตอนนี้การใช้ปุ๋ยเคมีของไทยผ่านมาได้ 50 ปีแล้ว ดินเพาะปลูกของเกษตรกรไทยก็ทยอยหมดความอุดมสมบูรณ์ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องช่วยกันเติมความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินของเกษตรกรไทย เริ่มที่ตัวสมาชิก กพพ.เองก่อน แล้วเราจะได้ส่งผักไปขายให้จีนบ้าง 8) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:19:37 PM อาจารย์ครับ ถ้าจะขอหมักง่ายๆแบบไม่ต้องใช้ปุ๋ยคอกได้ไหมครับ(มันหายากและอยากประหยัด) จะขอหมักแบบเอาจอบถากหญ้ามากองๆรวมกันข้างๆต้นไม้ที่เราปลูกแบบต้นต่อต้นเลยจะได้ขนไปใส่ต้นไม้ได้ใกล้ๆหน่อยประหยัดแรงงานด้วยถ้าทำแบบนี้มีเทคนิคอย่างไรให้มันย่อยสลายได้เร็วครับ อย่าโมโหกะคำถามนะครับ อิอิ... [url]http://www.youtube.com/v/DXOavN-PJag[/url] ขออนุญาตเสริมท่านอาจารย์ tera สักเล็กน้อยนะครับ ผมมี Video เทคนิคการทำปุ๋ยหมักดิน โดยใช้หญ้าวัชพืชโดยถากหญ้าพร้อมดินและใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพที่หมักจากผักผลไม้ เพื่อใช้ปรับโครงสร้างดิน ฯลฯ ลองดูกันสำหรับท่านที่หามูลสัตว์ยากหรือหาไม่ได้ครับ ;D ;) - ขอบคุณมากครับ ช่วย ๆ กันตอบนะครับ จะได้มีวิธีที่แก้ปัญหาหลาย ๆ แบบ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: maprang ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:23:20 PM เยี่ยมมากครับ..เป็นกระทู้ที่เต็มไปด้วยความรู้มากมายจริงๆ น่าจะถูกรวบรวมเป็นกระทู้คลังบทความเกษตรพอเพียงต่อไปอย่างที่สุดครับ..
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 09:36:33 PM - ผมเคยประสบปัญหานี้ด้วยตัวเอง เป็นกรณีสวนส้มที่อำเภอฝาง เชียงใหม่ครับ
- สวนส้มที่นี่จะเน้นการเร่งปุ๋ยเคมี เพื่อให้ได้ส้มนอกฤดู จึงต้องเดินท่อเพื่อสปริงเกลอร์อัดปุ๋ยเคมีทางท่อทุกเดือน - การที่ที่ดินบริเวณนี้มีราคาถูกเมื่อ 30 ปีก่อน ทำให้เกษตรกรแต่ละรายมีไร่ส้มกันรายละ 50-1,000 ไร่ รายใหญ่ที่สุดคือ 8,000 ไร่ - ผมเคยพบว่าคนงาน 1 คนต้องดูแลส้มถึง 6 ไร่ การถากหญ้าเลยไม่ทัน ก็ต้องพึ่งยาฆ่าหญ้า - มาเมื่อสองปีก่อน ต้นส้มที่อำเภอฝางก็เลยทยอยเป็นโรครากเน่าและยอดเหลือง ด้วยสาเหตุที่ว่าดินมีพีเอชเป็นกรดมีค่าเท่ากับ 4 !!! พีเอชขนาดนี้เมื่อเอาตะปูไปเสียบทิ้งไว้นี่ เป็นสนิมเชียวนะครับ แล้วรากจะไปเหลืออะไร ? - ด้วยความเป็นกรดของดิน เชื้อโรครากเน่าก็เลยชอบ ชาวสวนจึงต้องตัดกิ่งที่เหลืองทิ้ง บางครั้งทั้งต้นเหลือแค่กิ่งเดียว ด้วยความหวังว่าจะเก็บต้นส้มไว้ได้ - เมื่อขุดดูราก ก็พบว่ารากหายไปหมด มันไปโผล่นู่นครับ บริเวณทางเดินแทรกเตอร์นอกทรงพุ่ม - ส้มที่นี่ก็เลยไม่ค่อยมีขาย ช่วงตรุษจีนก็ยิ่งแพง เมื่อวานไปที่ซูเปอร์มาเก็ตส้มราคากิโลละ 120 บาทครับ - บางสวนก็เลยต้องลงต้นส้มใหม่ แทรกระหว่างต้นที่เป็นโรค แล้วก็เดินท่อปุ๋ยรอ - บางสวนต้องล้มต้นส้มเป็นร้อยไร่ แล้วปลูกกล้วยไข่แทน เพราะกล้วยชอบดินเป็นกรด ผลปรากฏว่ากล้วยไข่ที่ได้มีขนาดใหญ่เกินมาตรฐาน เลยไม่สามารถส่งออกได้แถมรสชาติไม่ได้เรื่อง ผมเข้าใจว่าเป็นเพราะในดินมีปุ๋ยเคมีตกค้างอยู่เยอะ กล้วยเลยเอาไปใช้มากเกินไป - บางสวนได้หนีไปปลูกที่พม่า ที่ลาว แล้วเริ่มใหม่ - แต่คงไม่เป็นไรมั้งครับ ชาวสวนเคยได้เงินเยอะมา 30 ปีแล้ว ถึงตอนที่ธรรมชาติจะแว้งกลับมาทำร้ายเอา แล้วจะไปทำอะไรต่อดี ? หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 22, 2012, 10:56:58 PM แบบนี้ไม่เอาแล้วนะครับอาจารย์.... :-\ (http://image.ohozaa.com/i/776/YuY4a.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w1u3N57qnJTvlS00) เอาแบบของอาจารย์ครับ (http://image.ohozaa.com/i/6a9/e8nmtU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w1u0wFg0t3maCmA0) (http://image.ohozaa.com/i/448/s2RjKN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w1u0Z1yz9rW5jkkw) นักเรียนคนแรกที่ทำครับอาจารย์... แต่ทำผิดครับ >:(...ใช้น้ำหมักEM ... >:( แถมคลุมกองด้วย >:( >:( ผ่านมาเกือบสองเดือนยังไม่เป็นปุ๋ยครับ และคุณภาพคงแย่จัง :'( :'( ขอแก้ตัวใหม่ครับ >:( หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 04:24:06 AM ขอบคณูค่ะอาจาย์
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 07:28:49 AM แบบนี้ไม่เอาแล้วนะครับอาจารย์.... :-\ ([url]http://image.ohozaa.com/i/776/YuY4a.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w1u3N57qnJTvlS00[/url]) เอาแบบของอาจารย์ครับ ([url]http://image.ohozaa.com/i/6a9/e8nmtU.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w1u0wFg0t3maCmA0[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/i/448/s2RjKN.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w1u0Z1yz9rW5jkkw[/url]) นักเรียนคนแรกที่ทำครับอาจารย์... แต่ทำผิดครับ >:(...ใช้น้ำหมักEM ... >:( แถมคลุมกองด้วย >:( >:( ผ่านมาเกือบสองเดือนยังไม่เป็นปุ๋ยครับ และคุณภาพคงแย่จัง :'( :'( ขอแก้ตัวใหม่ครับ >:( - นักเรียน thepunyapat ครับ เป็นคนแรกที่ส่งงานครับ - เปิดผ้าออก แล้วขึ้นกองใหม่เป็นกองยาว รูปสามเหลี่ยมสูง 1.5 เมตร อย่าให้แบน ฐาน 2.5 เมตร หามูลสัตว์มาวางสลับด้วย เพราะที่แจ้งมาไม่ได้พูดถึงแหล่งไนโตรเจน แล้วระหว่างขึ้นกองก็ให้มีคนรดน้ำทุกชั้นไปด้วย ผมคิดว่าการเป็นปุ๋ยน่าจะเร็วกว่ากองอื่นเพราะผ่านกระบวนการภายใต้ผ้ามาบ้างแล้ว - :-[ :-[ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 07:41:26 AM อาจารย์ขยันมาจังค่ะ มาตรวจ การบ้านลูกศิษย์หมักปุ๋ยแต่เช้า.....สมาชิกท่านใดที่จะหมักปุ๋ยสูตรของอาจารย์ไม่ว่ากองเล็กใหญ่ ช่วยส่งรูปมาให้อาจารย์ตรวจด้วยค่ะและเป็นการแบ่งปันวิธีการของแต่ละคนให้เพื่อนสมาชิกได้ห็น เดี๋ยว ทีมงานเวป จะจัดให้แข่งหมักปุ๋ยวิธีใหม่ของ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ให้อาจารย์เจ้าของสูตรการหมักแบบใหม่ เป็น ประธานตัดสิน ดีใหมคะ ชิงรางวัล จากเวป เช่น เสื้อโลโก้เวป กุญแจ และ สติ๊กเกอร์เวป เพื่อเป็นการรณรงค์ให้สมาชิกได้หมักปุ๋ยไว้ใช้เองใน ไร่ นา สวน และสมาชิกจะได้นำความรู้การหมักปุ๋ยแบบใหม่ไปให้คนในชุมชนที่ใช้เนตไม่เป็นได้ทำตามน่ะค่ะ และ ถ้าสมาชิกท่านใดได้เผยแพร่ให้คนในชุมชนได้นำการหมักปุ๋ยแบบใหม่ไปใช้ให้นำรูปมาให้ท่านอื่นๆได้ชม ว่าท่านได้เผยแพร่ จะได้รับรางวัลพิเศษ
สมาชิกท่านใดเห็นด้วยใหมคะ ถ้าเห็นด้วย ยกมือขึ้น ค่ะ.. ;D ;D ;D ;D ว่าแต่....อาจารย์เห็นด้วยใหมคะ จะให้อาจารย์เป็นผู้ตัดสินการแข่งขัน การหมักปุ๋ยของสมาชิกเวปเกษตรแบบใหม่น่ะค่ะ.. ;D ;D ถ้าอาจารย์เห็นด้วย เรามากำหนดวันกันค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:02:01 AM - เรื่องส้มต่อนะครับ
- ในบรรดาสวนส้ม ผมไม่ค่อยจะพบว่ามีใครที่ปรับปรุงบำรุงดินด้วยอินทรีย์วัตถุ ด้วยปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ควบคู่ไปกับการใช้ปุ๋ยเคมี มีแต่เร่งด้วยปุ๋ยเคมี นาน ๆ ถึงจะพบว่ามีการใช้ขี้วัวบ้างแต่เป็นการเอาไปวางบนดินซะอย่างนั้น ดินสวนส้มก็เลยไม่ค่อยมีชีวิต ผมเคยเปรียบเทียบให้เพื่อฟังว่า มันก็เปรียบเหมือนการบังคับให้คุณแม่สักคนหนึ่งตั้งท้องลูกให้ได้ 24 คน แต่ละเลยการบำรุงร่างกายบำรุงจิตใจ พอบังคับให้ตั้งท้องคนที่ 25 คุณแม่ก็เลยต้องขอลาตายครับ - การแก้ไขเรื่องดินเป็นกรดก็มีแนวทางอยู่ ใคร ๆ ก็รู้ว่าปุ๋ยอินทรีย์ช่วยแก้ความเป็นกรดและความเป็นด่างของดินได้ (จะใช้ปูนขาว โดโลไมท์ ก็มีแต่ทำให้จุลินทรีย์ดินหายไปและดินยิ่งไม่มีชีวิต) แต่ปัญหาอยู่ที่ตรงนี้ครับ - หากเรามีสวนส้ม 50 ไร่ จะทำปุ๋ยอินทรีย์อย่างไรให้ได้ 50 ตัน เพื่อใส่ต้นส้ม น่าจะยากและเป็นไปไม่ได้ถ้าต้องใช้วิธีทำปุ๋ยแบบพลิกกองปุ๋ย หรือต้องซื้อปุ๋ยอินทรีย์กระสอบละ 150-350 บาทมาใช้ - ถ้าใช้วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 ก็จะต้องทำกองปุ๋ยเป็นแถว ๆ สมมติแต่ละกองยาว 40 เมตร กองนั้นจะได้ปุ๋ย 10 ตัน (ทุกความยาว 4 เมตร จะได้ปุ๋ยเมื่อแห้งแล้ว 1 ตัน) เราจึงต้องทำกองแบบนี้ทั้งหมด 5 กองครับ ก็น่าเป็นไปได้นะครับ - ทุกความยาวกองปุ๋ย 4 เมตร (หรือทำปุ๋ยอินทรีย์ 1 ตัน) จะใช้มูลสัตว์ 30 กระสอบ เพราะฉะนั้นโครงการนี้ต้องใช้มูลสัตว์ทั้งหมด 1,500 กระสอบ คิดราคาอย่างแพงกระสอบละ 30 บาท ก็จะเป็นเงิน 45,000 บาท - คิดเป็นต้นทุนทำปุ๋ยอินทรีย์ไร่ละ 45,000/50 = 900 บาทครับ (ไม่คิดค่าแรงขึ้นกองปุ๋ย) - แต่ก็มีปัญหาอีกมาก หนึ่งในนั้นคือ การเอาปุ๋ยที่ผลิตได้ไปใช้ต้องพรวนดินใต้ทรงพุ่มเพื่อให้ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปอยู่ในดิน ก็จะเป็นค่าแรงเอาเรื่องอยู่ - สองคือ แล้วเมื่อไรปุ๋ยอินทรีย์จะแก้ความเป็นกรดได้ลึกลงไปในดิน ในปีแรกคงแก้ได้ลึกอย่างมาก 30-40 เซ็นติเมตร - ก็คงต้องแก้ปัญหาแบบนี้ไปอีกหลายปี แต่เมื่อแก้ปัญหาได้แล้วก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อีกครั้งนะครับ - ขอเพียงให้เรียนรู้บ้างว่า อย่าทำมากจนจัดการหญ้าไม่ทัน - อย่าใช้ยาฆ่าหญ้า - ตัดหญ้า แล้วเอามาทำปุ๋ย ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ควบคู่ไปกับปุ๋ยเคมี แค่นี้ก็จะยั่งยืนแล้วละครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: เอ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:40:09 AM บางครั้งเห็นสูตรการทำปุ๋ยหมักมีการใส่ปุ๋ยเคมีธาตุไนโตรเจนหรือปุ๋ยยูเรียด้วยแล้วจุลินทรีย์ที่จะย่อยสลายกองปุ๋ยหมักไม่ตายเพราะสารเคมีเหรอครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:54:21 AM บางครั้งเห็นสูตรการทำปุ๋ยหมักมีการใส่ปุ๋ยเคมีธาตุไนโตรเจนหรือปุ๋ยยูเรียด้วยแล้วจุลินทรีย์ที่จะย่อยสลายกองปุ๋ยหมักไม่ตายเพราะสารเคมีเหรอครับ มันน่าจะจะเกี่ยวกับ CN Ratio ยังไงรบกวนท่านอาจารย์ tera ช่วยอธิบายง่ายๆเป็นภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจด้วยครับขอบคุณครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:04:51 AM อาจารย์ขยันมาจังค่ะ มาตรวจ การบ้านลูกศิษย์หมักปุ๋ยแต่เช้า.....สมาชิกท่านใดที่จะหมักปุ๋ยสูตรของอาจารย์ไม่ว่ากองเล็กใหญ่ ช่วยส่งรูปมาให้อาจารย์ตรวจด้วยค่ะและเป็นการแบ่งปันวิธีการของแต่ละคนให้เพื่อนสมาชิกได้ห็น เดี๋ยว ทีมงานเวป จะจัดให้แข่งหมักปุ๋ยวิธีใหม่ของ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ให้อาจารย์เจ้าของสูตรการหมักแบบใหม่ เป็น ประธานตัดสิน ดีใหมคะ ชิงรางวัล จากเวป เช่น เสื้อโลโก้เวป กุญแจ และ สติ๊กเกอร์เวป เพื่อเป็นการรณรงค์ให้สมาชิกได้หมักปุ๋ยไว้ใช้เองใน ไร่ นา สวน และสมาชิกจะได้นำความรู้การหมักปุ๋ยแบบใหม่ไปให้คนในชุมชนที่ใช้เนตไม่เป็นได้ทำตามน่ะค่ะ และ ถ้าสมาชิกท่านใดได้เผยแพร่ให้คนในชุมชนได้นำการหมักปุ๋ยแบบใหม่ไปใช้ให้นำรูปมาให้ท่านอื่นๆได้ชม ว่าท่านได้เผยแพร่ จะได้รับรางวัลพิเศษ เป็นความคิดที่ดีมากๆครับพี่ดวงพร :-[ :-[ :-[สมาชิกท่านใดเห็นด้วยใหมคะ ถ้าเห็นด้วย ยกมือขึ้น ค่ะ.. ;D ;D ;D ;D ว่าแต่....อาจารย์เห็นด้วยใหมคะ จะให้อาจารย์เป็นผู้ตัดสินการแข่งขัน การหมักปุ๋ยของสมาชิกเวปเกษตรแบบใหม่น่ะค่ะ.. ;D ;D ถ้าอาจารย์เห็นด้วย เรามากำหนดวันกันค่ะ ตอนนี้เห็นประชันการเพาะต้นไม้อยู่ ถ้ามีประชันการหมักปุ๋ยอินทรีย์ด้วยจะเป็นประโยชน์มากๆครับ จะเป็นการต่อยอดทางความคิดออกไปได้อีกกว้างไกลเลยครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:10:23 AM อาจารย์ขยันมาจังค่ะ มาตรวจ การบ้านลูกศิษย์หมักปุ๋ยแต่เช้า.....สมาชิกท่านใดที่จะหมักปุ๋ยสูตรของอาจารย์ไม่ว่ากองเล็กใหญ่ ช่วยส่งรูปมาให้อาจารย์ตรวจด้วยค่ะและเป็นการแบ่งปันวิธีการของแต่ละคนให้เพื่อนสมาชิกได้ห็น เดี๋ยว ทีมงานเวป จะจัดให้แข่งหมักปุ๋ยวิธีใหม่ของ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ให้อาจารย์เจ้าของสูตรการหมักแบบใหม่ เป็น ประธานตัดสิน ดีใหมคะ ชิงรางวัล จากเวป เช่น เสื้อโลโก้เวป กุญแจ และ สติ๊กเกอร์เวป เพื่อเป็นการรณรงค์ให้สมาชิกได้หมักปุ๋ยไว้ใช้เองใน ไร่ นา สวน และสมาชิกจะได้นำความรู้การหมักปุ๋ยแบบใหม่ไปให้คนในชุมชนที่ใช้เนตไม่เป็นได้ทำตามน่ะค่ะ และ ถ้าสมาชิกท่านใดได้เผยแพร่ให้คนในชุมชนได้นำการหมักปุ๋ยแบบใหม่ไปใช้ให้นำรูปมาให้ท่านอื่นๆได้ชม ว่าท่านได้เผยแพร่ จะได้รับรางวัลพิเศษ สมาชิกท่านใดเห็นด้วยใหมคะ ถ้าเห็นด้วย ยกมือขึ้น ค่ะ.. ;D ;D ;D ;D ว่าแต่....อาจารย์เห็นด้วยใหมคะ จะให้อาจารย์เป็นผู้ตัดสินการแข่งขัน การหมักปุ๋ยของสมาชิกเวปเกษตรแบบใหม่น่ะค่ะ.. ;D ;D ถ้าอาจารย์เห็นด้วย เรามากำหนดวันกันค่ะ - คุณครูใหญ่ดวงพรให้ทำรายงานแล้วเด็ก ๆ แถมมีรางวัลด้วย :-* ใครนำไปเผยแพร่หรือมีไอเดียต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อชุมชนได้รางวัลพิเศษ เย้ ..... ครู tera เอาด้วย ๆ - ทำปุ๋ยสองเดือน ขยายผลอีกสักหน่อย ระหว่างนี้ก็ส่งการบ้านเป็นรูปเป็นระยะ ๆ ปลายปีตัดสิน ดีไหมครับคุณครูใหญ่ดวงพร - สัญญาแล้วไม่เป็นสัญญา เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ :o หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:14:36 AM บางครั้งเห็นสูตรการทำปุ๋ยหมักมีการใส่ปุ๋ยเคมีธาตุไนโตรเจนหรือปุ๋ยยูเรียด้วยแล้วจุลินทรีย์ที่จะย่อยสลายกองปุ๋ยหมักไม่ตายเพราะสารเคมีเหรอครับ - ปุ๋ยเคมีใช้ในกองปุ๋ยมีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับขนาดกองปุ๋ย แถมปุ๋ยยูเรียยังถูกละลายน้ำก่อนใช้ในกองปุ๋ย ก็เลยเป็นสารอาหารของจุลินทรีย์ในการเจริญเติบโตได้ครับ ปุ๋ยเคมีกับยาฆ่าแมลงต่างกันครับ อย่างหลังนี่ตายแน่นอน - การใช้ขี้เถ้าแกลบหรือปูนขาวในกองปุ๋ยสิครับ ทำให้จุลินทรีย์ตายแน่นอน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:19:49 AM ดีค่ะอาจารย์ อยากให้สมาชิกเรามีกิจกรรมสนุกๆและมีแรงจูงใจเพื่อเป็นการสร้างความสนุกสนาน
เห็นด้วยที่แข่งหมักปุ๋ยแล้วตัดสินปลายปี ค่ะ ของรางวัลทางเวปจัดการส่งให้สมาชิกเอง ให้อาจารย์กำหนดวันเปิดรับสมัครการหมักปุ๋ยและวันเริ่มการหมัก ส่งการบ้านเป็น รายสัปดาห์ หรือ ตามสะดวก ใครสนใจลงชื่อได้นะคะ ;D ;D ;D ;D พี่ดวงพร ลงชื่อคนแรกจะหมักแบบครัวเรือนเพื่อใช้กับผักในกระถาง และสวนลอยฟ้าที่ปลูก ค่ะ วัตถุดิบเป็นเศษผักบุ้งที่มีทุกวันจากร้านก๋วยเตี๋ยว ขี้วัวถุงละ 15 บาทที่มีขาย ค่ะ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:24:15 AM บางครั้งเห็นสูตรการทำปุ๋ยหมักมีการใส่ปุ๋ยเคมีธาตุไนโตรเจนหรือปุ๋ยยูเรียด้วยแล้วจุลินทรีย์ที่จะย่อยสลายกองปุ๋ยหมักไม่ตายเพราะสารเคมีเหรอครับ มันน่าจะจะเกี่ยวกับ CN Ratio ยังไงรบกวนท่านอาจารย์ tera ช่วยอธิบายง่ายๆเป็นภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจด้วยครับขอบคุณครับ ;D ;) - การใช้ปุ๋ยยูเรียในกองปุ๋ยของวิธีอื่น (กลับกอง) ก็เพื่อให้มีสารอาหารของจุลินทรีย์ในการเจริญเติบโตและสร้างเซลล์ และจุลินทรีย์ก็ใช้ทั้งคาร์บอนที่มีในเศษพืชด้วย ดังนั้น สัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างปุ๋ยยูเรียกับเศษพืชจึงมีความสำคัญครับเพื่อให้จุลินทรีย์ยังชีพอยูได้ดีและมีลูกหลานมาก ๆ - แต่สูตรของแม่โจ้ไม่ได้ใช้ปุ๋ยยูเรีย เราใช้ไนโตรเจนที่มีในมูลสัตว์ครับผม วิจัยออกมาแล้วพบว่า ถ้าเป็นเศษใบไม้ก็ใช้ 3 ต่อ 1 โดยปริมาตร ถ้าเป็นผักตบ ฟางข้าว เศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ก็เป็น 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร ก็จะเป็นสัดส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนที่เหมาะสมครับ (C/N ratio) ในทางทฤษฎีแล้ว วิธีพลิกกลับกองต้องการ C ต่อ N เท่ากับ 35 ต่อ 1 และวิธีแม่โจ้ต้องการ 25 ต่อ 1 ครับ อย่างไรก็ตาม สูตรของ พด ใช้ทั้งปุ๋ยยูเรียและมูลสัตว์ครับเป็นแหล่งของไนโตรเจน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: พี่ณัฐ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:30:22 AM ขอฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยครับท่านอาจารย์ ;)
ผมเคยทำแบบหมักในถุงปุ๋ยครับเหนื่อยมากครับตอนคลุกเคล้าส่วนผสม เพราะแรงงานฅนเดีบวทำ ผมขออนุญาตนำวิธีใหม่ของแม่โจ้ไปใช้แล้วครับดูแล้วเหนื่อยน้อยกว่า แต่ต้องไปหาวัสดุในพื้นที่ให้ได้ก่อนครับ ขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ ;) ที่กรุณานำความรู้มาถ่ายทอดให้กับศิษย์กพพ.ได้เรียนรู้และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และเผยแพร่ต่อไปครับ ;) ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:31:53 AM ดีค่ะอาจารย์ อยากให้สมาชิกเรามีกิจกรรมสนุกๆและมีแรงจูงใจเพื่อเป็นการสร้างความสนุกสนาน เห็นด้วยที่แข่งหมักปุ๋ยแล้วตัดสินปลายปี ค่ะ ของรางวัลทางเวปจัดการส่งให้สมาชิกเอง ให้อาจารย์กำหนดวันเปิดรับสมัครการหมักปุ๋ยและวันเริ่มการหมัก ส่งการบ้านเป็น รายสัปดาห์ หรือ ตามสะดวก ใครสนใจลงชื่อได้นะคะ ;D ;D ;D ;D พี่ดวงพร ลงชื่อคนแรกจะหมักแบบครัวเรือนเพื่อใช้กับผักในกระถาง และสวนลอยฟ้าที่ปลูก ค่ะ วัตถุดิบเป็นเศษผักบุ้งที่มีทุกวันจากร้านก๋วยเตี๋ยว ขี้วัวถุงละ 15 บาทที่มีขาย ค่ะ ;D ;D ;D - สมาชิก กพพ.ครับ เอาเป็นว่า ใครทำกองเล็กก็ได้ จะทำกองใหญ่ก็ได้ เริ่มลงมือได้ตั้งแต่ตอนนี้ แต่การรับสมัครจะดำเนินไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นปิดรับสมัคร - แจ้งชื่อมา คุณครูใหญ่ดวงพรจะบันทึกไว้ครับ เริ่มทำแล้วต้องทยอยส่งรูปมาให้ดูเป็นระยะ ๆ จะเป็นวิดีโอก็ได้ - ข้อดีของการประกวดนี้คือ เมื่อเริ่มทำแล้วและส่งรูปมาแล้ว ครู tera จะสามารถช่วยปรับแก้และวิจารณ์ให้ถูกต้องได้ครับ คือ รับประกันความผิดพลาดไงครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:44:01 AM - เรื่องส้มต่อนะครับ
- ปัญหาอีกประการก็คือ จะหาเศษพืชมาได้อย่างไร ตั้งเยอะ เท่าที่มีประสบการณ์นะครับ ปุ๋ยอินทรีย์แห้งแล้ว 1 ตันจะใช้เศษพืช 2 ตัน นั่นแปลว่าเมื่อเราต้องการปุ๋ย 50 ตันสำหรับสวน 50 ไร่ เราก็ต้องจัดหาเศษพืชให้ได้ 100 ตัน - แต่ผมเชื่อว่า ด้วยการเป็นเจ้าของสวนส้ม 50 ไร่ ปัญหาการขายส้มยังจะมากกว่านี้ ปัญหาเรื่องคนงานยังหนักหนากว่านี้ ดังนั้นปัญหาการจัดการเศษพืชก็ไม่น่าจะใหญ่ แค่ต้องการการบริหารจัดการเท่านั้นครับ - เริ่มด้วยการไปจองและรับซื้อฟางข้าว เศษใบไม้จากสวน อาจต้องมีค่าขนส่ง พอทำได้ปีแรก ปีต่อไปก็หมูแล้วครับ - ผมเคยเห็นสวนส้มที่ฝางไปขนเศษข้าวโพดจากจังหวัดเชียงรายด้วยรถพ่วงสิบล้อ ตกค่าขนกิโลละ 60 สต. และเคยเห็นบางสวนส้มซื้อขี้วัวจากสุรินทร์ จากสุโขทัย จากตาก ขนมาในรถสิบล้อโดยไม่ต้องบรรจุกระสอบ - ถ้าท่านอยู่ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และตาก จะรู้ดีว่า เศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีมากครับ เป็นล้าน ๆ ตัน ของฟรีครับ ถ้าไม่ไปเอา ของพวกนี้จะถูกเผาหมด เริ่มเผาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนมีนาคม แล้วส่งผลต่อคุณภาพอากาศ กลายเป็นหัญหาหมอกควันพิษ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนทุกปี เรื่องนี้ต้องขยายครับ :P หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:57:49 AM - มีรูปสวนส้มเคมี ที่ส้มกำลังจะตายหมดสวนจากการที่ดินเป็นกรด ส่งผลให้เป็นโรครากเน่าและยอดตายเหลือง เอามาฝากครับ สีขาว ๆ นั่นคือปูนขาวในความพยายามจะแก้ปัญหาดินกรด แต่ด้วยความที่พื้นที่มีมากเกินไป การใช้ปูนขาวเลยได้แค่โยน ๆ ไปแบบขอไปที แล้วเมื่อไรจะแก้ปัญหาได้เล่าครับ
(http://image.ohozaa.com/i/28c/FSfnZt.jpg) - เอารูปสวนส้มอินทรีย์ของพี่รสรินทร์ กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านแพะพัฒนา อำเภอพร้าว เชียงใหม่ มาให้ดูชัด ๆ อีกทีครับ ว่าความอุดมสมบูรณ์ของดินกับต้นส้มเกี่ยวพันกันอย่างไร ทำไมที่นี่ไม่เป็นโรครากเน่า (http://image.ohozaa.com/i/57c/R7k1e.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/5ba/YiTIyZ.jpg) - สวนส้มอินทรีย์ไม่มีต้นทุนเรื่องเคมี ไม่ต้องใช้ยาฆ่าหญ้า แต่ได้ส้มเหมือนกัน เป็นการเกษตรกรรมที่ยั่งยืนกว่า พอเพียงกว่า - สมาชิก กพพ.ไม่จำเป็นต้องทำสวนแบบอินทรีย์ก็ได้ครับ ผมเพียงแต่เอาตัวอย่างสุดขั้วมาให้ดูว่า หากเราเดินทางสายกลาง บำรุงดินเสียบ้าง หัดทำปุ๋ยอินทรีย์บ้าง ทำเองใช้เอง ใช้ปุ๋ยเคมีบ้าง (ตาม ๆ เพื่อนบ้านไป) ก็น่าจะยั่งยืน และพอเพียงได้เหมือนกัน - ใช้ประโยชน์จากแม่ธรณีมามาก บำรุงแม่ธรณีเสียบ้างก็น่าจะดีนะครับ - หรือใครจะใจกล้า ลองแบ่งสักแปลงทำอินทรีย์สุดขั้วดู ถ้ามันได้ผลดี เราก็อาจเป็นสวนอินทรีย์ที่ลดต้นทุนได้มหาศาล ถ้ามีเกษตรกรอย่างเราที่ทำอินทรีย์มาก ๆ สักวันประเทศไทยก็จะเป็นจ้าวโลกด้านเกษตรอินทรีย์ก็เป็นได้ :D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Thailandranch ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 09:58:05 AM ขอสอบถามเพิ่มเติมครับว่า เราสามารถใช้ต้นกระถินมาบดสับได้ไหมครับ เพราะที่ผมอยู่กระถินเยอะมาก ตัดเอาเฉพาะต้นเล็กๆประมาณ นิ้วก้อยเอาเข้าเครื่องสับ แล้วผสมมูลโค ตามสูตรนะครับ ขอบคุณมากครับ - ขึ้นอยู่กับชนิดเครื่องย่อยด้วยครับ ถ้าเครื่องสามารถตีด้วย สับด้วย ก็จะย่อยสลายได้ แต่ถ้าสับอย่างเดียวผมคิดว่าก้านขนาดนิ้วก้อยเหล่านี้ไม่เปื่อยง่าย ๆ ครับผม เดี๋ยวผมจะต้องลองดูครับ เพราะว่าผมทำฟาร์มวัว มีมูลโคจำนวนมาก ใส่ในแปลงหญ้าแล้ว แต่ผมว่าจะเอามาเพิ่มธาตุอาหารเพื่อพัฒนาดินต่อไปครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 10:04:00 AM ลงชื่อสมัครประกวดกองปุ๋ยนะครับ เริ่มส่งการบ้าน ขอเวลาอีก 1 อาทิตย์ถัดไปนะครับ ขอรวบรวมเศษพืชก่อนนะครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 10:09:34 AM ลงชื่อสมัครประกวดกองปุ๋ยนะครับ เริ่มส่งการบ้าน ขอเวลาอีก 1 อาทิตย์ถัดไปนะครับ ขอรวบรวมเศษพืชก่อนนะครับ - ครูใหญ่ดวงพรครับ นักเรียนคนแรกรายงานตัวครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Pawin ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 10:30:24 AM อาจารย์ครับ :-*
เปิดเทอมแล้วผมขอสมัครเรียนที่โรงเรียน ก.พ.พ.นี้วันนี้ีผมมารายงานตัวครับ(ผู้ปกครองไม่ได้มาด้วยครับ)ขอนั่งเรียนในห้องก่อนส่วนภาคปฏิบัติขอกลับไปดูวัตถุดิบ(ฟางข้าว)ที่บ้านก่อนอาทิตย์นี้ ถ้าพร้อมวันจันทร์ผมจะรายตัวอีกครั้งหนึ่งครับ ด้วยความนับถือ ด.ช.ภาวิน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 10:33:30 AM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อ รายแรก คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณae hatyai กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ae hatyai ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:07:50 AM ลงชื่อสมัครด้วยคนครับ สมัครกองเล็กครับ แต่คงจะไม่ทำในกะละมังแน่ อิอิ
แต่มีเรื่องสอบถามนิดนึ่งครับ 1. ผมให้ขี้ไก่ใหม่ได้ไหม มันจะมีกลิ่นที่แรงอยู่ เค้าเรียกกลิ่นซันเฟอร์ ป่าวไม่รู้ แต้ดมแล้วแสบจมูกเลย ซึ่งคนที่ซื้อน่าจะเคยได้กลิ่น ขี้วัวเก่าเท่านั้นที่ไม่มีกลิ่นพวกนี้ ใช้ได้ไหมครับ 2. ผมไม่มีฟาง จะใช้เศษหญ้าข้างบ้านตัดมาทำ จำเป็นต้องให้แห้งไหมครับ หรือเอาหญ้าสด ๆ ทำเป็นชั้นกับขี้ไก่ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:23:55 AM - ช่วงนี้ที่แม่โจ้ยังไม่เปิดเทอม เลยขอหยอดรูปมาให้ดูได้ครับ
- รูปนี้เป็นการทำปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 200-300 ตัน ของโรงงานผลิตพริกส่งนอกกับพริกป่นขายในประเทศ อยู่ที่ลำพูนครับ ใช้เศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับขี้วัวและขี้ไก่ ตอนนี้ย่ามใจซื้อที่ดินเพิ่ม 300 ไร่เพื่อปลูกพริกอินทรีย์ส่งนอก ได้มาตรฐานอินทรีย์ มกท.ด้วย โดยมาตรฐานระบุว่าการทำปุ๋ยวิธีนี้ถือว่าผ่านกระบวนการของจุลินทรีย์แล้ว ดังนั้น วัตถุดิบทั้งเศษพืชและมูลสัตว์ไม่จำเป็นต้องมาจากฟาร์มอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์ที่โรงงานนี้ผลิตได้เขาเอาไปผสมเชื้อไตรโคเดอร์มาเพื่อใช้ในการปลูกพริกของเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคเชื้อรารากเน่าครับ (http://image.ohozaa.com/i/e51/8AbLWY.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/c96/gubIBi.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUDny4hCc0hp95d) - รูปนี้เป็นการทำปุ๋ยอินทรีย์จากฟางข้าวและขี้วัวของวัดสองยอดและชาวบ้าน ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ครับ เพื่อต่อสู้กับปัญหาหมอกควันพิษจากการเผา (http://image.ohozaa.com/i/e7f/q5SwQ5.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUCn9OfHEJCyv8A) - รูปนี้เป็นการทำปุ๋ยอินทรีย์จากเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของสวนส้มแห่งหนึ่งที่อำเภอฝาง เชียงใหม่ (http://image.ohozaa.com/i/3e1/9nbByS.JPG) - รูปนี้เป็นการทำงานของเกษตรกรอินทรีย์บ้านหนองแฝก ต.หนองแฝก อ.สารภี เชียงใหม่ ผู้นำคนนึงของกลุ่มคือครูดารา ที่ต้องนำมาขยายในวันหลัง เพราะว่ากลุ่มนี้ได้ส่งผลให้ทั้งอำเภอสารภีมียุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ครับ ในรูปจะเห็นว่ามีการใช้ทั้งเศษพืชแห้งและสด ผสมกับผักตบชวา (http://image.ohozaa.com/i/6f9/dn0z1A.jpg) - รูปนี้ให้เห็นชัด ๆ ว่ากองปุ๋ยต้องเป็นสามเหลี่ยมนะครับ เพื่อให้อากาศไหลเข้ากองปุ๋ยได้ง่าย ผู้ชายในรูปคือรองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กำลังตรวจเช็คกลิ่น เพราะถ้ามีกลิ่นแสดงว่ามีปัญหาที่อากาศไม่เข้ากองปุ๋ยจากสาเหตุต่าง ๆ มีคำร่ำลือว่า ขอเพียงท่านล้วงกองใบไม้ ใบไม้ก็จะกลายเป็นปุ๋ยเลยครับ :-[ (http://image.ohozaa.com/i/2b7/OeFDN9.JPG) - รูปนี้เป็นเศษใบไม้ที่ครบสองเดือน กำลังรอให้แห้ง ถ่ายมาจากฐานเรียนรู้ที่แม่โจ้ครับ (http://image.ohozaa.com/i/c81/zm3l92.JPG) - พี่ถวิลจากโป่งงาม แม่สาย เชียงราย ผู้ส่งปุ๋ย 30 ตันให้กับศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจัรพันธ์เพ็ญศิริ และทำคนเดียวไม่ได้จ้างใครครับ ได้เงินทั้งสิ้น 120,000 บาทครับ นักเรียนทั้งหลายอย่าแพ้นะครับ :-X (http://image.ohozaa.com/i/d7b/rgDkPa.jpg) - รูปการทำกองปุ๋ยในนาของเกษตรกรบ้านแม่โจ้ ใกล้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ครับ (http://image.ohozaa.com/i/2d8/myXxup.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:30:01 AM ลงชื่อสมัครด้วยคนครับ สมัครกองเล็กครับ แต่คงจะไม่ทำในกะละมังแน่ อิอิ แต่มีเรื่องสอบถามนิดนึ่งครับ 1. ผมให้ขี้ไก่ใหม่ได้ไหม มันจะมีกลิ่นที่แรงอยู่ เค้าเรียกกลิ่นซันเฟอร์ ป่าวไม่รู้ แต้ดมแล้วแสบจมูกเลย ซึ่งคนที่ซื้อน่าจะเคยได้กลิ่น ขี้วัวเก่าเท่านั้นที่ไม่มีกลิ่นพวกนี้ ใช้ได้ไหมครับ 2. ผมไม่มีฟาง จะใช้เศษหญ้าข้างบ้านตัดมาทำ จำเป็นต้องให้แห้งไหมครับ หรือเอาหญ้าสด ๆ ทำเป็นชั้นกับขี้ไก่ - ใช้ขี้ไก่ได้ครับ เมื่อขึ้นกองปุ๋ยแล้วกลิ่นจะหายไปใน 2-3 วัน เนื่องจากพอจุลินทรีย์เริ่มทำงาน จุลินทรีย์กลุ่มใช้อากาศจะสร้างกลิ่นไม่เป็นครับ ขนาดที่ว่าเอามันฝรั่งเน่า (ที่ว่าเหม็นสุด ๆ ) มาเข้ากองปุ๋ย ก็ยังไม่มีกลิ่นครับ อาจเป็นเพราะว่าเศษพืชทำตัวเป็นเครื่องกรองกลิ่นไปในตัวด้วยครับ (biofilter) - เศษพืชสดเปื่อยง่ายกว่าแห้งครับ ใช้ได้ทั้งแห้งและสดครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: เอ ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:33:06 AM ถามอย่างเดียว ;D ;D
อาจารย์ครับ ผมปลูกยางระยะแถวห่าง 9เมตร และผมได้เอาพืชยืนต้นตระกูลถั่วมาปลูกแซมระหว่างแถวยาง มีประดู่ป่ากับมะค่าโมง นอกจากได้ไม้ป่าในสวนยางแล้วจุดประสงค์ของผมก็คือ อยากลดปุ๋ยเคมีและอยากได้ปุ๋ยอินทรีย์จากใบพืชตระกูลถั่วที่ร่วงหล่นและต้องการให้รากพืชตระกูลถั่วนั้นช่วยตรึงไนโตรเจนในดินด้วย คำถามก็คือมันจะช่วยให้ยางผมงามหรือมันจะมาแย่งแสงแย่งปุ๋ยยางผมกันแน่ ผมปลูกไม้ป่าห่างกัน10-12 เมตรครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 12:46:49 PM ถามอย่างเดียว ;D ;D อาจารย์ครับ ผมปลูกยางระยะแถวห่าง 9เมตร และผมได้เอาพืชยืนต้นตระกูลถั่วมาปลูกแซมระหว่างแถวยาง มีประดู่ป่ากับมะค่าโมง นอกจากได้ไม้ป่าในสวนยางแล้วจุดประสงค์ของผมก็คือ อยากลดปุ๋ยเคมีและอยากได้ปุ๋ยอินทรีย์จากใบพืชตระกูลถั่วที่ร่วงหล่นและต้องการให้รากพืชตระกูลถั่วนั้นช่วยตรึงไนโตรเจนในดินด้วย คำถามก็คือมันจะช่วยให้ยางผมงามหรือมันจะมาแย่งแสงแย่งปุ๋ยยางผมกันแน่ ผมปลูกไม้ป่าห่างกัน10-12 เมตรครับ - สมาชิกท่านอื่นช่วยตอบด้วยครับผม - ในความคิดผมนะครับ ถ้าถั่วไม่ได้ขึ้นรอบทรงพุ่มยางก็ไม่น่ามีปัญหาครับ - เคยได้ยินว่าบางแห่งปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ด้วยซ้ำ เพื่อตัดปัญหาวัชพืช แถมได้เงินด้วย ก็คงคล้ายกันนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 01:23:44 PM - เมื่อการทำปุ๋ยอินทรีย์ของแม่โจ้ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ปุ๋ยบริสุทธิ์" ครับ :) ดูรายละเอียดที่
http://www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=120419164306 หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: naturefarm ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 02:24:02 PM ขอบคุณครับอาจารย์ที่ให้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยหมักแบบไม่กลับกอง นี่แหละเป็นกระทู้ที่กำลังต้องการ อยากให้ทำปุ๋ยหมักอย่างง่ายๆ หาวัสดุง่าย ใกล้ตัว ไม่ต้องซื้อ ผมมีกองหญ้าจากการไถปรับพื้นที่
(http://1.bp.blogspot.com/-iPFhwp0LBxM/T5KK_sR_oTI/AAAAAAAACTE/gCujURZlJNI/s1600/SUC57598.JPG) พอ ๑ เดือน ผ่านไป กลายเป็นแบบนี้ครับ (http://4.bp.blogspot.com/-JM7oXEnwMO8/T7yMQYTes4I/AAAAAAAACeQ/_dtJk_SR9ak/s1600/IMG_3917_resize.JPG) ปัญหา ๑. ไม่มีแรงงาน ในการทำปุ๋ยเป็นชั้นๆ ๒. เรื่องน้ำอาศัยน้ำฝนอย่างเดียว ๓. กองหญ้าหนามาก ผมจะนำขี้วัวไปเทบนกองหญ้า ปล่อยให้ตากแดดตากฝน จนกว่าจะย่อยสลาย อย่างนี้จะเป็นปุ๋ยหมักหรือเปล่าครับ เพราะไม่มีเวลาดูแลเนื่องจากมีงานประจำด้วย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: chaitanun ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 03:40:01 PM ต้องขอขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้ความรู้แบบไม่หวงแหน เป็นการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนซึ่งหาได้ยากมากในสังคมทุกวันนี้ อาจารย์ให้ความรู้กับคนส่วนใหญ่ที่เดือดร้อนถือว่าได้บุญมากครับ และผมก็ขอเอาแนวทางไปปฎิบัติตามขอให้อาจารญ์และครอบครัว จงมีความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ :-[
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: James ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 04:28:36 PM ขอขอบคุณอาจารย์ที่มอบสิ่งดีๆ มาให้สำหรับความพอเพียงครับ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ผมขออนุญาตสอบถามอาจารย์สักสองข้อครับ 1.ฟางข้าวที่ทำเห็ดฟางแล้ว(โรงเรือน)มันยังมีปุ๋ยยูเรียหลงเลืออยู่และอื่นๆอีกถ้าเราเอามาทำมันจะเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่เจือปนมั้ยครับ 2.มูลของเราเองทำได้มั้ยครับ(ถ้าตักจากถังส้วมซึม) ขออภัยครับที่ถามเช่นนี้ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: MOSO ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 04:44:16 PM ไม่มีขี้วัว เอาขี้หมู หรืออย่างได้ไหมครับ - ขี้หมู ขี้ไก่ ขี้ช้าง ได้หมดครับ ยกเว้นที่ออกมาจากไบโอแก๊ซ เพราะจุลินทรีย์ไม่เหลือแล้ว - ถ้ามีขี้ค้างคาว เอาไปขายเหอะครับ ได้ราคาดี ฮิฮิ รบกวนถามอาจารย์ว่ามูลจากไบโอแก๊ส ที่ว่าจุลินทรีย์ไม่เหลือนี่ หมายถึงมันใช้ไม่ได้หรือไม่มีความเป็นปุ๋ยครับ ถามต่ออีกนิดถ้าเทียบระหว่างมููลสดๆที่ได้จากสัตว์ กับมูลที่ผ่านระบบไปโอแก๊ส ถ้าผมจะซื้อมาใช้ในสวนควรเลือกซื้อแบบไหนครับ และตัวไหนให้คุณค่าทางปุ๋ยมากกว่ากันครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: mamai564 ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 06:19:57 PM ผมอยากทราบว่าการปล่อยให้เศษไม้เศษหญ้าใบไม้ผุพังเน่าเปื่อยแบบธรรมชาติกับนำมาทำปุ๋ยหมักมันต่างกันตรงไหนครับ อยากรู้คำตอบจะได้อธิบายให้คนอื่นฟังครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tong3829 ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 07:34:59 PM ถ้าใช้แกลบดิบเป็นวัตถุดิบ เวลาต้องมากกว่า2เดือนใช่ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: nongparei ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 07:40:22 PM สมัครด้วยคนครับ ผมใช้วัสดุเปลือกและซังข้าวโพดและขี้หมู เพื่อจะใช้ในสวนส้มเขียวหวาน(ส้มสีทองเมืองน่าน) ยินดีต้อนรับสมาชิกที่จะเข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 07:51:39 PM ขอบคุณครับอาจารย์ที่ให้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยหมักแบบไม่กลับกอง นี่แหละเป็นกระทู้ที่กำลังต้องการ อยากให้ทำปุ๋ยหมักอย่างง่ายๆ หาวัสดุง่าย ใกล้ตัว ไม่ต้องซื้อ ผมมีกองหญ้าจากการไถปรับพื้นที่ ([url]http://1.bp.blogspot.com/-iPFhwp0LBxM/T5KK_sR_oTI/AAAAAAAACTE/gCujURZlJNI/s1600/SUC57598.JPG[/url]) พอ ๑ เดือน ผ่านไป กลายเป็นแบบนี้ครับ ([url]http://4.bp.blogspot.com/-JM7oXEnwMO8/T7yMQYTes4I/AAAAAAAACeQ/_dtJk_SR9ak/s1600/IMG_3917_resize.JPG[/url]) ปัญหา ๑. ไม่มีแรงงาน ในการปุ๋ยเป็นชั้นๆ ๒. เรื่องน้ำอาศัยน้ำฝนอย่างเดียว ๓. กองหญ้าหนามาก ผมจะนำขี้วัวไปเทบนกองหญ้า ปล่อยให้ตากแดดตากฝน จนกว่าจะย่อยสลาย อย่างนี้จะเป็นปุ๋ยหมักหรือเปล่าครับ เพราะไม่มีเวลาดูแลเนื่องจากมีงานประจำด้วย - ใช้รถไถคลุกหญ้ากับขี้วัว 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร รดน้ำไปด้วย แล้วดันเป็นกองสามเหลี่ยมสูง 1.5 เมตรครับ - แล้วติดตั้งสปริงเกลอร์บนกองปุ๋ย เปิดวันละ 1 ชั่วโมง ทุก 10 วันก็หาโอกาสตรวจสอบความชื้นในกองปุ๋ย - การเอาขี้วัวเทบนหญ้า อาจทำให้ไนโตรเจนในหญ้าระเหยไปเนื่องจากแดดได้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:02:31 PM ขอขอบคุณอาจารย์ที่มอบสิ่งดีๆ มาให้สำหรับความพอเพียงครับ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ ผมขออนุญาตสอบถามอาจารย์สักสองข้อครับ 1.ฟางข้าวที่ทำเห็ดฟางแล้ว(โรงเรือน)มันยังมีปุ๋ยยูเรียหลงเลืออยู่และอื่นๆอีกถ้าเราเอามาทำมันจะเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่เจือปนมั้ยครับ 2.มูลของเราเองทำได้มั้ยครับ(ถ้าตักจากถังส้วมซึม) ขออภัยครับที่ถามเช่นนี้ - ฟางข้าวเหลือจากทำเห็ดแล้วจะเปื่อยไปส่วนหนึ่ง เมื่อเอามาเข้ากระบวนการจะเป็นปุ๋ยง่ายกว่าฟางปกติครับ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้ไม่ถือว่าถูกเจือปนครับ - มูลของเราทำได้ครับ แต่ให้ระวังเชื้อโรคที่อาจปลิวเข้าจมูก ปาก ตา และติดมือ ติดเสื้อผ้า ที่เมืองจีนเขาทำกันเป็นเรื่องปกติครับ จนห้องส้วมที่บ้าน ห้องส้วมสาธารณะ หรือตามปั๊มน้ำมันของบ้านเขาจะมีการออกแบบที่ใช้น้ำไม่มาก จะได้ขนได้สะดวก :-\ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:08:46 PM ไม่มีขี้วัว เอาขี้หมู หรืออย่างได้ไหมครับ - ขี้หมู ขี้ไก่ ขี้ช้าง ได้หมดครับ ยกเว้นที่ออกมาจากไบโอแก๊ซ เพราะจุลินทรีย์ไม่เหลือแล้ว - ถ้ามีขี้ค้างคาว เอาไปขายเหอะครับ ได้ราคาดี ฮิฮิ รบกวนถามอาจารย์ว่ามูลจากไบโอแก๊ส ที่ว่าจุลินทรีย์ไม่เหลือนี่ หมายถึงมันใช้ไม่ได้หรือไม่มีความเป็นปุ๋ยครับ ถามต่ออีกนิดถ้าเทียบระหว่างมููลสดๆที่ได้จากสัตว์ กับมูลที่ผ่านระบบไปโอแก๊ส ถ้าผมจะซื้อมาใช้ในสวนควรเลือกซื้อแบบไหนครับ และตัวไหนให้คุณค่าทางปุ๋ยมากกว่ากันครับ - สิ่งที่ออกมาจากบ่อไบโอแก๊สมีความเป็นปุ๋ยครับ เมื่อทิ้งให้แห้งก็ใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้เลย - แต่มูลที่ออกจากไบโอแก๊สไม่มีจุลินทรีย์ที่จะใช้เป็นหัวเชื้อในกระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ครับ จะสู้มูลสดไม่ได้ - มูลจากไบโอแก๊สถ้าแห้งแล้ว เป็นปุ๋ยที่ดีกว่าการใช้มูลสัตว์สด เพราะมูลสัตว์สดเต็มไปด้วยจุลินทรีย์ การใช้ในปริมาณที่มากไปอาจส่งผลเสียต่อพืชได้ครับ แต่ถ้าใช้ในปริมาณไม่มากและมีการทิ้งช่วงในแปลงก็ไม่มีปัญหาครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:20:56 PM ผมอยากทราบว่าการปล่อยให้เศษไม้เศษหญ้าใบไม้ผุพังเน่าเปื่อยแบบธรรมชาติกับนำมาทำปุ๋ยหมักมันต่างกันตรงไหนครับ อยากรู้คำตอบจะได้อธิบายให้คนอื่นฟังครับ - เศษใบไม้เศษหญ้าเมื่อผุพังก็เป็นปุ๋ยอินทรีย์ครับ แต่มีคุณภาพที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของประเทศไทย เป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่ใช้เวลานาน อาจ 1-2 ปี หรือมากกว่า - การทำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีต่าง ๆ เป็นการเร่งกระบวนการให้แล้วเสร็จเร็ว ร่นเวลาให้เหลือ 1-6 เดือน และให้มีคุณภาพสูงเพื่อนำไปใช้ในการเพาะปลูก โดยการกำหนดให้มีสภาพแวดล้อมและปัจจัยในกระบวนการที่เหมาะสม เพื่อให้มีการเปลี่ยนสภาพเศษพืชให้เป็นเหมือนฮิวมัสในเวลาอันสั้นครับ - ในป่าตามธรรมชาติ เศษพืชที่ผุพังจะกลายเป็นอินทรีย์วัตถุในดินและเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน และถึงแม้ว่าจะมีคุณภาพสู้มาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ไม่ได้ แต่ในระยะยาว 5-10 ปี ดินป่าก็มีความอุดมสมบูรณ์ได้ครับ จนมีบางสูตรให้เข้าป่าไปเอาจุลินทรีย์ป่ามาเป็นหัวเชื้อในการทำปุ๋ยหมักไงครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:25:50 PM ถ้าใช้แกลบดิบเป็นวัตถุดิบ เวลาต้องมากกว่า2เดือนใช่ไหมครับ - นานกว่า 2 เดือนครับ อาจเป็น 6-8 เดือน ไม่น่าสนใจครับ คล้าย ๆ กับขี้เลื่อยหลังจากเพาะเห็ดครับ - แต่ถ้าเราเอามาแซมในกระบวนการบ้าง เช่น เศษใบไม้ 3 ส่วนหนา 10 เซ็นติเมตร มูลสัตว์ 1 ส่วนวางทับ แล้วเอาแกลบหรือขี้เลื่อยเพาะเห็ดอีก 1 ส่วนวางทับแล้วรดน้ำ ทำอย่างนี้ 15 ชั้นเป็นรูปสามเหลี่ยม แบบนี้ภายใน 2 เดือนเราก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีปริมาณมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อดินเพาะปลูกที่จะร่วนซุยเมื่อนำไปใช้ (แต่แกลบและขี้เลื่อยเพาะเห็ดจะไม่เปื่อยสมบูรณ์นะครับ) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:28:13 PM สมัครด้วยคนครับ ผมใช้วัสดุเปลือกและซังข้าวโพดและขี้หมู เพื่อจะใช้ในสวนส้มเขียวหวาน(ส้มสีทองเมืองน่าน) ยินดีต้อนรับสมาชิกที่จะเข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจครับ - คุณครูใหญ่ดวงพรครับ มีนักเรียนมาสมัครใหม่ครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tong3829 ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 08:58:23 PM ถามอีกครับ ที่บอกว่าปุ๋ยที่ได้ ห้ามนำมาใส่ต้นไม้โดยตรงแบบไม่ผสมอะไรเลย เพราะอะไรครับ เข้าใจแบบภาษาชาวบ้านว่ามันเค็มแต่มันกมาจากธรรมชาติ100% แล้วมีอัตราส่วนไหมครับ เช่นปลูกไม้กระถาง ดินกี่ส่วนปุ๋ยหมักกี่ส่วน ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น อัตราส่วนยังไงครับ 50/50ได้ไหมครับ
อีกคำถามครับ บางแห่งเค้าเอาขี้เถ้าแกลบมาหมักโดยผสมปุ๋ยคอก แสดงว่าผิดหลักการใช่ไหมครับ การใส่ปุ๋ยหมักแบบของ อ.นี้ ใช้หว่านหรือฝังกลบครับ วิธีไหนดีสุดครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 10:11:54 PM ถามอีกครับ ที่บอกว่าปุ๋ยที่ได้ ห้ามนำมาใส่ต้นไม้โดยตรงแบบไม่ผสมอะไรเลย เพราะอะไรครับ เข้าใจแบบภาษาชาวบ้านว่ามันเค็มแต่มันกมาจากธรรมชาติ100% แล้วมีอัตราส่วนไหมครับ เช่นปลูกไม้กระถาง ดินกี่ส่วนปุ๋ยหมักกี่ส่วน ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น อัตราส่วนยังไงครับ 50/50ได้ไหมครับ อีกคำถามครับ บางแห่งเค้าเอาขี้เถ้าแกลบมาหมักโดยผสมปุ๋ยคอก แสดงว่าผิดหลักการใช่ไหมครับ การใส่ปุ๋ยหมักแบบของ อ.นี้ ใช้หว่านหรือฝังกลบครับ วิธีไหนดีสุดครับ - คำถามนี้ถ้าสมาชิกท่านอื่นจะช่วยเสริมก็จะขอบคุณมากนะครับ - ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้ถ้านำมาใช้แทนวัสดุปลูกในกระถาง ต้นไม้จะตายเรียบ เพราะในปุ๋ยอินทรีย์มีแร่ธาตุหลัก (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม) มีธาตุอาหารรอง (แคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์) และจุลธาตุ ถ้าใช้ล้วน ๆ ธาตุอาหารเหล่านี้จะซึมเข้ารากพืช และทำให้พืชสำลักธาตุอาหารตายครับ - การนำปุ๋ยอินทรีย์ไปใช้ก็ไม่ต้องผสมอะไรครับ เพียงแต่ใช้ในสัดส่วนที่พอสมควร เช่น กรมวิชาการเกษตรกำหนดให้ใช้ 300 กิโลกรัม ถึง 3,000 ตันต่อไร่ (แล้วแต่คุณภาพดินเพาะปลูก) ส่วนใหญ่ก็พูดกันที่ 1 ตันต่อไร่ ก็แปลว่า 0.6 กิโลกรัมต่อตารางเมตรครับ ในปริมาณนี้ถือว่าเป็นการเจือจางอยู่แล้วครับ ไม่เข้มข้นอะไร - ที่บ้านผมใช้ดิน 10 ส่วนกับปุ๋ยอินทรีย์ 1 ส่วนโดยปริมาตรสำหรับปลูกไม้กระถาง สำหรับไม้ยืนต้นที่ไม่เคยใส่ปุ๋ยอินทรีย์เลยถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ผมก็อยากใช้ 50 กิโลต่อต้น ใช้ในทรงพุ่ม (ถ้าทำเองก็ไม่แพง แต่ถ้าต้องซื้อก็น่าจะแพงมาก) ถ้าต้นเล็กก็ใช้ลดลง - การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ควรพรวนให้อยู่ในดิน ถ้าแค่โรยที่ผิวดินจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยครับ - กรณีใช้ขี้เถ้าแกลบในการเพาะปลูก คาดว่าผู้ใช้ต้องการลดความเป็นกรดของดิน แต่ถ้าเอาใส่ในกองปุ๋ยผมว่าไม่น่าจะถูกต้องครับเพราะมีโอกาสที่จุลินทรีย์ในกองปุ๋ยจะตายจากความเป็นด่างที่มากเกินไป หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:01:25 PM ขอฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยครับท่านอาจารย์ ;) ่ท่านเป็นข้าราชการที่ใช้ภาษีของประชาชนได้คุ้มค่าจริงๆครับ :-[ ชาวกพพขอขอบพระคุณท่านข้าราชการท่านนี้ด้วยใจจริงครับผมเคยทำแบบหมักในถุงปุ๋ยครับเหนื่อยมากครับตอนคลุกเคล้าส่วนผสม เพราะแรงงานฅนเดีบวทำ ผมขออนุญาตนำวิธีใหม่ของแม่โจ้ไปใช้แล้วครับดูแล้วเหนื่อยน้อยกว่า แต่ต้องไปหาวัสดุในพื้นที่ให้ได้ก่อนครับ ขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ ;) ที่กรุณานำความรู้มาถ่ายทอดให้กับศิษย์กพพ.ได้เรียนรู้และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และเผยแพร่ต่อไปครับ ;) ;D อาจารย์อย่าทิ้งชาวเกษตรพอเพียงนะครับ อยู่เวปนี้สนุกนะครับอาจารย์...ขอบอก... ;D :D ช่วยกันดีมากๆ บางทีรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ก็ช่วยๆกันไป :'( อาจารย์คอยดูนะ 8) 8) 8) อาจารย์อย่าเบื่อนะครับ :-* :-* :-* หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:09:50 PM ลงชื่อสมัครประกวดกองปุ๋ยนะครับ เริ่มส่งการบ้าน ขอเวลาอีก 1 อาทิตย์ถัดไปนะครับ ขอรวบรวมเศษพืชก่อนนะครับ ของผมทำไว้แล้ว... เอามาส่งได้ไหมคร้าบบบบ.... ถ้าให้ทำใหม่ ต้องรอฟางข้าวปีหน้าแล้วอ่ะครับ... :-\ :-\ ปีนี้ได้มาแค่ 3 คันอีแต๋น ทำหมดแล้วคร้าบบบบบ..... >:( >:(หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:24:24 PM - ผมมีเรื่องจะเล่าครับ
- มีวันนึงเมื่อ 2 ปีก่อน ผมได้รับโทรศัพท์เข้ามือถือ ปรากฏว่าเป็นผู้หญิงชื่อทวี โทรจากบุรีรัมย์ อยากทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้ - ผมเข้าใจว่าพี่เขาคงได้ยินข่าวเรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์ ก็เลยโทรดั้นด้นมาที่มหาวิทยาลัย แล้วเจ้าหน้าที่ก็คงให้เบอร์โทรไป - สรุปว่าพี่เขามีที่นาเคยให้เขาเช่า ตอนนี้จะไม่ให้เช่าแล้ว จะทำเอง มีควายมีขี้ควาย ก็อยากทำปุ๋ยแบบแม่โจ้จะได้ไม่ต้องพลิกกลับกอง - ผมก็เลยสอนวิธีทำให้ทางโทรศัพท์ แล้วก็ให้ไปเตรียมวัสดุให้พร้อม ถ้าพร้อมเมื่อไรก็ให้โทรมา จะได้ให้คำปรึกษาอีก - แกทำกองปุ๋ยจากฟางข้าวและขี้ควายครับ - ก็เป็นอย่างนี้จนพี่เขาขึ้นกองปุ๋ยได้ 1 กอง ก็กำชับให้ขึ้นกองเพิ่ม กำชับเรื่องความชื้น (ทางโทรศัพท์) ช่วงนี้ก็เลยรู้ว่าแกเกิดปีเดียวกันกับผมครับ ปีจอ ก็เลยเหมาในใจว่าเราเป็นเพื่อนเสี่ยวกัน - แล้วก็มีเรื่องตลกเกิดขึ้นสองเรื่อง เรื่องที่หนึ่งครับ มีวันนึงพี่ทวีโทรมาฟ้องว่า มีเพื่อนบ้านมารุมล้อมกองปุ๋ยของแก และพนันกันว่าจะได้ปุ๋ยหรือไม่ ฟางจะเป็นปุ๋ยหรือไม่ - ข้อนี้ทำให้คิดได้ว่า เรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์เดี๋ยวนี้กลายเป็นสิ่งที่เกษตรกรของไทยไม่รู้จักและไม่เข้าใจ เกษตรกรรู้อย่างเดียวว่าทำนาต้องใส่ยูเรีย ผมคิดว่าเกษตรกรส่วนใหญ่คงมองคนทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เนี่ยเป็นพวกไม่เต็มบาท คงคิดว่าคนอะไรมัวไปทำเรื่องยุ่งยากอะไรก็ไม่รู้ ทำไมไม่ทำให้มันง่าย ๆ อย่างเช่นขับรถไปซื้อปุ๋ยเคมี เดี๋ยวเดียวก็ได้ ไม่เห็นต้องเปลืองแรงเปลืองเวลาเลย เพราะฉะนั้น พอเห็นพี่ทวีทำกองปุ๋ย เพื่อนบ้านก็เลยตื่นเต้นและตั้งวงพนันกันใหญ่ - ข้อที่สองไว้พรุ่งนี้เช้านะครับ :) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Stream ที่ พฤษภาคม 23, 2012, 11:52:51 PM ผมมีน้ำลันจากบ่อก๊าซชีวภาพ สามารถใช้แทนน้ำเปล่าในการราดกองปุํยหรือเปล่าครับอาจารย์ เข้่าใจว่าน่าจะเพิ่มธาตุอาหารให้กองปุํยเป็นไปได้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 06:02:54 AM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณae hatyai 4.คุณnongparei กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 06:46:05 AM ลงชื่อสมัครประกวดกองปุ๋ยนะครับ เริ่มส่งการบ้าน ขอเวลาอีก 1 อาทิตย์ถัดไปนะครับ ขอรวบรวมเศษพืชก่อนนะครับ ของผมทำไว้แล้ว... เอามาส่งได้ไหมคร้าบบบบ.... ถ้าให้ทำใหม่ ต้องรอฟางข้าวปีหน้าแล้วอ่ะครับ... :-\ :-\ ปีนี้ได้มาแค่ 3 คันอีแต๋น ทำหมดแล้วคร้าบบบบบ..... >:( >:(- ลองหาใบไม้จากสวนอื่น ขอฟางจากนาข้างทางหรือเพื่อนบ้าน มาทำดีไหมครับ จะได้เห็นรูปเพื่อให้ครู tera ติชมไงครับ พอปีหน้ามีฟางของเรา ก็เก่งพอดีไงครับ :) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 06:51:59 AM ผมมีน้ำลันจากบ่อก๊าซชีวภาพ สามารถใช้แทนน้ำเปล่าในการราดกองปุํยหรือเปล่าครับอาจารย์ เข้่าใจว่าน่าจะเพิ่มธาตุอาหารให้กองปุํยเป็นไปได้ไหมครับ - ได้ครับผม ดีเลยครับ แถมน้ำจะได้ไม่ไหลลงคลองมาก แต่ต้องทำใจนิดนึงนะครับ ว่ากองปุ๋ยเราจะมีกลิ่น ไม่เหมือนของสมาชิกอื่น ในน้ำนั้นยังมีไนโตรเจนเหลืออยู่ครับ - ใครมีน้ำขี้หมูก็เหมือนกันครับ ได้ไนโตรเจนเพิ่ม แต่กองปุ๋ยจะมีกลิ่นบ้างเท่านั้น หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 07:20:26 AM - เรื่องตลกจากพี่ทวี แห่งบุรีรัมย์ต่อนะครับ
- เรื่องที่สอง พอพี่ทวีได้ปุ๋ย แกก็เอาไปใส่นา แกจงใจแกล้งเพื่อนบ้านโดยเอาปุ๋ยอินทรีย์ไปใส่ในนาเน้นข้างถนนในหมู่บ้านโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อที่เพื่อนบ้านจะได้เห็น แกโทรมาบอกว่าต้นข้าวของแกเขียวดี ต้นแข็งแรงและสูง (เป็นที่เข้าใจกันดีว่าปุ๋ยอินทรีย์ที่ใส่ลงไป จะไปปรับสภาพดิน ที่ทำให้เกิดการปลดปล่อยปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดิน จากที่อยู่ในรูปไม่ละลายน้ำให้กลายเป็นอยู่ในรูปละลายน้ำที่ต้นข้าวสามารถเอาไปใช้ได้ เลยได้ประโยชน์สองเด้ง) แต่เรื่องที่ตลกคือ แกฟ้องว่าคนในหมู่บ้านรวบรวมเอาขี้ควายขายให้กับคนหนองคายที่มาซื้อถึงหมู่บ้าน ผมก็แบบว่า ... อ้าว... แล้วคนหนองคายซื้อเอาไปทำไม พี่แกตอบว่าซื้อเอาไปใส่ต้นยางพารา ผมก็ ... อ้าว (อีก) .. ถามต่อว่า แล้วถ้าหมู่บ้านเราจะทำปุ๋ยอินทรีย์ใส่ต้นข้าวแล้วจะเอาขี้ควายที่ไหนมาทำล่ะ พี่แกก็ตอบว่า ไม่รุ๊ ... ก็เห็นพวกนั้นพอได้เงินก็ออกไปซื้อปุ๋ยยูเรียกันนี่ แต่ของแกคิดว่าจะไปซื้อควายเพิ่มอีกสัก 2 ตัว จะเอาขี้มันมาทำปุ๋ย ;D เพราะเห็นแล้วว่าแนวทางนี้ดี ประหยัดดี ข้าวก็ได้เท่าเดิม ที่สำคัญคือดินดีขึ้นมาก แกบอกว่าถ้าผ่านมาให้มากินข้าวและนอนบ้านแก (ขอบคุณครับเสี่ยว) - ได้ข้อคิดอะไรบ้างครับจากเรื่องที่สองนี้ ผมคิดว่า พี่ทวีอยู่ไกลถึงบุรีรัมย์ แต่ดวงตาเห็นธรรม อยากพ้นทุกข์ เชื่อใจในครู อุตสาห์หาเบอร์โทรครูจนได้ เรียนการทำปุ๋ยทางโทรศัพท์ ตั้งอกตั้งใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำตามที่ครูบอก แล้วก็สำเร็จ หลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ (ว่าไปนั่น) ต้นทุนต่ำ ดินดี ได้ข้าวเหมือนกัน - แต่สำหรับเพื่อนบ้าน ขนาดที่เห็นพี่ทวีประสบความสำเร็จ กลับไม่มีใครอยากเดินมาในทางนี้ กลับปฏิเสธที่จะยอมเปลี่ยนแปลง เหล่าเพื่อนบ้านก็เลยจมอยู่ในวงจรเดิม ๆ "ปัญหาเดิม ถ้าแก้ด้วยวิธีเดิม ก็จะไม่มีวันสำเร็จ.... ปัญหาเดิม ต้องแก้ด้วยวิธีใหม่จึงจะสำเร็จ" - เคยมีคนถามผมว่า ถ้าเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ผมจะมีแนวทางอย่างไร ผมมักจะตอบว่า ของแบบนี้ต้องรอให้พวกเขามีดวงตาเห็นธรรม มีปัญญา เห็นทางพ้นทุกข์เสียก่อน แล้วพวกเขาจะยอมเปลี่ยนเอง สังเกตดูสิครับ บรรดาปราชญ์หรือผู้นำกลุ่มเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ เขาเหล่านี้ล้วนดำเนินชีวิตแบบสวนกระแส สวนสังคม สวนกับเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ตอนเริ่มแรกไม่ใช่หรือครับ โดยมีความสำเร็จของคนอื่นเป็นเครื่องยืนยัน ของแบบนี้มันจะเกิดเองครับ บังคับไม่ได้ (เอ... หรือว่าเป็นบุญเก่าน้อ ?'.....) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 07:39:11 AM - ชวนคุยเรื่อย ๆ นะครับ
- 5 ปีก่อน ผมเคยไปช่วยอาจารย์พรรคพวกที่ไปทำแผนแม่บทของ สปก.พิจิตร เพื่อช่วยคุณภาพชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ สปก. ก็ไปพบเห็นบางเรื่องครับ - หนึ่งในนั้นคือ เกษตรกรพิจิตรขยันสุดยอด - แต่บางพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ ก็ต้องเจาะบาดาล หรือขุดบ่อน้ำติ้น เพื่อสูบเอาน้ำมาทำนา - ถ้าไฟฟ้าเข้าถึงก็เจาะบาดาล ถ้าไฟฟ้าไม่มีก็ขุดบ่อน้ำตื้น (ที่ลึก 20 เมตร) เพื่อลงไปเอาปั๊มน้ำลงไปสูบน้ำเข้านา - ผมก็เลยได้เห็นสายพานยาว ๆ ที่นี่แหล่ะครับ ปั๊มอยู่ใต้บ่อ ลึก 20 เมตร เครื่องยนต์อยู่ข้างบน - ตอนนั้นผมคิดว่า ขนาดชาวนาทั่วไปที่มีน้ำชลประทาน ยังขาดทุนเลย แล้วนี่ต้องสูบน้ำเข้านาแล้วจะไปเหลือกำไรอะไร :-\ - ผมถามเกษตรกรว่า ถ้าน้ำหายาก ทำไมไม่ปลูกพืชน้ำน้อย ปลูกถั่ว ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ - เกษตรกรตอบว่า ถ้าไม่ปลูกข้าว แกก็ไม่รู้จะปลูกอะไร เพราะบ้านแกปลูกข้าวมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อ - ผมสรุปว่า (1) เกษตรกรไม่กล้าเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงทำได้ไม่ง่ายอย่างที่พูด (2) ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่ผ่านมา ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด ปล่อยให้เป็นปัญหาซ้ำซาก (3) เกษตรกรต้องรับภาระความเสี่ยงเอาเองทั้งหมด ถ้าหันมาปลูกถั่วเหลือง ก็ต้องหาตลาดเอง ถ้าขาดทุนก็ต้องไปกู้เอาเอง ถ้าต้องขายนาก็จัดการเอาเอง - เกษตรกรเล่าว่า การลงไปเอาทรายที่ก้นบ่อออกประจำวัน มีความเสี่ยงมาก เพราะอากาศที่ใต้บ่อน้ำลึก 20 เมตรไม่ค่อยมี บางครั้งสามีลงไปแล้วขาดอากาศหายใจฟุบอยู่ข้างล่าง ภรรยาก็ลงไปช่วย ก็เลยตายทั้งสองใต้บ่อ ข่าวแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยในพื้นที่ ...เศร้าครับ - ข้อคิดต่อนะครับ (4) สมาชิก กพพ.ที่ท้อใจกับปัญหา ผมคิดว่าปัญหาของท่านน่าจะน้อยกว่าของชาวนาพิจิตรนะครับ ยังไงก็สู้ ๆ ครับ ที่สำคัญ ขอให้ขยันชก แต่ให้ตรงเป้าหน่อย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 07:40:30 AM อาจารย์มาสอนและมาตรวจคำถามนักเรียนแต่เช้า...นะคะ จริงค่ะอาจารย์ถ้าคนทำเกษตรดวงตาเห็นธรรมเหมือนที่อาจารย์ว่าเราก็จะไม่ต้องหวังพึ่งทางราชการ ต้นทุนการทำเกษตรต่ำ การเป็นหนี้ก็จะไม่มี นักการเมืองก็จะหว่านประชานิยมแบบแจกก็จะไม่เกิดเพราะเกษตรกรรากหญ้าพึ่งตัวเองมีอยู่มีกิน แต่...กว่าจะดวงตาเห็นธรรมเหมือนที่อาจารย์คิด พี่ดวงพรคิดว่า (ไม่รู้ใครอายุมากกว่าใครน่ะนะ ปี 2512 ค่ะ) รุ่นเราล้มหายตายจาก จะเห็นธรรมกันซักถึง 20% ประชากรไทยไม่รู้นะคะ ;D ;D ;D ;Dแต่แนวทางที่อาจารย์แนะนำนี้พี่ดวงพรจะนำไปใช้เมื่อได้กลับไปทำเกษตรเต็มเวลาค่ะ เพราะกันที่ไว้ทำสวนผสมอยู่ประมาณ17ไร่ อนาคต(ถ้ายังร่างกายแข็งแรงดี มีอายุยืนนาน ไม่ตายเสียก่อน)ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆค่ะ
อยากทำแปลง 17ไร่นี้เป็นสวนผสมที่จะเป็นที่ให้ชุมชนได้เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ ค่ะ ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ ;D ;D ;Dตอนนี้ยังติดบ่วงพันธนาการเรื่องความรับผิดชอบต่อ ลูกๆ เลยต้องทำภารกิจส่งเขาข้ามฝั่งเสียก่อนเลยจำทนอยู่เมืองฟ้าอมรต่อซักระยะ ค่ะ ;D ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:25:58 AM อาจารย์มาสอนและมาตรวจคำถามนักเรียนแต่เช้า...นะคะ จริงค่ะอาจารย์ถ้าคนทำเกษตรดวงตาเห็นธรรมเหมือนที่อาจารย์ว่าเราก็จะไม่ต้องหวังพึ่งทางราชการ ต้นทุนการทำเกษตรต่ำ การเป็นหนี้ก็จะไม่มี นักการเมืองก็จะหว่านประชานิยมแบบแจกก็จะไม่เกิดเพราะเกษตรกรรากหญ้าพึ่งตัวเองมีอยู่มีกิน แต่...กว่าจะดวงตาเห็นธรรมเหมือนที่อาจารย์คิด พี่ดวงพรคิดว่า (ไม่รู้ใครอายุมากกว่าใครน่ะนะ ปี 2512 ค่ะ) รุ่นเราล้มหายตายจาก จะเห็นธรรมกันซักถึง 20% ประชากรไทยไม่รู้นะคะ ;D ;D ;D ;Dแต่แนวทางที่อาจารย์แนะนำนี้พี่ดวงพรจะนำไปใช้เมื่อได้กลับไปทำเกษตรเต็มเวลาค่ะ เพราะกันที่ไว้ทำสวนผสมอยู่ประมาณ17ไร่ อนาคต(ถ้ายังร่างกายแข็งแรงดี มีอายุยืนนาน ไม่ตายเสียก่อน)ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆค่ะ อยากทำแปลง 17ไร่นี้เป็นสวนผสมที่จะเป็นที่ให้ชุมชนได้เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ ค่ะ ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ ;D ;D ;Dตอนนี้ยังติดบ่วงพันธนาการเรื่องความรับผิดชอบต่อ ลูกๆ เลยต้องทำภารกิจส่งเขาข้ามฝั่งเสียก่อนเลยจำทนอยู่เมืองฟ้าอมรต่อซักระยะ ค่ะ ;D ;D - ขออนุญาตแนะนำนะครับพี่คุณครูใหญ่ ตามประสาคนเคยเจ๊งมา - ผมเกิดปี 2501 ครับ :o - ผมคิดว่า 17 ไร่น่าจะมากไป เกินกำลัง ไหนจะมีปัญหาคนงาน ไหนจะเอาหญ้าไม่ทัน - ผมคิดว่าพี่คุณครูใหญ่ทำเองสักครึ่งเดียว อีกครึ่งแบ่งให้เพื่อนบ้านทำ น่าจะเป็นความพอเพียงกว่า ไม่ทรมานร่างกายมากเกินไป จะได้มีเวลานั่งชื่นชมธรรมชาติ อยู่กับตัวเอง อยู่กับคุณพ่อของลูก ดื่มชาตอนบ่าย ในขณะที่ร่างกายเราเริ่มทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ - ตอนนี้ผมเตรียมตัวเตรียมใจกับการเกษียณในอนาคต แล้วพบว่า ยังไม่ทันไรร่างกายก็เริ่มทรุดโทรม เป็นโรคกระเพาะคุกคาม ทำให้ต้องงดขาหมู ข้าวมันไก่ แกงกะทิ ต้องไปสแกนตับทุก 6 เดือนเพราะเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี (ตรวจแล้วปกติดีอยู่ แต่ตรวจไปด้วยความอยากอยู่ไปนาน ๆ) ตอนนี้เลยเข้าใจแล้วว่า อะไรสำคัญที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่ สำหรับผมสิ่งสำคัญก็คือ มีเวลาที่สงบ ๆ อยู่กับคุณแม่ลูก เที่ยวและพักผ่อนมาก ๆ เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานหนักพอสมควร ผ่านอะไรก็มาก เห็นอะไรก็เยอะ เงินที่ออมไว้ก็น่าจะพอสำหรับสองตายาย ลูก ๆ ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงครับผม - ผมอาจจะมองเห็นแค่บางด้านของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จที่ได้ไปสัมผัสมา ผมคิดว่าใช่เลย แต่ละรายทำกันแค่ไร่เดียวครับ อย่างมาก 6 ไร่ ทำผสมผสาน ไม่ต้องจ้างใคร มีรายได้ต่อเนื่อง เป็นตัวอย่างในชุมชน แต่ก็เหนื่อยนะครับ ไม่มีวันหยุด (ที่น่าแปลกคือ ไม่มีใครปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และพีชเศรษฐกิจอื่นที่มีความเสี่ยง) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: wirot ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:48:59 AM สังขารไม่เที่ยง มีแต่นาฬิกาที่เที่ยงวันละสองหน เห็นด้วยกับอาจารย์ธีระครับ เวลาทุกคนเหลือน้อยลงทุกขณะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:50:37 AM อาจารย์มาสอนและมาตรวจคำถามนักเรียนแต่เช้า...นะคะ จริงค่ะอาจารย์ถ้าคนทำเกษตรดวงตาเห็นธรรมเหมือนที่อาจารย์ว่าเราก็จะไม่ต้องหวังพึ่งทางราชการ ต้นทุนการทำเกษตรต่ำ การเป็นหนี้ก็จะไม่มี นักการเมืองก็จะหว่านประชานิยมแบบแจกก็จะไม่เกิดเพราะเกษตรกรรากหญ้าพึ่งตัวเองมีอยู่มีกิน แต่...กว่าจะดวงตาเห็นธรรมเหมือนที่อาจารย์คิด พี่ดวงพรคิดว่า (ไม่รู้ใครอายุมากกว่าใครน่ะนะ ปี 2512 ค่ะ) รุ่นเราล้มหายตายจาก จะเห็นธรรมกันซักถึง 20% ประชากรไทยไม่รู้นะคะ ;D ;D ;D ;Dแต่แนวทางที่อาจารย์แนะนำนี้พี่ดวงพรจะนำไปใช้เมื่อได้กลับไปทำเกษตรเต็มเวลาค่ะ เพราะกันที่ไว้ทำสวนผสมอยู่ประมาณ17ไร่ อนาคต(ถ้ายังร่างกายแข็งแรงดี มีอายุยืนนาน ไม่ตายเสียก่อน)ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆค่ะ อยากทำแปลง 17ไร่นี้เป็นสวนผสมที่จะเป็นที่ให้ชุมชนได้เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ ค่ะ ตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ ;D ;D ;Dตอนนี้ยังติดบ่วงพันธนาการเรื่องความรับผิดชอบต่อ ลูกๆ เลยต้องทำภารกิจส่งเขาข้ามฝั่งเสียก่อนเลยจำทนอยู่เมืองฟ้าอมรต่อซักระยะ ค่ะ ;D ;D - ขออนุญาตแนะนำนะครับพี่คุณครูใหญ่ ตามประสาคนเคยเจ๊งมา - ผมเกิดปี 2501 ครับ :o - ผมคิดว่า 17 ไร่น่าจะมากไป เกินกำลัง ไหนจะมีปัญหาคนงาน ไหนจะเอาหญ้าไม่ทัน - ผมคิดว่าพี่คุณครูใหญ่ทำเองสักครึ่งเดียว อีกครึ่งแบ่งให้เพื่อนบ้านทำ น่าจะเป็นความพอเพียงกว่า ไม่ทรมานร่างกายมากเกินไป จะได้มีเวลานั่งชื่นชมธรรมชาติ อยู่กับตัวเอง อยู่กับคุณพ่อของลูก ดื่มชาตอนบ่าย ในขณะที่ร่างกายเราเริ่มทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ - ตอนนี้ผมเตรียมตัวเตรียมใจกับการเกษียณในอนาคต แล้วพบว่า ยังไม่ทันไรร่างกายก็เริ่มทรุดโทรม เป็นโรคกระเพาะคุกคาม ทำให้ต้องงดขาหมู ข้าวมันไก่ แกงกะทิ ต้องไปสแกนตับทุก 6 เดือนเพราะเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี (ตรวจแล้วปกติดีอยู่ แต่ตรวจไปด้วยความอยากอยู่ไปนาน ๆ) ตอนนี้เลยเข้าใจแล้วว่า อะไรสำคัญที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่ สำหรับผมสิ่งสำคัญก็คือ มีเวลาที่สงบ ๆ อยู่กับคุณแม่ลูก เที่ยวและพักผ่อนมาก ๆ เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานหนักพอสมควร ผ่านอะไรก็มาก เห็นอะไรก็เยอะ เงินที่ออมไว้ก็น่าจะพอสำหรับสองตายาย ลูก ๆ ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงครับผม - ผมอาจจะมองเห็นแค่บางด้านของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จที่ได้ไปสัมผัสมา ผมคิดว่าใช่เลย แต่ละรายทำกันแค่ไร่เดียวครับ อย่างมาก 6 ไร่ ทำผสมผสาน ไม่ต้องจ้างใคร มีรายได้ต่อเนื่อง เป็นตัวอย่างในชุมชน แต่ก็เหนื่อยนะครับ ไม่มีวันหยุด (ที่น่าแปลกคือ ไม่มีใครปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และพีชเศรษฐกิจอื่นที่มีความเสี่ยง) เอามาฝากท่านอาจารย์ tera ครับ ;D ยาสมุนไพรสำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน ยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร 1. ขมิ้นชัน ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma longa Linn., Curcuma domesticaVal. ชื่อท้องถิ่น ขมิ้น (ทั่วไป) ขมิ้นแกง ขมิ้นหยวก ขมิ้นหัว (เชียงใหม่) ขี้มิ้น หมิ้น(ใต้) ตายอ (กะเหรี่ยง-กำแพงเพชร) สะยอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ลักษณะของพืช ขมิ้นมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ประเทศอินเดีย จีน และหมู่เกาะ อินเดียตะวันออกปัจจุบันมีการปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ อย่างแพร่หลายในประเทศเขตร้อน ขมิ้นเป็นพืชล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน อายุหลายปี ถึงฤดูแล้งใบจะโทรม เมื่อย่างเข้าฤดูฝนเริ่มแตกใบขึ้นมาใหม่เนื้อในของเหง้ามีสีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดเข้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะ ใบเป็นใบเดี่ยว ก้านยาว ใบเหนียว เรียวและปลายแหลม กว้าง 12-15 ซม. ยาว 30-40 ซม. ดอกเป็นดอกช่อ มีก้านช่อแทงจากเหง้าโดยตรง ดอกย่อยสีเหลืองอ่อน กลีบประดับสีเขียวอมชมพู ดอกบานครั้งละ 3-4 ดอก ผลรูปกลม มี พู ส่วนที่ใช้เป็นยา เหง้าแห้ง ช่วงเวลาที่เก็บเป็นยา เก็บเมื่อขมิ้นอายุราว 7-9 เดือน รสและสรรพคุณยาไทย รสฝาด กลิ่นหอมแก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน ขับลม ท้องร่วง ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เหล้าขมิ้นมีน้ำมันหอมระเหยประมาณร้อยละ 22-6 เป็นน้ำมันสีเหลือง มีสารหลายชนิด คือ Turmerone, Zingiberene, Borneol เป็นต้น และมีสารสีเหลืองส้ม คือ เคอร์ควิมิน (Curmumin) ประมาณร้อยละ 1.8-5.2 การศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่า ขมิ้นมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ขับน้ำดี และฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบได้ โดยที่ฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะเกิดจากสารเคอร์คิวมิน ขนาด 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทำให้เกิดการกระตุ้น การหลั่ง mucin ออกมาเคลือบกระเพาะ แต่ถ้าใช้ขนาดสูงอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ ส่วนฤทธิ์ลดการอักเสบเกิดจากสารเคอร์คิวมินและน้ำมันหอมระเหย ทำให้ขมิ้นมีผลช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากแผลในกระเพาะได้ ฉวีวรรณ พฤกษ์สุนันท์ และคณะ (2529) ศึกษาผลของยาแคปซูลขมิ้นในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องเนื่องจากแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กดูโอนินั่ม โดยดูการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุผนังภายในกระเพาะอาหารและสำไส้เล็กดูโอนินั่ม ด้วยกล้องส่องตรวจ (Endoscope) ในผู้ป่วยชาย 8 ราย หญิง 2 ราย อายุระหว่าง 16-60 ปีผู้ป่วยที่มีแผลเปื่อย10 ราย นี้เป็น D.U. 2 ราย มีขนาดแผล 0.5-1.5 ซม. โดยให้รับประทานขมิ้นชันขนาดแคปซูลละ 250 มก.ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 3 มื้อ ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง และก่อนนอน ปรากฏผลว่า แผลของผู้ป่วยหายเรียบร้อยดี 6 ราย คิดเป็น 60 % ในระยะเวลา 4-12 สัปดาห์ ในจำนวนนี้ถ้าแสดงผลการหายของแผลเรียบร้อยภายในเวลา 4 สัปดาห์ ได้เป็น 50% อัญชลี อินทนนท์ และคณะ (2529) ได้ทำการทดลองใช้ขมิ้นรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องซึ่งเชื่อว่าเป็นอาการของโรคแผลเปปติค (Peptic Ulcer) โดยเปรียบเทียบกับการใช้ไตรซิลิเกต (Trisiligate) ซึ่งเป็นยาลดกรดขององค์การเภสัชกรรม ได้ผลดังนี้ คืออาการดีขึ้นมากหลังรักษาด้วยขมิ้นชัน ครบ 12 สัปดาห์ จำนวน 15 ราย คิดเป็น 60% หายปกติ 1 ราย คิดเป็น 58 % อาการดีขึ้นมาก หลังรักษาด้วยไตรซิลิเกต 5 ราย คิดเป็น 50 % หายปกติ 4 ราย คิดเป็น 40 % ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง การศึกษาพบว่าขมิ้น ไม่มีพิษเฉียบพลันและไม่มีผลในด้านก่อกลายพันธุ์ และในการวิจัยทางคลินิกของ ฉวีวรรณ พฤกษ์สุนันท์และคณะ (2529) ได้ศึกษาเคมีเลือดผู้ป่วยที่รับการ ทดลองจำนวน 30 คน ก่อนและหลังรับประทานขมิ้นติดต่อกันนาน 4 สัปดาห์ ไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในผลเคมีเลือดที่บ่งถึงการตรวจหน้าที่ตับและไต และฮีมาโตโลยี ส่วนผลแทรกแซง พบอาการท้องผูก ราย แพ้ยามีผื่นที่ผิวหนัง 2 ราย วิธีใช้ ขมิ้นใช้รักษาโรคกระเพาะอาหารโดยการนำเหง้าแก่สดล้างให้สะอาด (ไม่ต้องปอกเปลือก) หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตากแดดจัดสัก 1-2 วัน บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน หรือบรรจุแคปซูล เก็บไว้ในขวดสะอาดและมิดชิด รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน บางคนรับประทานขมิ้นแล้วอาจมีอาการแพ้ขมิ้น เช่นคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัวนอนไม่หลับ เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดยาและเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดอื่นแทน ยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร 2 กล้วย ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa sapientum Linn. ชื่อท้องถิ่น - ลักษณะพืช กล้วยเป็นพืชเมืองร้อนและเป็นพืชที่คุ้นเคยกับคนไทยมาช้านาน เพราะเกือบทุกส่วนของกล้วยมีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน กล้วยเป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นตรง รูปร่างกลม มีกาบใบหุ้มซ้อนกัน ใบสีเขียวขนาดใหญ่ ขอบใบขนานกัน ช่อดอกคือหัวปลี มีลักษณะห้อยหัวลงยาว 1-2 ศอก มีดอกย่อยออกเป็นแผง กลายเป็นผลติดกัน เรียกว่าหวี เรียงซ้อนและติดกันที่แกนกลางเรียกว่าเครือ ส่วนที่ใช้เป็นยา ผลกล้วยดิบหรือผลห่าม ช่วงเวลาที่เก็บเป็นยา เก็บผลกล้วยช่วงเปลือกเป็นสีเขียว ต้นกล้วยจะให้ผลเมื่ออายุ 8-12 เดือน รสและสรรพคุณยาไทย รสฝาด ฤทธิ์ฝาดสมาน ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ กล้วยดิบประกอบด้วยสารประกอบหลายชนิด คือ Tannin , Serotonin, Norepinephnine, Dopamin และ Catecholamine สารเหล่านี้อยู่ในเนื้อและเปลือกของกล้วยสำหรับกล้วยสุกมี pectin , Essential oil, Norepinephrine และกรดอินทรีย์หลายชนิด ปี คศ. 1964 Best และคณะ ได้พบว่าผงกล้วยดิบมีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะหนูขาว ซึ่งเกิดจากการให้ aspirin โดยสามารถใช้ทั้งป้องกันและรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้ ในการป้องกันจะใช้ขนาด 5 กรัม ส่วนการรักษาใช้ขนาด 7กรัม และถ้าเป็นสารสกัดด้วยน้ำจะมีฤทธิ์แรงเป็น 800 เท่าของผงกล้วย ผู้วิจัยเข้าใจว่ากล้วยดิบไปกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะหลั่งสารพวก mucin ออกมาเคลือบกระเพาะ กล้วยจะดีกว่ายาพวก Aluminium hydroxide, Cimetidine หรือ Postaglandin ซึ่งมีฤทธิ์เฉพาะป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะเท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาแผลที่เกิดแล้วได้ วิธีใช้ นำกล้วยน้ำว้าดิบฝานเป็นแว่นตากแดดประมาณ 2 วัน หรืออบให้แห้งในอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส และบดเป็นผง วิธีรับประทานโดยการนำผงกล้วยดิบครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล ชงน้ำหรือผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ดื่มหรือนำผงกล้วยดิบมาปั้นลูกกลอน รับประทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร และก่อนนอน รับประทานแล้วอาจมีอาการท้องอืดเฟ้อ ป้องกันได้โดยใช้ร่วมกับยาขับลม เช่น น้ำขิง พริกไทย เป็นต้น สำนักงานคณะกรรมการการสาธารณสุขมูลฐาน, “ยาสมุนไพร สำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน” ข้อมูลจาก http://www.yasiam.com/txt/drg451230a.html (http://www.sanyasi.org/images/1184775453/%A1%C5%D4%E9%A7%A1%C5%D2%A7%B4%A7%202.jpg) มีโรคชนิดหนึ่งที่คนเป็นกันมากและรักษาไม่รู้จักหาย เป็นแล้วทรมาน กินก็ปวดท้อง ไม่กินก็ปวดท้อง ถ้าอาการหนักก็ถึงขั้นถ่ายเป็นเลือด หน้าซีดหน้าเซียว อาหารแต่ละมื้อก็กินแต่รสจืดชืด จะกินให้แซบ ๆ ก็กินกับเขาไม่ได้ ไปหาหมอก็ได้แต่ยาน้ำสีขาว ๆ มากินเคลือบกระเพาะ และยาขับลม ไปหาหมอสมุนไพรก็อาจได้ขมิ้นชัน หรือเปล้าน้อย หรือกล้วยดิบตากแห้งบดผงมาชงกิน ถ้าเป็นไม่มากก็อาจหาย หรือถ้าตั้งใจกินก็อาจหาย แต่ปัญหาของคนป่วยส่วนมากคือขี้เกียจกินยา หรือลืมกินยา นี่แหละที่ทำให้ป่วยเรื้อรังกันเป็นส่วนมาก แล้วไอ้เจ้าโรคกระเพาะนี่มันต้องขยันกินยาซะด้วยซี จะกินบ้างไม่กินบ้างก็ไม่ได้ ลองคิดดูเถอะครับ แผลที่เป็นภายนอกทายาทุกวันยังหายช้า และเราก็คอยระวังไม่ให้บาดแผลสกปรก แต่แผลที่ถูกสารพัดอาหารรดราดลงไปทุกวัน ๆ ละหลาย ๆ ครั้ง นอกจากนั้นก็ยังมีน้ำกรดย่อยอาหารหลั่งออกมารดราดอยู่วันละหลาย ๆ ครั้งเช่นกัน นึกดูเถอะว่ามันสาหัสขนาดไหน และมันจะหายง่าย ๆ ได้อย่างไร หรือด้วยยาสมุนไพรวิเศษขนานใด สมุนไพรที่สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหารมีชนิดในเมืองไทย เพียงแต่ไม่มีนักวิทยาศาสตร์ ไทยวิจัยกันอย่างจริงจัง แต่ชาวบ้านหรือหมอพื้นบ้านบางคนรู้สรรพคุณของมันดี และใช้กันมาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว เช่นสาบเสือ คนเหนือเรียกหญ้าแมงวาย คนอีสานเรียกหมาหลง เวลาขึ้นตรงไหนก็แพร่หลายจนเป็นต้นเป็นกอติด ๆ กันหนาแน่น หมาเข้าไปยังหาทางออกไม่ได้ จึงเรียกหมาหลง ส่วนที่เรียกแมงวายก็เพราะมีสารที่กำจัดแมลงได้ สังเกตดูเถอะ ไม่มีแมลงตัวไหนที่กินใบไม้ชนิดนี้ ส่วนชื่อสาบเสือนั้นเกิดจากกลิ่นของใบ แต่เคยเข้าใกล้เสือก็ไม่เห็นว่ามันจะเหมือนกลิ่นเสือตรงไหน ฟาร์มผึ้งชอบสาบเสือมาก หากพบดงสาบเสืออยู่ตรงไหนเขาจะนำรังผึ้งไปวางไว้ในบริเวณนั้น จึงได้น้ำผึ้งกลิ่นดอกสาบเสือ ซึ่งไม่เหม็นเหมือนใบของมัน สาบเสือมีสรรพคุณในการรักษาแผลและห้ามเลือดได้ดีมาก ใครโดนมีดบาดจนเลือดไหล ลองขยี้ใบสาบเสือโปะที่บาดแผลดูเถอะ เลือดจะหยุดทันที และแผลจะแห้งหายเร็ววัน เพราะเหตุนี้จึงมีชาวบ้านบางคนทดลองเอาใบสาบเสือมาคั้นเอาแต่น้ำดื่มกินลงไป แผลในกระเพาะอาหารก็หายเร็ววันเช่นกัน แต่ก็ต้องทนกลิ่นฉุนของมัน และคงไม่ได้ดื่มครั้งเดียวหรอกครับ ทางที่ดีคั้นเอาน้ำใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ ดื่มก่อนอาหารวันละ 3-4 ครั้ง คงหายเร็ววันแน่นอน สมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ให้ผลเป็นเลิศในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารคือ กลิ้งกลางดง ทางเหนือเรียกมะหำเบ้า เป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันขึ้นต้นไม้ใหญ่ แต่เป็นไม้ล้มลุก เจริญงอกงามในฤดูฝน พอถึงหน้าแล้งเถาและใบก็โทรมแห้งเหลือแต่หัวอยู่ใต้ดิน ถึงหน้าฝนก็งอกเถาและใบขึ้นมาอีก มีใบโตสวยงามลักษณะแบบใบโพธิ์ มีร่องใบลึกชัด ใบโตขนาดฝ่ามือกลาง ติดผลที่เถา ผลโตขนาดลูกมะตูมหรือใหญ่กว่านั้นก็มีมาก ผลโตเต็มที่และหลุดร่วงประมาณมกราคม-มีนาคม เป็นไม้ขึ้นตามป่าริมชายเขา เมื่อผลหลุดหล่นก็กลิ้งลงไป จึงเรียกกลิ้งกลางดง พอถึงเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ผลว่านนี้จะงอกเถาหมด แม้เก็บไว้ในถุงฟางก็ยังงอกเถาอยู่ในถุงได้ ปลูกง่ายจริง ๆ เป็นว่านยาชนิดหนึ่งที่นักนิยมว่านชอบเล่น เชื่อกันว่าใครได้กินผลว่านนี้จะทำให้คงกระพัน และมีพละกำลังมาก วิธีใช้ทำยา หมอแผนโบราณที่รู้สูตรยานี้จะนำผลกลิ้งกลางดงมาบดเป็นผงผสมกับสมุนไพรอื่น ๆ แล้วผสมน้ำผึ้งปั้นลูกกลอน กินก่อนอาหารทุกมื้อ ไม่ถึงเดือนหรอกครับ โรคแผลในกระเพาะอาหารจะทุเลาหรือหายสนิท และสิ่งใกล้ตัวผักพื้นบ้าน ที่ช่วยบรรเทาโรคกระเพาะคือ กระเจี๊ยบเขียว ครับ ในกระเจี๊ยบเขียวมีเมือกเพคติน สมานแผลในกระเพาะได้ ที่สำคัญคือหารับประทานได้ง่าย ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:07:37 AM - ขอบคุณคุณนพครับผม ซึ้งใจมากครับ ;)
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: deer art ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:32:16 AM อาจารย์ครับนี่เป็กองปุ๋ยที่ผมทำก่อนได้อ่านกระทู้อาจารย์อาทิตย์หนึ่ง
(http://upic.me/i/c5/0dsc03744.jpg) (http://upic.me/show/35708073) เปลือกถั่วพร้ารองชั้นล่าง รำอ่อนเป็นอาหารจุลินทรีย์ กากน้ำตาล จุลินทรีไม่ใช้ (http://upic.me/i/kl/dsc03745.jpg) (http://upic.me/show/35708074) ปุ๋ยคอกและขี้เลื่อยสลับเป็นชั้น (http://upic.me/i/wq/dsc03758.jpg) (http://upic.me/show/35708075) บนสุดถอนถั่วพร้ามาคลุม (http://upic.me/i/4r/dsc03759.jpg) (http://upic.me/show/35708076) แล้วเอาไวนิลผ้ามาคลุม เพราะยังไม่ได้อ่านกระทู้ ตอนนี้ผมเปิดผ้าออกแล้วรดน้ำ (http://upic.me/i/iu/dsc04104.jpg) (http://upic.me/show/35978896) ผมยังมีฟางเหลือเฟืออีกเกือบ 300 ก้อน ขี้วัวควายก็ยังพอหาได้ แต่ต้องทำงานประจำเลยไม่มีเวลาขึ้นกองปุ๋ย ขึ้นกองเมื่อไหร่จะมาส่งการบ้านอีกคนครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tong3829 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:34:23 AM ถามอีกครั้งเกี่ยวกับการใส่ปุ๋ยต้นไม้ครับ เข้าใจแล้วว่า ต้องฝังกลบถึงจะได้ผลดีที่สุด แต่ถ้ามีหลาย10ไร่คงลำบาก ถ้าผมเอาปุ๋ยหมักใส่รอบทรงพุ่มทั่วๆแล้วนำเอาแกลบ ฟาง หรือวัสดุต่างๆมาคลุมไว้จะได้ผลแบบฝังกลบไหมครับ รากเค้าจะลอยไหมครับ การนำปุ๋ยไปใส่ในนา นี่เราหว่านเลยใช่ไหมครับ ตอนข้าวกำลังโต ปุ๋ยจะเสียคุณค่าใหมครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:45:41 AM อาจารย์ครับนี่เป็กองปุ๋ยที่ผมทำก่อนได้อ่านกระทู้อาจารย์อาทิตย์หนึ่ง ([url]http://upic.me/i/c5/0dsc03744.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/35708073[/url]) เปลือกถั่วพร้ารองชั้นล่าง รำอ่อนเป็นอาหารจุลินทรีย์ กากน้ำตาล จุลินทรีไม่ใช้ ([url]http://upic.me/i/kl/dsc03745.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/35708074[/url]) ปุ๋ยคอกและขี้เลื่อยสลับเป็นชั้น ([url]http://upic.me/i/wq/dsc03758.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/35708075[/url]) บนสุดถอนถั่วพร้ามาคลุม ([url]http://upic.me/i/4r/dsc03759.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/35708076[/url]) แล้วเอาไวนิลผ้ามาคลุม เพราะยังไม่ได้อ่านกระทู้ ตอนนี้ผมเปิดผ้าออกแล้วรดน้ำ ([url]http://upic.me/i/iu/dsc04104.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/35978896[/url]) ผมยังมีฟางเหลือเฟืออีกเกือบ 300 ก้อน ขี้วัวควายก็ยังพอหาได้ แต่ต้องทำงานประจำเลยไม่มีเวลาขึ้นกองปุ๋ย ขึ้นกองเมื่อไหร่จะมาส่งการบ้านอีกคนครับ - คุณครูใหญ่ดวงพรครับ มีนักเรียนใหม่ครับผม คนนี้น่ากลัวเอาจริงครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:52:34 AM ขอบคุณท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์เป็นรุ่นพี่ 1รอบพอดี ประทานอภัยสำหรับคำที่ใช้เรียกแทนตัวว่าพี่นะคะ >:( >:(เนื่องจากไปใหนๆใครๆก็เรียกพี่เลยติด
-อยากบอกเล่าให้อาจารย์ฟัง ค่ะ ดวงพรเป็นลูกเกษตรและยากจน ข้นแค้นมาก่อน (ขอใช้คำนี้น่ะค่ะเพราะไม่มีแม้แต่ ที่ดินทำกิน หรือที่ปลูกบ้าน) ครบเซ็ตความจนที่คนอิสานหลายๆครอบครัวเป็น เลยมีความมุ่งมั่นว่า ในชีวิตจะต้องหาที่ดินทำกินให้ได้เลยมุ่งหน้ามาขุดทองเมืองกรุงตามอย่างคนอิสานทั่วๆไป มากรุงด้วยความมุ่งมั่นจะหาตังค์เพื่อไปซื้อที่ดินทำกินเพราะเป็นคนรักการทำเกษตรมาก และเห็น บรรพบุรุษทำแบบเดิมๆซ้ำๆมีแต่ยากจน เมื่อตอนที่จำความได้เคยมานั่งคิดว่า ทำนาเสร็จ ทำไมเขาไม่ทำสวนหว่า อายุประมาณ 7-8 ขวบก็ลงมือปลูกผักสวนครัวทุกชนิดเอง ขุดแปลงและทำอะไรเองหมด ปลูกทุกผักตามประสาเด็กๆ ปุ๋ยที่ใส่ผักก็ไปขุดเอา มูลวัว มูลไก่ ชาวบ้านมาใส่ผักที่ปลูกค่ะ ผักงามมาก เมื่อปลูกแล้วก็นำผักที่ตัวเองปลูกไปขายที่ตลาดเอง สมัย 30กว่าปีก่อน วันละ 10-20 บาทนี่เยอะนะคะ ถีบจักรยานตั้งกะตี 5 นำผักที่ปลูกไปขายที่ลานตลาดสด เสียค่าที่ 1 บาท....ปลูกเองขายเองกำไรเน็ตๆ ;D ;D นั่นอดีตจริงๆค่ะ -สำหรับเนื้อที่ 17ไร่ที่ว่าจะทำสวนผสม สำหรับดวงพรที่ตั้งใจไว้มันยังน้อยไปมากสำหรับที่คิดจะปลูก เพราะใน 17ไร่ที่คิดไว้ จะเป็นนาประมาณ 7ไร่ อีก 10ไร่จะเป็นพืชผสมผสาน พวกผลไม้ กะจะปลูก 108 อย่างไว้เป็นอาหารค่ะ สำหรับนานั้นให้คนเช่าทำและเขาก็มาช่วยงาน อยากบอกว่า การทำเกษตรเหนื่อยแต่ทำได้เรื่อยๆกะว่าทำแบบพักผ่อนเพราะเตรียมตัวมานานสำหรับค่าครองชีพที่จะใช้จ่ายในยามแก่ และได้เตรียมตัวเองมาตลอดค่ะ -มีประกันชีวิต เจ็บไข้ ป่วย ตาย มีค่าหัวและได้ทำให้ทุกคนในครอบครัวค่ะ ทั้งลูกและสามี -มีอสังหาริมทรัพย์เล็กน้อยไว้พอเป็นค่าเช่าใช้จ่าย คาดว่าเดือน ละ หมื่น เกินเหลือพอเพราะเป็นคนอยู่น้อย กินน้อยใช้จ่ายประหยัดค่ะ -สวนยางพารา ตามกระแส ทำแล้วเป็นเงินเดือนได้อีกทาง ค่ะ ราคาตกก็ไม่หวั่นเพราะมีต้นยางเหลือแน่ๆ ;D -การเตรียมเกษียณ นั้น ดวงพร กะว่าจะหยุดงานประจำซักอายุ 47 ที่เหลือจะไปทำเกษตรผสมผสาน แนวเกษตรอินทรีย์ ค่ะและอยากทำให้เกิดผลจริงเพื่อที่จะได้ให้ ชุมชน ญาติพี่น้องได้เปลี่ยนแนวคิด ถึงได้พยายามศึกษา แนวอินทรีย์ และผสมผสานจากหลายที่ และดีใจที่ได้เป็นทีมงานเวป เกษตรพอเพียง ได้ความรู้มากมายอย่างคาดไม่ถึงและยังมาได้ความรู้ด้านการหมักปุ๋ยแบบง่าย จากอาจารย์อีกดีใจมากค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: sathit54 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:54:58 AM เรียนถามแบบไม่ค่อยมีความรู้นะครับ
คือทำสวนยางครับ คิดไว้ว่าจะขุดบ่อ (หลุม)ตรงกลางร่องยาง ขนาด 1x1 ม @ 10 ม. แล้วจะเทปุ๋ยคอกลงไปเลย แล้วกลบ ถามว่าคุณค่าปุ๋ยคอกที่ใส่ไปเลย กับปุ๋ยหมัก มันต่างกันมากรึเปล่าครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:55:16 AM ถามอีกครั้งเกี่ยวกับการใส่ปุ๋ยต้นไม้ครับ เข้าใจแล้วว่า ต้องฝังกลบถึงจะได้ผลดีที่สุด แต่ถ้ามีหลาย10ไร่คงลำบาก ถ้าผมเอาปุ๋ยหมักใส่รอบทรงพุ่มทั่วๆแล้วนำเอาแกลบ ฟาง หรือวัสดุต่างๆมาคลุมไว้จะได้ผลแบบฝังกลบไหมครับ รากเค้าจะลอยไหมครับ การนำปุ๋ยไปใส่ในนา นี่เราหว่านเลยใช่ไหมครับ ตอนข้าวกำลังโต ปุ๋ยจะเสียคุณค่าใหมครับ - โรยปุ๋ยหมักในทรงพุ่มแล้วเอาเศษพืชกลบก็ได้ครับ แต่คงลำบากน่าดูเวลารดน้ำกับให้ปุ๋ยเคมี - ผมถึงไม่ค่อยชอบการเกษตรเชิงเดี่ยวที่มีพื้นที่มากครับ เพราะจะบริหารจัดการได้ไม่ดี หญ้าเอาไม่ทันเดี๋ยวคนงานก็จะถามถึงยาฆ่าหญ้า แล้วจะเล่าให้ฟังเรื่องสตรอเบอรี่ที่เชียงใหม่ กรณีเดียวกันเลยครับ - รากต้นไม้บางชนิดจะลอยครับผม - การใช้กับนาส่วนใหญ่ใช้สองครั้งครับ ครั้งแรกตอนเตรียมดิน อีกครั้งตอนเริ่มตั้งท้องครับ ถ้าใครทำข้าวอินทรีย์ส่วนใหญ่จะมีน้ำหมักชีวภาพเป็นอาหารจานด่วนทางใบแถมด้วย ไล่แมลงได้ด้วย - ที่สันกำแพง เชียงใหม่ มีเกษตรกรมาเล่าให้ฟังอาทิตย์แล้วว่า ลองทำข้าวอินทรีย์ 7-8 แปลง ปรากฏว่าในช่วงที่เพลี้ยระบาด นาของแกไม่มีเพลี้ยครับ ก็แปลกดี เพราะปกตินาอินทรีย์จะมีเพลี้ยกระโดดข้ามมาจากนาข้าวเคมี นี่ไม่รู้ว่าคราวนี้นาข้าวเคมีเขาจะโทษข้าวอินทรีย์หรือเปล่า ฮิฮิ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:59:56 AM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 11:16:36 AM เรียนถามแบบไม่ค่อยมีความรู้นะครับ คือทำสวนยางครับ คิดไว้ว่าจะขุดบ่อ (หลุม)ตรงกลางร่องยาง ขนาด 1x1 ม @ 10 ม. แล้วจะเทปุ๋ยคอกลงไปเลย แล้วกลบ ถามว่าคุณค่าปุ๋ยคอกที่ใส่ไปเลย กับปุ๋ยหมัก มันต่างกันมากรึเปล่าครับ - การรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ควรไปเยี่ยมถามจากห้องอื่นนะครับจะมั่นใจมากกว่าครับ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=48729.0 - คุณค่าปุ๋ยคอกกับปุ๋ยหมักต่างกันครับ วิธีทำก็ต่างกัน ปุ๋ยคอกคือมูลสัตว์ที่นำมากองไว้ รดน้ำ ทิ้งไว้ให้ความร้อนลดลง สัก 2-3 เดือน ทิ้งให้แห้ง แล้วนำไปใช้ ส่วนปุ๋ยหมักคือการนำเศษพืชและมูลสัตว์มาเข้ากระบวนการ เมื่อเสร็จกระบวนการทิ้งให้แห้ง แล้วนำไปใช้ คุณค่าปุ๋ยคอกจะสู้ปุ๋ยหมักไม่ได้ตรงที่อินทรีย์วัตถุปุ๋ยคอกน้อยกว่า ค่า N P K ปุ๋ยคอกน้อยกว่า ค่าแคลเซียม แมกนีเซียม และจุลธาตุที่มีในเศษพืชก็จะมีน้อยกว่า การเป็นวัสดุเพิ่มความพรุนปรับโครงสร้างดินก็สู้ปุ๋ยหมักไม่ได้ครับผม - สรุปว่าอยากถามคุณค่าของการใช้ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์แน่ครับ? เพราะบางท่านยังเรียกมูลสัตว์ว่าปุ๋ยคอกอยู่ - ถ้าเป็นมูลสัตว์ กรณีใช้มูลสัตว์ในปริมาณไม่มากก็ไม่มีปัญหา เพราะปฏิกิริยาที่เกิดในดินก็จะไม่ชัดเจน ก็ยังเป็นประโยชน์ได้อยู่ แต่ถ้าใช้มูลสัตว์มาก ใช้รองก้นหลุมมาก จุลินทรีย์ในมูลสัตว์จะเริ่มทำงาน คราวนี้กินรากพืชแหลก แถมยังเกิดการย่อยสลายในดินแบบไม่ใช้อากาศ ซึ่งทำให้เกิดความเป็นกรด คราวนี้ธาตุอะลูมิเนียมเกิดไปละลายเข้ารากพืช พืชถึงกับแกร็นเชียวนะครับ เคราะห์หามยามร้ายเกิดเป็นโรคเชื้อราที่ทำให้เกิดโรครากเน่าก็จะยิ่งแย่ เพราะเชื้อราพวกนี้ชอบความเป็นกรดครับ - เคยคุยกับชาวสวนยางพาราหนองคาย เขาเคยแนะนำให้ขุดหลุมกว้าง ๆ ลึก ๆ เพื่อให้รากต้นอ่อนเดินหากินได้ง่าย รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก ดินกลบหลุมก็ให้คลุกด้วยปุ๋ยหมักสัก 10 ต่อ 1 ครับ เขาเล่าว่ายางอายุ 3 ปีมีขนาดเท่าของเพื่อนบ้าน 5 ปีครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้ถามจากห้องกระทู้อื่น เดี๋ยวต้นยางจะมาเอียงและล้มเพราะผมนะครับ ฮิฮิ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 11:26:31 AM ขอบคุณท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์เป็นรุ่นพี่ 1รอบพอดี ประทานอภัยสำหรับคำที่ใช้เรียกแทนตัวว่าพี่นะคะ >:( >:(เนื่องจากไปใหนๆใครๆก็เรียกพี่เลยติด -อยากบอกเล่าให้อาจารย์ฟัง ค่ะ ดวงพรเป็นลูกเกษตรและยากจน ข้นแค้นมาก่อน (ขอใช้คำนี้น่ะค่ะเพราะไม่มีแม้แต่ ที่ดินทำกิน หรือที่ปลูกบ้าน) ครบเซ็ตความจนที่คนอิสานหลายๆครอบครัวเป็น เลยมีความมุ่งมั่นว่า ในชีวิตจะต้องหาที่ดินทำกินให้ได้เลยมุ่งหน้ามาขุดทองเมืองกรุงตามอย่างคนอิสานทั่วๆไป มากรุงด้วยความมุ่งมั่นจะหาตังค์เพื่อไปซื้อที่ดินทำกินเพราะเป็นคนรักการทำเกษตรมาก และเห็น บรรพบุรุษทำแบบเดิมๆซ้ำๆมีแต่ยากจน เมื่อตอนที่จำความได้เคยมานั่งคิดว่า ทำนาเสร็จ ทำไมเขาไม่ทำสวนหว่า อายุประมาณ 7-8 ขวบก็ลงมือปลูกผักสวนครัวทุกชนิดเอง ขุดแปลงและทำอะไรเองหมด ปลูกทุกผักตามประสาเด็กๆ ปุ๋ยที่ใส่ผักก็ไปขุดเอา มูลวัว มูลไก่ ชาวบ้านมาใส่ผักที่ปลูกค่ะ ผักงามมาก เมื่อปลูกแล้วก็นำผักที่ตัวเองปลูกไปขายที่ตลาดเอง สมัย 30กว่าปีก่อน วันละ 10-20 บาทนี่เยอะนะคะ ถีบจักรยานตั้งกะตี 5 นำผักที่ปลูกไปขายที่ลานตลาดสด เสียค่าที่ 1 บาท....ปลูกเองขายเองกำไรเน็ตๆ ;D ;D นั่นอดีตจริงๆค่ะ -สำหรับเนื้อที่ 17ไร่ที่ว่าจะทำสวนผสม สำหรับดวงพรที่ตั้งใจไว้มันยังน้อยไปมากสำหรับที่คิดจะปลูก เพราะใน 17ไร่ที่คิดไว้ จะเป็นนาประมาณ 7ไร่ อีก 10ไร่จะเป็นพืชผสมผสาน พวกผลไม้ กะจะปลูก 108 อย่างไว้เป็นอาหารค่ะ สำหรับนานั้นให้คนเช่าทำและเขาก็มาช่วยงาน อยากบอกว่า การทำเกษตรเหนื่อยแต่ทำได้เรื่อยๆกะว่าทำแบบพักผ่อนเพราะเตรียมตัวมานานสำหรับค่าครองชีพที่จะใช้จ่ายในยามแก่ และได้เตรียมตัวเองมาตลอดค่ะ -มีประกันชีวิต เจ็บไข้ ป่วย ตาย มีค่าหัวและได้ทำให้ทุกคนในครอบครัวค่ะ ทั้งลูกและสามี -มีอสังหาริมทรัพย์เล็กน้อยไว้พอเป็นค่าเช่าใช้จ่าย คาดว่าเดือน ละ หมื่น เกินเหลือพอเพราะเป็นคนอยู่น้อย กินน้อยใช้จ่ายประหยัดค่ะ -สวนยางพารา ตามกระแส ทำแล้วเป็นเงินเดือนได้อีกทาง ค่ะ ราคาตกก็ไม่หวั่นเพราะมีต้นยางเหลือแน่ๆ ;D -การเตรียมเกษียณ นั้น ดวงพร กะว่าจะหยุดงานประจำซักอายุ 47 ที่เหลือจะไปทำเกษตรผสมผสาน แนวเกษตรอินทรีย์ ค่ะและอยากทำให้เกิดผลจริงเพื่อที่จะได้ให้ ชุมชน ญาติพี่น้องได้เปลี่ยนแนวคิด ถึงได้พยายามศึกษา แนวอินทรีย์ และผสมผสานจากหลายที่ และดีใจที่ได้เป็นทีมงานเวป เกษตรพอเพียง ได้ความรู้มากมายอย่างคาดไม่ถึงและยังมาได้ความรู้ด้านการหมักปุ๋ยแบบง่าย จากอาจารย์อีกดีใจมากค่ะ - ยินดีที่ได้ยินแบบนี้ ก็คงไปได้แบบสบาย ๆ นะครับ - คุณครูใหญ่ดวงพรเริ่มชีวิตจากศูนย์ ของผมเริ่มชีวิตด้วยบวก แต่ด้วยความอยากมีเงินทองตามสังคม ก็เลยติดลบเมื่ออายุได้ 27 แล้วชดใช้หนี้ด้วยการไปเล่นดนตรีตามสวนอาหารเป็นอาชีพที่สองจนถึงอายุ 47 ตอนนี้สบายแล้วครับ เริ่มมีเงินเก็บ (ไว้เที่ยว) มีเงินออมหลังเกษียณด้วยการทำประกันชีวิต นี่เกษียณไปก็จะพักแล้วครับ เหนื่อยมามากแล้ว ตอนนี้ใครให้ลงทุน ใครให้ทำงานเหนื่อยผมไม่เอาแล้ว - ขอบคุณที่ได้แชร์ความคิดครับ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ไร่ร่มโพธิ์ทอง ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 11:40:18 AM เรียนถามอาจารย์ครับ
1. ถ้าผมเอาเศษผักกองไว้ กxยxส ประมาณ 2x2x1 เมตร แล้วเอาขี้วัวเทคลุมข้างบน เอาฟางคลุม มันจะเป็นปุ๋ยหมักมั๊ยครับ 2. ในกรณีที่ผมวางเป็นชั้น โดย เศษผัก ฟาง ขี้วัว แต่ไม่ได้ผสมเศษผักกับฟางก่อน จะได้มั๊ยครับ (ขี้เกียจคลุกเศษผักกับฟาง >:() 3. รบกวนอาจารย์เปรียบเทียบ โดยใช้ วิธีการ ขี้วัว ปริมาตร เป็นตัวคงที่ แล้วใช้ เศษผัก ฟาง หรือวัสดุอื่น ๆ เป็นตัวแปร อยากทราบคุณภาพครับ (ในกรณีที่ต้องหาวัสดุบางอย่างมาอาจมีค่าใช้จ่ายครับ เลยอยากเปรียบเทียบเพื่อดูความคุ้มค่าครับ) ขอบคุณครับ ปล. เตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้วครับ แล้วจะส่งการบ้านครับ :) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 12:03:19 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 12:53:08 PM เรียนถามอาจารย์ครับ 1. ถ้าผมเอาเศษผักกองไว้ กxยxส ประมาณ 2x2x1 เมตร แล้วเอาขี้วัวเทคลุมข้างบน เอาฟางคลุม มันจะเป็นปุ๋ยหมักมั๊ยครับ 2. ในกรณีที่ผมวางเป็นชั้น โดย เศษผัก ฟาง ขี้วัว แต่ไม่ได้ผสมเศษผักกับฟางก่อน จะได้มั๊ยครับ (ขี้เกียจคลุกเศษผักกับฟาง >:() 3. รบกวนอาจารย์เปรียบเทียบ โดยใช้ วิธีการ ขี้วัว ปริมาตร เป็นตัวคงที่ แล้วใช้ เศษผัก ฟาง หรือวัสดุอื่น ๆ เป็นตัวแปร อยากทราบคุณภาพครับ (ในกรณีที่ต้องหาวัสดุบางอย่างมาอาจมีค่าใช้จ่ายครับ เลยอยากเปรียบเทียบเพื่อดูความคุ้มค่าครับ) ขอบคุณครับ ปล. เตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้วครับ แล้วจะส่งการบ้านครับ :) - ถ้ากองเศษผักไว้สูง 1 เมตร ผลคือ เน่าครับ จะเหม็นและมีน้ำเสียดำ ๆ ไหลออกมา พีเอชของปุ๋ยจะเป็นกรดซึ่งพืชไม่ชอบ - วางสลับเศษผัก ฟาง ขี้วัว เป็นชั้น ถูกต้องที่สุดครับผม :-[ :-[ เพราะถ้าใช้เศษผักสลับกับขี้วัวโดยไม่มีฟางหรือใบไม้ เศษผักจะอัดตัวแน่นทำให้อากาศเข้าไม่ได้ ก็จะเริ่มเเน่าอีก การมีเศษใบไม้หรือฟางจะช่วยพยุงไม่ให้แน่นเกินไป รับรองได้ว่าไม่มีการเน่นครับผม - เศษพืชนำมาใช้ได้ทุกชนิด ให้เลือกเอาที่ไม่ต้องซื้อ เพราะเป็นแค่คาร์บอนสำหรับจุลินทรีย์ครับ ค่าคุณภาพไม่ต่างกันครับ ยกเว้นเมื่อเอาพืชตระกูลถั่วมาเข้ากองปุ๋ย จะได้ไนโตรเจนมากกว่าพืชอื่นประมาณ 1% และถ้าเราโม่เปลือกและเมล็ดลำไยลิ้นจี่หรือมีเปลือกกล้วย ปุ๋ยจากพวกนี้จะให้โพแทสเซียมสูงกว่าปกติสัก 2-3% ครับ เพราะโพแทสเซียมจะสะสมที่เปลือกผลไม้ เมล็ดผลไม้ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 01:15:32 PM ปู๋ยคอก ปู๋ยหมัก และปู๋ไส้เดือน แตกต่างกันอย่างไรค่ะ :( ปู๋ยชีวภาพ ปู๋ยอินทีย >:( อยากศึกเรื่องปู๋ยค่ะอาจารย์ :(
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 01:35:16 PM ปู๋ยคอก ปู๋ยหมัก และปู๋ไส้เดือน แตกต่างกันอย่างไรค่ะ :( ปู๋ยชีวภาพ ปู๋ยอินทีย >:( อยากศึกเรื่องปู๋ยค่ะอาจารย์ :( - ปุ๋ยคอกคือมูลสัตว์ที่นำมากองไว้ รดน้ำ ทิ้งไว้ให้ความร้อนลดลง สัก 2-3 เดือน ทิ้งให้แห้ง แล้วนำไปใช้ - ส่วนปุ๋ยหมักคือการนำเศษพืชและมูลสัตว์ (รวมทั้งสารอื่น ๆ แล้วแต่กรรมวิธี) มาเข้ากระบวนการ เมื่อเสร็จกระบวนการทิ้งให้แห้ง แล้วนำไปใช้ คุณค่าปุ๋ยคอกจะสู้ปุ๋ยหมักไม่ได้ตรงที่ (1) อินทรีย์วัตถุปุ๋ยคอกน้อยกว่า (2) ค่า N P K ปุ๋ยคอกน้อยกว่า (3) ค่าแคลเซียม แมกนีเซียม และจุลธาตุที่มีในเศษพืชก็จะมีน้อยกว่า (4) การเป็นวัสดุเพิ่มความพรุนปรับโครงสร้างดินก็สู้ปุ๋ยหมักไม่ได้ครับผม - ปุ๋ยไส้เดือน คือการเอาเศษอาหารเศษผักในตลาดมาวางบนขี้วัว แล้วให้ไส้เดือนกินเศษผักเศษอาหาร มูลของไส้เดือนเมื่อทำให้แห้งก็คือปุ๋ยไส้เดือนครับ - ปุ๋ยชีวภาพ คือปุ๋ยที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตชนิดประเภทที่เป็นประโยชน์พิเศษเฉพาะด้านในการเพาะปลูก ไม่สามารถเก็บไว้ได้นานกว่า 6 เดือน - ปุ๋ยอินทรีย์ ก็คือปุ๋ยหมักครับ อันเดียวกัน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Saendee ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 01:43:23 PM เข้ามาศึกษาใหม่ค่ะ มีความสนใจการทำปุ๋ยหมักของอาจารย์ มีข้อสงสัยเรียนถามอาจารย์ว่าหากไม่สะดวกในการหาฟางสามารถใช้ใบไผ่แทนได้หรือไม่ค่ะ เนื่องจากที่บ้านมีการปลูกไผ่ขายหน่อพอสมควร ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรุ้ที่ได้แบ่งบัน
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ae hatyai ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 01:52:30 PM อาจารย์ครับ ผมขอสอบถามอีกเรื่อง เผื่อเป็นประโยชน์ต่เพื่อนสมาชิกครับ
การวางกองปุ๋ย ถ้าเราเอาไม่พาเลท มาวางไว้หลาย ๆ อัน (เคยเจอว่ามีคนเคยทำอย่างนี้ครับ) ให้กว้างพอสมควร ปูด้วยแสลน หรือตาข่ายสีฟ้า แล้วเริ่มทำกองปุ๋ย ผมว่าอากาศจะสามารถเข้ากองปุ๋ยได้ดีกว่าไหมครับ จะเป้นข้อดีหรือข้อเสียผมก้ไม่แน่ใจ หรืออาจจะทำให้ปุ๋ยหมักเร็วขึ้นไหม ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 01:56:41 PM เข้ามาศึกษาใหม่ค่ะ มีความสนใจการทำปุ๋ยหมักของอาจารย์ มีข้อสงสัยเรียนถามอาจารย์ว่าหากไม่สะดวกในการหาฟางสามารถใช้ใบไผ่แทนได้หรือไม่ค่ะ เนื่องจากที่บ้านมีการปลูกไผ่ขายหน่อพอสมควร ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรุ้ที่ได้แบ่งบัน - ได้ครับผม ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นปุ๋ยยากกว่าหรือช้ากว่าใบไม้ปกติหรือเปล่า ลองสมัครเพื่อส่งรูปกองปุ๋ยมาให้ดูดีไหมครับ ส่งรูปมาทุกขั้นตอน จะได้ช่วยติชมได้และเรียนรู้ไปด้วยกันครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ae hatyai ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:01:17 PM - เรื่องตลกจากพี่ทวี แห่งบุรีรัมย์ต่อนะครับ - เรื่องที่สอง พอพี่ทวีได้ปุ๋ย แกก็เอาไปใส่นา แกจงใจแกล้งเพื่อนบ้านโดยเอาปุ๋ยอินทรีย์ไปใส่ในนาเน้นข้างถนนในหมู่บ้านโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อที่เพื่อนบ้านจะได้เห็น แกโทรมาบอกว่าต้นข้าวของแกเขียวดี ต้นแข็งแรงและสูง (เป็นที่เข้าใจกันดีว่าปุ๋ยอินทรีย์ที่ใส่ลงไป จะไปปรับสภาพดิน ที่ทำให้เกิดการปลดปล่อยปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดิน จากที่อยู่ในรูปไม่ละลายน้ำให้กลายเป็นอยู่ในรูปละลายน้ำที่ต้นข้าวสามารถเอาไปใช้ได้ เลยได้ประโยชน์สองเด้ง) แต่เรื่องที่ตลกคือ แกฟ้องว่าคนในหมู่บ้านรวบรวมเอาขี้ควายขายให้กับคนหนองคายที่มาซื้อถึงหมู่บ้าน ผมก็แบบว่า ... อ้าว... แล้วคนหนองคายซื้อเอาไปทำไม พี่แกตอบว่าซื้อเอาไปใส่ต้นยางพารา ผมก็ ... อ้าว (อีก) .. ถามต่อว่า แล้วถ้าหมู่บ้านเราจะทำปุ๋ยอินทรีย์ใส่ต้นข้าวแล้วจะเอาขี้ควายที่ไหนมาทำล่ะ พี่แกก็ตอบว่า ไม่รุ๊ ... ก็เห็นพวกนั้นพอได้เงินก็ออกไปซื้อปุ๋ยยูเรียกันนี่ แต่ของแกคิดว่าจะไปซื้อควายเพิ่มอีกสัก 2 ตัว จะเอาขี้มันมาทำปุ๋ย ;D เพราะเห็นแล้วว่าแนวทางนี้ดี ประหยัดดี ข้าวก็ได้เท่าเดิม ที่สำคัญคือดินดีขึ้นมาก แกบอกว่าถ้าผ่านมาให้มากินข้าวและนอนบ้านแก (ขอบคุณครับเสี่ยว) - ได้ข้อคิดอะไรบ้างครับจากเรื่องที่สองนี้ ผมคิดว่า พี่ทวีอยู่ไกลถึงบุรีรัมย์ แต่ดวงตาเห็นธรรม อยากพ้นทุกข์ เชื่อใจในครู อุตสาห์หาเบอร์โทรครูจนได้ เรียนการทำปุ๋ยทางโทรศัพท์ ตั้งอกตั้งใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำตามที่ครูบอก แล้วก็สำเร็จ หลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ (ว่าไปนั่น) ต้นทุนต่ำ ดินดี ได้ข้าวเหมือนกัน - แต่สำหรับเพื่อนบ้าน ขนาดที่เห็นพี่ทวีประสบความสำเร็จ กลับไม่มีใครอยากเดินมาในทางนี้ กลับปฏิเสธที่จะยอมเปลี่ยนแปลง เหล่าเพื่อนบ้านก็เลยจมอยู่ในวงจรเดิม ๆ "ปัญหาเดิม ถ้าแก้ด้วยวิธีเดิม ก็จะไม่มีวันสำเร็จ.... ปัญหาเดิม ต้องแก้ด้วยวิธีใหม่จึงจะสำเร็จ" - เคยมีคนถามผมว่า ถ้าเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ผมจะมีแนวทางอย่างไร ผมมักจะตอบว่า ของแบบนี้ต้องรอให้พวกเขามีดวงตาเห็นธรรม มีปัญญา เห็นทางพ้นทุกข์เสียก่อน แล้วพวกเขาจะยอมเปลี่ยนเอง สังเกตดูสิครับ บรรดาปราชญ์หรือผู้นำกลุ่มเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ เขาเหล่านี้ล้วนดำเนินชีวิตแบบสวนกระแส สวนสังคม สวนกับเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ตอนเริ่มแรกไม่ใช่หรือครับ โดยมีความสำเร็จของคนอื่นเป็นเครื่องยืนยัน ของแบบนี้มันจะเกิดเองครับ บังคับไม่ได้ (เอ... หรือว่าเป็นบุญเก่าน้อ ?'.....) -ขอเสริมนิดนึ่งครับ เกษตรกรบ้านเราชอบเชื่อคนรวย คนมีเงิน เค้าบอกว่าดี ก็เชื่อ ที่เค้ารวยเพราะเค้าหลอกเรานั้นแหละครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:14:26 PM กระทู้อาจารย์ ฮอต จริงๆได้ทั้งความรู้เรื่องหมักปุ๋ย เรื่องการทำเกษตร และมุมมองของชีวิตอีก อยากรณรงค์ให้สมาชิกที่ทำสวน ไร่ นา หมักปุ๋ยใช้เองกันถ้วนหน้า สมัครกันเข้ามาเยอะๆนะคะใครที่หมักและได้บอกกล่าวคนอื่นๆได้เห็นเป็นตัวอย่าง ส่งรูปมาดูกันค่ะ ;D ;Dสนุกค่ะกระทู้นี้ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: 2502 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:17:34 PM สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอขอบคุณความรู้ที่ให้มานะคะ เพื่งจะมาเป็นเกษตรกรในตอนแก่นี่แหละค่ะ อ่อนกว่าอาจารย์ ๑ ปี อยากเรียนถามอาจารย์ว่า ถ้าใช้ผลสัปปะรดมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำปุ๋ยหมัก จะได้ไหมคะ พอดีมีผลสัปปะรดที่มันโดนเจาะ หรือเกือบเน่าหลายลูกค่ะ ตอนนี้ก็่สับ ๆ กองเอาไว้รวมกับเศษหญ้าที่ดายไว้ ส่วนขี้วัวกับฟางแห้ง มีแล้วค่ะ อยู่ข้าง ๆ บ้านนี่เอง เขาเลี้ยงวัวไว้ ยี่สิบกว่าตัว แล้วก็มีฟางแห้งอยู่ในโรงวัว ก็เลยเสร็จเรา ได้ขออนุญาติเอาไว้แล้ว มอบกุญแจโรงวัวมาให้ด้วย เพียงแต่เหลือแรงงานที่จะขน ก็คือตัวเองน่ะค่ะ มันก็เหนื่อยอยู่เหมือนกันเพราะไม่ใช่ทางราบ มันเป็นทางขึ้นเนิน ลงเนิน เดินหลายเที่ยวก็เอาเรื่องเหมือนกันสำหรับคนแก่ ตอนนี้รอคำตอบของอาจารย์อยู่ค่ะ จะได้เริ่มลงมือปฏิบัติ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Saendee ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:23:03 PM เข้ามาศึกษาใหม่ค่ะ มีความสนใจการทำปุ๋ยหมักของอาจารย์ มีข้อสงสัยเรียนถามอาจารย์ว่าหากไม่สะดวกในการหาฟางสามารถใช้ใบไผ่แทนได้หรือไม่ค่ะ เนื่องจากที่บ้านมีการปลูกไผ่ขายหน่อพอสมควร ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรุ้ที่ได้แบ่งบัน - ได้ครับผม ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นปุ๋ยยากกว่าหรือช้ากว่าใบไม้ปกติหรือเปล่า ลองสมัครเพื่อส่งรูปกองปุ๋ยมาให้ดูดีไหมครับ ส่งรูปมาทุกขั้นตอน จะได้ช่วยติชมได้และเรียนรู้ไปด้วยกันครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:24:44 PM อาจารย์ครับ ผมขอสอบถามอีกเรื่อง เผื่อเป็นประโยชน์ต่เพื่อนสมาชิกครับ การวางกองปุ๋ย ถ้าเราเอาไม่พาเลท มาวางไว้หลาย ๆ อัน (เคยเจอว่ามีคนเคยทำอย่างนี้ครับ) ให้กว้างพอสมควร ปูด้วยแสลน หรือตาข่ายสีฟ้า แล้วเริ่มทำกองปุ๋ย ผมว่าอากาศจะสามารถเข้ากองปุ๋ยได้ดีกว่าไหมครับ จะเป้นข้อดีหรือข้อเสียผมก้ไม่แน่ใจ หรืออาจจะทำให้ปุ๋ยหมักเร็วขึ้นไหม ขอบคุณครับ - การเอาพาเลทวางแล้วเอาวัสดุทำปุ๋ยทับ เป็นการช่วยให้อากาศไหลเข้าในกองปุ๋ยจากข้างใต้พาเลทตราบใดที่มีอากาศร้อนไหลขึ้นไปจากกองปุ๋ย ซึ่งถ้าปัจจัยและสิ่งแวดล้อมในกระบวนการไม่ครบ เช่นไม่สนใจเรื่องความชื้น ความร้อนก็ไม่เกิด อากาศก็ไม่ไหล วัสดุก็จะไม่เป็นปุ๋ยครับ ถ้าคิดจะวางสปริงเกลอร์ก็อย่าหวังว่าน้ำจะซึมลงในกองปุ๋ยนะครับ มันจะเปียกเฉพาะด้านบนเท่านั้น - วิธีนี้เทศบาลนครพิษณุโลกนำไปใช้ลดปริมาตรของขยะ ก่อนย้ายเข้าหลุมฝังกลบครับ ใช้เวลา 8 เดือนครับผม ซึ่งได้ปุ๋ยหมักมาใช้ส่วนหนึ่งด้วย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:29:41 PM เข้ามาศึกษาใหม่ค่ะ มีความสนใจการทำปุ๋ยหมักของอาจารย์ มีข้อสงสัยเรียนถามอาจารย์ว่าหากไม่สะดวกในการหาฟางสามารถใช้ใบไผ่แทนได้หรือไม่ค่ะ เนื่องจากที่บ้านมีการปลูกไผ่ขายหน่อพอสมควร ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรุ้ที่ได้แบ่งบัน - ได้ครับผม ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นปุ๋ยยากกว่าหรือช้ากว่าใบไม้ปกติหรือเปล่า ลองสมัครเพื่อส่งรูปกองปุ๋ยมาให้ดูดีไหมครับ ส่งรูปมาทุกขั้นตอน จะได้ช่วยติชมได้และเรียนรู้ไปด้วยกันครับ มีความสงสัยอีกประการจะรบกวนถามอาจารย์ค่ะ คือบ่อน้ำในสวนมีแหนแดงสามารถใช้ประโยชน์ในการทำปุ๋ยร่วมกันได้หรือไม่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ http://www.youtube.com/v/2wvNXwxWf-4 มีแหนแดง อย่าเอาไปหมักปุ๋ยเลยครับ เอาไปขายให้ชาวนา โดยเฉพาะชาวนาในเวปนี้จะดีกว่าครับ ช่วยบอกพิกัดสวนของคุณพี่ Saendee สักหน่อยสิครับว่าอยู่แถวไหน ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:31:33 PM เข้ามาศึกษาใหม่ค่ะ มีความสนใจการทำปุ๋ยหมักของอาจารย์ มีข้อสงสัยเรียนถามอาจารย์ว่าหากไม่สะดวกในการหาฟางสามารถใช้ใบไผ่แทนได้หรือไม่ค่ะ เนื่องจากที่บ้านมีการปลูกไผ่ขายหน่อพอสมควร ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรุ้ที่ได้แบ่งบัน - ได้ครับผม ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นปุ๋ยยากกว่าหรือช้ากว่าใบไม้ปกติหรือเปล่า ลองสมัครเพื่อส่งรูปกองปุ๋ยมาให้ดูดีไหมครับ ส่งรูปมาทุกขั้นตอน จะได้ช่วยติชมได้และเรียนรู้ไปด้วยกันครับ - ได้ครับผม - แหนแดงมีไนโตรเจนสูงเกือบ 4% เกษตรกรบางรายจะเลี้ยงในนาข้าวด้วยครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:35:47 PM สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอขอบคุณความรู้ที่ให้มานะคะ เพื่งจะมาเป็นเกษตรกรในตอนแก่นี่แหละค่ะ อ่อนกว่าอาจารย์ ๑ ปี อยากเรียนถามอาจารย์ว่า ถ้าใช้ผลสัปปะรดมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำปุ๋ยหมัก จะได้ไหมคะ พอดีมีผลสัปปะรดที่มันโดนเจาะ หรือเกือบเน่าหลายลูกค่ะ ตอนนี้ก็่สับ ๆ กองเอาไว้รวมกับเศษหญ้าที่ดายไว้ ส่วนขี้วัวกับฟางแห้ง มีแล้วค่ะ อยู่ข้าง ๆ บ้านนี่เอง เขาเลี้ยงวัวไว้ ยี่สิบกว่าตัว แล้วก็มีฟางแห้งอยู่ในโรงวัว ก็เลยเสร็จเรา ได้ขออนุญาติเอาไว้แล้ว มอบกุญแจโรงวัวมาให้ด้วย เพียงแต่เหลือแรงงานที่จะขน ก็คือตัวเองน่ะค่ะ มันก็เหนื่อยอยู่เหมือนกันเพราะไม่ใช่ทางราบ มันเป็นทางขึ้นเนิน ลงเนิน เดินหลายเที่ยวก็เอาเรื่องเหมือนกันสำหรับคนแก่ ตอนนี้รอคำตอบของอาจารย์อยู่ค่ะ จะได้เริ่มลงมือปฏิบัติ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ - ต้องสับให้สับปะรดมีขนาดเล็กกว่า 2 นิ้วนะครับ - วางฟาง ใบไม้ สลับกับสับปะรดและขี้วัวเป็นชั้น ๆ รับรองไม่มีกลิ่นและแมลงวัน ปุ๋ยที่ได้ก็ไม่เป็นกรดด้วยครับ แต่ต้องดูแลความชื้นดี ๆ - ลองขึ้นกองปุ๋ยที่ข้างโรงวัวเลยสิครับ (ใกล้ ๆ ก๊อกน้ำ) จะได้ลดการขนย้ายครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: sathit54 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:42:20 PM เรียนถามแบบไม่ค่อยมีความรู้นะครับ คือทำสวนยางครับ คิดไว้ว่าจะขุดบ่อ (หลุม)ตรงกลางร่องยาง ขนาด 1x1 ม @ 10 ม. แล้วจะเทปุ๋ยคอกลงไปเลย แล้วกลบ ถามว่าคุณค่าปุ๋ยคอกที่ใส่ไปเลย กับปุ๋ยหมัก มันต่างกันมากรึเปล่าครับ - การรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ควรไปเยี่ยมถามจากห้องอื่นนะครับจะมั่นใจมากกว่าครับ [url]http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=48729.0[/url] - คุณค่าปุ๋ยคอกกับปุ๋ยหมักต่างกันครับ วิธีทำก็ต่างกัน ปุ๋ยคอกคือมูลสัตว์ที่นำมากองไว้ รดน้ำ ทิ้งไว้ให้ความร้อนลดลง สัก 2-3 เดือน ทิ้งให้แห้ง แล้วนำไปใช้ ส่วนปุ๋ยหมักคือการนำเศษพืชและมูลสัตว์มาเข้ากระบวนการ เมื่อเสร็จกระบวนการทิ้งให้แห้ง แล้วนำไปใช้ คุณค่าปุ๋ยคอกจะสู้ปุ๋ยหมักไม่ได้ตรงที่อินทรีย์วัตถุปุ๋ยคอกน้อยกว่า ค่า N P K ปุ๋ยคอกน้อยกว่า ค่าแคลเซียม แมกนีเซียม และจุลธาตุที่มีในเศษพืชก็จะมีน้อยกว่า การเป็นวัสดุเพิ่มความพรุนปรับโครงสร้างดินก็สู้ปุ๋ยหมักไม่ได้ครับผม - สรุปว่าอยากถามคุณค่าของการใช้ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์แน่ครับ? เพราะบางท่านยังเรียกมูลสัตว์ว่าปุ๋ยคอกอยู่ - ถ้าเป็นมูลสัตว์ กรณีใช้มูลสัตว์ในปริมาณไม่มากก็ไม่มีปัญหา เพราะปฏิกิริยาที่เกิดในดินก็จะไม่ชัดเจน ก็ยังเป็นประโยชน์ได้อยู่ แต่ถ้าใช้มูลสัตว์มาก ใช้รองก้นหลุมมาก จุลินทรีย์ในมูลสัตว์จะเริ่มทำงาน คราวนี้กินรากพืชแหลก แถมยังเกิดการย่อยสลายในดินแบบไม่ใช้อากาศ ซึ่งทำให้เกิดความเป็นกรด คราวนี้ธาตุอะลูมิเนียมเกิดไปละลายเข้ารากพืช พืชถึงกับแกร็นเชียวนะครับ เคราะห์หามยามร้ายเกิดเป็นโรคเชื้อราที่ทำให้เกิดโรครากเน่าก็จะยิ่งแย่ เพราะเชื้อราพวกนี้ชอบความเป็นกรดครับ - เคยคุยกับชาวสวนยางพาราหนองคาย เขาเคยแนะนำให้ขุดหลุมกว้าง ๆ ลึก ๆ เพื่อให้รากต้นอ่อนเดินหากินได้ง่าย รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก ดินกลบหลุมก็ให้คลุกด้วยปุ๋ยหมักสัก 10 ต่อ 1 ครับ เขาเล่าว่ายางอายุ 3 ปีมีขนาดเท่าของเพื่อนบ้าน 5 ปีครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้ถามจากห้องกระทู้อื่น เดี๋ยวต้นยางจะมาเอียงและล้มเพราะผมนะครับ ฮิฮิ กระจ่างเลยครับ คล้ายกับดวงตาเห็นธรรม ขอบคุณอาจารย์มากครับ เกือบแล้วสวนเรา ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:50:00 PM -เอาสวน ลอยฟ้า ในบ้านตึก 2 ชั้น 16 ตรว. แคบๆมาให้อาจารย์ดูค่ะ ความสุขเล็กๆของคนที่ไม่มีที่ปลูก เนื้อที่เหลือ แค่ 3*4 ก็จะปลูกก็จะได้ผักฝีมือเราเองเล็กน้อยแต่คือความสุขจริงๆค่ะ จะหมักปุ๋ย สูตรอาจารย์บนนี้แหละค่ะและจะเอาไว้ใส่ผัก พวกนี้นี่แหละ ..ปลูกแค่นี้ก็สุขใจนะคะอาจารย์..
(http://image.ohozaa.com/i/57f/npqudf.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w5WG6yF2bZtYv9sI) (http://image.ohozaa.com/i/2a4/h8zl.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w5WO8YLUSNoKlnSo) อีกภาพเป็นคอกหมักปุ๋ย ที่สวนยางอุบลแต่ใช้แกลบหมักกับขี้วัวค่ะ เหมือนอาจารย์ว่าจริงๆแกลบดิบไม่เปื่อยเลยค่ะหมักแบบไม่รู้เรื่องค่ะขาดความรู้พอได้ใส่ยางเล็กหมักหลายตันค่ะ ใส่ อีเอ็ม และกากน้ำตาลแต่รดน้ำน่าจะไม่ถึงหลายเดือนแกลบไม่เปื่อย ปีนี้จะหมักกับฟาง สูตรอาจารย์ดู ค่ะฟางก็เริ่มหายากคงใช้ฟางนาตัวเองแหละปีนี้ (http://www.kasetporpeang.com/uppic/files/1ce9826bcc4fea18.jpg) (http://www.kasetporpeang.com/uppic/files/29a66c9d2e7e0615.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 02:56:11 PM อีกภาพเป็นคอกหมักปุ๋ย ที่สวนยางอุบลแต่ใช้แกลบหมักกับขี้วัวค่ะ เหมือนอาจารย์ว่าจริงๆแกลบดิบไม่เปื่อยเลยค่ะหมักแบบไม่รู้เรื่องค่ะขาดความรู้พอได้ใส่ยางเล็กหมักหลายตันค่ะ ใส่ อีเอ็ม และกากน้ำตาลแต่รดน้ำน่าจะไม่ถึงหลายเดือนแกลบไม่เปื่อย ปีนี้จะหมักกับฟาง สูตรอาจารย์ดู ค่ะฟางก็เริ่มหายากคงใช้ฟางนาตัวเองแหละปีนี้ ([url]http://www.kasetporpeang.com/uppic/files/1ce9826bcc4fea18.jpg[/url]) ([url]http://www.kasetporpeang.com/uppic/files/29a66c9d2e7e0615.jpg[/url]) - คุณครูใหญ่ดวงพรครับ ข้อเสียของคอกทำปุ๋ยคือ อากาศไม่สามารถเข้าทางด้านข้างกองปุ๋ยครับเพราะติดผนัง โอกาสหน้าควรทำเป็นรูปสามเหลี่ยมวางบนพื้นในคอกจะดีกว่าครับผม - สำหรับสวนผักบนดาดฟ้านี่เยี่ยมเลยครับ เป็นหัวข้อใหญ่ของคนในเมืองและนักวิชาการ เพราะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ลดคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจก นอกเหนือจากความสุขที่ได้เห็นสีเขียวในชีวิตประจำวัน (เห็นเขาว่า ที่ทำการหลักสี่เขาก็ดังเรื่องนี้ใช่ไหมครับ) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:06:10 PM เพิ่งทราบเมื่ออาจารย์มาเปิด กระทู้ นี่แหละค่ะ ทุกความรู้ถูกปริ้นซ์เก็บไว้หมักปลายปีนี้แล้วค่ะ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: 2502 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:08:37 PM สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอขอบคุณความรู้ที่ให้มานะคะ เพื่งจะมาเป็นเกษตรกรในตอนแก่นี่แหละค่ะ อ่อนกว่าอาจารย์ ๑ ปี อยากเรียนถามอาจารย์ว่า ถ้าใช้ผลสัปปะรดมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำปุ๋ยหมัก จะได้ไหมคะ พอดีมีผลสัปปะรดที่มันโดนเจาะ หรือเกือบเน่าหลายลูกค่ะ ตอนนี้ก็่สับ ๆ กองเอาไว้รวมกับเศษหญ้าที่ดายไว้ ส่วนขี้วัวกับฟางแห้ง มีแล้วค่ะ อยู่ข้าง ๆ บ้านนี่เอง เขาเลี้ยงวัวไว้ ยี่สิบกว่าตัว แล้วก็มีฟางแห้งอยู่ในโรงวัว ก็เลยเสร็จเรา ได้ขออนุญาติเอาไว้แล้ว มอบกุญแจโรงวัวมาให้ด้วย เพียงแต่เหลือแรงงานที่จะขน ก็คือตัวเองน่ะค่ะ มันก็เหนื่อยอยู่เหมือนกันเพราะไม่ใช่ทางราบ มันเป็นทางขึ้นเนิน ลงเนิน เดินหลายเที่ยวก็เอาเรื่องเหมือนกันสำหรับคนแก่ ตอนนี้รอคำตอบของอาจารย์อยู่ค่ะ จะได้เริ่มลงมือปฏิบัติ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ - ต้องสับให้สับปะรดมีขนาดเล็กกว่า 2 นิ้วนะครับ - วางฟาง ใบไม้ สลับกับสับปะรดและขี้วัวเป็นชั้น ๆ รับรองไม่มีกลิ่นและแมลงวัน ปุ๋ยที่ได้ก็ไม่เป็นกรดด้วยครับ แต่ต้องดูแลความชื้นดี ๆ - ลองขึ้นกองปุ๋ยที่ข้างโรงวัวเลยสิครับ (ใกล้ ๆ ก๊อกน้ำ) จะได้ลดการขนย้ายครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Saendee ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:11:36 PM http://www.youtube.com/v/2wvNXwxWf-4
มีแหนแดง อย่าเอาไปหมักปุ๋ยเลยครับ เอาไปขายให้ชาวนา โดยเฉพาะชาวนาในเวปนี้จะดีกว่าครับ ช่วยบอกพิกัดสวนของคุณพี่ Saendee สักหน่อยสิครับว่าอยู่แถวไหน ;D ;) [/quote] เรียนคุณkonthain(นพ)ดูวิดีโอแล้วเริ่มสงสัยว่าที่ตัวเองมีใช่หรือเป่า เพราะสีมันแดงทั้งสระเลยไม่เห็นเหมือนในลิงค์เลย ไว้ถ้าฝนไม่ตกเย็นนี้จะลงสวนถ่ายรูปให้ดูก่อนนะคะ แต่มีไม่มากหรอกค่ะพอแบ่งปันได้ (ถ้ามันใช่แหนแดงนะคะ :'( :'() อยู่ตำบลประตู อ.เมืองลำพูนค้า.. หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:12:29 PM สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอขอบคุณความรู้ที่ให้มานะคะ เพื่งจะมาเป็นเกษตรกรในตอนแก่นี่แหละค่ะ อ่อนกว่าอาจารย์ ๑ ปี อยากเรียนถามอาจารย์ว่า ถ้าใช้ผลสัปปะรดมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำปุ๋ยหมัก จะได้ไหมคะ พอดีมีผลสัปปะรดที่มันโดนเจาะ หรือเกือบเน่าหลายลูกค่ะ ตอนนี้ก็่สับ ๆ กองเอาไว้รวมกับเศษหญ้าที่ดายไว้ ส่วนขี้วัวกับฟางแห้ง มีแล้วค่ะ อยู่ข้าง ๆ บ้านนี่เอง เขาเลี้ยงวัวไว้ ยี่สิบกว่าตัว แล้วก็มีฟางแห้งอยู่ในโรงวัว ก็เลยเสร็จเรา ได้ขออนุญาติเอาไว้แล้ว มอบกุญแจโรงวัวมาให้ด้วย เพียงแต่เหลือแรงงานที่จะขน ก็คือตัวเองน่ะค่ะ มันก็เหนื่อยอยู่เหมือนกันเพราะไม่ใช่ทางราบ มันเป็นทางขึ้นเนิน ลงเนิน เดินหลายเที่ยวก็เอาเรื่องเหมือนกันสำหรับคนแก่ ตอนนี้รอคำตอบของอาจารย์อยู่ค่ะ จะได้เริ่มลงมือปฏิบัติ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ - ต้องสับให้สับปะรดมีขนาดเล็กกว่า 2 นิ้วนะครับ - วางฟาง ใบไม้ สลับกับสับปะรดและขี้วัวเป็นชั้น ๆ รับรองไม่มีกลิ่นและแมลงวัน ปุ๋ยที่ได้ก็ไม่เป็นกรดด้วยครับ แต่ต้องดูแลความชื้นดี ๆ - ลองขึ้นกองปุ๋ยที่ข้างโรงวัวเลยสิครับ (ใกล้ ๆ ก๊อกน้ำ) จะได้ลดการขนย้ายครับ - ทำกองปุ๋ยบนทางลาดนั่นเลยครับ จุลินทรีย์มันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ฮิฮิ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:32:08 PM - ประชาสัมพันธ์ครับ ใครที่อยากไปสัมผัสกองปุ๋ยวิศวกรรมแม่โจ้ 1 จากใบไม้ ให้ไปดูที่สวนไม้ไทยพ่อเลี้ยงหมื่นอำเภอเมือง ลำพูนครับ ที่นี่ทราบว่ามีรวมกว่า 20 กองครับ และคงนำไปใช้บางส่วนแล้วเพราะได้ไปสอนตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
- ในวันศุกร์ที่ 25 พค. นี้ช่วงเช้า ที่นี่จะเป็นการแถลงข่าวของจังหวัดลำพูนร่วมกับสวนไม้ไทย ในการเป็นพันธมิตรกันด้านต่อสู้ปัญหาหมอกควันพิษจากการเผา เห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนจะไปด้วยตนเองครับ - พอดีหาไฟล์รูปไม่เจอ จะขออนุญาตโพสในโอกาสต่อไปนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: josave69 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:34:26 PM ดีมากๆ ทางรอดเกษตรกร
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Tommy_LA ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:40:03 PM อ.ครับ เราใช้ฟิลเตอร์เค๊ก ที่มาจากโรงน้ำตาล แทนฟาง หรือใบไม้ กับขี้วัว/ควาย
จะทำได้รึเปล่าครับ และเมื่อทำเสร็จแล้ว จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีธาตุอาหารเพียงพอรึเปล่าครับ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tong3829 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:46:20 PM มีคำถามครับ เศษพืช ที่มันใหญ่ยาวเช่นต้นข้าวโพด ต้นมัน กิ่งกระถิ่นหรือต้นกล้วยที่ไม่สับแต่ตัดสัก4-5ท่อน อะไรทำนองนี้อะครับ สามารถหมักแล้วเป็นปุ๋ยได้ไหมครับ อาจจะใช้เวลามากกว่า2เดือนก็ได้เช่น4-5เดือน จะมีผลต่อคุณภาพปุ๋ยไหมครับ คือแรงงานหายาก เราทำคนเดียวก็เหนื่อย
อ.จบจากแม่โจ้หรือครับ คือพ่อผมเค้าก็จบจากที่นั่นรู้สึกรุ่นที่4นะ รุ่นเดียวกับอ.รพี ครับเป็นเพื่อนกัน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:54:05 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D ท่านสมาชิกสามารถสมัครแข่งหมักปุ๋ย แบบใหม่ ลงชื่อได้เลยนะคะ หมักกองเล็ก กองใหญ่ กองย่อย ได้หมดค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 04:55:11 PM ทำนาไว้เจ็ดไร่ค่ะอาจารยื ถ้าเอาฟางข้าวมาทำปุ๋ยอย่างอาจารย์ จะใช้มูลสัตว์กี่โล กี่ลูกค่ะ จะได้ปู๋ยประมาณกี่ตันค่ะ เป็นข้าวหอมมะลิแดงค่ะ จะบินกลับมาเกี่ยวเอง จะได้เริ่มหมักปู๋ยค่ะและเริ่มสานต่อให้เสร์จภายในห้าปีนี้ค่ะ ช่วยเรื่องปู๋ยหน่อยนะค่ะอาจารย์
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 05:47:50 PM อ.ครับ เราใช้ฟิลเตอร์เค๊ก ที่มาจากโรงน้ำตาล แทนฟาง หรือใบไม้ กับขี้วัว/ควาย จะทำได้รึเปล่าครับ และเมื่อทำเสร็จแล้ว จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีธาตุอาหารเพียงพอรึเปล่าครับ ;) - ฟิลเตอร์เค็กจากโรงน้ำตาลมีขนาดเล็กเป็นผง การนำมาขึ้นกองวิธีนี้จะมีปัญหาที่อากาศไหลเข้ากองปุ๋ยไม่ได้ครับ ลองศึกษาจากผู้รู้ท่านอื่นนะครับ ::) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ไร่ร่มโพธิ์ทอง ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 05:52:05 PM เรียนถามอาจารย์ครับ 1. ถ้าผมเอาเศษผักกองไว้ กxยxส ประมาณ 2x2x1 เมตร แล้วเอาขี้วัวเทคลุมข้างบน เอาฟางคลุม มันจะเป็นปุ๋ยหมักมั๊ยครับ 2. ในกรณีที่ผมวางเป็นชั้น โดย เศษผัก ฟาง ขี้วัว แต่ไม่ได้ผสมเศษผักกับฟางก่อน จะได้มั๊ยครับ (ขี้เกียจคลุกเศษผักกับฟาง >:() 3. รบกวนอาจารย์เปรียบเทียบ โดยใช้ วิธีการ ขี้วัว ปริมาตร เป็นตัวคงที่ แล้วใช้ เศษผัก ฟาง หรือวัสดุอื่น ๆ เป็นตัวแปร อยากทราบคุณภาพครับ (ในกรณีที่ต้องหาวัสดุบางอย่างมาอาจมีค่าใช้จ่ายครับ เลยอยากเปรียบเทียบเพื่อดูความคุ้มค่าครับ) ขอบคุณครับ ปล. เตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้วครับ แล้วจะส่งการบ้านครับ :) - ถ้ากองเศษผักไว้สูง 1 เมตร ผลคือ เน่าครับ จะเหม็นและมีน้ำเสียดำ ๆ ไหลออกมา พีเอชของปุ๋ยจะเป็นกรดซึ่งพืชไม่ชอบ - วางสลับเศษผัก ฟาง ขี้วัว เป็นชั้น ถูกต้องที่สุดครับผม :-[ :-[ เพราะถ้าใช้เศษผักสลับกับขี้วัวโดยไม่มีฟางหรือใบไม้ เศษผักจะอัดตัวแน่นทำให้อากาศเข้าไม่ได้ ก็จะเริ่มเเน่าอีก การมีเศษใบไม้หรือฟางจะช่วยพยุงไม่ให้แน่นเกินไป รับรองได้ว่าไม่มีการเน่นครับผม - เศษพืชนำมาใช้ได้ทุกชนิด ให้เลือกเอาที่ไม่ต้องซื้อ เพราะเป็นแค่คาร์บอนสำหรับจุลินทรีย์ครับ ค่าคุณภาพไม่ต่างกันครับ ยกเว้นเมื่อเอาพืชตระกูลถั่วมาเข้ากองปุ๋ย จะได้ไนโตรเจนมากกว่าพืชอื่นประมาณ 1% และถ้าเราโม่เปลือกและเมล็ดลำไยลิ้นจี่หรือมีเปลือกกล้วย ปุ๋ยจากพวกนี้จะให้โพแทสเซียมสูงกว่าปกติสัก 2-3% ครับ เพราะโพแทสเซียมจะสะสมที่เปลือกผลไม้ เมล็ดผลไม้ 1.ตรงเผงเลยครับอาจารย์ :-[ ที่ถามเพราะอาจมีผลอย่างอื่นในทางที่ดี ตอนนี้กองแรกของผม "เน่า" ครับ ;D เพราะได้เศษผักมาแต่ไม่มีเวลาเลยกองไว้ เหม็นโฉ่ไปหมด :-\ จากจุดนี้ ถ้าผมเอาขี้วัวทับลงไป แล้วเอาฟางคลุมอีกที ราดด้วย EM จะช่วยให้อะไรดีขึ้นมั๊ยครับ :'( (กองแรกพลาดไปแล้ว) หรือมีวิธีอะไรที่จะทำให้มันดีขึ้นมั๊ยครับ 2. ครับ กองต่อไปผมจะทำตามที่อาจารย์สอนครับ ;) 3. ในกรณีที่เราปลูกถั่วเขียว หรือปอเทือง ระหว่างไถกลบ กับตัดเอามาทำปุ๋ยหมัก อันใหนดีกว่ากันครับ (คิดเฉพาะประโยชน์จากปุ๋ยครับ การดำเนินการไม่เกี่ยว) อันนี้เป็นสภาพหลังจากกองผักสูง 1 เมตร ลงมาราบกับพื้น แล้ว "เน่า" ผมเลยเอาขี้วัว กับฟาง กลบไปก่อน :'( แต่ไม่ได้ถ่ายหลังกลบฟางครับ (http://img140.imageshack.us/img140/5449/img5557t.jpg) ขอบคุณครับ :) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 05:54:02 PM มีคำถามครับ เศษพืช ที่มันใหญ่ยาวเช่นต้นข้าวโพด ต้นมัน กิ่งกระถิ่นหรือต้นกล้วยที่ไม่สับแต่ตัดสัก4-5ท่อน อะไรทำนองนี้อะครับ สามารถหมักแล้วเป็นปุ๋ยได้ไหมครับ อาจจะใช้เวลามากกว่า2เดือนก็ได้เช่น4-5เดือน จะมีผลต่อคุณภาพปุ๋ยไหมครับ คือแรงงานหายาก เราทำคนเดียวก็เหนื่อย อ.จบจากแม่โจ้หรือครับ คือพ่อผมเค้าก็จบจากที่นั่นรู้สึกรุ่นที่4นะ รุ่นเดียวกับอ.รพี ครับเป็นเพื่อนกัน - วัสดุพวกนี้เข้ากองปุ๋ยจะไม่เปื่อยครับ ยังไงก็ต้องการเครื่องย่อยให้มีขนาดเล็กเสียก่อนครับผม - กองปุ๋ยแบบใหม่นี้ต้องการการดูแลรักษาเรื่องความชื้นครับผม ถ้าทำได้ก็ตัดปัญหาเรื่องการพลิกกองปุ๋ย แต่ถ้าไม่มีเวลา ไม่ได้ใส่ใจกองปุ๋ย ก็ไม่เป็นปุ๋ยเหมือนกันครับ แม้ว่าเศษพืชจะมีคนย่อยให้แล้วก็ตาม - ฝากกราบคุณพ่อด้วยนะครับ ผมไม่ได้เป็นลูกแม่โจ้ครับ แต่ได้มีโอกาสเล่นดนตรีร่วมกับท่านรพีหลายครั้ง โดยเฉพาะในวันรับปริญญาของแม่โจ้ปีนี้ที่ผ่านมาครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 06:03:00 PM เรียนถามอาจารย์ครับ 1. ถ้าผมเอาเศษผักกองไว้ กxยxส ประมาณ 2x2x1 เมตร แล้วเอาขี้วัวเทคลุมข้างบน เอาฟางคลุม มันจะเป็นปุ๋ยหมักมั๊ยครับ 2. ในกรณีที่ผมวางเป็นชั้น โดย เศษผัก ฟาง ขี้วัว แต่ไม่ได้ผสมเศษผักกับฟางก่อน จะได้มั๊ยครับ (ขี้เกียจคลุกเศษผักกับฟาง >:() 3. รบกวนอาจารย์เปรียบเทียบ โดยใช้ วิธีการ ขี้วัว ปริมาตร เป็นตัวคงที่ แล้วใช้ เศษผัก ฟาง หรือวัสดุอื่น ๆ เป็นตัวแปร อยากทราบคุณภาพครับ (ในกรณีที่ต้องหาวัสดุบางอย่างมาอาจมีค่าใช้จ่ายครับ เลยอยากเปรียบเทียบเพื่อดูความคุ้มค่าครับ) ขอบคุณครับ ปล. เตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้วครับ แล้วจะส่งการบ้านครับ :) - ถ้ากองเศษผักไว้สูง 1 เมตร ผลคือ เน่าครับ จะเหม็นและมีน้ำเสียดำ ๆ ไหลออกมา พีเอชของปุ๋ยจะเป็นกรดซึ่งพืชไม่ชอบ - วางสลับเศษผัก ฟาง ขี้วัว เป็นชั้น ถูกต้องที่สุดครับผม :-[ :-[ เพราะถ้าใช้เศษผักสลับกับขี้วัวโดยไม่มีฟางหรือใบไม้ เศษผักจะอัดตัวแน่นทำให้อากาศเข้าไม่ได้ ก็จะเริ่มเเน่าอีก การมีเศษใบไม้หรือฟางจะช่วยพยุงไม่ให้แน่นเกินไป รับรองได้ว่าไม่มีการเน่นครับผม - เศษพืชนำมาใช้ได้ทุกชนิด ให้เลือกเอาที่ไม่ต้องซื้อ เพราะเป็นแค่คาร์บอนสำหรับจุลินทรีย์ครับ ค่าคุณภาพไม่ต่างกันครับ ยกเว้นเมื่อเอาพืชตระกูลถั่วมาเข้ากองปุ๋ย จะได้ไนโตรเจนมากกว่าพืชอื่นประมาณ 1% และถ้าเราโม่เปลือกและเมล็ดลำไยลิ้นจี่หรือมีเปลือกกล้วย ปุ๋ยจากพวกนี้จะให้โพแทสเซียมสูงกว่าปกติสัก 2-3% ครับ เพราะโพแทสเซียมจะสะสมที่เปลือกผลไม้ เมล็ดผลไม้ 1.ตรงเผงเลยครับอาจารย์ :-[ ที่ถามเพราะอาจมีผลอย่างอื่นในทางที่ดี ตอนนี้กองแรกของผม "เน่า" ครับ ;D เพราะได้เศษผักมาแต่ไม่มีเวลาเลยกองไว้ เหม็นโฉ่ไปหมด :-\ จากจุดนี้ ถ้าผมเอาขี้วัวทับลงไป แล้วเอาฟางคลุมอีกที จะช่วยให้อะไรดีขึ้นมั๊ยครับ :'( (กองแรกพลาดไปแล้ว) 2. ครับ กองต่อไปผมจะทำตามที่อาจารย์สอนครับ ;) 3. ในกรณีที่เราปลูกถั่วเขียว หรือปอเทือง ระหว่างไถกลบ กับตัดเอามาทำปุ๋ยหมัก อันใหนดีกว่ากันครับ (คิดเฉพาะประโยชน์จากปุ๋ยครับ การดำเนินการไม่เกี่ยว) ขอบคุณครับ :) - ฮิฮิ - กองที่เน่าให้เอาฟางมาทำเป็นชั้นบาง ๆ 10 เซ็น วางมูลสัตว์ รดน้ำ แล้วทับด้วยเศษผัก 10 เซ็น เป็นชั้นที่ 1 - ทำชั้นที่ 2 เหมือนชั้นที่ 1 แล้วทำเรื่อย ๆ จนได้ 15 ชั้น ทำกองให้เป็นรูปสามเหลี่ยม - เท่านี้กลิ่นก็หาย น้ำเสียก็หยุด อีก 2 เดือนได้ปุ๋ยครับ - ถั่วกับปอเทืองไถกลบเลยครับผม ดินจะร่วนซุยกว่าการนำไปทำปุ๋ยแล้วเอากลับลงสู่ดิน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 06:08:18 PM ทำนาไว้เจ็ดไร่ค่ะอาจารยื ถ้าเอาฟางข้าวมาทำปุ๋ยอย่างอาจารย์ จะใช้มูลสัตว์กี่โล กี่ลูกค่ะ จะได้ปู๋ยประมาณกี่ตันค่ะ เป็นข้าวหอมมะลิแดงค่ะ จะบินกลับมาเกี่ยวเอง จะได้เริ่มหมักปู๋ยค่ะและเริ่มสานต่อให้เสร์จภายในห้าปีนี้ค่ะ ช่วยเรื่องปู๋ยหน่อยนะค่ะอาจารย์ - นา 1 ไร่น่าจะได้ฟางประมาณ 600 กิโล ถ้ามี 7 ไร่จะได้ฟาง 4.2 ตัน สามารถทำปุ๋ยได้ 2 ตัน จึงต้องใช้ขี้วัวรวม 60 กระสอบครับผม - หากต้องการเพิ่มก็ต้องไปหาฟางจากนาข้าง ๆ นะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: eight ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 08:31:39 PM เรียนถามอาจารย์ธีระ
เพื่อนผมมีโรงเพาะถั่วงอก มีเปลือกถั่วเขียว ปล่อยให้เย็นแล้วเยอะมาก แบ่งปันมาให้ผมได้บ้าง คราวละ 10 กระสอบปุ๋ย เพราะเขาก็ชอบทางสวน นำมาทำวิธีไหนที่เหมาะสมครับ.... ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: oFFja ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 08:55:13 PM ส่งการบ้านครับ อาจารย์ ;D
-หลังจากดูวิธีการทำของอาจารย์ตั้งแต่วันแรกทีอาจารย์ตั้งกระทู้ ก็ได้ไปขนฟางทีผมโยนไว้ข้างนามาทันที พอดีมีขี้วัวเหลืออยู่กองเล็กพอดี ก็เลยลงมือทำครับ -ทำไว้ไม่เสร็จครับ 8 ชั้น (http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture001.jpg) (http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture002.jpg) -มาทำต่ออีกวันได้ทั้งหมด 15 ชั้นขี้วัวหมดครับ (ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติม ;D) (http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture005.jpg) (http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture006.jpg) *ขั้นตอนตามทีอาจารย์ได้สอนไว้ครับ -ฟาง 4 ตะกร้า เรียงเป็นฐานล่าง -ขี้วัว 1ตะกร้า มาใส่บนฟางเกลี่ยให้ทั่วทีทำเป็นฐานไว้ -ตามด้วยน้ำรดให้เปียกพอประมาณครับ -ทำซ้ำไปเรื่อยๆครับ ;D ( ตะกร้าในรูปผมใส่ไม่เต็มเนื่องจากวัสดุน้อยครับ ) อาจารย์ตรวจการบ้านผมด้วยครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ ^^ -ประวัติผมนิดหน่อยครับ -เกิด 2530 -อยู่จังหวัดชัยนาท มีทีดินพอสมควร (แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจจะทำครับน่าละอายใจยิ่งนัก) -เอาคราวๆครับก่อนหน้าทีเปิดร้านเกมส์อยู่ กทม. แล้วอ่านเว็บเจอ เว็บเกษตรพอเพียง อ่านไป4-5เดือน ขายร้านเกมส์กลับมาอยู๋ชัยนาท -กลับมาก็ยัง งงๆ อยู่ >:( จะเริ่มไรดี ก็เลยเริ่มจาก ให้คนเช่านา20ไร่ ทำเอง20ไร่ ทำสวน5ไร่ -ทั้งชิวีตไม่เคยทำนา ทั้งทีมีทีดินอยู่ในมือ >:( กลับไปทำอย่างอื่น-..- -ก็เลยเริ่มจากการทำนา ครั้งแรกทีผ่านมา 20ไร่ แบ่งออกมา4ไร่ ทดลองใช้ปุ๋ยหมักกับน้ำหมักชีวภาพทีทำขึ้นเอง ก็ยังไม่เห็นผลเท่าทีควรคงต้องทำไปเรื่อยๆ -หลังจากเก็บเกี่ยวก็เลยเก็บฟางขึ้นจากนา โดยไม่เผาแต่เก็บไม่หมดครับก็เลยจ้างรถไถ แล้วหมักฟางให้เปื่อยไปครับแล้วจะนำแหนแดงมาปล่อยหยุดทำนา สัก 2-3เดือน คืนชีวิตให้ดินหน่อยครับ อ่อเรื่องฟางมีผมคนเดียวทีถูกมองว่ามันทำอะไร คนอื่นเผาหมดครับ -ที่ขนฟางได้น้อยเพราะไม่มีรถไถครับ ตลกไหมครับมีนาไม่มีรถไถ(เพราะพ่อแม่ไม่คิดว่าผมจะกลับมาทำเกษตร)ปีหน้าว่าจะสักคันอิอิ -เริ่มทำเกษตรได้ 5-6เดือนแล้วครับ เว็บเกษตรพอเพียง คือแรงบันดาลใจและพี่ๆน้าๆ ลุงๆป้าๆ แบบ อาจารย์ ในเว็บนี้คือต้นแบบของผมเลยครับ ขอบคุณมากครับ ความหวังอยากให้คนทีนี้พ้นจากความยากจน หยุดทำลายทัพยากรธรรมชาติ ครับ ทุกอย่างทีผมได้อ่านได้ทดลองทำ จะนำไปเผยแพร่ต่อไปครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:12:35 PM ส่งการบ้านครับ อาจารย์ ;D -หลังจากดูวิธีการทำของอาจารย์ตั้งแต่วันแรกทีอาจารย์ตั้งกระทู้ ก็ได้ไปขนฟางทีผมโยนไว้ข้างนามาทันที พอดีมีขี้วัวเหลืออยู่กองเล็กพอดี ก็เลยลงมือทำครับ -ทำไว้ไม่เสร็จครับ 8 ชั้น ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture001.jpg[/url]) ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture002.jpg[/url]) -มาทำต่ออีกวันได้ทั้งหมด 15 ชั้นขี้วัวหมดครับ (ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติม ;D) ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture005.jpg[/url]) ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture006.jpg[/url]) *ขั้นตอนตามทีอาจารย์ได้สอนไว้ครับ -ฟาง 4 ตะกร้า เรียงเป็นฐานล่าง -ขี้วัว 1ตะกร้า มาใส่บนฟางเกลี่ยให้ทั่วทีทำเป็นฐานไว้ -ตามด้วยน้ำรดให้เปียกพอประมาณครับ -ทำซ้ำไปเรื่อยๆครับ ;D ( ตะกร้าในรูปผมใส่ไม่เต็มเนื่องจากวัสดุน้อยครับ ) อาจารย์ตรวจการบ้านผมด้วยครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ ^^ -ประวัติผมนิดหน่อยครับ -เกิด 2530 -อยู่จังหวัดชัยนาท มีทีดินพอสมควร (แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจจะทำครับน่าละอายใจยิ่งนัก) -เอาคราวๆครับก่อนหน้าทีเปิดร้านเกมส์อยู่ กทม. แล้วอ่านเว็บเจอ เว็บเกษตรพอเพียง อ่านไป4-5เดือน ขายร้านเกมส์กลับมาอยู๋ชัยนาท -กลับมาก็ยัง งงๆ อยู่ >:( จะเริ่มไรดี ก็เลยเริ่มจาก ให้คนเช่านา20ไร่ ทำเอง20ไร่ ทำสวน5ไร่ -ทั้งชิวีตไม่เคยทำนา ทั้งทีมีทีดินอยู่ในมือ >:( กลับไปทำอย่างอื่น-..- -ก็เลยเริ่มจากการทำนา ครั้งแรกทีผ่านมา 20ไร่ แบ่งออกมา4ไร่ ทดลองใช้ปุ๋ยหมักกับน้ำหมักชีวภาพทีทำขึ้นเอง ก็ยังไม่เห็นผลเท่าทีควรคงต้องทำไปเรื่อยๆ -หลังจากเก็บเกี่ยวก็เลยเก็บฟางขึ้นจากนา โดยไม่เผาแต่เก็บไม่หมดครับก็เลยจ้างรถไถ แล้วหมักฟางให้เปื่อยไปครับแล้วจะนำแหนแดงมาปล่อยหยุดทำนา สัก 2-3เดือน คืนชีวิตให้ดินหน่อยครับ อ่อเรื่องฟางมีผมคนเดียวทีถูกมองว่ามันทำอะไร คนอื่นเผาหมดครับ -ที่ขนฟางได้น้อยเพราะไม่มีรถไถครับ ตลกไหมครับมีนาไม่มีรถไถ(เพราะพ่อแม่ไม่คิดว่าผมจะกลับมาทำเกษตร)ปีหน้าว่าจะสักคันอิอิ -เริ่มทำเกษตรได้ 5-6เดือนแล้วครับ เว็บเกษตรพอเพียง คือแรงบันดาลใจและพี่ๆน้าๆ ลุงๆป้าๆ แบบ อาจารย์ ในเว็บนี้คือต้นแบบของผมเลยครับ ขอบคุณมากครับ ความหวังอยากให้คนทีนี้พ้นจากความยากจน หยุดทำลายทัพยากรธรรมชาติ ครับ ทุกอย่างทีผมได้อ่านได้ทดลองทำ จะนำไปเผยแพร่ต่อไปครับ ขอบคุณครับ นี่สิครับ สิบปากว่า สิบตาเห็น ยังไม่เท่าลงมือทำ เยี่ยมมากๆครับ คุณ oFFja :-[ :-[ :-[ อยู่ส่วนไหนของชัยนาทครับ ผมมีน้องที่เคยทำงานบริษัทด้วยกัน บ้านเค้าอยู่ที่ท่าชัยครับ แต่ก่อนไปเที่ยวสวนชะอม สวนมะม่วงและดูแปลงนาน้องเค้าบ่อยๆครับ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: oFFja ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:18:09 PM อยู่อำเภอ วัดสิงห์ ต.หนองบัว ครับพี่ konthain(นพ)
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:25:42 PM เรียนถามอาจารย์ธีระ เพื่อนผมมีโรงเพาะถั่วงอก มีเปลือกถั่วเขียว ปล่อยให้เย็นแล้วเยอะมาก แบ่งปันมาให้ผมได้บ้าง คราวละ 10 กระสอบปุ๋ย เพราะเขาก็ชอบทางสวน นำมาทำวิธีไหนที่เหมาะสมครับ.... ;) - คุณนพครับ เอาทำอะไรดีครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:36:16 PM เรียนถามอาจารย์ธีระ เพื่อนผมมีโรงเพาะถั่วงอก มีเปลือกถั่วเขียว ปล่อยให้เย็นแล้วเยอะมาก แบ่งปันมาให้ผมได้บ้าง คราวละ 10 กระสอบปุ๋ย เพราะเขาก็ชอบทางสวน นำมาทำวิธีไหนที่เหมาะสมครับ.... ;) - คุณนพครับ เอาทำอะไรดีครับ แต่ถ้ามีเป็น 10 กระสอบปุ๋ยนี่ ก็คงเอามาเป็นวัสดุผสมทำปุ๋ยตามสูตรของท่านอาจารย์ tera ได้นะครับ หรือเอาไปเทใส่นาก่อนที่จะไถกลบเป็นแบบปุ๋ยพืชสดน่าจะได้กระมังครับ ผมยังหาข้อมูลปริมาณ ธาตุอาหาร ของเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียวไม่ได้ครับ ขอติดไว้ก่อน เดี๋ยวจะไปหาข้อมูลดู ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:42:35 PM ส่งการบ้านครับ อาจารย์ ;D -หลังจากดูวิธีการทำของอาจารย์ตั้งแต่วันแรกทีอาจารย์ตั้งกระทู้ ก็ได้ไปขนฟางทีผมโยนไว้ข้างนามาทันที พอดีมีขี้วัวเหลืออยู่กองเล็กพอดี ก็เลยลงมือทำครับ -ทำไว้ไม่เสร็จครับ 8 ชั้น ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture001.jpg[/url]) ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture002.jpg[/url]) -มาทำต่ออีกวันได้ทั้งหมด 15 ชั้นขี้วัวหมดครับ (ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติม ;D) ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture005.jpg[/url]) ([url]http://i1263.photobucket.com/albums/ii628/oFFja03/Picture006.jpg[/url]) *ขั้นตอนตามทีอาจารย์ได้สอนไว้ครับ -ฟาง 4 ตะกร้า เรียงเป็นฐานล่าง -ขี้วัว 1ตะกร้า มาใส่บนฟางเกลี่ยให้ทั่วทีทำเป็นฐานไว้ -ตามด้วยน้ำรดให้เปียกพอประมาณครับ -ทำซ้ำไปเรื่อยๆครับ ;D ( ตะกร้าในรูปผมใส่ไม่เต็มเนื่องจากวัสดุน้อยครับ ) อาจารย์ตรวจการบ้านผมด้วยครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ ^^ - อันดับแรก เยี่ยมครับ - ครูไม่ได้ให้นักเรียนทำแค่ฟาง 4 ตะกร้าต่อชั้นนะครับ แต่อยากให้ต่อความยาวไปเรื่อย ๆ ตามความต้องการที่นักเรียนอยากใช้ โดยทุกความยาว 4 เมตรจะได้ปุ๋ยอินทรีย์เมื่อแห้งแล้ว 1 ตัน (ใช้ในแปลงเพาะปลูกหรือสวนได้ 1 ไร่) แต่ก็เข้าใจดีว่านักเรียนหาวัสดุได้แค่นี้ และอีกอย่างนึง กองต่อไปขอให้มีความกว้าง 2.5 เมตรนะครับ - ชอบที่เมื่อเศษพืชหมดหรือมูลสัตว์หมด ก็หยุดไว้ก่อน แล้วพอมีวัสดุก็ค่อยทำต่อจนได้ความสูงที่ต้องการ - อันที่จริง ความสูงน่าจะอยู่ที่ 1.5 เมตรนะครับ จำนวนชั้นอาจจะมากกว่า 15 ชั้น 17 ชั้นก็ได้ครับ - ถัดจากนี้ ภายในเวลา 48 ชั่วโมง กองปุ๋ยจะเริ่มร้อน ก็อย่าตกใจ ช่างมัน ให้รดน้ำทุกวัน แล้วเมื่อได้อายุ 10 วันก็จะถึงเวลาแทงกองปุ๋ยครั้งแรก ให้เขียนไว้ในปฏิทินเลยนะครับว่าอีก 10 วันเป็นวันที่อะไร จะได้ไม่ลืม - วันไหนว่างก็ให้เอามือล้วงเช็คจุดต่าง ๆ ของกองปุ๋ย ถ้ามีจุดใดแห้ง ก็ให้หยอดน้ำเข้าไปครับ - อย่าลืมกวาดเศษวัสดุข้างกองให้สะอาด แต่งกองให้เป็นรูปสามเหลี่ยม ไม่งั้นจะมีคนเอาขยะมาทิ้ง - จำความรู้สึกตอนเฝ้ารอการเป็นปุ๋ยให้ดี เพราะจะเป็นสิ่งที่บอกกันไม่ได้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:47:30 PM ส่งการบ้านครับ อาจารย์ ;D -หลังจากดูวิธีการทำของอาจารย์ตั้งแต่วันแรกทีอาจารย์ตั้งกระทู้ ก็ได้ไปขนฟางทีผมโยนไว้ข้างนามาทันที พอดีมีขี้วัวเหลืออยู่กองเล็กพอดี ก็เลยลงมือทำครับ -ทำไว้ไม่เสร็จครับ 8 ชั้น - คุณครูใหญ่ดวงพรครับผม มีนักเรียนส่งงานครับ คนนี้มาแรงมากครับผม :-[ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:50:08 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ 1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง รอเลข 7 ครับ เขาว่าเฮงๆ... :) :) ขอสมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ครับ ;D พร้อมรูปกองปุ๋ยที่ต้องแก้ไข คุณครูใหญ่ดวงพรต้องรับผมและเพื่อนๆด้วยนะ ไม่งั้นผมจะอดข้าวประท้วงครับ :P :P :P แต่จะกินนมและน้ำ :-\ :-\ ออลืมไป คุณครูใหญ่ต้องไม่มีการแลกเกรดนะครับ ;D ;D (http://image.ohozaa.com/i/284/sFDN1s.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w5Z5pRwBay846dtS) (http://image.ohozaa.com/i/eba/S3oVAF.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w5Z5yIZEg6GOS9K8) อาจารย์ครับ ของผมกองนี้ทำแบบนี้ครับ กองฟางกว้างประมาณ 2 เมตร สูง 30 เซ็นต์ เอาขี้วัวโรยทับ รดด้วย อีเอ็ม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนได้ความสูงประมาณ 1.50เมตร แล้วคลุมด้วยผ้าใบ ทำเสร็จได้ 1 คืน ลองจับดูมีความร้อนค่อนข้างสูง แบบนี้มันจะเป็นปุ๋ยไหมครับ ตอนนี้กองก็ยุบลงไม่มากครับ ทำได้ประมาณ 1 เดือนแล้วครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:51:06 PM ไปเจอข้อมูลจากเวปหมอชาวบ้าน มีข้อมูลหน้าสนใจเกี่ยวกับเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียว
ถั่วเขียว อาหารสำหรับหน้าร้อน อากาศร้อนหลังทำงานเหน็ดเหนื่อย กินถั่วเขียวต้มสักชามก็จะรู้สึกชุ่มฉ่ำใจ แก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี ถ้านอนดึกมีอาการร้อนใน หรือตาแดง เจ็บคอ ท้องผูก ถ้าต้มถั่วเขียวกินก็จะทำให้อาการดังกล่าวหายไป เราสามารถเลือกกินได้ทั้งร้อนหรือเย็น หวานหรือจืดก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ชื่อวิทยาศาสตร์ Vigna radiate L. วงศ์ Leguminosae หน้าร้อนผิวหนังมักเป็นผดผื่นคัน ใช้ถั่วเขียว ใบบัว และน้ำตาลทราย ต้มกินน้ำ ก็จะทำให้อาการผดผื่นคันบรรเทาและหายไป หรือจะเอาถั่วเขียวที่ต้มแล้วพอกบริเวณผดผื่นคัน ก็จะทำให้หายเร็วขึ้น หน้าร้อนต้มถั่วเขียวกิน จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เนื่องจากในหน้าร้อน เมตาโบลิซึมของร่างกายสูง ทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียพลังงานไปมาก ถั่วเขียวนอกจากจะสามารถแก้ร้อน ลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ร่างกายสดชื่นและขับปัสสาวะแล้ว ถั่วเขียวยังอุดมไปด้วยโปรตีนกลุ่มวิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น แป้งที่ทำจากถั่วเขียว แก้ร้อนใน ฝี และแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เปลือกหุ้มเมล็ด (สีเขียว) มีสรรพคุณรักษาโรคตาต่างๆ เช่น ตาแดง ตาอักเสบ ถั่วงอกจากถั่วเขียว หรือดอกต้นถั่วเขียว แก้อาการเมาเหล้า ใบถั่วเขียวตำให้แหลกคั้นน้ำ เติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย ทำให้อุ่น แก้กินน้ำ แก้อาการอาเจียนและท้องเดิน สรรพคุณ ถั่วเขียว แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ รักษาฝี เปลือก (สีเขียว) แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ตาสว่าง รักษาตาอักเสบ ถั่วงอก แก้พิษเหล้า ตำรับยา 1. คางทูม (เป็นใหม่) ต้มถั่วเขียว 70 กรัม จนใกล้สุก ใส่แกนกะหล่ำปลีลงไป 2 หัว ต้มอีก 15 นาที กินเฉพาะน้ำ วันละ 2 ครั้ง อาการคางทูมก็จะหาย 2. อาเจียน (จากการดื่มเหล้า) ให้ดื่มน้ำถั่วเขียวพอประมาณ 3. ตาพร่า ตาอักเสบ ต้มถั่วเขียวกินครั้งละ 15-20 กรัม เป็นประจำ สารเคมีที่พบ ในเปลือก (สีเขียว) ของถั่วเขียว มีโปรตีน 79.0 % มีกรด Amino หลายชนิดคือ Aspartic acid 94.42 ม.ก./กรัม Thrconine 24.98 ม.ก./กรัม Serine 41.73 ม.ก./กรัม Glutamic acid 145.77 ม.ก./กรัม Proline 29.84 ม.ก./กรัม Glycine 27.92 ม.ก./กรัม Alanine 32.18 ม.ก./กรัม Valine 40.05 ม.ก./กรัม Cystine 3.78 ม.ก./กรัม Methionine 10.02 ม.ก./กรัม Iso-leucine 33.40 ม.ก./กรัม Leucine 67.02 ม.ก./กรัม Tyrosine 26.42 ม.ก./กรัม Phenylalanine 51.04 ม.ก./กรัม Lysine 52.44 ม.ก./กรัม Histidine 19.26 ม.ก./กรัม Arginine 50.24 ม.ก./กรัม Tryptophan 9.02 ม.ก./กรัม ขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของหมอชาวบ้าน กับเว็บไซต์วิชาการดอทคอม www.doctor.or.th จากข้อมูล สารเคมีที่พบ ในเปลือก (สีเขียว) ของถั่วเขียว มีโปรตีน 79.0 % มีกรด Amino หลายชนิดคือ Aspartic acid 94.42 ม.ก./กรัม Thrconine 24.98 ม.ก./กรัม Serine 41.73 ม.ก./กรัม Glutamic acid 145.77 ม.ก./กรัม Proline 29.84 ม.ก./กรัม Glycine 27.92 ม.ก./กรัม Alanine 32.18 ม.ก./กรัม Valine 40.05 ม.ก./กรัม Cystine 3.78 ม.ก./กรัม Methionine 10.02 ม.ก./กรัม Iso-leucine 33.40 ม.ก./กรัม Leucine 67.02 ม.ก./กรัม Tyrosine 26.42 ม.ก./กรัม Phenylalanine 51.04 ม.ก./กรัม Lysine 52.44 ม.ก./กรัม Histidine 19.26 ม.ก./กรัม Arginine 50.24 ม.ก./กรัม Tryptophan 9.02 ม.ก./กรัม ท่านอาจารย์ tera มีความเห็นว่ากระไรครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:07:50 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ 1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง รอเลข 7 ครับ เขาว่าเฮงๆ... :) :) ขอสมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ครับ ;D พร้อมรูปกองปุ๋ยที่ต้องแก้ไข คุณครูใหญ่ดวงพรต้องรับผมและเพื่อนๆด้วยนะ ไม่งั้นผมจะอดข้าวประท้วงครับ :P :P :P แต่จะกินนมและน้ำ :-\ :-\ ออลืมไป คุณครูใหญ่ต้องไม่มีการแลกเกรดนะครับ ;D ;D ([url]http://image.ohozaa.com/i/284/sFDN1s.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w5Z5pRwBay846dtS[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/i/eba/S3oVAF.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w5Z5yIZEg6GOS9K8[/url]) อาจารย์ครับ ของผมกองนี้ทำแบบนี้ครับ กองฟางกว้างประมาณ 2 เมตร สูง 30 เซ็นต์ เอาขี้วัวโรยทับ รดด้วย อีเอ็ม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนได้ความสูงประมาณ 1.50เมตร แล้วคลุมด้วยผ้าใบ ทำเสร็จได้ 1 คืน ลองจับดูมีความร้อนค่อนข้างสูง แบบนี้มันจะเป็นปุ๋ยไหมครับ ตอนนี้กองก็ยุบลงไม่มากครับ ทำได้ประมาณ 1 เดือนแล้วครับ - พอเอาผ้าคลุมก็เลยไม่ได้ดูแลความชื้น พอวัสดุแห้งจุลินทรีย์เลยหยุดกิจกรรมการย่อยสลาย การยุบเลยไม่ลงมาก - ตอนวางฟางหนา 30 เซ็นติเมตร ความหนาขนาดนี้จุลินทรีย์ไท่สามารถเดินลงไปกินคาร์บอนแล้วเดินกลับบ้านมากินไนโตรเจนได้ครับ มันไม่มีขาง่ะ การเป็นปุ๋ยเลยค่อนข้างช้า - กองนี้ลอง "ย้าย" ไปทำเป็นกองใหม่ อย่าทำที่เดิม ย้ายห่างออกไปสัก 1 เมตร กองใหม่ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมสูง 1.5 เมตรโดยไม่ต้องทำเป็นชั้น ๆ ระหว่างย้ายก็ให้มีคนคอยรดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่โชก ภายใน 2 วันอาจมีความร้อนกลับมาใหม่ รับประกันได้ครับว่าภายใน 30 วันต้องมีเรื่องแปลกใจให้เห็น แต่ต้องดูแลความชื้นตลอดเวลานะครับ - คุณครูใหญ่ดวงพรครับผม นักเรียนคนนี้ต้องการที่นั่งหมายเลข 7 ครับ ช่วยดูแลอย่าให้ลอกการบ้านมาส่งนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:20:30 PM ไปเจอข้อมูลจากเวปหมอชาวบ้าน มีข้อมูลหน้าสนใจเกี่ยวกับเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียว ถั่วเขียว อาหารสำหรับหน้าร้อน อากาศร้อนหลังทำงานเหน็ดเหนื่อย กินถั่วเขียวต้มสักชามก็จะรู้สึกชุ่มฉ่ำใจ แก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี ถ้านอนดึกมีอาการร้อนใน หรือตาแดง เจ็บคอ ท้องผูก ถ้าต้มถั่วเขียวกินก็จะทำให้อาการดังกล่าวหายไป เราสามารถเลือกกินได้ทั้งร้อนหรือเย็น หวานหรือจืดก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ชื่อวิทยาศาสตร์ Vigna radiate L. วงศ์ Leguminosae หน้าร้อนผิวหนังมักเป็นผดผื่นคัน ใช้ถั่วเขียว ใบบัว และน้ำตาลทราย ต้มกินน้ำ ก็จะทำให้อาการผดผื่นคันบรรเทาและหายไป หรือจะเอาถั่วเขียวที่ต้มแล้วพอกบริเวณผดผื่นคัน ก็จะทำให้หายเร็วขึ้น หน้าร้อนต้มถั่วเขียวกิน จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เนื่องจากในหน้าร้อน เมตาโบลิซึมของร่างกายสูง ทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียพลังงานไปมาก ถั่วเขียวนอกจากจะสามารถแก้ร้อน ลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ร่างกายสดชื่นและขับปัสสาวะแล้ว ถั่วเขียวยังอุดมไปด้วยโปรตีนกลุ่มวิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น แป้งที่ทำจากถั่วเขียว แก้ร้อนใน ฝี และแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เปลือกหุ้มเมล็ด (สีเขียว) มีสรรพคุณรักษาโรคตาต่างๆ เช่น ตาแดง ตาอักเสบ ถั่วงอกจากถั่วเขียว หรือดอกต้นถั่วเขียว แก้อาการเมาเหล้า ใบถั่วเขียวตำให้แหลกคั้นน้ำ เติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย ทำให้อุ่น แก้กินน้ำ แก้อาการอาเจียนและท้องเดิน สรรพคุณ ถั่วเขียว แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ รักษาฝี เปลือก (สีเขียว) แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ตาสว่าง รักษาตาอักเสบ ถั่วงอก แก้พิษเหล้า ตำรับยา 1. คางทูม (เป็นใหม่) ต้มถั่วเขียว 70 กรัม จนใกล้สุก ใส่แกนกะหล่ำปลีลงไป 2 หัว ต้มอีก 15 นาที กินเฉพาะน้ำ วันละ 2 ครั้ง อาการคางทูมก็จะหาย 2. อาเจียน (จากการดื่มเหล้า) ให้ดื่มน้ำถั่วเขียวพอประมาณ 3. ตาพร่า ตาอักเสบ ต้มถั่วเขียวกินครั้งละ 15-20 กรัม เป็นประจำ สารเคมีที่พบ ในเปลือก (สีเขียว) ของถั่วเขียว มีโปรตีน 79.0 % มีกรด Amino หลายชนิดคือ Aspartic acid 94.42 ม.ก./กรัม Thrconine 24.98 ม.ก./กรัม Serine 41.73 ม.ก./กรัม Glutamic acid 145.77 ม.ก./กรัม Proline 29.84 ม.ก./กรัม Glycine 27.92 ม.ก./กรัม Alanine 32.18 ม.ก./กรัม Valine 40.05 ม.ก./กรัม Cystine 3.78 ม.ก./กรัม Methionine 10.02 ม.ก./กรัม Iso-leucine 33.40 ม.ก./กรัม Leucine 67.02 ม.ก./กรัม Tyrosine 26.42 ม.ก./กรัม Phenylalanine 51.04 ม.ก./กรัม Lysine 52.44 ม.ก./กรัม Histidine 19.26 ม.ก./กรัม Arginine 50.24 ม.ก./กรัม Tryptophan 9.02 ม.ก./กรัม ขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของหมอชาวบ้าน กับเว็บไซต์วิชาการดอทคอม www.doctor.or.th จากข้อมูล สารเคมีที่พบ ในเปลือก (สีเขียว) ของถั่วเขียว มีโปรตีน 79.0 % มีกรด Amino หลายชนิดคือ Aspartic acid 94.42 ม.ก./กรัม Thrconine 24.98 ม.ก./กรัม Serine 41.73 ม.ก./กรัม Glutamic acid 145.77 ม.ก./กรัม Proline 29.84 ม.ก./กรัม Glycine 27.92 ม.ก./กรัม Alanine 32.18 ม.ก./กรัม Valine 40.05 ม.ก./กรัม Cystine 3.78 ม.ก./กรัม Methionine 10.02 ม.ก./กรัม Iso-leucine 33.40 ม.ก./กรัม Leucine 67.02 ม.ก./กรัม Tyrosine 26.42 ม.ก./กรัม Phenylalanine 51.04 ม.ก./กรัม Lysine 52.44 ม.ก./กรัม Histidine 19.26 ม.ก./กรัม Arginine 50.24 ม.ก./กรัม Tryptophan 9.02 ม.ก./กรัม ท่านอาจารย์ tera มีความเห็นว่ากระไรครับ ;D ;) - คุณนพครับ ขอบพระคุณครับ อะไรจะว่องไวปานนั้น - ถ้าเอาไปทำปุ๋ยอินทรีย์ก็น่าเสียดายคุณค่าของเปลือกถั่วเขียว เอ ... หรือเอาไปเลี้ยงหมูดี (หรือเลี้ยงไก่ ?) แต่เอาไปโรยแปลงแล้วไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดก็ดีนะครับ ไนโตรเจนสูงดี - คุณ eight ครับ ถ้าจะทำปุ๋ยอินทรีย์ ก็ต้องมีเศษใบไม้หรือฟางกับมูลสัตว์นะครับ วางเศษพืชเป็นชั้นบาง ๆ ทับด้วยมูลสัตว์ แล้วทับด้วยเปลือกถั่วเขียว รดน้ำ ทำชั้นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ความสูง 1.5 เมตร กองเป็นรูปสามเหลี่ยม ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีค่าไนโตรเจนประมาณ 3-4% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานกำหนดสัก 3 เท่าครับ - หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 10:45:44 PM - วันนี้ผมขึ้นกองปุ๋ยจากฟางข้าวและขี้วัวครับ เป็น 1 ใน 5 กองที่จะมีความสำคัญที่สุดในชีวิตของผมครับ (เรื่องนี้ต้องขยายในโอกาสต่อไปครับ แต่เรื่องไม่ถึงครูดวงพรแน่) กองนี้ถ้าเสร็จแล้วจะมีน้ำหนักปุ๋ย 1 ตันครับ
- ให้สังเกตความสูง 1.5 เมตรนะครับ น้อง 2 คนเป็นวิศวกรที่เพิ่งจบ จำหน้าให้ดีครับ เพราะโพสต่อ ๆ ไปจะมีน้อง 2 คนนี้ไปแก้กองปุ๋ยที่ยาว 1 กิโลเมตรที่ลำพูนครับ (http://image.ohozaa.com/i/78e/V8jbqN.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 11:25:09 PM - อยากให้ดูรูปกองปุ๋ยจากเศษใบไม้ของสวนไม้ไทยพ่อเลี้ยงหมื่น อำเภอเมือง ลำพูน ครับ ไปขึ้นกองปุ๋ยวันที่ 24 กพ. 55 ครับ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนคือคนสวมเสื้อสีครีมกอดอก
(http://image.ohozaa.com/i/2c2/f2UYpS.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUJzt2SI30fXO7m) - รูปนี้ไปเยี่ยมดูช่วงปลายเมษายนครับ มีกองปุ๋ยเพิ่มขึ้นอีกหลายกอง ดูแลความชื้นได้ดีครับ ซึ่งวันที่ 25 พค. จังหวัดลำพูนมีนัดเชิญสื่อมวลชนมาเยี่ยมโครงการครับ ผมไม่ได้ไปเพราะติดงาน กทม.งาน Thaifex ที่ไบเทค คงมีแต่น้องวิศวกรไปลำพูนแทน (http://image.ohozaa.com/i/958/2JZvM5.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsUJAb0fhqtPrSkE) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 04:26:29 AM ขี้วัวแห้งหรืออาจารย์ ใช็ขี้วัวหรือหมูเปียกได้ไหมค่ะ กระสอบปู๋ยหรือค่ะ จะได้สั้งซื้อขี้วัวชาวบ้านไว้ค่ะ แถวโน้นขายกระสอบละเท่าไรค่ะ ใช้ขี้ไก่ปนแกลบได้ไหมค่ะ กระสอบละสามสิบบาท คิดว่าหลังเกี่ยวข้าวแล้วจะไถปลูกปอเทืองก่อน เพราะต้องรอปู๋ยสองเดือน พอปู๋ยเสร์จใส่ปู๋ยหมักอีกรอบแล้วไถกบ เป็นดินเหนียวและเสียมาก เจ้าของเก่าใช้แต่สารเคมี ระหว่างปอเทืองและถั่วเหลืองอย่างไหนให้ประโยชน์ต่อดินกว่ากันค่ะ ใจอยากปลูกถั่วเหลืองค่ะ จะได้เอาไปเป็นอาหารไส้เดือนและทำอาหารปลา ไก่ โปรตีนมากดี :( อาจารย์ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าควรจะทำแบบไหนดี >:(
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 05:16:39 AM ขี้วัวแห้งหรืออาจารย์ ใช็ขี้วัวหรือหมูเปียกได้ไหมค่ะ กระสอบปู๋ยหรือค่ะ จะได้สั้งซื้อขี้วัวชาวบ้านไว้ค่ะ แถวโน้นขายกระสอบละเท่าไรค่ะ ใช้ขี้ไก่ปนแกลบได้ไหมค่ะ กระสอบละสามสิบบาท คิดว่าหลังเกี่ยวข้าวแล้วจะไถปลูกปอเทืองก่อน เพราะต้องรอปู๋ยสองเดือน พอปู๋ยเสร์จใส่ปู๋ยหมักอีกรอบแล้วไถกบ เป็นดินเหนียวและเสียมาก เจ้าของเก่าใช้แต่สารเคมี ระหว่างปอเทืองและถั่วเหลืองอย่างไหนให้ประโยชน์ต่อดินกว่ากันค่ะ ใจอยากปลูกถั่วเหลืองค่ะ จะได้เอาไปเป็นอาหารไส้เดือนและทำอาหารปลา ไก่ โปรตีนมากดี :( อาจารย์ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าควรจะทำแบบไหนดี >:( - ขี้วัวแห้งหรือเปียกก็ได้ ขี้หมูก็ใช้ได้ ขี้ไก่แกลบก็ได้ครับ แต่ถ้ามูลสัตว์พวกนี้ออกมาจากบ่อไบโอแก๊สแล้วใช้ไม่ได้นะครับ พวกที่ออกจากไบโอแก๊สนี่ตากให้แห้ง จะเป็นปุ๋ยได้เลย แต่เอามาเข้ากระบวนการย่อยเศษพืชนี่ไม่ได้เพราะจุลินทรีย์ไม่มีแล้ว - ที่เชียงใหม่ขี้วัวกระสอบละ 25 บาท ขี้ไก่แกลบ 35 บาทครับ ขี้วัวบางที่กระสอบละ 8 บาทแต่ต้องตักเองและเอากระสอบมาแลก - หลังเกี่ยวข้าวถ้าได้ไถกลบตอซังนี่ จะเยี่ยมมาก เพราะจุลธาตุ ธาตุอาหารรองในตอซังนี่อย่างดี แล้วลงปอเทืองหรือถั่วเหลือง ทั้งสองตัวนี่ดีทั้งคู่ครับ ปลูกสลับคนละปีก็ยังได้ แต่ถ้าต้องการอาหารไส้เดือนกับอาหารปลาไก่ก็ปลูกถั่วเหลืองเถอะครับ จะได้ลดต้นทุนอื่น - จะลองสมัครทำปุ๋ยหมักไหมครับ จะได้ช่วยแนะไปในตัว รับสมัครถึงปลายมิถุนายน แต่ตรวจการบ้านไปเรื่อย ๆ จนถึงปลายปี ต้นปีก็ประกาศเกรด (แสดงว่านักเรียนคนไหนทำมาก ทำบ่อย ก็มีคะแนนนิยมตุนให้เรื่อย ๆ ใช่ไหมครับคุณครูใหญ่ อ้อ .... แล้วท่านใดเผยแพร่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน หรือขยายผล ถ้าเจ๋งมาก มีรางวัลพิเศษครับผม :-[) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: eight ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 05:18:19 AM ไปเจอข้อมูลจากเวปหมอชาวบ้าน มีข้อมูลหน้าสนใจเกี่ยวกับเปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียว ถั่วเขียว อาหารสำหรับหน้าร้อน อากาศร้อนหลังทำงานเหน็ดเหนื่อย กินถั่วเขียวต้มสักชามก็จะรู้สึกชุ่มฉ่ำใจ แก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี ถ้านอนดึกมีอาการร้อนใน หรือตาแดง เจ็บคอ ท้องผูก ถ้าต้มถั่วเขียวกินก็จะทำให้อาการดังกล่าวหายไป เราสามารถเลือกกินได้ทั้งร้อนหรือเย็น หวานหรือจืดก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ชื่อวิทยาศาสตร์ Vigna radiate L. วงศ์ Leguminosae หน้าร้อนผิวหนังมักเป็นผดผื่นคัน ใช้ถั่วเขียว ใบบัว และน้ำตาลทราย ต้มกินน้ำ ก็จะทำให้อาการผดผื่นคันบรรเทาและหายไป หรือจะเอาถั่วเขียวที่ต้มแล้วพอกบริเวณผดผื่นคัน ก็จะทำให้หายเร็วขึ้น หน้าร้อนต้มถั่วเขียวกิน จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เนื่องจากในหน้าร้อน เมตาโบลิซึมของร่างกายสูง ทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียพลังงานไปมาก ถั่วเขียวนอกจากจะสามารถแก้ร้อน ลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ร่างกายสดชื่นและขับปัสสาวะแล้ว ถั่วเขียวยังอุดมไปด้วยโปรตีนกลุ่มวิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น แป้งที่ทำจากถั่วเขียว แก้ร้อนใน ฝี และแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เปลือกหุ้มเมล็ด (สีเขียว) มีสรรพคุณรักษาโรคตาต่างๆ เช่น ตาแดง ตาอักเสบ ถั่วงอกจากถั่วเขียว หรือดอกต้นถั่วเขียว แก้อาการเมาเหล้า ใบถั่วเขียวตำให้แหลกคั้นน้ำ เติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย ทำให้อุ่น แก้กินน้ำ แก้อาการอาเจียนและท้องเดิน สรรพคุณ ถั่วเขียว แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ รักษาฝี เปลือก (สีเขียว) แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ตาสว่าง รักษาตาอักเสบ ถั่วงอก แก้พิษเหล้า ตำรับยา 1. คางทูม (เป็นใหม่) ต้มถั่วเขียว 70 กรัม จนใกล้สุก ใส่แกนกะหล่ำปลีลงไป 2 หัว ต้มอีก 15 นาที กินเฉพาะน้ำ วันละ 2 ครั้ง อาการคางทูมก็จะหาย 2. อาเจียน (จากการดื่มเหล้า) ให้ดื่มน้ำถั่วเขียวพอประมาณ 3. ตาพร่า ตาอักเสบ ต้มถั่วเขียวกินครั้งละ 15-20 กรัม เป็นประจำ สารเคมีที่พบ ในเปลือก (สีเขียว) ของถั่วเขียว มีโปรตีน 79.0 % มีกรด Amino หลายชนิดคือ Aspartic acid 94.42 ม.ก./กรัม Thrconine 24.98 ม.ก./กรัม Serine 41.73 ม.ก./กรัม Glutamic acid 145.77 ม.ก./กรัม Proline 29.84 ม.ก./กรัม Glycine 27.92 ม.ก./กรัม Alanine 32.18 ม.ก./กรัม Valine 40.05 ม.ก./กรัม Cystine 3.78 ม.ก./กรัม Methionine 10.02 ม.ก./กรัม Iso-leucine 33.40 ม.ก./กรัม Leucine 67.02 ม.ก./กรัม Tyrosine 26.42 ม.ก./กรัม Phenylalanine 51.04 ม.ก./กรัม Lysine 52.44 ม.ก./กรัม Histidine 19.26 ม.ก./กรัม Arginine 50.24 ม.ก./กรัม Tryptophan 9.02 ม.ก./กรัม ขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของหมอชาวบ้าน กับเว็บไซต์วิชาการดอทคอม www.doctor.or.th จากข้อมูล สารเคมีที่พบ ในเปลือก (สีเขียว) ของถั่วเขียว มีโปรตีน 79.0 % มีกรด Amino หลายชนิดคือ Aspartic acid 94.42 ม.ก./กรัม Thrconine 24.98 ม.ก./กรัม Serine 41.73 ม.ก./กรัม Glutamic acid 145.77 ม.ก./กรัม Proline 29.84 ม.ก./กรัม Glycine 27.92 ม.ก./กรัม Alanine 32.18 ม.ก./กรัม Valine 40.05 ม.ก./กรัม Cystine 3.78 ม.ก./กรัม Methionine 10.02 ม.ก./กรัม Iso-leucine 33.40 ม.ก./กรัม Leucine 67.02 ม.ก./กรัม Tyrosine 26.42 ม.ก./กรัม Phenylalanine 51.04 ม.ก./กรัม Lysine 52.44 ม.ก./กรัม Histidine 19.26 ม.ก./กรัม Arginine 50.24 ม.ก./กรัม Tryptophan 9.02 ม.ก./กรัม ท่านอาจารย์ tera มีความเห็นว่ากระไรครับ ;D ;) - คุณนพครับ ขอบพระคุณครับ อะไรจะว่องไวปานนั้น - ถ้าเอาไปทำปุ๋ยอินทรีย์ก็น่าเสียดายคุณค่าของเปลือกถั่วเขียว เอ ... หรือเอาไปเลี้ยงหมูดี (หรือเลี้ยงไก่ ?) แต่เอาไปโรยแปลงแล้วไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดก็ดีนะครับ ไนโตรเจนสูงดี - คุณ eight ครับ ถ้าจะทำปุ๋ยอินทรีย์ ก็ต้องมีเศษใบไม้หรือฟางกับมูลสัตว์นะครับ วางเศษพืชเป็นชั้นบาง ๆ ทับด้วยมูลสัตว์ แล้วทับด้วยเปลือกถั่วเขียว รดน้ำ ทำชั้นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ความสูง 1.5 เมตร กองเป็นรูปสามเหลี่ยม ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีค่าไนโตรเจนประมาณ 3-4% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานกำหนดสัก 3 เท่าครับ - ขอบคุณ คุณนพ และ อาจารย์ธีระมากครับ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 06:09:33 AM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง 7.คุณoFFja กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D ท่านสมาชิกสามารถสมัครแข่งหมักปุ๋ย แบบใหม่ ลงชื่อได้เลยนะคะ หมักกองเล็ก กองใหญ่ กองย่อย ได้หมดค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 09:13:57 AM เสียดายไม่ได้เข้าชั้นเรียน เพราะวัสดุฟางได้คลุมโคนยางเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมาใช้ไปหมดแล้ว
คงรอปลายปีค่ะ (http://image.ohozaa.com/i/1bc/cCNr5M.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w62SKUxqDI6UnJUQ) (http://image.ohozaa.com/i/4cf/lrC2W6.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w62TPUwkegpMtS92) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: KRTISAPHON ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 09:37:26 AM ติดตามชมครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: cjaranram ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 09:49:21 AM ไว้เกี่ยวข้าวเสร็จก่อน จะเข้าร่วมโครงการครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 09:57:37 AM (http://image.ohozaa.com/i/1dc/2VPbOC.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6356YBdq63ntj0c)
นี่คือปุ๋ย..ที่หมักใช้เองแบบสะเปะสปะใช้ทั้ง พด.สารพัดพด. รำข้าว กากน้ำตาล EM แกลบ หมักใช้แต่ละครั้งยางก็ชอบนะคะ (http://image.ohozaa.com/i/aba/lcWOVk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w635rTls98EPkAXm) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tong3829 ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 11:11:55 AM ([url]http://image.ohozaa.com/i/1dc/2VPbOC.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w6356YBdq63ntj0c[/url]) นี่คือปุ๋ย..ที่หมักใช้เองแบบสะเปะสปะใช้ทั้ง พด.สารพัดพด. รำข้าว กากน้ำตาล EM แกลบ หมักใช้แต่ละครั้งยางก็ชอบนะคะ ([url]http://image.ohozaa.com/i/aba/lcWOVk.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w635rTls98EPkAXm[/url]) ที่เห็นฝอยๆนั่นรากฝอยยางใช่ไหมครับ แล้วแบบนี้รากเค้าจะลอยไหมครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 11:32:43 AM รากฝอยมันก็ลอยขึ้นมากินปุ๋ยนะ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการล้ม นี่คือเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ยาง 3 ปี 6 เดือน ปลูกในที่ดินลูกรังเกือบล้วนๆ เจ้าของไม่ค่อยมีเวลาดูแลต้องใช้ฟางคลุมกันพวกหญ้าน่ะ (http://image.ohozaa.com/i/129/ENWFSN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w63FiA3y5C2qdKGA) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 11:39:51 AM (http://image.ohozaa.com/i/c10/0v3orT.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w63IcjhjR4uyoA9y)
(http://image.ohozaa.com/i/129/ENWFSN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w63FiA3y5C2qdKG A) สิ่งดีที่ตามมาคือ ที่สวนจะมีใส้เดือนเยอะมาก หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tong3829 ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 12:53:00 PM ขอถาม ต่ออีกนิดนะครับ พี่ใส่ทั้งกระสอบปุ๋ยเลยหรือครับ แบบไม่เทออกมา วางทั้งกระสอบเลย ใช้ฟางคลุม พี่กลัวไฟหมครับ เพราะก็อยากเอามาใช้บ้างแต่กลัวไฟในหน้าแล้ง
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 01:33:12 PM พี่ใส่ทั้งกระสอบเพราะถ้าหว่านรอบๆ หญ้าจะแย่งกันขึ้น..สิ่งไหนยางชอบวัชพืชก็ชอบ
ประภทว่าให้รากยางหากินเอง แต่หน้าแล้งไม่รู้รากฝอยหายไปไหน เพราะกระสอบปุ๋ยก็ขาด พี่ก็กล้วนะเรื่องไฟใหม้..พี่จึงไถกลบร่องยางกันไฟลามได้..แต่ถ้าได้ฝนจะชุ่มตลอดค่ะ พี่ก็ว่ายางที่เห็นก็แลดูสุขภาพดีนะ สำหรับสวนที่ไม่มีคนเฝ้า เจ้าของทำงานอยู่กทม. หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 01:43:40 PM ใส้เดือนก็เริงร่า
(http://image.ohozaa.com/i/d55/F1reHz.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w64nIETX62Vh5O80) นี่คือการหว่านปุ๋ยหมักวัชพืชเพียบ (http://image.ohozaa.com/i/ab3/kEfOKt.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w64nVq8viZ4CmTUA) ต้องเสียเวลาจ้างคนถอน (http://image.ohozaa.com/i/735/8pf3Mg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w64o9BhMEeo6kbzq) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: wirot ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 03:33:22 PM ถามนิดนึงครับ เห็นไส้เดือนของคุณหญ้าฯแล้วนึกถึงตัวเองที่ไปหาซื้อไส้เดือนมาทำปุ๋ย เลยอยากถามอาจารย์ว่าในเมื่อเบดดิ้ง(อาหาร)ของไส้เดือนเป็นขี้วัว ไส้เดือนกินแล้วถ่ายออกมาได้เป็นปุ๋ย เมื่อเทียบกับปุ๋ยหมักของอาจารย์ที่ได้จากขี้วัวผสมฟางแล้ว ขี้ไส้เดือนน่าจะมีแร่ธาตุน้อยกว่าหรืออย่างมากก็เท่ากับปุ๋ยหมัก ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ผมเอาขี้วัวมาทำปุ๋ยหมักไม่ดีกว่าเหรอ เพราะเร็วกว่า แถมยุ่งยากน้อยกว่าด้วย ขี้วัวที่จะเอาให้ไส้เดือนกิน ต้องเอาไปหมักให้หายร้อนก่อนด้วย แต่กองปุ๋ยหมักใช้แบบแห้งๆจากกระสอบได้เลย
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 03:52:05 PM ขั้นตอนถูกต้องไหมอาจารย์ ช่วยชี้แนะด้วย
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 04:00:21 PM ถามนิดนึงครับ เห็นไส้เดือนของคุณหญ้าฯแล้วนึกถึงตัวเองที่ไปหาซื้อไส้เดือนมาทำปุ๋ย เลยอยากถามอาจารย์ว่าในเมื่อเบดดิ้ง(อาหาร)ของไส้เดือนเป็นขี้วัว ไส้เดือนกินแล้วถ่ายออกมาได้เป็นปุ๋ย เมื่อเทียบกับปุ๋ยหมักของอาจารย์ที่ได้จากขี้วัวผสมฟางแล้ว ขี้ไส้เดือนน่าจะมีแร่ธาตุน้อยกว่าหรืออย่างมากก็เท่ากับปุ๋ยหมัก ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ผมเอาขี้วัวมาทำปุ๋ยหมักไม่ดีกว่าเหรอ เพราะเร็วกว่า แถมยุ่งยากน้อยกว่าด้วย ขี้วัวที่จะเอาให้ไส้เดือนกิน ต้องเอาไปหมักให้หายร้อนก่อนด้วย แต่กองปุ๋ยหมักใช้แบบแห้งๆจากกระสอบได้เลย ขออนุญาตร่วมแจมสักเล็กน้อยนะครับ ในมุมมองของผม(ไม่มีข้อมูลทางวิชาการนะครับ ;D )ปุ๋ยขี้ใส้เดือน(เบดดิ้งจากขี้วัว)น่าจะดีกว่าขี้วัวหมัก เพราะในใส้เดือนมีจุลินทรีย์อยู่หลายตัวถ้าจะเปรียบเทียบกัน น่าจะเป็นอาหารที่ปรุงสำเร็จรูปเลยสำหรับพืชที่นำไปใช้ได้เลย(ใส้เดือนเปรียบเป็นแม่ครัว)เมื่อเทียบกับปุ๋ยหมักจากขี้วัวและวัสดุอื่นๆยังไงก็รอฟังความรู้และการชี้แนะจากท่านอาจารย์ tera อีกทีนึงนะครับ ;D เรื่องนี้น่าจะมีการวิจัยกันมาบ้างสำหรับนักศึกษาแม่โจ้นะครับ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าคมปาว ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 04:39:41 PM ใส้เดือนที่เพื่อนสมาชิกเห็นนี้ หลังจากที่ถอนวัชพืชแล้วนะคะ
จะมีอยู่เยอะมาก และใส้เดือนก็ตัวอ้วนด้วย การหมักปุ๋ยใช้ทำให้ดินลูกรังที่เห็น..โปร่ง ใส้เดือนไชดินมีรูเยอะมาก เราไม่เคยคิดซื้อใส้เดือนมาทำปุ๋ยเลย..แต่ใส้เดือนมันชอบอยู่ใต้แกลบชุ่มๆนะคะพี่วิโรจน์ รอให้อาจารย์วิเคราะห์ให้ฟังค่ะ (http://image.ohozaa.com/i/c6f/2Sgwib.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w64QkcxXLsyax6ta) (http://image.ohozaa.com/i/37c/oGh64S.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w65ky4aYGfnGWDvO) ใช้จอบขุดเดินทีไร สับถูกใส้เดือนดิ้นแด่วๆ ทุกที (http://image.ohozaa.com/i/d55/F1reHz.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w64nIETX62Vh5O80) (http://image.ohozaa.com/i/7f9/kVEi1t.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w65jZkg8TgxJpQnS) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tri ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 05:01:13 PM มาติดตามด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: spyman ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 07:17:34 PM สอบถามอีกสัก 1 เรื่องครับ อาจารย์
ในมูลวัว จะประกอบไปด้วยเมล็ดหญ้า ซึ่งเป็นปัญหาหลักเลยของชาวสวน เวลาเราหมักแล้วอุณหภูมิสูง จะช่วยให้เมล็ดหญ้าฝ่อ ไปไหมครับ เพราะเวลาเอา มูลวัว(วัวที่เลี้ยงแบบชาวบ้าน) มาใส่โดยตรง มีแต่คนบ่นครับไม่เกิน 2 อาทิตย์หญ้าเต็มสวน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 08:14:02 PM ถามนิดนึงครับ เห็นไส้เดือนของคุณหญ้าฯแล้วนึกถึงตัวเองที่ไปหาซื้อไส้เดือนมาทำปุ๋ย เลยอยากถามอาจารย์ว่าในเมื่อเบดดิ้ง(อาหาร)ของไส้เดือนเป็นขี้วัว ไส้เดือนกินแล้วถ่ายออกมาได้เป็นปุ๋ย เมื่อเทียบกับปุ๋ยหมักของอาจารย์ที่ได้จากขี้วัวผสมฟางแล้ว ขี้ไส้เดือนน่าจะมีแร่ธาตุน้อยกว่าหรืออย่างมากก็เท่ากับปุ๋ยหมัก ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ผมเอาขี้วัวมาทำปุ๋ยหมักไม่ดีกว่าเหรอ เพราะเร็วกว่า แถมยุ่งยากน้อยกว่าด้วย ขี้วัวที่จะเอาให้ไส้เดือนกิน ต้องเอาไปหมักให้หายร้อนก่อนด้วย แต่กองปุ๋ยหมักใช้แบบแห้งๆจากกระสอบได้เลย - ผมคิดว่าข้อแตกต่างของสองวิธีคือ วัตถุดิบในการทำปุ๋ยหมักกับการทำปุ๋ยไส้เดือนครับ การทำปุ๋ยหมักเหมาะกับเศษใบไม้ในสวนหรือฟางจากนา แต่ปุ๋ยไส้เดือนเหมาะกับเศษอาหาร เศษผัก - คุณภาพอาจไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าเราอยากได้ปุ๋ยสำหรับนา 20 ไร่ ผมคิดว่าปุ๋ยไส้เดือนก็ไม่เหมาะเพราะจะได้ปริมาณน้อย แต่เราก็สามารถทำปุ๋ยทั้งสองแบบในเวลาเดียวกันได้ เพราะมันช่วยกันได้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 08:20:29 PM สอบถามอีกสัก 1 เรื่องครับ อาจารย์ ในมูลวัว จะประกอบไปด้วยเมล็ดหญ้า ซึ่งเป็นปัญหาหลักเลยของชาวสวน เวลาเราหมักแล้วอุณหภูมิสูง จะช่วยให้เมล็ดหญ้าฝ่อ ไปไหมครับ เพราะเวลาเอา มูลวัว(วัวที่เลี้ยงแบบชาวบ้าน) มาใส่โดยตรง มีแต่คนบ่นครับไม่เกิน 2 อาทิตย์หญ้าเต็มสวน - ปกติถึงไม่ใส่ปุ๋ยอะไรหญ้าก็มาอยู่แล้วครับ เม็ดหญ้ามันปลิวมากับลม - ถ้าดินดี หญ้าก็จะงามด้วย เกษตรกรอินทรีย์ส่วนใหญ่ก็เลยถากหญ้าเอาไปทำปุ๋ยซะเลย - ในกองปุ๋ยวิธีนี้ อุณหภูมิจะขึ้นสูง เม็ดหญ้าบางส่วนจะฝ่อครับ ก็เหลือบ้างบางส่วนที่อาจไปงอกในสวน - เป็นธรรมดาครับ ต้องแลกคนละหมัด พอดินสวนดีหญ้าก็จะงามด้วย ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าอย่าไปใช้ยาฆ่าหญ้านะครับ นี่เป็นตัวการสำคัญในการทำลายไส้เดือนกับจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินเลยครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: jukgree ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 08:26:56 PM อาจารย์ครับ ผมรอฟังเรื่องเล่าสตรอเบอรี่อยู่นะครับ พอดีว่าปีนี้จะทดลองปลูกสตรอเบอรี่สัก 1 งาน ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี อย่าได้มาแตะต้องผมไม่ให้เข้าสวนผม ;D อาจารย์พอมีประสบการณ์การปลูกสตรอเบอรี่อินทรีย์บ้างมั้ยครับและเกษตรกรปลูกที่ไหนกันบ้างครับที่ปลูกแบบปลอดสารจริงๆ จะได้ไปศึกษาครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 09:01:51 PM สอบถามอีกสัก 1 เรื่องครับ อาจารย์ ในมูลวัว จะประกอบไปด้วยเมล็ดหญ้า ซึ่งเป็นปัญหาหลักเลยของชาวสวน เวลาเราหมักแล้วอุณหภูมิสูง จะช่วยให้เมล็ดหญ้าฝ่อ ไปไหมครับ เพราะเวลาเอา มูลวัว(วัวที่เลี้ยงแบบชาวบ้าน) มาใส่โดยตรง มีแต่คนบ่นครับไม่เกิน 2 อาทิตย์หญ้าเต็มสวน - ปกติถึงไม่ใส่ปุ๋ยอะไรหญ้าก็มาอยู่แล้วครับ เม็ดหญ้ามันปลิวมากับลม - ถ้าดินดี หญ้าก็จะงามด้วย เกษตรกรอินทรีย์ส่วนใหญ่ก็เลยถากหญ้าเอาไปทำปุ๋ยซะเลย - ในกองปุ๋ยวิธีนี้ อุณหภูมิจะขึ้นสูง เม็ดหญ้าบางส่วนจะฝ่อครับ ก็เหลือบ้างบางส่วนที่อาจไปงอกในสวน - เป็นธรรมดาครับ ต้องแลกคนละหมัด พอดินสวนดีหญ้าก็จะงามด้วย ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าอย่าไปใช้ยาฆ่าหญ้านะครับ นี่เป็นตัวการสำคัญในการทำลายไส้เดือนกับจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินเลยครับ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: naturefarm ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 10:10:02 PM ต้องขอบคุณอาจารย์มากนะครับ ที่ถ่ายทอดความรู้ให้ครับ ผมว่าวิธีการทำปุ๋ยหมักแบบไม่ต้องกลับกอง ของอาจารย์เป็นวิธี่ที่ง่ายสุด เป็นวิธีธรรมดาๆ ธรรมชาติที่สุด เอ...แต่ แปลก ทำไมไม่ค่อยมีคนทำ เพราะมัวแต่ไปคิดแต่สูตรพิเศษ สูตรพิสดาร สูตรผีบอก เลยลืมสูตรง่ายๆ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 25, 2012, 10:24:36 PM ต้องขอบคุณอาจารย์มากนะครับ ที่ถ่ายทอดความรู้ให้ครับ ผมว่าวิธีการทำปุ๋ยหมักแบบไม่ต้องกลับกอง ของอาจารย์เป็นวิธี่ที่ง่ายสุด เป็นวิธีธรรมดาๆ ธรรมชาติที่สุด เอ...แต่ แปลก ทำไมไม่ค่อยมีคนทำ เพราะมัวแต่ไปคิดแต่สูตรพิเศษ สูตรพิสดาร สูตรผีบอก เลยลืมสูตรง่ายๆ สูตรการหมักปุ๋ยแบบของท่านอาจารย์ tera เป็นสูตรของคนขยันครับ ถ้าคนที่ขี้เกียจมักง่าย เขาไม่ค่อยอยากทำหรอกเพราะไม่สะดวกและใช้เวลานานครับ ยิ่งหลายปีที่ผ่านมา พวกเราถูกปลูกฝังกันให้ใช้แต่ปุ๋ยเคมีและสารเคมี กันจนหลงลืมภูมิปัญญาการให้ปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์กันไปแล้วครับ :-\ :-\ ::) ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 06:40:21 AM ต้องขอบคุณอาจารย์มากนะครับ ที่ถ่ายทอดความรู้ให้ครับ ผมว่าวิธีการทำปุ๋ยหมักแบบไม่ต้องกลับกอง ของอาจารย์เป็นวิธี่ที่ง่ายสุด เป็นวิธีธรรมดาๆ ธรรมชาติที่สุด เอ...แต่ แปลก ทำไมไม่ค่อยมีคนทำ เพราะมัวแต่ไปคิดแต่สูตรพิเศษ สูตรพิสดาร สูตรผีบอก เลยลืมสูตรง่ายๆ สูตรการหมักปุ๋ยแบบของท่านอาจารย์ tera เป็นสูตรของคนขยันครับ ถ้าคนที่ขี้เกียจมักง่าย เขาไม่ค่อยอยากทำหรอกเพราะไม่สะดวกและใช้เวลานานครับ ยิ่งหลายปีที่ผ่านมา พวกเราถูกปลูกฝังกันให้ใช้แต่ปุ๋ยเคมีและสารเคมี กันจนหลงลืมภูมิปัญญาการให้ปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์กันไปแล้วครับ :-\ :-\ ::) ;) สูตรคนขยัน :D :D :D :Dพูดถูกจริงๆค่ะคุณ นพ พูดถึงการทำเกษตรผสมผสาน นี่ถ้าไม่ขยันจริงๆยากจะสำเร็จนะคะเท่าที่ไปดูงานมา นอกจากคนทำจะขยันต้องมี ศิลธรรมประจำใจ มีศิล5ปลอดอบายมุขอีกต่ะหาก และต้องมีคุณธรรม และ มีความพอเพียงในตัวและพอใจในรายได้ประจำวันที่ได้รับแต่โดยรวมๆรายได้ก็สามารถเลี้ยงครอบครัวสบายๆ อย่างว่าไม่มีความจนในหมู่คนขยัน นอกจากขยันต้องหมั่นหาประสบการณ์ มีเยอะเหมือนกันนะคะที่จะทำสำเร็จ เกษตรผสมผสาน ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 06:57:11 AM อาจารย์ครับ ผมรอฟังเรื่องเล่าสตรอเบอรี่อยู่นะครับ พอดีว่าปีนี้จะทดลองปลูกสตรอเบอรี่สัก 1 งาน ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี อย่าได้มาแตะต้องผมไม่ให้เข้าสวนผม ;D อาจารย์พอมีประสบการณ์การปลูกสตรอเบอรี่อินทรีย์บ้างมั้ยครับและเกษตรกรปลูกที่ไหนกันบ้างครับที่ปลูกแบบปลอดสารจริงๆ จะได้ไปศึกษาครับ - เรื่องสตรอเบอรี่นะครับ มีเกษตรกรสตรอเบอรี่อินทรีย์ที่บ้านบ่อแก้ว ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง เชียงใหม่ ชื่อพี่วิทยา นาระต๊ะ ครับผม เจ้าของสวนดอยแก้ว ศิษย์เก่าแม่โจ้ มีที่พักโฮมสเตย์ด้วยเผื่อไปกินนอนที่นั่น บ้านแกเป็นศูนย์เกษตรพอเพียงครับผม ไปเยี่ยมตอนนี้เหมาะเลย จะได้หาเตรียมไหลไปในตัว ลองสืบค้นชื่อแกจากกูเกิ้ลก่อนก็ได้ครับ - เรื่องตามท้องเรื่องคือ มีวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ ธกส.นำจดหมายมาให้ผมที่ทำงาน เนื้อหามีผู้ขอให้ผมไปช่วยเกษตรกรบ้านบ่อแก้ว เพราะมีเกษตรกรถวายฏีกาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ร้องเรียนว่ามีโรคเชื้อราแอนแทรกโนส ระบาด ทำให้เสียหายขาดทุน ผมก็เลยคุยสอบถามกับทาง ธกส.สะเมิง - คุณสุวิทย์ เจ้าหน้าที่สินเชื่อ ธกส.สะเมิง (ตอนนี้ย้ายไป อ.แม่แจ่มแล้ว) ก็เล่ารายละเอียดให้ฟัง ก็เลยทราบว่าก็ได้มี รศ.ดร.นุชนาฎ ผอ.โรคพืชโครงการหลวงลงพื้นที่ช่วยเกษตรกรแล้ว ช่วยด้านวิธีการใช้ยาปราบศัตรูพืชและการจัดการแปลงที่ดี ถามไปถามมา พี่สุวิทย์แกหลุดมาคำนึงว่าพีเอชดินเท่ากับ 4 เลยทราบว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคแอนแทรกโนส เพราะเชื้อราพวกนี้รวมทั้งโรครากเน่าอื่น ชอบความเป็นกรดของดิน - ถ้าอย่างนั้นคงต้องแก้ปัญหาที่ดินก่อน เพราะถ้าเกษตรกรปรับปรุงดินให้เป็นกลางได้ โรคพวกนี้ไม่ชอบครับ แถมจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินที่เพิ่มมากขึ้นจากการที่เรานำสารอาหารและอินทรีย์วัตถุไปให้ จะเพิ่มปริมาณมากจนไปแย่งอาหารที่ทำกินของพวกโรคร้าย เป็นการจัดการดินแบบชีววิธี เสริมกับการจัดการแปลงของ ดร.นุชนาฏได้ - ก็เลยนัดแนะขอให้มีการจัดฝึกอบรมเกษตรกรเรื่องการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์เพื่อต้านโรคแอนแทรกโนส มีเกษตรกรเข้าฟัง 40 คน เสร็จแล้วก็ลงมือปฏิบัติขึ้นกองปุ๋ย (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/1_zpsac21ff27.jpg) - คุณวิทยา เกษตรกรสตรอเบอรี่อินทรีย์ครับ (http://image.ohozaa.com/i/7ae/jGwwng.jpg) - คุณสุวิทย์ครับผม (http://image.ohozaa.com/i/4f0/1aA6PB.jpg) - คุณถนัด ผู้จัดการ ธกส.สะเมิง (http://image.ohozaa.com/i/3a3/LBZRmA.jpg) - อบรมเสร็จก็ฝึกปฏิบัติการ ขึ้นกองปุ๋ยครับ คุณพี่วิทยารับปากจะดูแลความชื้นให้หลังการอบรม (http://image.ohozaa.com/i/462/GBDdxO.jpg) - ลักษณะโรคแอนแทรกโนสที่ไหลสตรอครับ (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/4_zps892c97f5.jpg) - แอนแทรกโนสที่ใบครับ พอเป็นโรค เชื้อก็เข้าที่ผล ก็จบครับ เจ๊ง (http://image.ohozaa.com/i/385/LE0nxe.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 07:19:34 AM - เป็นที่น่าสังเกตว่า แปลงของพี่วิทยาก็ติดโรค แต่การระบาดน้อย ก็ยังได้ผลผลิตสตรออยู่ นักท่องเที่ยวจะไปเก็บสตรอจากสวนแกและซื้อในราคากิโลกรัมละ 250 บาทครับ สามารถกินได้ทันทีไม่ต้องล้าง ใครจะไปให้ไปหน้าหนาวนะครับ เตรียมเสื้อผ้าหนา ๆ อุณหภูมิตอนเช้าประมาณ 3-5 องศาได้ ส่วนสวนของรายอื่นไม่ได้สตรอเลย
- พอได้พูดคุยกับ ธกส.สะเมิง ก็ได้ความรู้เพิ่ม ผมถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ ธกส.ถึงสนใจและมีความรู้ด้านเกษตรมากมาย ผู้จัดการถนัดบอกว่ารู้ไหมครับ เจ้าหน้าที่ ธกส.ไม่ได้เหมือนเจ้าหน้าที่ธนาคารอื่นที่ทำงานเฉพาะบนโต๊ะไม่ต้องออกไปไหน แต่เจ้าหน้าที่ ธกส.ทุกคนต้องรู้เรื่องของเกษตรกร ต้องทำงานสองด้าน สามด้าน ลงพื้นที่เพื่อช่วยเกษตรกร แต่ไม่มีใครรู้ ที่ผมไปอบรมที่สะเมิงนี่ ธกส.ก็ออกค่าใช้จ่ายให้ ค่าอาหารอบรม ค่าวัสดุกองปุ๋ย ก็ต้องขอบคุณ ธกส.นะครับ ที่ทำงานปิดทองหลังพระอย่างนี้ (พูดถึงปิดทองหลังพระ ช่วยเตือนด้วยนะครับ เพราะมีเรื่องต้องขยาย .... :-X) - ในการอบรม ผมขอให้เกษตรกรไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า ปลูกแค่ในพื้นที่เท่าที่มีกำลังและเอาหญ้าทัน ทำปุ๋ยอินทรีย์ในแปลง ส่วนการจัดการแปลงก็ขอให้ทำตามที่ ดร.นุชนาฏสอน (เด็ดก้านติดโรคไปเผาไกล ๆ เปลี่ยนหรือล้างรองเท้าก่อนเข้าแปลง ใช้สารเคมีตามที่ท่านสอน) - พออบรมเสร็จ ก็สรุปว่า ถ้าใครสนใจจะทำปุ๋ยแบบนี้ในแปลงเพื่อลดเชื้อโรค โดยค่าขี้วัวทาง ธกส.จะจ่ายให้หมด ให้ยกมือขึ้น ปรากฏว่ามีคนยกมือแค่ 1 คน คือพี่วิทยาครับ >:( - เอาไหม่ เกลี้ยกล่อมแล้ว เกลี้ยกล่อมอีก พูดอ้อมไปอ้อมมาจนไปถึงการกลับมามีเงินมีทองจากการปลอดโรค ไม่ต้องเจ๊งอย่างที่เป็นอยู่ ขอเพียงปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกสตรอเสียใหม่ ส่วนผู้จัดการ ธกส.ก็บอกว่าผลผลิตที่ได้ แกจะรับซื้อหมด เอ้า ... ใครจะเข้าร่วมโครงการ ยกมือขึ้น - ผลปรากฏว่า มีคนยกทั้งหมด 5 คน จาก 40 คนครับ >:( >:( >:( - นี่คือเกษตรกรไทยใจเหี้ยมหาญครับ >:( >:( ขนาดที่ว่ามีคนมาสอน มีตัวอย่างความสำเร็จของพี่วิทยาให้ดู มีคนจ่ายค่าขี้วัวให้ ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเลย อย่างนี้ที่เรียกว่าดวงตายังไม่เห็นธรรมไงครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 08:01:18 AM - ตอนไปอบรมนั่นเดือนกันยา 53 ครับ
- พอตุลา 53 ก็ขึ้นไปตามงาน ก็มีคุณสุวิทย์รูปหล่อมารับและพาไปครับ - พอไปถึงก็ไปเช็คกองปุ๋ยก่อน กองปุ๋ยก็ยุบตัวดี แต่ความชื้นบางจุดก็ไม่ถึง แห้งไปหน่อย ทำให้วัสดุไม่เปื่อย ผมใช้ดัชนีชี้วัดอย่างนี้ครับ ถ้าบริเวณใดมีเชื้อราสีขาวเกิดขึ้นแสดงว่าบริเวณนั้นผ่านการขาดความชื้นมาก่อน เพราะเชื้อราสีขาวจะชอบบริเวณที่ความชื้นต่ำ แต่เชื้อราสีขาวก็เป็นพวกดีนะครับ ช่วยย่อยสลายด้วยเหมือนกัน (บางคนไปซื้อปุ๋ยอินทรีย์จากโรงงานที่ยังไม่แห้งดี พอขนกลับถึงบ้านพบว่ามีเชื้อราสีขาวขึ้นก็ดีใจใหญ่ว่าปุ๋ยมีชีวิต ก็...แล้วแต่จะคิดนะครับ ความจริงมาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ของประเทศระบุชัดว่าความชื้นที่ซื้อขายได้ต้องไม่เกิน 30%) (http://image.ohozaa.com/i/d0b/v69CRn.jpg) - ไปดูแปลงของพี่วิทยา ดินของแกดำและร่วน รากฝอยสีขาวแสดงถึงสุขภาพที่ดี สังเกตนะครับ ใบสตรอของแกพรุนไปหมด แต่ขอให้ได้สตรอที่นักท่องเที่ยวมาเก็บได้ ก็โอเคนะครับ เงินทั้งนั้น (http://image.ohozaa.com/i/1d4/Z4e0H5.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/4ec/RYAAJH.jpg) - เสร็จแล้วก็ประชุมกับเกษตรกร 5 คนในโครงการ ก่อนจะเข้าดูพื้นที่ (http://image.ohozaa.com/i/7b6/P7b3Zy.jpg) - แปลงแรกครับ ของพี่บุญเรือง ปลูก 7 ไร่ ปีนี้คาดว่าจะติดโรคอีกแต่ก็ต้องลองเสี่ยงอีกปี ปีนี้ปรับตัวยังไม่ทันตามที่อบรม ยังไม่ได้ทำปุ๋ย แถมสารภาพว่าไม่สามารถเก็บเด็ดกิ่งใบที่ติดโรคไปทำลายตามที่ ดร.นุชนาฏสอน เพราะพื้นที่มากไป และยังอดไม่ได้ที่จะใช้ยาฆ่าหญ้าเพราะเอาไม่ทัน (http://image.ohozaa.com/i/5ce/rfZxct.jpg) - รายนี้หนักหน่อยของลุงจูม ดินไม่ดี เพราะไปเอาที่นามาปลูกสตรอ โรคในแปลงเตรียมไหลก็มากแต่เมียแกยังเสียดายอยากเลือกไหลดี ๆ มาปลูก สังเกตนะครับว่ารากฝอยสุขภาพไม่ดีเลยเพราะโรค แล้วเห็นดินเป็นอย่างไรครับเมื่อเทียบกับของพี่วิทยา งานนี้เลยให้แกไปเบิกปุ๋ยที่ฐานเรียนรู้ของผม 10 กระสอบ เอามาแก้ไขดินด่วน (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/11_zps5cc04adb.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/512/XPMkhq.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/4dc/eVIPUp.jpg) - แถมยังมีโรคใหม่ที่ใบจะฝ่อ ลีบ และแข็ง ไม่ยอมเจริญเติบโตอีก จากสวนของพี่ประพันธ์ (http://image.ohozaa.com/i/717/4bXA1v.jpg) - ขากลับจอดรถถ่ายวิวสวย ๆ ครับ (http://image.ohozaa.com/i/3e1/MMCd7.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 08:24:27 AM - งานนี้ถ้าวิเคราะห์จะพบว่า
- สตรอเบอรี่มีโรคเยอะมาก โดนฝนก็จะเป็นเชื้อรา มดก็ชอบ ทากก็เอา ราแป้งก็มา แอนแทรกโนสอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ยาและสารเคมีจะใช้เยอะมาก ต้นทุนสูง แต่รายได้ก็ดีปีละหลายแสน หากท่านสมาชิกจะทานสตรอก็ให้เลือกสวนด้วยนะครับ...พี่น้อง (มีข่าวลือว่ามีโรงงานใหญ่ที่รับซื้อสตรอไปทำแยมขาย เขาจะฟอกสีสตรอให้เป็นสีขาวเสียก่อน แล้วค่อยเติมสีเข้าไปให้เป็นสีแดง เพราะสตรอเวลาทำแยมนี่จะเป็นสีออกดำคล้ำ ๆ ไม่สวย ไม่เชื่อลองไปดูแยมสตรอของนอกในห้างดูสิครับ สีไม่สวยเลย บรื้อออออ.....) - การเพาะปลูกพื้นที่มาก ๆ ทำให้เกษตรกรต้องหันไปพึ่งยาปราบศัตรูพืชมาก เมื่อผนวกกับการเร่งด้วยปุ๋ยเคมี เมื่อวันเวลาผ่านไปเป็นสิบปีก็ส่งผลให้ดินเป็นกรด หมดความอุดมสมบูรณ์ ไม่มีอินทรีย์วัตถุ โรคระบาดจึงชอบและอยู่ได้ดี ในขณะที่สวนอินทรีย์กลับไม่ได้รับผลกระทบ (ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ยังมีกำไรเหลือเฟือ) - เคยดูในทีวี สถานีเกษตรหลวงอ่างขางบังคับให้เกษตรกรในโครงการปลูกสตรอได้คนละไม่เกิน 1 ไร่ครับผม - ขนาดที่ว่ามีสวนเปรียบเทียบให้ดูแล้ว เกษตรกรก็ไม่ยังสามารถบังคับตนเองให้ปรับเปลี่ยนวิถีได้ ยังคงหวังพึ่งยาและสารเคมี ว่าจะช่วยแก้ได้ แต่ก็ไร้ผล ก็ต้องขาดทุนมาตลอดสามปี สุดท้ายก็ต้องไปกู้ ธกส.เพิ่ม อันนี้พูดถึงเกษตรกรในโครงการ 5 คนนะครับ อีก 35 คนที่ผ่านการอบรมจะเป็นยังไง ใครเดาได้บ้างครับ - สองสามปีมานี้ สตรอเบอรี่จากบ่อแก้ว สะเมิง ที่เคยผลิตได้มากที่สุด ก็เลยไม่มีผลิตผลออกมา ราคาในท้องตลาดก็เลยสูง พอ ๆ กับของต่างประเทศ - ค่าพีเอชดินเท่ากับ 4 คล้ายกับของสวนส้มฝางที่ประสบปัญหาโรครากเน่า สองแห่งนี่มีความคล้ายกันอย่างไรบ้างครับ 1. ปลูกพื้นที่มากเกินกำลังเหมือนกัน เคยได้กำไรมาก ๆ เหมือนกัน ตอนขาดทุนก็ไม่เหลืออะไรเหมือนกัน เงินหายไปไหนหมดก็ไม่รุ๊ 2. ใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าหญ้าอย่างหนักหน่วงเหมือนกัน 3. ไม่เคยบำรุงดินด้วยอินทรีย์วัตถุหรือปุ๋ยอินทรีย์ ไม่เคยมีใครทำปุ๋ยอินทรีย์เองด้วยซ้ำ 4. เมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ก็ยังดันทุรังแก้ด้วยวิธีเดิม แล้วมันจะแก้ได้ยังงาย ? ? ? :-\ 5. กล่าวโดยรวมแล้ว ก็คือ ความไม่ยั่งยืน ที่มีสาเหตมาจากความไม่พอเพียง หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 09:13:15 AM - เดือนธันวา 53 ผมก็ขึ้นไปตามงานอีกครั้ง สวนของพี่วิทยาที่ทำอินทรีย์ก็เริ่มเก็บสตรอได้แล้ว พี่แกงานล้นมือเพราะนักท่องเที่ยวมาตลอดเวลา จนไม่มีเวลาเอาน้ำหมักขี้หมูมาใส่แปลงเพราะกลัวนักท่องเที่ยวจะเหม็น
(http://image.ohozaa.com/i/4d2/KQXmRn.jpg) - โรงปลูกสตรอของพี่เขา ทำเสาสูงเพื่อป้องกันมดและทาก และนักท่องเที่ยวจะได้เก็บง่าย ๆ และหลังคายังช่วยเรื่องป้องกันเชื้อราที่ชอบมาหลังใบโดนน้ำฝน (http://image.ohozaa.com/i/599/7DyBQ1.jpg) - ทำอินทรีย์ ใบเป็นรู ดูไม่เท่ แต่ได้กำไรครับพี่น้อง 8) (http://image.ohozaa.com/i/db4/WZ5Yr8.jpg) - แกปลูกสตรอในถุงขาวด้วย เพื่อลดปัญหาเชื้อโรคในดิน (http://image.ohozaa.com/i/116/ORtKIW.jpg) - กองปุ๋ยที่ ธกส.ให้ขี้วัว 300 กระสอบกับเกษตรกรในโครงการ ได้ปุ๋ยมาก็จะแบ่งกันใช้ครับ (http://image.ohozaa.com/i/367/42plG9.jpg) - คราวนี้ปุ๋ยเปื่อยย่อยดีครับ (http://image.ohozaa.com/i/1d8/jblIc9.jpg) - พี่แกเลี้ยงหมูหลุมด้วย ได้ปุ๋ยจากหมูหลุมใช้ด้วย กลิ่นไม่มีเลยครับผม แกเล่าว่าช่วงคริสมาสแกจะแต่งตัวลูกหมูให้เป็นซานต้า แล้วให้เดินต้อนรับนักท่องเที่ยว ฮิฮิ (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/7_zps44fc6541.jpg) - ไปเยี่ยมแปลงของพี่บุญเรืองกับพี่จูม สองรายนี้หมดหวัง เพราะไม่ได้สตรอเลย ส่วนแปลงของพี่ประพันธ์และพี่ดำรงค์สองพี่น้องสองแปลง พี่เขาดูแลแปลงดี แถมเปลี่ยนไหลเป็นพันธุ์ 80 (ที่ปกติเกษตรกรไม่ค่อยชอบ เพราะขนส่งไม่ค่อยได้ มักจะช้ำง่าย) ทำให้ได้ผลผลิตออกมาบ้าง ในรูปเป็นแปลงของพี่ดำรงค์ครับ (http://image.ohozaa.com/i/d52/znRuTV.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/509/XOW1M.jpg) - พอดีฝนจะตก ก็เลยเห็นเกษตรกรอื่นรีบวิ่งแบกถังบอโดจะไปฉีดยาป้องกันโรคเชื้อราถ้าใบโดนฝน เห็นว่ายากระป๋องละ 350 บาท เฮ้อ... :-\ (http://image.ohozaa.com/i/70e/tllfjY.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/26a/z0dKsZ.jpg) - แต่ก็ยังมีเรื่องให้ปลื้มใจครับ เกษตรกรสองคนนี้เขาทำปุ๋ยด้วยครับจากการที่ไปอบรม แล้วเอาไปใช้ในแปลง กองอาจจะไม่ได้ขนาดตามที่สอนแต่ก็ได้ปุ๋ย เย้ ......... :D ก็ขอให้โชคดีนะครับ (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/15_zps37ee631c.jpg) - อันนี้เป็นปุ๋ยของแกที่เหลืออยู่ในกระสอบครับ (http://image.ohozaa.com/i/d96/SsixXj.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 09:27:44 AM - ปี 54 ไม่ได้ขึ้นไปสะเมิงเลย เพราะเกิดอุบัติเหตุหกล้ม กระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ ไปทิ่มปอด หมอเลยเจาะปอดเอาลมและเลือดออก อยู่ รพ.ได้อาทิตย์นึง กลับไปนอนเลียแผลที่บ้านอีกเดือน ต้องนอนโดยไม่ได้พลิกตัว พลิกไม่ได้ครับ เจ็บ :(
- เรื่องนี้ต้องขยาย ช่วยเตือนด้วยนะครับ หลายเรื่องแล้ว หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 09:40:06 AM ขอคั่นเวลาอาจารย์ นะคะ ขอปรบมือให้การเก็บรายละเอียดการเกษตรของอาจารย์ ช่วยได้มาก ในการนำเสนอ โน้มน้าว เพื่อนสมาชิกที่สนใจแนวทางอินทรีย์ เพราะเกษตกรเรา สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่าลงมือทำ ขอบคุณอาจารย์ที่ผ่านมาพบ เวปเกษตรพอเพียง ที่ทีมงานต้องการคนที่รู้จริงเรื่องเกษตรเรื่องการหมักปุ๋ย อาจารย์คือผู้เสียสละเวลามานั่งพิมพ์มากมายและลำดับภาพได้น่าติดตามหัวใจอาจารย์คือผู้ให้แท้จริง......คนอย่างนี้สิน่ากราบและประเทศไทยควรมีนักวิชาการที่เสียสละแบบอาจารย์มากๆ เพื่อจะได้พัฒนาเกษตรกรไทยเราให้ดวงตาได้เห็นธรรม ;D ;D ;D ;D
กระทู้นี้ สุดยอดที่สุดในรอบปี ค่ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: maprang ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 09:47:59 AM ขอคั่นเวลาอาจารย์ นะคะ ขอปรบมือให้การเก็บรายละเอียดการเกษตรของอาจารย์ ช่วยได้มาก ในการนำเสนอ โน้มน้าว เพื่อนสมาชิกที่สนใจแนวทางอินทรีย์ เพราะเกษตกรเรา สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่าลงมือทำ ขอบคุณอาจารย์ที่ผ่านมาพบ เวปเกษตรพอเพียง ที่ทีมงานต้องการคนที่รู้จริงเรื่องเกษตรเรื่องการหมักปุ๋ย อาจารย์คือผู้เสียสละเวลามานั่งพิมพ์มากมายและลำดับภาพได้น่าติดตามหัวใจอาจารย์คือผู้ให้แท้จริง......คนอย่างนี้สิน่ากราบและประเทศไทยควรมีนักวิชาการที่เสียสละแบบอาจารย์มากๆ เพื่อจะได้พัฒนาเกษตรกรไทยเราให้ดวงตาได้เห็นธรรม ;D ;D ;D ;D กระทู้นี้ สุดยอดที่สุดในรอบปี ค่ะ ;D เห็นด้วยที่สุดครับ .. 8) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 10:34:57 AM - แต่อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิ.ย. 54 ก็ได้มีการประชุมหารือระหว่างทีม ดร.นุชนาฏ ธกส.และเกษตรกร เพื่อหาแนวทางสำหรับการเตรียมไหลและการปลูกในเดือนกันยา สรุปว่าแนวทางการแก้ไขปัญหามีคร่าว ๆ ดังนี้
1. เกษตรกรต้องมีการจัดการที่ดีในแปลงตามที่ท่านสอน ใช้สารและยาเคมีตามที่กำหนด 2. นำดินใหม่จากข้างนอกมาเข้าแปลงถ้าทำได้เพื่อลดเชื้อราในดินเดิม หรืออาจปลูกในถุงพลาสติกขาวเหมือนพี่วิทยาบนพื้นดินที่ปูทับด้วยผ้าพลาสติก 3. ธกส.จะให้กู้เงินถ้าเกษตรกรต้องการโครงหลังคาคลุมป้องกันฝน 4. ให้ใช้ไหลจากแหล่งอื่นหรือแหล่งที่แน่ใจว่าต้นแม่ไม่เป็นเชื้อรา 5. ธกส.จะสนับสนุนงบประมาณสำหรับการเตรียมไหลด้วยวิธีเพาะเนื้อเยื่อ หรือทิชชูคัลเจอร์ 6. เกษตรกรควรลดพื้นที่ให้เหลือพอที่จะจัดการได้สะดวก จะได้ลดการใช้ยาฆ่าหญ้า หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 11:21:26 AM - ในเดือนมกรา 55 พอเริ่มซ่าได้ ก็ออกพื้นที่ ก็พบว่าเกษตรกร 5 รายในโครงการประสบความสำเร็จ โรคไม่มี (แต่เริ่มเป็นราแป้ง ...เฮ้อ)
- ปลูกสตรอในถุงพลาสติกขาว ปูพลาสติกบนดิน มีโครงหลังคากันฝน ตอนหลังเกษตรกรเอาโครงนี้เป็นที่ขยายพันธุ์ พบว่า เกษตรกรดูแลหญ้าและจัดการแปลงได้ดีขึ้น (http://image.ohozaa.com/i/da9/gp0YJ.jpg) - อาคารนี้ ธกส.จัดงบสำหรับเป็นที่เพาะขยายพันธุ์สตรอแบบเลี้ยงเนื้อเยื่อ (เราก็กลัวจังว่าจะล้มเหลว เพราะรู้ดีว่าการป้องกันไม่ให้มีเชื้อแปลกปลอมในขั้นตอนการเลี้ยงเนื้อเยื่อนั้นทำได้ยากมาก ต้องปลอดเชื้อจริง ๆ) (http://image.ohozaa.com/i/103/xNZYxx.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/cd4/BkIYqI.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/626/wcSJ5w.jpg) - พี่บุญเรืองเริ่มทำปุ๋ยแล้ว แกรีบบอกว่าผ้าที่คลุมนั้นไม่ได้ผิดวิธี เป็นเพราะฝนเพิ่งตกตะกี้น่ะครับ แกกลัวว่าถ้าเปียกฝนไปแล้วเดี๋ยวปุ๋ยที่แห้งพร้อมใช้จะกลับมาเปียกอีก ก็แล้วไป ! (ดูเนื้อปุ๋ยของแกสิครับ) (http://image.ohozaa.com/i/1ed/BssjKy.jpg) - อันนี้เป็นแปลงของพี่ดำรงค์ครับ ต้องบอกว่าสุดยอด แกดูแลได้ดีตามที่ ดร.นุชนาฏต้องการ ตัวพี่ดำรงค์แกเองก็ยอมรับว่าฝืนใจทำตามเหล่าอาจารย์บอกนั้น ตอนนี้ต้องยอมรับว่าได้ผลดีจริง ปีนี้แกทำแค่ 5 ไร่จากเดิมทำ 10 ไร่ตามที่แนะนำทำให้ดูแลแปลงได้ง่ายขึ้น ต้นทุนลดลงมาก ปีนี้แกบอกว่าคงได้หลายแสนอยู่หลังจากที่ไม่ได้มา 3 ปีแล้ว (ถ้าดูดี ๆ จะเห็นแกปลูกต้นหอมกระเทียมในแปลงด้วย เห็นว่าเมียแกเป็นห่วงว่าปีนี้จะไม่มีรายได้ ก็เลยคิดว่าอย่างน้อยก็ได้ขายต้นหอมขายกระเทียม! ) (http://image.ohozaa.com/i/747/F1crPs.jpg) - ปลูกสตรอเบอรี่น้ำต้องถึงครับ (http://image.ohozaa.com/i/2a3/RluWHF.jpg) - แกทำกองปุ๋ยในแปลงเหมือนตามที่ผมสอนครับ ทำและใช้ได้หลายกองแล้ว (http://image.ohozaa.com/i/a8d/war0Gq.jpg) (http://i1269.photobucket.com/albums/jj586/teerapongs/7_zps45414723.jpg) - ดร.วรวรรณครับ จากแม่โจ้ ถนัดเรื่องโรคพืช วันหลังจะชวนแกมาตั้งกระทู้ครับ (ขนาดว่ารู้เรื่องการใช้ยากับสารในสตรอเบอรี่อย่างมหาศาล แต่สำหรับสวนนี้แกขอซื้อกลับบ้านครับ เห็นว่าจะเอาไปแช่แข็งเอาไว้ให้เพื่อนที่มาเยี่ยมบ้านกินสตรอลอยแก้วทั้งปี (http://image.ohozaa.com/i/51d/rS36AX.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 11:33:23 AM - สำหรับพี่วิทยา แกไม่มีเวลาให้ผมครับ เพราะนักท่องเที่ยวมากันเยอะ ฮิฮิ ร่ำรวย ๆ
(http://image.ohozaa.com/i/773/VsHXi.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/a14/LA0DlE.jpg) - คนนี้เป็นคนทำงานบ้านผมครับ ยืนอยู่ใต้เถาองุ่น ผมเรียกแกว่าถังข้าวสารครับ (เพราะผมเป็นหนูไง หนูตกถังข้าวสาร) (http://image.ohozaa.com/i/23a/b70N8J.jpg) - พี่วิทยาปลูกองุ่นด้วย (อินทรีย์อยู่แล้ว) ให้เก็บเองแล้วไปจ่ายเงิน (http://image.ohozaa.com/i/40b/VtCb9.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: keawjah ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 11:36:56 AM ขอถามอาจารย์เรื่องปุ๋ยหมักค่ะ ชาวสวนยางแถวบ้าน (แกลง ระยอง) เค้าบอกว่าใส่มากไม่ได้ เค้าบอกว่ามันจะทำให้ดินร่วน ถ้ามีลมมาแรง ๆ มีโอกาสจะทำให้ยางล้มได้มากกว่าสวนที่เค้าใช้ปุ๋ยเคมี จริงหรือเปล่าคะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 11:57:28 AM ขอถามอาจารย์เรื่องปุ๋ยหมักค่ะ ชาวสวนยางแถวบ้าน (แกลง ระยอง) เค้าบอกว่าใส่มากไม่ได้ เค้าบอกว่ามันจะทำให้ดินร่วน ถ้ามีลมมาแรง ๆ มีโอกาสจะทำให้ยางล้มได้มากกว่าสวนที่เค้าใช้ปุ๋ยเคมี จริงหรือเปล่าคะ - น่าจะจริงครับ - แต่ปกติต้นไม้อื่นเราก็ไม่ใส่ปุ๋ยหมักมากอยู่แล้ว ใส่มากต้นไม้ตายได้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ae hatyai ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 12:01:56 PM สตอเบอรี่ เอามาปลูกที่ใต้ได้ไหมครับ อาจารย์พอจะมีวิธีไหมครับ ปลูกใต่ร่มเงาต้นยางอะไรประมาณนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 12:11:19 PM สตอเบอรี่ เอามาปลูกที่ใต้ได้ไหมครับ อาจารย์พอจะมีวิธีไหมครับ ปลูกใต่ร่มเงาต้นยางอะไรประมาณนี้ครับ - คงไม่ได้ครับผม ผมเอาไหลลงมาปลูกต้นนึง ได้แต่ดูใบครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ae hatyai ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 12:19:40 PM สตอเบอรี่ เอามาปลูกที่ใต้ได้ไหมครับ อาจารย์พอจะมีวิธีไหมครับ ปลูกใต่ร่มเงาต้นยางอะไรประมาณนี้ครับ - คงไม่ได้ครับผม ผมเอาไหลลงมาปลูกต้นนึง ได้แต่ดูใบครับผม อาจารย์ครับ ปรับปรุงสายพันธ์ให้ทนอากาศร้อน ผมรับเป็นหนูทดลองครับ อิอิ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: jukgree ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 12:35:25 PM ผมกราบขอบพระคุณอาจารย์มากครับ ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเป็นพันเท่าเลยทีเดียวว่าผมต้องปลูกสตรอเบอรี่อินทรีย์ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้พี่วิทยาคงเป็นไอดอลผมแล้วครับ :) เดือนมิถุนายน-กรกฏาคมต้องตามไปดูสวนพี่วิทยาให้ได้เลยครับ อาจารย์พอจะทราบไหมครับวิธีการใช้ยาปราบศัตรูพืชและการจัดการแปลงที่ดีที่ ดร.นุชนาฎ สอนเป็นยังไงครับอยากให้ขยายความให้ฟังต่อครับ ชอบมากๆเลย
และวิธีแก้ไขดินจากการเป็นกรดมากเกินไป อาจารย์แนะนำให้ชาวบ้านแก้ไขโดยใช้ปุ๋ยหมักอย่างเดียวเหรอครับหรือว่าต้องทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: jukgree ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 12:43:05 PM สตอเบอรี่ เอามาปลูกที่ใต้ได้ไหมครับ อาจารย์พอจะมีวิธีไหมครับ ปลูกใต่ร่มเงาต้นยางอะไรประมาณนี้ครับ - คงไม่ได้ครับผม ผมเอาไหลลงมาปลูกต้นนึง ได้แต่ดูใบครับผม อาจารย์ครับผมเคยสั่งซื้อไหลจากข้างบนมาปลูกในกระถางที่นครสวรรค์ก็พอได้ทานลูกนะครับ แต่ลูกจะค่อยโตเท่าไหร่ รสชาติพอใช้ได้เลยครับ แต่ไหลที่ไม่ได้นำมาจากที่สูงกลายพันธุ์เป็นพันธุ์ดูใบอย่างเดียวเลย ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: 2502 ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 01:05:03 PM อาจารย์คะ ได้ขึ้นกองปุ๋ยตามที่อาจารย์แนะนำ แต่ไม่ถึงสิบห้าชั้นหรอกนะคะ ทำเท่าที่มีแรงจะขนฟางและขี้วัวได้ สลับกับชั้นของสับปะรดสับ ได้ซักประมาณ เจ็ด_แปดชั้น เมื่อคินนี้ฝนตก เช้านี้เลยไม่ต้องรดน้ำ คงไม่ได้ส่งการบ้านอาจารย์หรอกค่ะ แต่เรียนมาให้ทราบว่า เจ้าของฟางและขี้วัว เขามาเห็นตอนเช้านี้ แล้วเขาสนใจมาก ๆ เขาบอกว่าจะลองทำ แต่ให้พ้นช่วงข้าวนาปีก่อน เพราะจะได้มีฟางเยอะ ๆ และถ้าใครโม่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก็จะให้มาโม่ที่โรงวัวด้วย ปกติเขาก็ให้รถมาโม่ข้าวโพดที่โรงวัวอยู่แล้วค่ะ บางทีช่วงหน้าข้าวโพดหวาน ก็ไปหักต้นข้าวโพดมาให้วัวกิน เรื่องต้นทุนด้านขี้วัว ฟาง ซังข้าวโพด เป็นอันว่าตัดไป เหลือแต่ค่าน้ำมันที่ใช้วิ่งขนเท่านั้นแหละค่ะ ถ้าเขาเริ่มทำเมื่อไหร่ จะเรียนให้ทราบเป็นระยะ ๆ นะคะ คงต้องไปศึกษาเรื่องการโพสรูปด้วย เพราะใช้ไม่เป็น :D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: 2502 ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 01:17:28 PM เรียนถามอาจารย์เรื่องสตอเบอรี่ด้วยค่ะ นอกจากพันธุ์พระราชทาน ๘๐ แล้วมีพันธุ์ไหนที่อร่อยๆ อีกคะ เห็นแถว ๆ เส้นทางที่วิ่งไปแม่สาย ตามริมถนนขายกันเพียบ มีต้นพันธุ์มาขายด้วย เคยซิ้อมาลองปลูก เล่น ๆ ๒_๓ ต้น ได้กินลูกไม่เท่าไหร่ นอกนั้นก็ได้แต่ดูใบ ตอนนี้ตายไปแล้วค่ะ ว่าจะลองปลูกไว้กินเล่น ๆ ในสวนค่ะ แล้วแถวเชียงราย อาจารย์มีสถานที่แนะนำแหล่งขายสตอเบอรรี่บ้างไหมคะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:01:59 PM อาจารย์คะ ได้ขึ้นกองปุ๋ยตามที่อาจารย์แนะนำ แต่ไม่ถึงสิบห้าชั้นหรอกนะคะ ทำเท่าที่มีแรงจะขนฟางและขี้วัวได้ สลับกับชั้นของสับปะรดสับ ได้ซักประมาณ เจ็ด_แปดชั้น เมื่อคินนี้ฝนตก เช้านี้เลยไม่ต้องรดน้ำ คงไม่ได้ส่งการบ้านอาจารย์หรอกค่ะ แต่เรียนมาให้ทราบว่า เจ้าของฟางและขี้วัว เขามาเห็นตอนเช้านี้ แล้วเขาสนใจมาก ๆ เขาบอกว่าจะลองทำ แต่ให้พ้นช่วงข้าวนาปีก่อน เพราะจะได้มีฟางเยอะ ๆ และถ้าใครโม่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก็จะให้มาโม่ที่โรงวัวด้วย ปกติเขาก็ให้รถมาโม่ข้าวโพดที่โรงวัวอยู่แล้วค่ะ บางทีช่วงหน้าข้าวโพดหวาน ก็ไปหักต้นข้าวโพดมาให้วัวกิน เรื่องต้นทุนด้านขี้วัว ฟาง ซังข้าวโพด เป็นอันว่าตัดไป เหลือแต่ค่าน้ำมันที่ใช้วิ่งขนเท่านั้นแหละค่ะ ถ้าเขาเริ่มทำเมื่อไหร่ จะเรียนให้ทราบเป็นระยะ ๆ นะคะ คงต้องไปศึกษาเรื่องการโพสรูปด้วย เพราะใช้ไม่เป็น :D คุณ 2502 สมัครแข่งหมักปุ๋ย ชิงรางวัลจากเวปด้วยใช่ใหมคะ ดวงพรจะได้บรรจุชื่อ ลงในรายชื่อด้วยน่ะค่ะ สมาชิกท่านใดดูการบรรยายการหมักปุ๋ย ใช้ปุ๋ยหมักกับพืชต่างๆแล้วก็มาลงชื่อหมักแข่งกันเป็นกิจกรรมสนุกๆและได้ประโยชน์ด้วยกันนะคะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:03:46 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง 7.คุณoFFja 8.คุณ keawjah กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D ท่านสมาชิกสามารถสมัครแข่งหมักปุ๋ย แบบใหม่ ลงชื่อได้เลยนะคะ หมักกองเล็ก กองใหญ่ กองย่อย ได้หมดค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: keawjah ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:04:58 PM ขอถามอาจารย์เรื่องปุ๋ยหมักค่ะ ชาวสวนยางแถวบ้าน (แกลง ระยอง) เค้าบอกว่าใส่มากไม่ได้ เค้าบอกว่ามันจะทำให้ดินร่วน ถ้ามีลมมาแรง ๆ มีโอกาสจะทำให้ยางล้มได้มากกว่าสวนที่เค้าใช้ปุ๋ยเคมี จริงหรือเปล่าคะ - น่าจะจริงครับ - แต่ปกติต้นไม้อื่นเราก็ไม่ใส่ปุ๋ยหมักมากอยู่แล้ว ใส่มากต้นไม้ตายได้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: keawjah ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:07:31 PM พี่ดวงพร คะแก้วขอสมัครด้วยคะนะคะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:11:23 PM เมื่อกลับไปทำสวนเต็มเวลา จะลองเอาสตรอเบอรี่ไปปลูกดูค่ะ ชอบจริงแปลงของ คุณ วิทยา ที่ใช้ท่อ PVCผ่าครึ่งแล้วปลูกสตรอเบอรี่มีความฝันอยากทำเกษตรอินทรีย์แบบคุณวิทยาค่ะอาจารย์ คือ ปลูกทุกอย่างแล้วให้คนเข้าไปเก็บผลผลิตเอง อิสานคงปลูกได้เฉพาะพวกผักมังคะและอยากทำร้านค้าหน้าสวนด้วย ได้ไอเดียผ่าท่อPVC ปลูกสระแหน่ น่าจะเข้าที นะคะ เพราะฤดูฝนผักพวกนี้จะไม่ชอบน้ำมากถ้าได้ปลูกแบบ คุณ วิทยา ก็สามารถมีผักสระแหน่ ทานทั้งปี หรือจะขายก็ได้ทั้งปีแน่ๆ สนุกคะกระทู้อาจารย์ มีภาพมีการบรรยายเหมือนนั่งฟังการอบรมทีเดียว ขอบคุณโลกไอที ค่ะ ที่สามารถทำให้อาจารย์สอนลูกศิษย์ได้ทั่วโลกเลยทีเดียว ;D ;D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:14:23 PM ผมกราบขอบพระคุณอาจารย์มากครับ ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเป็นพันเท่าเลยทีเดียวว่าผมต้องปลูกสตรอเบอรี่อินทรีย์ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้พี่วิทยาคงเป็นไอดอลผมแล้วครับ :) เดือนมิถุนายน-กรกฏาคมต้องตามไปดูสวนพี่วิทยาให้ได้เลยครับ อาจารย์พอจะทราบไหมครับวิธีการใช้ยาปราบศัตรูพืชและการจัดการแปลงที่ดีที่ ดร.นุชนาฎ สอนเป็นยังไงครับอยากให้ขยายความให้ฟังต่อครับ ชอบมากๆเลย และวิธีแก้ไขดินจากการเป็นกรดมากเกินไป อาจารย์แนะนำให้ชาวบ้านแก้ไขโดยใช้ปุ๋ยหมักอย่างเดียวเหรอครับหรือว่าต้องทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยครับ - แฮ่ะ ๆ สมาชิกครับผม อย่าให้ถึงกับกราบเลยครับ นะครับ - การใช้ยาและการจัดการแปลงที่ดีต้องถามพี่วิทยานะครับ เพราะรายละเอียดจะมาก แล้วช่วยโพสลงเป็นประโยชน์แก่สมาชิกนะครับ - การแก้ไขความเป็นกรดใช้ปุ๋ยหมักอย่างเดียวเลยครับ บางท่านอาจใช้ร่วมกับปูนขาวซึ่งฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย หรือใช้โดโลไมท์ร่วมด้วยก็ได้ครับ สำหรับที่นี่ใช้ปูนขาวแล้วไม่ได้ผลครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:23:05 PM เรียนถามอาจารย์เรื่องสตอเบอรี่ด้วยค่ะ นอกจากพันธุ์พระราชทาน ๘๐ แล้วมีพันธุ์ไหนที่อร่อยๆ อีกคะ เห็นแถว ๆ เส้นทางที่วิ่งไปแม่สาย ตามริมถนนขายกันเพียบ มีต้นพันธุ์มาขายด้วย เคยซิ้อมาลองปลูก เล่น ๆ ๒_๓ ต้น ได้กินลูกไม่เท่าไหร่ นอกนั้นก็ได้แต่ดูใบ ตอนนี้ตายไปแล้วค่ะ ว่าจะลองปลูกไว้กินเล่น ๆ ในสวนค่ะ แล้วแถวเชียงราย อาจารย์มีสถานที่แนะนำแหล่งขายสตอเบอรรี่บ้างไหมคะ - เรื่องพันธุ์นี่ไม่ทราบจริง ๆ ครับผม เวลาผมพูดอะไรนี่อ่านแล้วดูเหมือนจะรู้ไปหมดใช่ไหมครับ จริง ๆ แล้วไม่รู้ทั้งหมดครับ เพียงแต่ให้ผู้อ่านได้เห็นภาพเท่านั้น แต่ถ้าเรื่องก่อสร้างอาคาร เรื่องบำบัดน้ำเสีย เรื่องทำปุ๋ยนี่ พูดได้เป็นคุ้งเป็นแควครับ ชอบครับ ;D - ถ้าซื้อข้างถนนมาปลูกเล่นก็ซื้อได้เลยครับ ผมเห็นร้านกาแฟอะเมซอนชอบเอามาแต่งสวน เพราะไหลมันเลื้อยไปเรื่อย แต่ถ้าจะซื้อปลูกเป็นไร่คงต้องหาซื้อจากสวนที่ไว้ใจได้นะครับ ผมเคยซื้อบีโกเนียเป็นกระถางมาแซมกับที่มีที่บ้าน ปรากฏว่าเป็นเชื้อราเกือบทั้งบ้านครับ เซ็งจริง ๆ เข็ดแล้วกับการซื้อข้างถนน - แหล่งขายยังไม่ทราบครับผม แต่ถ้าเป็นอินทรีย์ได้เวลาจะขายอยากให้พาห้างมาดู รับรองว่าเขาจะซื้อหมดครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:31:24 PM ขอถามอาจารย์เรื่องปุ๋ยหมักค่ะ ชาวสวนยางแถวบ้าน (แกลง ระยอง) เค้าบอกว่าใส่มากไม่ได้ เค้าบอกว่ามันจะทำให้ดินร่วน ถ้ามีลมมาแรง ๆ มีโอกาสจะทำให้ยางล้มได้มากกว่าสวนที่เค้าใช้ปุ๋ยเคมี จริงหรือเปล่าคะ - น่าจะจริงครับ - แต่ปกติต้นไม้อื่นเราก็ไม่ใส่ปุ๋ยหมักมากอยู่แล้ว ใส่มากต้นไม้ตายได้ครับ - ที่ผมแนะนำการใช้ปุ๋ยหมักกับไม้ยืนต้นอื่นที่ไม่ใช่ยาง ผมแนะนำ 1 กระสอบต่อ 1 ต้นภายในทรงพุ่มครับ (สำหรับต้นผู้ใหญ่ ถ้าเป็นต้นเด็กเล็กก็ใช้ลดลง) เพราะทำปุ๋ยวิธีนี้มันได้ปริมาณมาก ทำมากก็ใช้มาก ทำเองต้นทุนมันต่ำครับ ใช้มากขนาดนี้ถ้าต้องไปซื้อของเขาก็ไม่คุ้มครับ - ถ้าใช้ 1 กระสอบต่อต้น ผมก็คิดว่ามันคงทำให้ดินร่วนเฉพาะ 20-30 เซ็นติเมตรข้างบน เป็นประโยชน์กับรากฝอยให้ขึ้นมาหากิน ไม่น่าจะทำให้รากต้นยางส่วนใหญ่ที่อยู่ลึกไปเป็นเมตรหลุดออกมาได้นะครับ - คุณนพคิดว่ายังไงครับ คุณดวงพรครับช่วยด้วยครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 02:48:04 PM ไม่น่าจะมีส่วน นะคะอาจารย์ที่ว่าใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์แล้วจะทำให้ต้นยางพาราล้มได้ อาจล้มจากดินหลวมจากฝนตกมากกว่าค่ะ แต่ รากฝอยของยางพาราหาอาหารเก่งมากค่ะ รากฝอยเขาจะเลื้อยไปทั่วหากินค่ะ ยกตัวอย่าง สวนยางสมาชิกท่านนี้ที่เอารูปมาให้ดูว่า รากยางไชกระสอบปุ๋ยหมักจนขาดร่วน ยางพารารากอยู่ลึกไม่เกินเมตรครึ่งมังคะ(ตามที่คุณหมอสวนยางใหญ่ท่านบอกมาน่ะค่ะ)
[/size](http://image.ohozaa.com/i/aba/lcWOVk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w635rTls98EPkAXm) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: noppakloa ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 03:25:01 PM ขอถามครับ ที่บ้านผมมีใบไผ่เยอะอันนี้น่าจะใช้ใด้ แล้วก็ใบสนไม่ทราบใช้ใด้ไหมครับ
ปกติผมปลูกมะละกอ ฮอลแลน อยากทดลองทำแล้วนำไปใช้ อยากทราบอัตราว่าต้องใส่ต่อต้นปริมาณเครับปกติใช้ แต่ 16-16-16 .. หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: noppakloa ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 03:28:36 PM แล้วธาตุอาหารที่ใด้จากปุ๋ยหมักกลับปุ๋ย เคมีแตกต่างกันมากน้อยใหมครับ...
กำลังจะกลับไปทดลองทำครับ แถวบ้านผมไม่มีใครทำเลยซักบ้านครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ทิดโส โม้ระเบิด ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 03:33:20 PM สวัสดีครับอาจารย์ครับ
เข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยคนครับ สุดยอดมาก ไปละ อิอิอิ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 03:38:23 PM ขอถามอาจารย์เรื่องปุ๋ยหมักค่ะ ชาวสวนยางแถวบ้าน (แกลง ระยอง) เค้าบอกว่าใส่มากไม่ได้ เค้าบอกว่ามันจะทำให้ดินร่วน ถ้ามีลมมาแรง ๆ มีโอกาสจะทำให้ยางล้มได้มากกว่าสวนที่เค้าใช้ปุ๋ยเคมี จริงหรือเปล่าคะ - น่าจะจริงครับ - แต่ปกติต้นไม้อื่นเราก็ไม่ใส่ปุ๋ยหมักมากอยู่แล้ว ใส่มากต้นไม้ตายได้ครับ แล้วอัตราส่วนที่เหมาะสมในการใช้ควรจะเป็นอย่างไรคะอาจารย์ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ - ที่ผมแนะนำการใช้ปุ๋ยหมักกับไม้ยืนต้นอื่นที่ไม่ใช่ยาง ผมแนะนำ 1 กระสอบต่อ 1 ต้นภายในทรงพุ่มครับ (สำหรับต้นผู้ใหญ่ ถ้าเป็นต้นเด็กเล็กก็ใช้ลดลง) เพราะทำปุ๋ยวิธีนี้มันได้ปริมาณมาก ทำมากก็ใช้มาก ทำเองต้นทุนมันต่ำครับ ใช้มากขนาดนี้ถ้าต้องไปซื้อของเขาก็ไม่คุ้มครับ - ถ้าใช้ 1 กระสอบต่อต้น ผมก็คิดว่ามันคงทำให้ดินร่วนเฉพาะ 20-30 เซ็นติเมตรข้างบน เป็นประโยชน์กับรากฝอยให้ขึ้นมาหากิน ไม่น่าจะทำให้รากต้นยางส่วนใหญ่ที่อยู่ลึกไปเป็นเมตรหลุดออกมาได้นะครับ - คุณนพคิดว่ายังไงครับ คุณดวงพรครับช่วยด้วยครับ ไม่น่าจะมีส่วน นะคะอาจารย์ที่ว่าใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์แล้วจะทำให้ต้นยางพาราล้มได้ อาจล้มจากดินหลวมจากฝนตกมากกว่าค่ะ แต่ รากฝอยของยางพาราหาอาหารเก่งมากค่ะ รากฝอยเขาจะเลื้อยไปทั่วหากินค่ะ ยกตัวอย่าง สวนยางสมาชิกท่านนี้ที่เอารูปมาให้ดูว่า รากยางไชกระสอบปุ๋ยหมักจนขาดร่วน ยางพารารากอยู่ลึกไม่เกินเมตรครึ่งมังคะ(ตามที่คุณหมอสวนยางใหญ่ท่านบอกมาน่ะค่ะ) [/size]([url]http://image.ohozaa.com/i/aba/lcWOVk.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/w635rTls98EPkAXm[/url]) ในมุมมองจากที่วันๆหมกหมุ่นอยู่แต่เรื่องเกษตร :D การจัดการให้ปุ๋ยต้นไม้ประเภทพืชสวนหรือแม้แต่ยางพารา ปกติเราจะให้ปุ๋ยโดยการเทปุ๋ยรอบบริเวณทรงพุ่มแล้วทำการพรวนดินและให้น้ำ ซึ่งก็เท่ากับเผื่อแผ่ปุ๋ยไปให้กับวัชพืชด้วย ลองมองอีกวิธีการนึง แบบของลุงผู้ใหญ่สมศักดิ์ เครือวัลย์ดูมั๊ยครับ เอาปุ๋ยหมักใส่กระสอบแล้วเอาไปวางที่ทรงพุ่มของต้นไม้(ยางพาราก็ด้วย)แล้วปล่อยให้ต้นไม้ส่งรากฝอย ให้มาหาปุ๋ยในกระสอบกินเอง(ตอนวางกระสอบก็บาดๆ กระสอบ ด้านที่จะวางลงดินไว้ก่อน)เท่านี้เราก็ให้ปุ๋ยแก่ต้นไม้โดยเผื่อแผ่ไปให้วัชพืชน้อยที่สุด และไม่ต้องกลัวต้นไม้ล้มเพราะดินร่วนซุยเกินไปแบบที่กังวลกันครับ ยิ่งยาพาราที่มีรากที่หากินเก่งด้วยแล้ว ลองดู Video ที่ผมเอามาให้ดูนี้เป็นตัวอย่างนะครับ ;D http://www.youtube.com/v/LlhCOzjF5QY ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 03:49:45 PM ขอถามครับ ที่บ้านผมมีใบไผ่เยอะอันนี้น่าจะใช้ใด้ แล้วก็ใบสนไม่ทราบใช้ใด้ไหมครับ ปกติผมปลูกมะละกอ ฮอลแลน อยากทดลองทำแล้วนำไปใช้ อยากทราบอัตราว่าต้องใส่ต่อต้นปริมาณเครับปกติใช้ แต่ 16-16-16 .. - ใบสนมีขนาดเล็กจะทำให้กองปุ๋ยแน่นจนอากาศเข้าไม่ได้ อยากให้เป็น "ใบสนกับใบไม้" 3 ส่วนกับมูลสัตว์ 1 ส่วนครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 04:31:38 PM - ขอบคุณนะครับคุณนพ เชื่อได้เลยว่าต้องขอความรู้ได้ ;)
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: keawjah ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 04:42:21 PM ขอบคุณ คุณนพ คุณพี่ดวงพร และอาจารย์มากนะคะ แน่นอนที่สุดแก้วจะนำไปทำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ผลงานเป็นอย่างไร จะนำมาโชว์ให้เห็นกันอีกนะคะ ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 04:48:37 PM อาจารย์คะ ได้ขึ้นกองปุ๋ยตามที่อาจารย์แนะนำ แต่ไม่ถึงสิบห้าชั้นหรอกนะคะ ทำเท่าที่มีแรงจะขนฟางและขี้วัวได้ สลับกับชั้นของสับปะรดสับ ได้ซักประมาณ เจ็ด_แปดชั้น เมื่อคินนี้ฝนตก เช้านี้เลยไม่ต้องรดน้ำ คงไม่ได้ส่งการบ้านอาจารย์หรอกค่ะ แต่เรียนมาให้ทราบว่า เจ้าของฟางและขี้วัว เขามาเห็นตอนเช้านี้ แล้วเขาสนใจมาก ๆ เขาบอกว่าจะลองทำ แต่ให้พ้นช่วงข้าวนาปีก่อน เพราะจะได้มีฟางเยอะ ๆ และถ้าใครโม่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก็จะให้มาโม่ที่โรงวัวด้วย ปกติเขาก็ให้รถมาโม่ข้าวโพดที่โรงวัวอยู่แล้วค่ะ บางทีช่วงหน้าข้าวโพดหวาน ก็ไปหักต้นข้าวโพดมาให้วัวกิน เรื่องต้นทุนด้านขี้วัว ฟาง ซังข้าวโพด เป็นอันว่าตัดไป เหลือแต่ค่าน้ำมันที่ใช้วิ่งขนเท่านั้นแหละค่ะ ถ้าเขาเริ่มทำเมื่อไหร่ จะเรียนให้ทราบเป็นระยะ ๆ นะคะ คงต้องไปศึกษาเรื่องการโพสรูปด้วย เพราะใช้ไม่เป็น :D - น้อง 2502 ครับ เข้าไปฝึกโพสรูปที่นี่นะครับ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65957.0 หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 05:22:57 PM - ถ้าอยากใช้ประโยชน์จากเศษอาหารที่บ้าน เราจะทำอย่างไรครับ บ้านผม 4 คนถ้าแยกเศษอาหารออก ก็จะได้เฉลี่ยวันละ 1 กิโล มีทั้งเศษข้าว (ไม่นับน้ำแกงนะครับ) เศษผัก เศษเนื้อ เศษกระดูก หัวปลา เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ ทิชชู
- เกษตรกรบางคนเอาไปทำน้ำหมักชีวภาพ บางคนเอาไปเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู บางคนเอาไปซุกซ่อนไว้ในกองปุ๋ยวิศวกรรมแม่โจ้ 1 ซึ่งเป็นวิธีที่ถูก เพราะเศษพืชจะช่วยกรองกลิ่นที่ดึงดูดแมลงวันได้ - ลองทำเป็นปุ๋ยหมักดูไหมครับ - วิธีการ - นำเศษอาหาร (ไม่เอาน้ำแกง) 1 ส่วน ใบไม้หรือฟาง 1 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน โดยปริมาตร โยนลงไปในถังพลาสติก คลุกเคล้ากันให้ทั่ว น้ำไม่ต้องเติมถ้าเห็นว่าส่วนผสมชื้นพอดีแล้ว แล้วปิดฝาอย่าให้แมลงวันเข้า เดี๋ยวจะไปวางไข่แล้วเป็นหนอน :( - ถ้าอีกวันนึงมีเศษอาหารอีก ก็เทเศษอาหาร 1 ส่วน ใบไม้ 1 ส่วน และมูลสัตว์อีก 1 ส่วนลงไป พลิกทั้งของเก่าและของใหม่เข้าด้วยกัน ปิดฝา - ในระยะ 7 วันแรก ให้คลุกเคล้าพลิกกลับวันละ 3 ครั้ง แล้วปิดฝา ถ้าแห้งไปก็พรมน้ำ - หลัง 7 วัน พลิกคลุกเคล้าวันละครั้ง จะบีบจะนวดก็ได้ เพราะระยะนี้ปุ๋ยจะนุ่มมือมาก ปุ๋ยจะเริ่มมีสีดำ มีขนาดเล็กลง ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำเสีย ไม่มีแก๊สมีเทน แอมโมเนีย ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นกระบวนการแบบใช้อากาศ - ถ้าวัสดุเริ่มจะเต็มถัง ก็ให้ไปเริ่มถังที่สอง - ครบ 1 เดือน ทิ้งให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วจะเรียกว่าปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ (Compost) ครับ (http://image.ohozaa.com/i/7fb/kZIHS2.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/ee8/Ge9dtp.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/445/98aYja.jpg) - ถ้าวัสดุในถังมีมาก จะล้น ก็ให้ไปพลิกในกะละมัง (http://image.ohozaa.com/i/11f/oIhVko.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 05:57:09 PM อาจารย์ค่ะ ใช้ขี้ไก่ปนแกลบแทนขี้วัวได้ไหมค่ะ โทรไปถามซื้อแล้วเขาว่าขี้ไก่ปนแกลบหาง่ายกว่าค่ะที่หมู่บ้านมีโรงเลี้ยงไก่สามโรงค่ะ ใช้อัตราส่วนอย่างไงค่ะ ย้ายกลับไปอยู๋แล้วจะขอเป็นสมาชิกเข้าแข่งขันด้วยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: rukmac ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 06:48:27 PM สวัสดีครับอาจารย์ กองปุ๋ยยาว 1 กิโลที่อ.ลี้ ลำพูนอยู่จุดไหนครับขอเ่ข้าเยี่ยมชมได้มั้ยครับ ถ้าได้ติดต่อที่ใครครับ ผมอยู่อ.ลี้ ลำพูน สนใจมากครับ - อยู่ที่โรงทวีพืชผล ใกล้ห้วยต้มครับผม ประตูเปิดตลอดน่าจะดูได้ ถ้าใครถามก็บอกว่ามาขอดูกองปุ๋ยที่จังหวัดลำพูนทำก็น่าจะได้ครับ - วันอังคารที่ 22 พค. จะมีทีมวิศวกรจากแม่โจ้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทสจ.ลำพูนไปประเมิน และอาจต้องมีการปรับรูปกองปุ๋ยและการให้น้ำใหม่ครับ - ให้ไปดูแนวคิดนะครับ ส่วนคุณภาพปุ๋ยนั้นผมไม่ค่อยหวังผลเลิศเท่าไร เพราะระบบไม่เอื้อให้มีคนงานคอยดูแลความชื้นตลอดเวลาครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 07:01:30 PM ส่งการบ้านครับอาจารย์ เอามาให้อาจารย์ลองชี้แนะก่อนครับ
(http://s15.postimage.org/5vop4kq4b/1_DSC00989.jpg) อันนี้สั่งกระสุนดินดำมาเตรียมพร้อมไว้ก่อนครับขี้วัว 200 กระสอบ กระสอบละ 24 บาทครับ (http://s18.postimage.org/c5cnt00zt/2_DSC00992.jpg) แกะออกมา 60 กระสอบก่อนครับ แค่ตอนแกะออกมาเทรวมก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่นะครับเนี่ย (http://s13.postimage.org/75f7l4vcn/3_DSC00993.jpg) ฟางครับ ซื้อมา 5 มัด มัดละ 40 บาท ซื้อมาน้อยไปครับ จริง ๆ รถกระบะผมขนมาได้เท่านี้ คือ ผมตั้งใจว่าจะทำหลาย ๆ กอง แต่ละกองใช้พืชต่างชนิดกัน เช่น กองนี้เป็นฟาง กองนี้เป็นผักตบชวา อีกกองเป็นจอก กองนี้เป็นขุึยมะพร้าว คุมสภาวะอื่น ๆ ให้เหมือนกันแล้วลองเทียบว่า อันไหนจะเป็นปุ๋ยเร็วกว่ากัน ปุ๋ยหมักแต่ละชนิดปลูกพูดแต่ละชนิดได้งามต่างกันอย่างไร ฯลฯ ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 07:07:31 PM (http://s13.postimage.org/frih5q7cn/4_DSC00994.jpg)
เริ่มกำหนดขนาดพื้นที่ก่อนเลยครับ ผมให้ความกว้าง 2.5 เิมตร ยาว 2 เมตร โดยประมาณนะครับ (http://s8.postimage.org/e2ov9r2vp/5_DSC00996.jpg) จากนั้นก็ตามด้วยขี้วัวครับผม ผมเริ่มสงสัยว่าเราควรจะให้มูลสัตว์หนาบางสักเท่าไหร่ดี แต่ก็ลองแบบในรูปดูก่อน ถ้าบางไปอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยครับ (http://s18.postimage.org/70bgbdo21/6_DSC00998.jpg) อันนี้ก็เอาฟางคลุมอีกชั้นหนึ่งครับ ก็ไม่รู้ว่าจะบางหรือหนาไปหรือเปล่าเหมือนกันครับ คือ เอาคลุมให้ไม่เห็นสีดำของขี้วัวน่ะครับ อ้อ แต่ละชั้นผมรดน้ำทุกชั้นด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 07:12:39 PM (http://s10.postimage.org/stbqrbxih/7_DSC00999.jpg)
แล้วก็ขึ้นรูปกองปุ๋ยไปเรื่อย ๆ ทีละชั้น ๆ ครับ โดยผมกะให้ว่าแต่ละชั้นสัดส่วน ขี้วัวต่อฟางเป็น 1:3 กะด้วยตาครับผม (http://s14.postimage.org/oujtfaijl/8_DSC01000.jpg) กองปุ๋ยเริ่มนูนขึ้นมาบ้างล่ะครับ แต่จำไม่ได้ว่าอันนี้เป็นชั้นที่เท่าไหร่ล่ะครับ เหนื่อยจนลืมนับเลยครับอาจารย์ ผมทำคนเดียว แดดเปรี้ยง ๆ (http://s8.postimage.org/q8inxw6z9/9_DSC01004.jpg) รดน้ำไปแต่ละชั้นครับ สังเกตสีฟางเอาเวลามันโดนน้ำสีมันจะเข้มขึ้นน่ะครับ รดชุ่มพอให้ฟางเปลี่ยนสีครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 07:21:16 PM (http://s18.postimage.org/utzau2hah/10_DSC01007.jpg)
ทำไปเรื่อย ๆ ทีละชั้น ๆ ครับ (http://s17.postimage.org/uirybsdjz/11_DSC01009.jpg) จนมาถึง ชั้นสุดท้าย ฟางหมดล่ะครับ สรุปคือ ได้กองสูง 50 cm เองครับ คงต้องซื้อฟางมาอีกสิบก้อน (http://s15.postimage.org/aj8zuxykb/12_DSC01012.jpg) ผมพยายามไม่ทำให้กองฟางเป็นรูปสี่เหลี่ยมแบบก้อนลูกเต๋าครับอาจารย์ แต่ทำให้ยิ่งสูงยิ่งแคบลงครับผม จบแล้วครับสำหรับวันนี้ อาทิตย์หน้าคงมาทำต่อให้ครบนะครับ พรุ่งนี้ต้องปลูกตะไคร้ครับ แช่น้ำไว้รากมันงอกแล้วต้องปลูกมันก่อนครับผม ปัญหาของผม คือ ผมมาที่สวน ราชบุรี อาทิตย์ละหนึ่งครั้งนี่สิครับอาจารย์ จะขอให้แม่ช่วยรดน้ำให้ทุกวันก็เกรงใจ เดี๋ยวแม่จะเหนื่อย ก็เลยคิดว่าถ้ารดอาทิตย์ละครั้งจะได้ไหมครับ ปุ๋ยอาจจะย่อยสลายช้าหน่อยก็ได้ อีกเรื่อง คือ เราไม่จำเป็นต้องตั้งกองปุ๋ยให้ได้ความสูง 1.5 เมตร ภายในวันเดียวใช่มั้ยครับ เราสามารถทยอย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ เมื่อเรามีเศษพืชก็ค่อยเอามาเรียงทีละชั้นก็ได้ใช่มั้ยครับอาจารย์ แต่ว่ามันก็อาจจะเปื่อยช้าหน่อย ใช่มั้ยครับอาจารย์ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 07:23:58 PM อาจารย์ค่ะ ใช้ขี้ไก่ปนแกลบแทนขี้วัวได้ไหมค่ะ โทรไปถามซื้อแล้วเขาว่าขี้ไก่ปนแกลบหาง่ายกว่าค่ะที่หมู่บ้านมีโรงเลี้ยงไก่สามโรงค่ะ ใช้อัตราส่วนอย่างไงค่ะ ย้ายกลับไปอยู๋แล้วจะขอเป็นสมาชิกเข้าแข่งขันด้วยนะค่ะ - ใช้ได้ครับ เช็คดูให้แน่ใจว่าไม่ใช่ที่ออกมาจากบ่อแก๊สชีวภาพนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: cynbyp ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 07:24:57 PM ขอมารอชมนะคะขอบคุณค่ะ ^ ^
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 08:47:42 PM - ทำปุ๋ยจากเศษอาหารต่อนะครับ พอพลิกวัสดุได้ 30 วัน แล้วทิ้งให้แห้ง ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์แบบนี้ครับ ไม่มีกลิ่น สีดำ มีขนาดเล็กลง หาเศษอาหารไม่เจอ
(http://image.ohozaa.com/i/75d/NoUOb7.jpg) - หรือจะไปหาซื้อถังจากร้านขายของเก่า เจาะรูที่ฝาเพื่อให้อากาศเข้า แล้วแทนที่เราจะพลิก เราก็ใช้วิธีกลิ้งเอา ได้ออกกำลังและลดหน้าท้องครับคุณดวงพร และถ้าจะลดต้นขาก็ใช้วิธีถีบเอา วิธีนี้ให้ระวังความชื้นจะมากเกินไป (http://image.ohozaa.com/i/4af/ZNvUPW.jpg) - การทำปุ๋ยในถังออกกำลังกายมักจะได้ปุ๋ยเป็นก้อนกลม ๆ แบบนี้ (http://image.ohozaa.com/i/100/7WbP8P.jpg) - ที่ฐานเรียนรู้ที่แม่โจ้ ผมให้นักศึกษาเอาเศษอาหารจากร้านอาหารใต้ตึกไปทำปุ๋ย ผมทำ 30 ถังสำหรับ 30 วันในหนึ่งเดือนครับ ในรูปแขกต่างประเทศของมหาวิทยาลัยมาดูงานครับ (http://image.ohozaa.com/i/3da/DAbxLi.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 08:55:28 PM - คุณปากแดงดอทคอมครับ ทุกอย่างถูกต้องครับ ทำค้างไว้แล้วค่อยมาทำต่อได้ครับ รดน้ำอาทิตย์ละครั้งก็ได้ แต่นอกจากจะรดข้างนอกแล้วต้องล้วงเช็คดูความชื้นในกองด้วย การเป็นปุ๋ยถ้าช้าหน่อยแล้วยอมรับได้ก็โอเคครับ
- มันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะครับ การจะทำให้ได้ปุ๋ย 1 ตันจะต้องใช้เศษพืช 2 ตัน ถ้าเป็นฟางก็คงเท่ากับ 4 ลูกบาศก์เมตร เหนื่อยยังไงก็ต้องทำครับ เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของดินของเรา เหนื่อยตอนนี้แต่คุ้มทุกกิโลของปุ๋ยเลยครับ - ไม่อย่างนั้นเราจะสามารถขายได้กิโลละ 4 - 7 บาทหรือครับ - ถ้ามีเข่ง ฟางจะใช้ 4 เข่งต่อชั้น และมูลสัตว์ 1 เข่งต่อชั้นครับ ลองตรวจสอบในรอบหน้านะครับ - ผมให้คะแนนความขยันทำเป็นคนแรก ๆ ครับผม :-[ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: eight ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 09:21:21 PM ติดตาม....ท่านอาจารย์
เมื่อไร เวปฯจะมี bookmark.. อยากได้ :'( เผื่อกระทู้ตก ---------------------------------------- กระทู้นี้ไม่ตกแน่นอนค่ะ เพราะเราจะเก็บไว้ที่บอร์ด คลังความรู้เกษตรพอเพียง ไปดูได้นะคะที่บอร์ดนั้นสาระการเกษตรทั้งหลายจะกี่ปีๆก็จะอยู่ในนั้นค่ะ ;D ;D ดวงพร... หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 09:51:00 PM - ขอเอารูปวันที่วิศวกรแม่โจ้ไปแก้กองปุ๋ยยาว 1 กม.ที่อำเภอลี้ ลำพูน ปัญหาที่มีคือกองมีฐานกว้างเกินไปและอาจใช้มูลสัตว์น้อยเกินไป กับไม่มีใครรับผิดชอบดูแลรดน้ำ วิธีแก้คือล้มกองแล้วเอามูลสัตว์ใส่เพิ่ม รดน้ำ แล้วเอาแทรคเตอร์ดันให้เป็นรูปสามเหลี่ยม ทำไปได้แค่ชั่วโมงเดียวน้ำหมด ร้อนถึงต้องไปขอรถดับเพลิงเทศบาลมารด
(http://image.ohozaa.com/i/c84/JeAmTh.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/d3a/XVhkuF.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/214/bXpsF1.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/2cb/pLQ8iO.jpg) - วันนี้ทำได้แค่นี้ครับ ที่เหลือทาง ทสจ.ลำพูนจะทำต่อจนเสร็จ ก็ต้องขอบคุณน้องแร็ค มิก มิว และเจมส์ วิศวกรของแม่โจ้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 26, 2012, 10:32:59 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ สมัครด้วยคนอ่ะครับ :'(1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง 7.คุณoFFja 8.คุณ keawjah กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D ท่านสมาชิกสามารถสมัครแข่งหมักปุ๋ย แบบใหม่ ลงชื่อได้เลยนะคะ หมักกองเล็ก กองใหญ่ กองย่อย ได้หมดค่ะ Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ « ตอบ #234 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2012, 10:07:50 PM » อ้างถึง +1 LIKE อ้างจาก: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:50:08 PM อ้างจาก: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:54:05 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ 1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง รอเลข 7 ครับ เขาว่าเฮงๆ... ขอสมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ครับ พร้อมรูปกองปุ๋ยที่ต้องแก้ไข คุณครูใหญ่ดวงพรต้องรับผมและเพื่อนๆด้วยนะ ไม่งั้นผมจะอดข้าวประท้วงครับ แต่จะกินนมและน้ำ ออลืมไป คุณครูใหญ่ต้องไม่มีการแลกเกรดนะครับ อาจารย์ครับ ของผมกองนี้ทำแบบนี้ครับ กองฟางกว้างประมาณ 2 เมตร สูง 30 เซ็นต์ เอาขี้วัวโรยทับ รดด้วย อีเอ็ม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนได้ความสูงประมาณ 1.50เมตร แล้วคลุมด้วยผ้าใบ ทำเสร็จได้ 1 คืน ลองจับดูมีความร้อนค่อนข้างสูง แบบนี้มันจะเป็นปุ๋ยไหมครับ ตอนนี้กองก็ยุบลงไม่มากครับ ทำได้ประมาณ 1 เดือนแล้วครับ - พอเอาผ้าคลุมก็เลยไม่ได้ดูแลความชื้น พอวัสดุแห้งจุลินทรีย์เลยหยุดกิจกรรมการย่อยสลาย การยุบเลยไม่ลงมาก - ตอนวางฟางหนา 30 เซ็นติเมตร ความหนาขนาดนี้จุลินทรีย์ไท่สามารถเดินลงไปกินคาร์บอนแล้วเดินกลับบ้านมากินไนโตรเจนได้ครับ มันไม่มีขาง่ะ การเป็นปุ๋ยเลยค่อนข้างช้า - กองนี้ลอง "ย้าย" ไปทำเป็นกองใหม่ อย่าทำที่เดิม ย้ายห่างออกไปสัก 1 เมตร กองใหม่ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมสูง 1.5 เมตรโดยไม่ต้องทำเป็นชั้น ๆ ระหว่างย้ายก็ให้มีคนคอยรดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่โชก ภายใน 2 วันอาจมีความร้อนกลับมาใหม่ รับประกันได้ครับว่าภายใน 30 วันต้องมีเรื่องแปลกใจให้เห็น แต่ต้องดูแลความชื้นตลอดเวลานะครับ - คุณครูใหญ่ดวงพรครับผม นักเรียนคนนี้ต้องการที่นั่งหมายเลข 7 ครับ ช่วยดูแลอย่าให้ลอกการบ้านมาส่งนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: patcha.c ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 01:01:55 AM สวัสดีค่ะ อาจารย์ :)
อ่านตั้งแต่หน้าแรกเลยค่ะ ได้ความรู้มากมาย จะเอาไปทำตามค่ะ ขอเริ่มจากทำในถังผงซักฟอกก่อน เพราะขี้วัวหายาก ซื้อก็แพงด้วยค่ะ :D อีกอย่างต้องเตรียมรับน้ำอีก 3 เดือนข้างหน้า หวังลึกๆว่า น้ำจะไม่มานะ... บ้านอยู่อยุธยา ตัวเมืองค่ะ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา แค่ถนนกั้นห่างไม่ถึงกี่สิบเมตร แถมท้องนาล้อมรอบบ้านอีก ..... Lake side ค่ะ :D :D :D วิวสวย นกมากมาย หลายพันธุ์ นกปากห่าง นกกระยางปากเหลือง นกกระยางปากดำ นกเป็ดน้ำก็มี นกเขา นกพิราบ นก..ไม่รู้ชื่อค่ะ เคยเห็นในหนังสือดูนกเล่มใหญ่ๆที่เขานิยมน่ะค่ะ หางมีพวงด้วย นกสีน้ำเงินป้อมๆ นกสีเขียวตัวเล็กๆ นกฮูกก็เยอะ วันไหนใส่เสื้อขาว นกฮูกบินเป็นเพื่อนเลย นกสารพัดเลย มีนกอพยพมาเป็นช่วงๆด้วยค่ะ มีหมอกช่วงเช้าๆด้วย ฤดูหนาวก็เยอะมาก หรือวันไหนเริ่มหนาวๆ ก็มี ...อากาศดีสุดๆ ...ยกเว้นเรื่องเดียว....น้ำท่วม....แต่ก็ค่อนชินและทำใจได้ ถือซะว่าปิกนิกบนน้ำ ก็ดีนะ ประหยัดดี ไม่ต้องไปใช้จ่าย ฟุ่มเฟือย มีเวลาทำงานบ้านมากขึ้น อ่านหนังสือได้มากขึ้น นอนได้มากขึ้น ได้หัดพายเรือ ดูว่าข้อดีจะมีมากกว่าข้อเสียนะคะ :D :D :D :D :D อ้อ ยังมีที่ข้างบ้านที่เหลือ จะเอามาทำกองปุ๋ยหมัก เพราะ อยากให้ต้นไม้งามๆค่ะ ที่ดินเดิมเคยเป็นที่นามาก่อน ก็ถมดินมาเรื่อย แล้วดินมันก็เป็นดินเหนียวค่ะ ปลูกอะไรก็แกร็นๆ ต้องขุดหลุมปลูกแล้วดูแลเป็นหลุมๆ แต่ตอนนี้ไม่มีต้นไม้แล้ว เหลือแต่ดิน ปลูกแบบเป็นแปลงๆ ไม่ได้เลย เหนื่อย (55) หญ้าก็มากมาย ขนาดหมามันยังไม่เดินไปเลย ดูแปลงสตรอเบอร์รี่แล้วชอบมากเลยค่ะ คุณวิทยา อยู่สะเมิง (ชื่อนี้คุ้นๆเหมือนเพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า ทำไร่มะคาด้วยใช่ไหมคะ เพื่อนอยู่วิศวะเชียงใหม่ค่ะ...ปีก่อนไปเที่ยวเชียงใหม่ ขออยู่บ้านพักตรงเกษตรแม่โจ้ด้วยค่ะ ตื่นมาชมสวน เจอกวางเอ๋งด้วยค่ะ ที่มันตัวเล็กๆหน่อย ขนเรียบๆ สีอ่อน แบบลูกกวาง จมูกมันมีสีชมพูครึ่งนึง น้ำตาลครึ่งนึงค่ะ :D :D :D อยากจะอุ้มกลับมาเลี้ยงจริงๆ..และที่นี่ต้นไม้เยอะ ธรรมชาติดีมากๆเลย อยากโดดลงแปลงสับปะรด ) แปลงสตรอเบอร์รี่ ชอบตรงปลูกยกแปลงสูงๆ ใช้ท่อปลูก แล้วแบบทำแนวตั้ง มีหลายชั้น พื้นที่น้อยก็ปลูกได้เยอะดี เคยทำแบบนี้ด้วยค่ะ เอาชั้นไม้มาทำ 3 ชั้น ปลูกผัก ปรากฎว่า หัก :D :D :D ว่าจะลองอีกรอบ คงต้องทำอย่างแข็งแรง วนไปวนมาทั้งหมดนี่ เหมือนอัดอั้นไม่ค่อยได้พูด 5555 จะเริ่มทำปุ๋ยหมักแบบอาจารย์บ้างคะ แล้วจะส่งรูปมาเป็นระยะนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ใกล้วันไหว้ครูแล้ว .....กราบงามๆพร้อมดอกไม้ไหว้ครูค่ะ เอ แล้วต้องลงชื่อดีไหมคะ เลข 9 ด้วยยยยยยยยยยยยยย :D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: saree691206 ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 04:11:43 AM ขี้ไก่ปนแกลบที่เขาเอาออกมาจากเล้าค่ะอาจารย์ ทำนาไว้เจ็ดไร่ค่ะ จะต้องใช้ขี้ไก่ปนแกลบกี่กระสอบปู๋ยค่ะ อัตราส่วนเท่ากันไหมระหว่างวัว หมู ขี้ไก่ปนแกลบ >:(
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 06:00:45 AM ขี้ไก่ปนแกลบที่เขาเอาออกมาจากเล้าค่ะอาจารย์ ทำนาไว้เจ็ดไร่ค่ะ จะต้องใช้ขี้ไก่ปนแกลบกี่กระสอบปู๋ยค่ะ อัตราส่วนเท่ากันไหมระหว่างวัว หมู ขี้ไก่ปนแกลบ >:( - เท่ากันครับผม หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 06:06:27 AM สวัสดีค่ะ อาจารย์ :) อ่านตั้งแต่หน้าแรกเลยค่ะ ได้ความรู้มากมาย จะเอาไปทำตามค่ะ ขอเริ่มจากทำในถังผงซักฟอกก่อน เพราะขี้วัวหายาก ซื้อก็แพงด้วยค่ะ :D อีกอย่างต้องเตรียมรับน้ำอีก 3 เดือนข้างหน้า หวังลึกๆว่า น้ำจะไม่มานะ... บ้านอยู่อยุธยา ตัวเมืองค่ะ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา แค่ถนนกั้นห่างไม่ถึงกี่สิบเมตร แถมท้องนาล้อมรอบบ้านอีก ..... Lake side ค่ะ :D :D :D วิวสวย นกมากมาย หลายพันธุ์ นกปากห่าง นกกระยางปากเหลือง นกกระยางปากดำ นกเป็ดน้ำก็มี นกเขา นกพิราบ นก..ไม่รู้ชื่อค่ะ เคยเห็นในหนังสือดูนกเล่มใหญ่ๆที่เขานิยมน่ะค่ะ หางมีพวงด้วย นกสีน้ำเงินป้อมๆ นกสีเขียวตัวเล็กๆ นกฮูกก็เยอะ วันไหนใส่เสื้อขาว นกฮูกบินเป็นเพื่อนเลย นกสารพัดเลย มีนกอพยพมาเป็นช่วงๆด้วยค่ะ มีหมอกช่วงเช้าๆด้วย ฤดูหนาวก็เยอะมาก หรือวันไหนเริ่มหนาวๆ ก็มี ...อากาศดีสุดๆ ...ยกเว้นเรื่องเดียว....น้ำท่วม....แต่ก็ค่อนชินและทำใจได้ ถือซะว่าปิกนิกบนน้ำ ก็ดีนะ ประหยัดดี ไม่ต้องไปใช้จ่าย ฟุ่มเฟือย มีเวลาทำงานบ้านมากขึ้น อ่านหนังสือได้มากขึ้น นอนได้มากขึ้น ได้หัดพายเรือ ดูว่าข้อดีจะมีมากกว่าข้อเสียนะคะ :D :D :D :D :D อ้อ ยังมีที่ข้างบ้านที่เหลือ จะเอามาทำกองปุ๋ยหมัก เพราะ อยากให้ต้นไม้งามๆค่ะ ที่ดินเดิมเคยเป็นที่นามาก่อน ก็ถมดินมาเรื่อย แล้วดินมันก็เป็นดินเหนียวค่ะ ปลูกอะไรก็แกร็นๆ ต้องขุดหลุมปลูกแล้วดูแลเป็นหลุมๆ แต่ตอนนี้ไม่มีต้นไม้แล้ว เหลือแต่ดิน ปลูกแบบเป็นแปลงๆ ไม่ได้เลย เหนื่อย (55) หญ้าก็มากมาย ขนาดหมามันยังไม่เดินไปเลย ดูแปลงสตรอเบอร์รี่แล้วชอบมากเลยค่ะ คุณวิทยา อยู่สะเมิง (ชื่อนี้คุ้นๆเหมือนเพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า ทำไร่มะคาด้วยใช่ไหมคะ เพื่อนอยู่วิศวะเชียงใหม่ค่ะ...ปีก่อนไปเที่ยวเชียงใหม่ ขออยู่บ้านพักตรงเกษตรแม่โจ้ด้วยค่ะ ตื่นมาชมสวน เจอกวางเอ๋งด้วยค่ะ ที่มันตัวเล็กๆหน่อย ขนเรียบๆ สีอ่อน แบบลูกกวาง จมูกมันมีสีชมพูครึ่งนึง น้ำตาลครึ่งนึงค่ะ :D :D :D อยากจะอุ้มกลับมาเลี้ยงจริงๆ..และที่นี่ต้นไม้เยอะ ธรรมชาติดีมากๆเลย อยากโดดลงแปลงสับปะรด ) แปลงสตรอเบอร์รี่ ชอบตรงปลูกยกแปลงสูงๆ ใช้ท่อปลูก แล้วแบบทำแนวตั้ง มีหลายชั้น พื้นที่น้อยก็ปลูกได้เยอะดี เคยทำแบบนี้ด้วยค่ะ เอาชั้นไม้มาทำ 3 ชั้น ปลูกผัก ปรากฎว่า หัก :D :D :D ว่าจะลองอีกรอบ คงต้องทำอย่างแข็งแรง วนไปวนมาทั้งหมดนี่ เหมือนอัดอั้นไม่ค่อยได้พูด 5555 จะเริ่มทำปุ๋ยหมักแบบอาจารย์บ้างคะ แล้วจะส่งรูปมาเป็นระยะนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ใกล้วันไหว้ครูแล้ว .....กราบงามๆพร้อมดอกไม้ไหว้ครูค่ะ เอ แล้วต้องลงชื่อดีไหมคะ เลข 9 ด้วยยยยยยยยยยยยยย :D - ถ้ามีเงิน ลองปรับเพิ่มชั้นสองแล้วทุบชั้นล่างทำเป็นใต้ถุนโล่่ง น้ำมาก็อยู่ชั้นบน ผมเห็นว่ามันท่วมทุกปีไม่ใช่หรือครับ ก็คล้ายกับบ้านที่อยู่ใกล้แม่น้ำปิงของเชียงใหม่ ผมก็มีเพื่อนที่อยู่อยุธยาอยู่คนนึงครับ ตอนแรกก็แปลกใจที่แกไม่ได้เดือดร้อนกับน้ำท่วมบ้าน แกบอกว่าบ้านแกใต้ถุนสูง น้ำมาแล้วก็ไป มันมาทุกปี ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร แกว่า - คุณครูใหญ่ดวงพรครับ นักเรียนมาสมัครครับ ไม่มีผู้ปกครองมาด้วยครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 06:22:16 AM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ สมัครด้วยคนอ่ะครับ :'(1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง 7.คุณoFFja 8.คุณ keawjah กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D ท่านสมาชิกสามารถสมัครแข่งหมักปุ๋ย แบบใหม่ ลงชื่อได้เลยนะคะ หมักกองเล็ก กองใหญ่ กองย่อย ได้หมดค่ะ Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ « ตอบ #234 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2012, 10:07:50 PM » อ้างถึง +1 LIKE อ้างจาก: thepunyapat ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 09:50:08 PM อ้างจาก: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 24, 2012, 03:54:05 PM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ 1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง รอเลข 7 ครับ เขาว่าเฮงๆ... ขอสมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ครับ พร้อมรูปกองปุ๋ยที่ต้องแก้ไข คุณครูใหญ่ดวงพรต้องรับผมและเพื่อนๆด้วยนะ ไม่งั้นผมจะอดข้าวประท้วงครับ แต่จะกินนมและน้ำ ออลืมไป คุณครูใหญ่ต้องไม่มีการแลกเกรดนะครับ อาจารย์ครับ ของผมกองนี้ทำแบบนี้ครับ กองฟางกว้างประมาณ 2 เมตร สูง 30 เซ็นต์ เอาขี้วัวโรยทับ รดด้วย อีเอ็ม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนได้ความสูงประมาณ 1.50เมตร แล้วคลุมด้วยผ้าใบ ทำเสร็จได้ 1 คืน ลองจับดูมีความร้อนค่อนข้างสูง แบบนี้มันจะเป็นปุ๋ยไหมครับ ตอนนี้กองก็ยุบลงไม่มากครับ ทำได้ประมาณ 1 เดือนแล้วครับ - พอเอาผ้าคลุมก็เลยไม่ได้ดูแลความชื้น พอวัสดุแห้งจุลินทรีย์เลยหยุดกิจกรรมการย่อยสลาย การยุบเลยไม่ลงมาก - ตอนวางฟางหนา 30 เซ็นติเมตร ความหนาขนาดนี้จุลินทรีย์ไท่สามารถเดินลงไปกินคาร์บอนแล้วเดินกลับบ้านมากินไนโตรเจนได้ครับ มันไม่มีขาง่ะ การเป็นปุ๋ยเลยค่อนข้างช้า - กองนี้ลอง "ย้าย" ไปทำเป็นกองใหม่ อย่าทำที่เดิม ย้ายห่างออกไปสัก 1 เมตร กองใหม่ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมสูง 1.5 เมตรโดยไม่ต้องทำเป็นชั้น ๆ ระหว่างย้ายก็ให้มีคนคอยรดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่โชก ภายใน 2 วันอาจมีความร้อนกลับมาใหม่ รับประกันได้ครับว่าภายใน 30 วันต้องมีเรื่องแปลกใจให้เห็น แต่ต้องดูแลความชื้นตลอดเวลานะครับ - คุณครูใหญ่ดวงพรครับผม นักเรียนคนนี้ต้องการที่นั่งหมายเลข 7 ครับ ช่วยดูแลอย่าให้ลอกการบ้านมาส่งนะครับ - คุณครูใหญ่ดวงพรครับ มีนักเรียนร้องไห้เข้าโรงเรียนไม่ได้ เขาสงสัยว่าทำไมเขาไม่มีชื่อในทะเบียนครับ (คุณ thepunyapat) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 06:56:11 AM ผู้ลงชื่อหมักปุ๋ยแบบใหม่ ลงชื่อแล้ว คือ
1.คุณ ปากแดงดอทคอม 2.พี่ดวงพร (ขอแข่งหมักและให้รางวัลค่ะไม่ขอรับรางวัล ;D) กำลังรวบรวมวัตถุดิบคาดว่า 1อาทิตย์เศษผักคงพอ ;D 3.คุณ ae hatyai 4.คุณ nongparei 5.คุณ deer art 6.คุณไร่ร่มโพธิ์ทอง 7.คุณoFFja 8.คุณ keawjah 9.คุณ thepunyapat 10.คุณpatcha.c กติกา -รับสมัครลงชื่อ จนถึงปลายเดือน มิ.ย ค่ะ และผู้ลงชื่อ สามารถลงมือหมักปุ๋ยได้เลยเมื่อพร้อม เอารูปมาให้ อ.ธีระ ตรวจการบ้าน -การตัดสิน ปลายปี 55 ผู้สมัครแข่ง ส่งการบ้านได้เรื่อยๆค่ะ การตัดสินผู้ได้รับรางวัลเป็นการพิจารณา ของ อาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว -รางวัลจากเวป ทีมงานจะจัดส่งให้เอง ค่ะ -รางวัล ที่ผู้สมัครแข่งหมักปุ๋ยแบบใหม่ มีดังนี้ ค่ะ 1.เสื้อยืด " ตามรอยพ่ออย่างพอเีพียง" จำนวน 3 ตัว 2.พวงกุญแจโลโก้เวป รางวัลละ 2 พวง 2แบบ จำนวน 3รางวัล 3.สติ๊กเกอร์ เวปมีหมายเลขลำดับสมาชิก จำนวน 1รางวัล พี่ดวงพรจะอัพเดทรายชื่อที่สมัคร หมักปุ๋ยแบบใหม่ ตามที่ท่านสมาชิกสมัครเข้ามานะคะจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย ค่ะ ;D ท่านสมาชิกสามารถสมัครแข่งหมักปุ๋ย แบบใหม่ ลงชื่อได้เลยนะคะ หมักกองเล็ก กองใหญ่ กองย่อย ได้หมดค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 07:02:34 AM เข้าประจำการห้องเรียนหมักปุ๋ยแล้ว ค่ะ ครูใหญ่..ดวงพร (อุ้ย...โก้จริงค่ะอาจารย์...ตอนเด็กๆอยากเป็นครูมากถ้าได้เรียนหนังสือต่อ..บังเอิ๊ญ บังเอิญ เกิดมาในครอบครัวผู้ไม่มีอันจะกินเลยได้แต่ฝัน ขอบคุณ อาจารย์นะคะที่ทำให้ฝันเป็นจริงในห้องเรียน หมักปุ๋ยแห่งนี้ :D :D :D :D)
สำหรับคุณ.คุณ thepunyapat เนื่องจากไม่ชัดเจนว่าจะลงแข่งขัน ครูใหญ่เลยไม่ได้ลงชื่อให้....ลำดับที่ 7 นักเรียนคนอื่นจองไปแล้วไม่ต้องมาติดสินบนครูใหญ่นะ....ครูใหญ่จะให้อยู่ ลำดับที่ 9 ลำดับดี ก้าวหน้านะอย่าก้าวหลัง ;D ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 07:10:00 AM รู้สึก นักเรียนลำดับที่ 1 .คุณ ปากแดงดอทคอม จะทำคะแนนนำเป็นคนแรกเลยนะคะ งานนี้ สงสัยอาจารย์เพิ่มคะแนนพิเศษในการรับรางวัลนะเนี่ย ;D ;D ;D
นักเรียนท่านอื่นๆวัตถุดิบพร้อมละยัง....ถ้าพร้อมเริ่มส่งการบ้านนะคะ เก็บคะแนนไปเรื่อยๆค่ะ ;D ;D ;D ;D สำหรับครูใหญ่....สายๆจะมาส่งการบ้านค่ะ วันนี้วัตถุดิบพร้อมแล้วและเป็นวันหยุดทำงานประจำที่หยุดอาทิตย์ละวัน..ก็มีความสุขกับสวนลอยฟ้าเล็กๆที่ทำ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 07:33:00 AM - คุณครูใหญ่ส่งรูปก่อนดี๊ ครูน้อยจะได้มีกำลังใจ :D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 08:29:13 AM - เอารูปกองปุ๋ยสวย ๆ มาให้ดูนะครับ รูปแรกเป็นของฐานเรียนรู้ที่แม่โจ้ครับ กวาดใบไม้เสร็จก็เอามาทำปุ๋ย แล้วให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ในวันเวลาราชการครับ เสาร์อาทิตย์คนคุมฐานเขาต้องเข้าตอบกระทู้ครับ
(http://image.ohozaa.com/i/ca1/a3GhAD.jpg) - ความร้อนในกองปุ๋ยเมื่อลอยตัวสูงขึ้น มาเจออากาศเย็นข้างนอกตอนเช้าของภาคเหนือ จะเป็นไอขาวแบบนี้ครับ ซึ่งช่วยยืนยันว่าพอมีอากาศลอยขึ้น อากาศเย็นข้างนอกกองก็จะต้องไหลเข้าไปในกองปุ๋ย ไปแทนที่กัน กระบวนการเลยเป็นแบบใช้อากาศ ที่แล้วเสร็จได้เร็ว และไม่มีกลิ่นครับ (http://image.ohozaa.com/i/270/c55gse.jpg) - รูปนี้เป็นของเกษตรกรอำเภอดอยหล่อ เชียงใหม่ครับ (http://image.ohozaa.com/i/11b/hS8auY.jpg) - เกษตรกรปลูกดาวเรืองส่งโรงงานครับ ทำปุ๋ยในแปลง ได้ปุ๋ย ก็ใช้ในแปลงเลย ไม่ต้องขนไปมา (http://image.ohozaa.com/i/2d2/ilnfQn.jpg) - กองปุ๋ยของเกษตรกรหน้ามหาวิทยาลัยครับ ที่เห็นเป็นน้องบิ็กนักศึกษา ตอนนี้เป็นวิศวกรใหญ่แล้วครับ ผมมีนักศึกษาที่ขออาสามาช่วยงานเสมอ น่ารักมาก (http://image.ohozaa.com/i/1fd/KOFvpa.jpg) - รูปนี้เป็นปุ๋ยจากกองที่ทำจากเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ครับ (http://image.ohozaa.com/i/d6f/ZWNRwU.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 08:40:02 AM - ในปี 53 อบต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ ขอให้เราไปช่วยสอนการทำปุ๋ย ก็เลยขอให้ อ.ก้วยเจ๋ง ไปอบรมครับ ผลคือได้รูปสวย ๆ มาฝาก ในรูปเป็นเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ อบต.เขาไปขนมาให้ทำปุ๋ยครับ เอื๊อกกกก......
(http://image.ohozaa.com/i/23c/2lX0UL.jpg) - บรรยายเสร็จ ก็ถึงเวลาลงมือทำงาน (http://image.ohozaa.com/i/c39/mkO2Df.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/df7/YMFl0.jpg) (http://image.ohozaa.com/i/eae/r7KmKi.jpg) - เศษข้าวโพดที่เห็นหดเข้าไปในกองปุ๋ยเรียบร้อย คิดเป็นเงินก็หลายอยู่ สมมตว่าได้ปุ๋ย 30 ตัน เราจะใช้ขี้วัว 900 กระสอบ คิดเป็นเงิน 27,000 บาท แต่เนื้อปุ๋ย 30 ตันนี่มีมูลค่าถึง 120,000 บาทเชียวนะครับ ปุ๋ย 30 ตันนี่เอาไปปลูกข้าวอินทรีย์ได้ 30 ไร่นะครับ (http://image.ohozaa.com/i/3b6/YFhQE3.jpg) - อีก 30 วัน น้องบิ๊กของเราก็ไปตรวจกองปุ๋ย พอไปถึงก็ล้วงเช็คความชื้นทันที ผลปรากฏว่า บริเวณที่กองปุ๋ยแห้งวัสดุก็จะยังคงเป็นเศษข้าวโพดเหมือนเดิม แต่บริเวณที่ชื้นดี วัสดุจะเปื่อยยุ่ยเป็นปุ๋ยครับ (http://image.ohozaa.com/i/4f5/DQnIRH.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: loongnan2 ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 08:50:08 AM ผมloongnan2 ยังเป็นนักเรียนอนุบาลอยู่ครับ มิอาจเอื้อมที่จะโดดลงไปแข่งขัน แต่อยากส่งการบ้านให้อาจารย์แนะนำ
จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข :) :) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:27:03 AM ผมloongnan2 ยังเป็นนักเรียนอนุบาลอยู่ครับ มิอาจเอื้อมที่จะโดดลงไปแข่งขัน แต่อยากส่งการบ้านให้อาจารย์แนะนำ จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข :) :) ลงชื่อเลยค่ะหมักกองเล็กกองใหญ่ไม่เกี่ยง กิจกรรมสนุกๆกันค่ะ มีรางวัลเหมือนกันทั้งหมด นะคะ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:58:33 AM - คุณครูใหญ๋ดวงพรพูดถูกครับ อายครูไม่ได้วิชานะครับ ส่งรูปมาเลยครับจะได้แนะนำทางเน็ตนี่แหละครับ เด็กอนุบาลนี่เป็นเร็วกว่าเด็ก ม.6 นะครับ นักเรียนพวกหลังนี่ชอบวิจัยครับ คอยจะปรับเปลี่ยนและต่อรองอยู่เรื่อย :D
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: deer art ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 10:07:56 AM (http://upic.me/i/gc/dsc04156.jpg) (http://upic.me/show/36005750)
(http://upic.me/i/kp/dsc04171.jpg) (http://upic.me/show/36005747) (http://upic.me/i/dx/dsc04190.jpg) (http://upic.me/show/36068298) คุณครูครับ ขอเลื่อนส่งการบ้านครับ ที่นา 45 ไร่ ขอผมยังไม่ได้หว่านข้าวเลยซักเม็ด เจอฝนใหญ่ท่วมมิด ขอจัดการเรื่องนาข้าวก่อนนะครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 10:31:29 AM - ที่เชียงใหม่ มีเรื่องเศร้าใจเกี่ยวกับวิธีการปลูกข้าวของเกษตรกรครับ คือ พอเกี่ยวข้าวเสร็จ (จ้างรถเกี่ยว) เขาก็จะเผานากัน มีการขนฟางไปวางในสี่เหลี่ยม เพื่อจะได้เกลี่ยฟางให้ทั่วและจะได้สีดำ ๆ ของขี้เถ้าเต็มพื้นที่ นัยว่าจะได้ปุ๋ยจากขี้เถ้าและกำจัดวัชพืชกับเชื้อโรค หลังจากนั้นก็จะปลูกถั่วเหลือง โดยหยอดเม็ดลงในตอซัง พอถั่วโผล่ยอด ก็ใส่ปุ๋ยยูเรีย
(http://image.ohozaa.com/i/3c3/6Oa6DW.jpg) - รูปนี้เกษตรกรทำการเผานาอย่างปราณีตครับ นั่งคุมให้มีสีดำ ๆ ของขี้เถ้าคลุมทั้งแปลง ผมเคยเอาขี้เถ้าไปวิเคราะห์แล้วครับ ก็ไม่เห็นจะมีคุณค่าอะไรเลย (http://image.ohozaa.com/i/3d0/U4IZ1f.jpg) - พอปลูกถั่วเหลืองเสร็จก็ทิ้งนาไว้ พอใกล้จะฤดูฝน ก็พ่นยาฆ่าหญ้าคลุม แล้วจ้างรถไถ - ดินนาของเกษตรกรทุกวันนี้ก็เลยแน่น แข็ง ดินเป็นผง การใช้ปุ๋ยเคมีก็ต้องใส่มากขึ้นทุกวัน ๆ จะหาไส้เดือนหรือสิ่งมีชีวิตในนาก็แทบจะหาไม่ได้ บางคนทำนาเริ่มไม่ได้ผล ก็ต้องไปหาซื้อปุ๋ยขี้ไก่ ขี้ค้างคาว กระสอบแพง ๆ มาใส่นา เห็นใครบอกว่าปุ๋ยอันนั้นอันนี้ดีก็หาซื้อมาใส่ - อยากชวนพวกเรางดการเผานา หันมาไถกลบตอซัง แช่น้ำไว้ให้เป็นปุ๋ย แล้วค่อยลงถั่ว พวกที่ทำนาอินทรีย์เขาก็ทำแบบนี้ ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาเรื่องวัชพืชหรือโรคครับ ยาฆ่าหญ้าก็ไม่ได้ใช้ ต้นทุนกลับถูกลง ดินกลับดีขึ้น - ปกติเวลาเราทำอิฐ เราต้องเผาดินไม่ใช่หรือครับ การเผานามันไม่ทำให้ดินแข็งหรือครับ ไม่ทำให้จุลินทรีย์ดินกับอินทรีย์วัตถุระเหยไปหมดหรือครับ - เมื่อไม่มีอินทรีย์วัตถุในดิน ปุ๋ยเคมีที่เราใส่ลงไปก็ซึมลงไปกับน้ำใต้ดินหมด บางส่วนก็กลายไปอยู่ในสภาพไม่ละลายน้ำ พืชก็เลยไม่ค่อยได้ประโยชน์จากปุ๋ย เกษตรกรจึงต้องใช้ปุ๋ยเคมีมากขึ้น ๆ ทุกปี - เมื่อเราทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองจากฟาง อินทรีย์วัตถุในดินจะซับปุ๋ยเคมีและความชื้นไว้ (อินทรีย์วัตถุชอบจับประจุบวกของสารเคมีเอาไว้) และปรับสภาพดินให้เป็นกลาง การใช้ปุ๋ยเคมีจึงไม่ต้องใช้มาก ใช้แค่ 30% ก็ยังได้ เรียกว่าเป็นการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ ต้นทุนจึงลดลงได้ - สำหรับเมืองที่เจริญแล้ว การทำแบบนี้ถือว่าช่วยลดการปล่อยคาร์บอน หรือแก๊สที่เป็นสาเหตุของโลกร้อน เพราะการเผาก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ การทำและใช้ปุ๋ยหมัก เป็นการนำคาร์บอนฝังในดิน ได้ประโยชน์มาก ถึงแม้จะเกิดมีเทนจากการไถกลบตอซังบ้างครับ - ที่เมืองนอกเขามีกฏหมายห้ามเผาทุกชนิด ผมเคยเห็นรถที่เขาใช้สาดมูลสัตว์ในแปลงนาด้วยครับหลังจากที่ไถกลบต้นข้าวโพด เหม็นไปทั้งเมืองแต่ก็ไม่เห็นมีใครบ่นครับ ที่บ่นก็มีแค่นักท่องเที่ยวจากเมืองไทย - ในรูปเป็นไอเดียของแม่โจ้ครับ ชวนเกษตรกรทำกองปุ๋ยในนา ใครขี้เกียจตัดตอซังก็ไถกลบ ถ้าไถกลบตอนตอสด ๆ ก็ยิ่งมีคุณประโยชน์ครับ (http://image.ohozaa.com/i/7f3/cEoLzp.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 11:38:58 AM http://www.youtube.com/v/quf56uyT-Ik
ไปเจอ Video อธิบายการทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ นั่งดูแล้วเห็นว่าบรรยายได้เข้าใจง่ายดี เลยเอามาฝากเพื่อนสมาชิกครับ เผื่อช่วยแบ่งเบาการอธิบายของท่านอาจารย์ tera ไปได้บ้างนะครับ ;D ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 11:48:23 AM - เอาอีก ๆ ครับคุณนพ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 11:54:35 AM http://www.youtube.com/v/LcxjfchUVHo
และการหมักปุ๋ยง่ายๆแบบนี้พอใช้ได้ไหมครับท่านอาจารย์ tera เป็นแบบของชาวอโศกครับเขา ไม่ได้เน้นมูลสัตว์เพราะเขาไม่เลี้ยงสัตว์กันครับ เห็นวิธีทำแล้วก็ง่ายดีไปอีกแบบ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 12:48:10 PM - ขอบคุณคุณนพครับผม
- สมาชิกคงเห็นแล้วนะครับว่าวิธีการทำปุ๋ยหมักในเมืองไทยมีมากมาย แต่อย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ มีการยืนยันเสมอว่านำไปบำรุงดินเพื่อการเพาะปลูกแล้วได้ผลดี ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะดินเพาะปลูกต้องการอินทรีย์วัตถุ ทีนี้ในปุ๋ยที่เราทำส่วนใหญ่มีเศษพืชเป็นองค์ประกอบ ซึ่งมีธาตุอาหารและจุลธาตุต่าง ๆ มากมายในเศษพืช เมื่อนำมาทำเป็นปุ๋ยแล้วนำกลับสู่ดิน พืชก็จะได้แร่ธาตุมากมายที่ไม่พบในปุ๋ยเคมี - ข้อแตกต่างของวิธีแม่โจ้คือ เหมาะกับการทำปุ๋ยทีละมาก ๆ หากเรามีพื้นที่เพาะปลูก 20 ไร่ ก็จำเป็นต้องมีปุ๋ยหมัก 20 ตันต่อปี ถ้าขี้เกียจพลิกกองปุ๋ยก็ต้องวิธีของผมละครับ - ถ้าใครขี้เกียจทำปุ๋ยเองอีก ก็ให้ไปซื้อปุ๋ยหมักของบริษัทนะครับ แล้วอย่าลืมทำบัญชีรายรับรายจ่ายนะครับ เอาไว้แสดงกำไรขาดทุนเมื่อสิ้นปี หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: NoWhere_Man ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 01:17:38 PM อ.Teera ครับ กรณีหมักแบบไม่ใช้มูลสัตว์ แล้ว Nitrogen มาจากไหนครับ หากไม่มีมูลสัตว์จะใช้อะไรแทนได้บ้างครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 02:07:18 PM - วิธีของ พด ใช้ปุ๋ยยูเรียเป็นแหล่งไนโตรเจนครับ แต่ก็ยังต้องใช้มูลสัตว์ด้วย
- บางวิธีใช้กากน้ำตาล หรือน้ำหมักชีวภาพ - บางวิธี (โดยเฉพาะของฝรั่ง) ใช้จากพืชสดครับ สำหรับผมการหาพืชสดสีเขียวนี่ยากมาก หากจะต้องทำปุ๋ยสัก 10 ตันนี่จะไปแอบตัดใบต้นไม้ของสวนใครดี ? พอทิ้งไว้มันก็แห้งซะนี่ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Tommy_LA ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 02:43:10 PM โครงการทำปุ๋ยของ ม.แม่โจ้ แบบนี้ผมว่าเหมาะมากที่ทำเป็นกุศโลบายช่วยลดหมอกควัน ในภาคเหนือ
และจะคุ้มค่ามาก เพราะได้ประโยชน์ 4 เด้ง คือลดการเผา ลดควัน ลดดินเสีย และได้ปุ๋ย และจะเป็นการลดต้นทุนอย่างแท้จริง เมื่อเป็นการใช้ฟางข้าวจากในนาของตนเอง ประเด็นจึงตกมาอยู่ที่ว่า การทำปุ๋ยนั้นมีประโยชน์จริง ลดต้นทุนได้จริง ในขอบเขตไหน โดยเป็นที่น่าสังเกตุว่า การซื้อฟางข้าวมาเพื่อทำปุ๋ยของกลุ่มเกษตรกร ตัวอย่าง แล้วใช้ทรัพยากรต่างๆ ของหลวงบ้าง ของเอกชนบ้าง แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย การคำนวนจุดคุ้มทุนของนโยบายแบบนี้ จะคำนวนให้ได้อย่างแม่นยำ โดยใช้ดัชนีชี้วัดอย่างไรครับ หรือคำนวนได้จากผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ผู้ทำสำเร็จ จำนวนปุ๋ยที่ได้ หรือหมอกควันที่ลดลง ป.ล. ไม่ถูกใจหรือขัดกับบรรยากาศ ลบได้นะครับ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:20:59 PM - ดีจังเลยที่มีคนคิดแบบนี้ หมอกควันพิษในภาคเหนือเกิดเพราะการเผาป่าเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เผาป่าเพื่อเอาไข่มดแดง เพื่อได้ผักหวาน เพื่อได้เห็ดเผาะ เผาที่ดินรกร้าง เผาเศษพืชเช่นฟางและใบไม้ เผาแปลงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อปลูกรอบต่อไป และท้ายสุดเผาเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่โม่เสร็จครับ
- แม่โจ้ได้เดินสายเพื่อส่งเสริมให้มีการนำเศษพืชที่เป็นฟางและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาทำเป็นปุ๋ย แทนที่จะเผาทิ้งไป ช่วงแรกโมเดลของเราคือหาทุนที่สนับสนุนชุมชนหรือกลุ่มที่จะทำปุ๋ยด้านมูลสัตว์ บางทุนได้กลุ่มละ 300 กระสอบ บางทุนได้กลุ่มละ 1,200 กระสอบ (ให้แต่มูลสัตว์เท่านั้น อย่างอื่นไม่ให้ เพื่อกระตุ้นการรวมกลุ่มและเป็นกองทุนเริ่มแรก) แต่ที่เหมือนกันคือพยายามบูรณาการให้ใช้ทรัพยากรของ อปท. เช่นงบประมาณ หรือเครื่องย่อย หรือโรงปุ๋ยที่มีอยู่ เพราะมันตอบยุทธศาสตร์ของ อปท.ได้เรื่องหมอกควัน เรื่องปุ๋ยเคมี เรื่องอินทรีย์ - เท่าที่รวบรวมข้อมูล ก็ไม่มี อปท.ใดที่ให้ความร่วมมือกับเลุ่มเกษตรกร มีแต่เกษตรกรที่บริหารจัดการกันเอง ด้วยภูมิปัญญาและการร่วมกลุ่มของเขาเอง จัดหาฟางเองโดยไม่ซื้อ - ภายในปี 2555 แม่โจ้ได้สร้างกลุ่มเกษตรกรที่ทำปุ๋ยแบบนี้ใน 8 จังหวัดภาตเหนือตอนบน ได้รวม 37 แห่งครับ แล้วให้เป็นฐานเรียนรู้ของชุมชน ให้พวกเขาเป็นวิทยากรถ่ายทอดไปเรื่อย ๆ สักวันอีก 10 ปีข้างหน้า ถ้าพวกเราทุกคนสนับสนุนเรื่องแบบนี้ทุกโอกาส ผมคิดว่าหมอกควันพิษก็จะหมดไป เศษพืชก็จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ ดินดี ได้ปุ๋ย ลดต้นทุน อย่างที่ท่าน Tommy_La บอกครับ - อาจารย์แม่โจ้กลุ่มเราทำงานหนักมากเพื่อเดินสายเยี่ยม 37 กลุ่มใน 8 จังหวัด - เสียดายที่แม่โจ้ทำโครงการนี้ก่อนจะได้มีโอกาสเป็นสมาชิก กพพ. ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคุณนพ ครูซอส เป็นฐานเรียนรู้ของแม่โจ้ก็ได้ - ก็จะมีแต่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการครับที่จะเห็นประโยชน์ของปุ๋ยว่ามีมากน้อยอย่างไร แต่อันที่จริง โพสของผมก็มีตัวอย่างของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จที่การันตีได้ มีความพอเพียง มีความยั่งยืน หลุดพ้นจากโอกาสที่จะขาดทุน และมีความสุขที่ได้แบ่งปันครับผม - จุดคุ้มทุนใช้กับโครงการนี้ไม่ได้ สมมติกลุ่มเกษตรกรเข้ากลุ่มกันทำปุ๋ยวิธีนี้เพื่อลดหมอกควัน พวกเขาไปขนฟางขนเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จัดหามูลสัตว์กันเอง ออมทรัพย์กันเอง ใช้แรงงานทำปุ๋ยกัน ได้ปุ๋ยอินทรีย์ต้นทุนต่ำแบ่งไปใช้ บำรุงดิน ลดปุ๋ยเคมี แค่คิดว่าถูกกว่าต้องซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของบริษัทกระสอบละ 350 บาท ผมก็ว่าสุดคุ้มแล้วครับ - ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่ลึกซึ้งและเป็นห่วง ช่วยกันครับผมเพื่อคนไทยด้วยกัน หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:27:23 PM ส่งการบ้านอาจารย์ค่ะ
จุดประสงค์ของการหมัก ต้องการเรียนรู้การหมักปุ๋ยแบบใหม่และต้องการใช้ในครัวเรือนแบบเล็กๆเพราะ อาศัยในเมือง มีพื้นที่ปลูกผักเล็กๆน้อยในกล่องโฟมประมาณพื้นที่ไม่ให้แต่ใจมันรัก น่ะค่ะ วัตถุดิบ ...ผักบุ้งร้านก๋วยเตี๋ยวข้างบ้าน (http://image.ohozaa.com/i/387/K6mRp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kIKOsJJ7uK5qKY) ขี้วัวกระสอบละ 25 บาท จำนวน4ถุง 100 บาท (http://image.ohozaa.com/i/c24/ou1kB0.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kJakVQ8UEDoX5K) กล่ององุ่น ได้มาฟรีๆจากแม่ค้าผลไม้ตัดฝาแล้วต่อให้ยาวค่ะ แปะด้วยเทปกาว ดูเหมือนจะไม่แข็งแรงแต่แข็งแรงนะคะกล่องหมักนี้ ;D (http://image.ohozaa.com/i/e9a/QgUDZi.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kJqDXdbBvjJBrW) (http://image.ohozaa.com/i/6e0/eMzVz7.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kLRETJZ5TfHTYA) (http://image.ohozaa.com/i/e1a/WuDTHT.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kMKXA8dIELA4aQ) (http://image.ohozaa.com/i/eeb/Y4j8ba.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kMVWVh0LfqGsyA) (http://image.ohozaa.com/i/2e2/qNY8Ku.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kN2kxy7f9FDHAA) วางเรียงจนเต็มชั้นกล่องโฟมค่ะและทุกชั้นระหว่างผักบุ้งกับขี้วัว รดน้ำทุกชั้นจนเปียก หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:32:51 PM ปุ๋ยหมักที่ได้ จะใช้กับผักเล็กๆน้อยที่ปลูกไว้ค่ะ
(http://image.ohozaa.com/i/1e4/Kl209R.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kNhdEc1zmyGT7y) (http://image.ohozaa.com/i/a75/sIBLR8.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kOfQ0OvWvPGa3u) (http://image.ohozaa.com/i/dde/59kHE7.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w6kOqtnh1pxwBK3m) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:34:54 PM - ทำโครงการนี้ แม่โจ้ไม่หวังว่าหมอกควันจะลดครับ มันจะลดได้ยังไงในเมื่อสาเหตุของการเผามีมากมายอย่างที่พูดมาแล้ว แม่โจ้ช่วยได้เฉพาะการบริการวิชาการ เอาความรู้ไปช่วยให้เกษตรกรนำเศษพืชมาใช้ประโยชน์แทนการเผา สอนให้เกษตรกรเอาวิกฤติเป็นโอกาส แม่โจ้ไม่มีงบประมาณครับ พวกผมมีหน้าที่สอนอย่างเดียว จะไปบังคับไปสั่งให้ผู้ว่าราชการหรือรัฐมนตรีจัดงบประมาณมาช่วยหมอกควันได้อย่างไร ทำแค่นี้ก็ผิดปกติของจานทั่วไปแล่ว
- เท่าที่ทราบ แต่ละจังหวัดไม่มีงบช่วยหมอกควันครับผม มีบ้างก็ในระดับล้านบาท - ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจจริงเกี่ยวกับหมอกควันพิษ ไม่อยากให้พี่น้องไทยเจ็บป่วยจากหมอกควัน เอกชนได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวหนี ก็น่าจะจัดงบด่วนให้จังหวัดละสัก 1 พันล้าน แปดจังหวัดก็แปดพันล้าน เอาไปแก้ปัญหาในทุกตำบลทุกหมู่บ้าน เศษพืชทุกเส้นถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน เป็นปุ๋ยให้หมด เงินนี้เอาไปจ้างคนเฝ้าป่า เอาไปจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรที่ต้องการเผาป่าเพื่อปลูกข้าวโพด แปดพันล้านบาทเปรียบเทียบกับแสนล้านบาทแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพนี่ ผมว่าเทียบกันไม่ได้เลยครับ (ผมไม่ได้ว่ารัฐบาลใดครับ ผมว่าทุกรัฐบาลใส่ใจไม่เพียงพอเหมือน ๆ กัน) - ทำอย่างนี้สัก 10 ปี การเผาก็น่าจะหายไปครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:43:47 PM ส่งการบ้านอาจารย์ค่ะ จุดประสงค์ของการหมัก ต้องการเรียนรู้การหมักปุ๋ยแบบใหม่และต้องการใช้ในครัวเรือนแบบเล็กๆเพราะ อาศัยในเมือง มีพื้นที่ปลูกผักเล็กๆน้อยในกล่องโฟมประมาณพื้นที่ไม่ให้แต่ใจมันรัก น่ะค่ะ - คุณครูใหญ่ดวงพรครับ ปริมาณผักบุ้งขนาดนี้ถือว่าเป็นกรณีคล้ายกับทำในกะละมังครับ เพราะปริมาณและความสูงไม่มากพอที่จะเก็บความร้อนไว้ได้ การพาความร้อนก็เลยไม่เกิดครับ เพราะฉะนั้นเราต้องพลิกกลับทุกวันเพื่อเอาอากาศให้กับจุลินทรีย์นะครับ - จะพลิกวันเว้นวันก็ได้ แต่เวลาแล้วเสร็จจะขยายเวลาออกไปบ้าง - ตอนพลิกก็ให้สังเกตความชื้นว่าพอใจหรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าแห้งไปก็พรมน้ำ - ตอนพลิกอาจสังเกตว่ามีอุ่น ๆ ข้างใต้ อาจสวมถุงมือดำตอนพลิกหรือจะใช้เหล็กงอปลายพลิกก็ได้ครับ ถ้าใส่ถุงมือ ตอนพลิกก็ให้ขยำ ๆ ไปด้วยเพื่อลดพื้นที่ผิวของวัสดุ จุลินทรีย์จะได้โจมตีได้ง่าย แล้วก็อย่าไปอัดให้แน่นนะครับ ฝาไม่ต้องปิด หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: kmsmily ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:48:59 PM ถ้ามีงบแก้ไขหมอกควัน 8,000 ล้าน จะได้เงินลงมาแก้ไขจริงๆสักกี่เปอร์เซ็นต์ครับ
แต่ก่อนยังเหลือประมาณ 70-80 % ล่าสุดที่ผมได้ยินมางบ 100 ล้าน ถึงมือผู้รับเหมา 40 ล้าน วิ่งแก้แบบกันสุดๆ นี่แหละสยามเมืองยิ้ม เหนื่อยใจต่อไปประชาชนคนไทย >:( >:( >:( หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:51:57 PM - นักเรียนคุณครูใหญ่ครับ ไม่ทราบว่าปุ๋ยคอกที่ใช้นี่ เขาเอาขี้วัวไปทำให้สงบตัวเป็นปุ๋ยคอกหรือไม่ (เอาไปกอง รดน้ำ รอให้หายร้อน 2 เดือน แห้งเสร็จใส่กระสอบ) หรือว่าเป็นขี้วัวแห้ง ถ้าเป็นอย่างแรกจุลินทรีย์จะเหลือน้อย แต่ไม่เป็นไรครับ สักพักมันจะปรับจำนวนของมันได้เองในกองปุ๋ย
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 03:55:48 PM ถ้ามีงบแก้ไขหมอกควัน 8,000 ล้าน จะได้เงินลงมาแก้ไขจริงๆสักกี่เปอร์เซ็นต์ครับ แต่ก่อนยังเหลือประมาณ 70-80 % ล่าสุดที่ผมได้ยินมางบ 100 ล้าน ถึงมือผู้รับเหมา 40 ล้าน วิ่งแก้แบบกันสุดๆ นี่แหละสยามเมืองยิ้ม เหนื่อยใจต่อไปประชาชนคนไทย >:( >:( >:( - ไม่เป็นไรครับขอให้พวกเขามีวิสัยทัศน์มากพอที่จะจัดงบมา มีงบเหลือ ๆ มาบ้าง ดีกว่าไม่มา อีกอย่างนึงตอนพวกเราไปสวรรค์ก็ขอให้ปลงนะครับ อย่าได้ไปสงสารพวกนู้นในนรกให้มาก ฮิฮิ ;D :D :) 8) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 04:04:34 PM - มีวิดีโอมาฝากครับ การสูบน้ำเข้านาแบบพอเพียง ลดพลังงาน ลดการจ้าง
http://www.youtube.com/watch?v=vmn7kB1PJAY&feature=fvwrel vmn7kB1PJAY (http://image.ohozaa.com/i/dc8/qEDzaC.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 04:14:26 PM แล้วธาตุอาหารที่ใด้จากปุ๋ยหมักกลับปุ๋ย เคมีแตกต่างกันมากน้อยใหมครับ... กำลังจะกลับไปทดลองทำครับ แถวบ้านผมไม่มีใครทำเลยซักบ้านครับ - แฮ่ะ ๆ ลืมตอบครับผม ต้องขอโทษด้วยครับ ::) - ธาตุอาหารจากปุ๋ยหมักกับปุ๋ยเคมีต่างกันมหาศาลครับผม - อย่างปุ๋ยยูเรียมีไนโตรเจน 46% แต่ปุ๋ยหมักมาตรฐานกำหนดที่ 1% ครับผม - อย่างปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 มีไนโตรเจน 16% ฟอสฟอรัส 16% โพแทสเซียม 16% แต่ปุ๋ยหมักมีไนโตรเจน 1% ฟอสฟอรัส 0.5% โพแทสเซียม 0.5% เทียบกันไม่ได้ครับผม (ทำปุ๋ยวิธีของแม่โจ้ การันตีที่ไนโตรเจน 2-3% ฟอสฟอรัส 1-2% โพแทสเซียม 1-2%) - แต่ในปุ๋ยหมักมีหลายอย่างที่ปุ๋ยเคมีไม่มีครับ ได้แก่ อินทรีย์วัตถุ 20% คาร์บอน 30% มีแคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์ โบรอน โบลิบดินั่ม เหล็ก สังกะสี - สิ่งที่ปุ๋ยหมักมี นับว่ามีมากเพียงพอที่พืชจะนำไปใช้ มากจนพวกเกษตรอินทรีย์ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีง่ะ - ก่อนนี้โลกเราก็ไม่มีปุ๋ยเคมี แต่บรรพบุรุษเราก็ปลูกข้าวเป็นที่ 1 ของโลกมาตลอดครับ - ทำปุ๋ยหมักใช้เถอะครับ ยอมเหนื่อยหน่อย แล้วใช้ควบคู่กับปุ๋ยเคมี แล้วจะประหลาดใจครับ นับเป็นโอกาสของเราที่จะลดต้นทุน แถมปรับปรุงดินเพาะปลูกไปด้วย (ประหยัดเงินที่จะไปซื้อปุ๋ยหมักของคนอื่นอีกต่างหาก) ทำเองกระสอบละ 25 บาท คุณภาพดีกว่าที่ไปซื้อของเขา 350 บาทครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 06:33:43 PM - มีรูปมาแชร์ครับ รูปแรกนี่เป็นภาพปกติใน 8 จังหวัด เป็นการทำลายป่าเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกร นับวันจะเห็นภาพอย่างนี้มากขึ้น ๆ
(http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/IMG_5445.jpg) - การเผาฟางของเกษตรกรเป็นเรื่องปกติไปแล้ว (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/DSC04997.jpg) - เผาแค่หนึ่งกองยังเป็นอย่างนี้ ถ้าทุกคนช่วยเผาก็เลยเป็นหมอกควันพิษไปในช่วงเดือนกุมภาถึงเมษาทุกปี (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/1.jpg) - เศษพืชอีกอย่างที่เริ่มมีมากขึ้น คือเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ครับ เริ่มเผากันตั้งแต่ต้นพฤศจิกา ช่วงนั้นอากาศภาคเหนือจะเย็นและมีความกดอากาศสูงปกคลุม อนุภาคจากการเผาเลยไม่ลอยไปไหน ปกคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดเหมือนกันหมด พอมีการเผาป่า เผาฟาง เผาพื้นที่รกร้าง ก็เลยไปกันใหญ่ (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/DSC04590.jpg) (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/D.jpg) (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/DSC00077.jpg) (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/DSC000761.jpg) (http://i1269.photobucket.com/albums/jj597/tera54/DSC08881.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 07:40:28 PM - นักเรียนคุณครูใหญ่ครับ ไม่ทราบว่าปุ๋ยคอกที่ใช้นี่ เขาเอาขี้วัวไปทำให้สงบตัวเป็นปุ๋ยคอกหรือไม่ (เอาไปกอง รดน้ำ รอให้หายร้อน 2 เดือน แห้งเสร็จใส่กระสอบ) หรือว่าเป็นขี้วัวแห้ง ถ้าเป็นอย่างแรกจุลินทรีย์จะเหลือน้อย แต่ไม่เป็นไรครับ สักพักมันจะปรับจำนวนของมันได้เองในกองปุ๋ย ไม่ทราบว่าเป็นอย่างใหนนะคะอาจารย์เพราะ ซื้อมากระสอบ 25 บาทแต่ดูแล้วน่าจะเป็นอย่างแรกค่ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 07:51:43 PM - ไม่เป็นไรครับ ลองทำดูได้เลย
- คงต้องแบ่งทำหลายกล่องหรือกะละมังน่าจะดี เวลาพลิกจะได้ง่ายหน่อย หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: apichi ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 08:50:37 PM ที่สวนมีใบสักอยู่เยอะเลยต้องเผาตลอดในช่วงหน้าแล้งกลัวไฟ หากเอามาทำปุ๋ยแบบนี้จะได้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:27:06 PM กลับมาถึง กทม ล่ะครับ มาถึงก็มาอัพรูปเลยครับ
(http://s13.postimage.org/9gaih8k93/11_DSC01013.jpg) จากเมื่อวานนี้ที่ว่าฟาง 5 ก้อนหมดแล้ว เหมือนโชคดีไปได้ขุยมะพร้าวแบบที่เจ้าของเค้าวางกองทิ้ง ๆ ไว้ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์อะไรก็เลยขอซื้อเข้ามา ทั้งคันรถกระบ 1500 บาท รวมค่าโกยใส่กระสอบค่าขนส่งแล้วนะครับ มีทั้งหมด 110 กระสอบ สงสัยคงไม่ต้องไปซื้อฟางมาเพิ่มแล้วครับ คำนวณราคาแล้วขุยมะพร้าวที่ซื้อมานี้ถูกกว่าฟาง แต่ถ้าไปซื้อขุยมะพร้าวตามร้านที่เค้าทำขายโดยเฉพาะจะตกกระสอบละ 40 บาท ต้องไปขนเองด้วยนะครับ (http://s15.postimage.org/soor4xh3f/12_DSC01014.jpg) หากใครอยากได้ของแบบนี้ ผมแนะนำทริกให้นะครับ ลองขับรถไปตามถนนมองหาตามสองข้างทางนะครับ หาพวกโรงที่เค้าทำมะพร้าวเผา (เอามะพร้าวอ่อนมาเผา) แล้วสังเกตโรงงานด้วยว่าเค้าจะกองเปลือกมะพร้าวทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไว้เยอะแยะ ถ้าเจอแบบนี้แสดงว่า เค้าไม่สนใจที่จะขายเปลือก (ถ้าเป็นพวกโรงมะพร้าวแกง พวกนี้จะทำขุยมะพร้าวขายต่างหาก เราจะได้ราคาแพง) พอเจอแบบนี้ก็เลี้ยวรถเข้าไปคุยกับเค้าได้เลยครับ แล้วก็ไปเสนอขอซื้อเลยครับ ผมใช้วิธีนี้แหละครับ ผมเข้าไปคุยกับเจ้าของ คุยไปคุยมาเค้าก็สนใจวิธีทำปุ๋ยเช่นเดียวกัน ก็เลยเล่าวิธีของอาจารย์ให้เค้าฟัง เค้าบอกจะไปลองทำดูบ้าง ผมกะว่าทำแล้วได้ผลยังไงจะเอาปุ๋ยไปให้เค้าลองดูเหมือนกันครับ เป็นการสร้างคอนเนคชันกันไว้ ยังมีขุยมะพร้าวอีกเยอะให้ผมไปซื้อได้อีกหลายปี :D (http://s15.postimage.org/eyyt9vjd7/13_DSC01015.jpg) แกะออกมา 40 กระสอบก่อนครับ กะด้วยสายตาแล้ว ใช้เท่านี้บวกกับขี้วัวอีกหน่อย ก็ทำให้กองปุ๋ยหมักสูง 1.5 เมตรได้ แต่เสียอย่างตรงขุยมะพร้าวที่ซื้อมาบางทีจะมีขยะเช่นถุงพลาสติก หลอด โฟม กระดาษ ติดมาด้วย พอเทออกมาแล้วก็ต้องมาเสียเหงื่อเสียเวลาเอาขยะออกอีกครับ (บอกแล้วครับ เจ้าของไม่ตั้งใจจะขายมัน ก็เลยไม่ได้พิถีพิถันดูแลเรื่องไม่ให้มีขยะอื่นมาปนในกองขุยมะพร้าว) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:44:25 PM (http://s14.postimage.org/6orae5qip/14_DSC01016.jpg)
ดูเนื้อขุยกันไกล้ ๆ ครับ อาจารย์ครับ แบบนี้ผมควรจะผสมขี้วัวด้วยอัตราส่วน 4:1 เหมือนฟาง หรือเปล่าครับ แล้วผมจะต้องกังวลเรื่องที่ขุยมะพร้าวเวลามันโดนน้ำมันจะจับตัวกันแน่น ทำให้อากาศผ่านได้ไม่สะดวกด้วยหรือเปล่าครับ ผมควรจะหาเศษหญ้าแห้งหรือวัสดุอื่นมาคลุกกับขุยมะพร้าวด้วยไหมครับ (http://s13.postimage.org/fjwoevzwn/15_DSC01018.jpg) ซูมเข้าไปดูกันไกล้ ๆ ครับ (http://s13.postimage.org/r6ldtrclj/16_DSC01020.jpg) มีทั้งขุยหยาบและขุยละเอียดปน ๆ กันไปครับ กองทิ้งไว้ก่อนครับ ไม่มีเวลาแล้วต้องรีบกลับล่ะครับ อาทิตย์หน้าค่อยมาตั้งกองให้ถึง 1.5 เมตรนะครับ อ้อวันนี้ฝนตกนะครับ กองปุ๋ยหมักที่ผมทำแล้วชุ่มเลยครับ แต่ว่าพอผมเอามือล้วงเจาะเข้าไปสัก 1 นิ้วชี้ เหมือนกันมันแห้งแต่ก็รู้สึกได้ถึงความอุ่น ๆ นะครับ อย่างนี้แสดงว่าการเจาะกองปุ๋ยแล้วเอาน้ำเติมลงไปต้องเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก เพราะเราจำเป็นต้องควบคุมให้มีความชื้นสม่ำเสมอ ใช่มั้ยครับจารย์ ===== จาก กองปุ๋ย 2 X 2.5 X 1.5 นะครับ ผมประเมินไว้คร่าว ๆ ว่า 1. ขี้วัว 20 กระสอบ กระสอบละ 24 บาท เป็นเงิน 480 บาท 2. ขุยมะพร้าว 40 กระสอบ ตีเป็นกระสอบละ 15 บาท เป็นเงิน 600 บาท 3. ฟาง 5 ก้อน ก้อนละ 40 บาท เป็นเงิน 200 บาท รวมต้นทุนขั้นต้น 1,280 บาท ผมยังไม่ได้คิดค่าน้ำ นะครับ ไม่แน่ใจว่าเมื่่อเสร็จแล้วจะได้น้ำหนักปุ๋ยเท่าไร เดี๋ยวต้องมาดูอีกทีครับ แต่ต่อไปผมมีความคิดว่า จะประกาศรับซื้อ ผักตบชวา/จอก/สาหร่ายหางกระรอก แห้ง กิโลละ 50 สตางค์ ดูซิว่าจะมีคนสนใจเอามาขายมั้ย เอามาใช้แทนขุยมะพร้าวแทนฟาง ผมกะ ๆ ดูแล้วลำพังจอกกับสาหร่ายหางกระรอกในสวนมะพร้าวผมคงไม่พอที่จะทำได้แน่ครับ ต้องใช้วิธีรับซื้อเอา ไว้อาทิตย์หน้าจะมาโพสต์ใหม่นะครับ ;) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 09:48:14 PM ที่สวนมีใบสักอยู่เยอะเลยต้องเผาตลอดในช่วงหน้าแล้งกลัวไฟ หากเอามาทำปุ๋ยแบบนี้จะได้ไหมครับ - ใบสักนี่อย่างหรูเลยครับ แต่ขอให้รถหรือคนเหยียบ ๆ ให้ใบมีขนาดเล็กลงก่อน ไม่อย่างนั้นเวลาขึ้นกองปุ๋ยใบสักมันจะโปร่งเกินไป ความร้อนหนีได้ง่ายครับ จะเก็บความร้อนไม่ได้ (แต่เวลาขึ้นกองปุ๋ยนี่ห้ามเหยียบนะครับ) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 10:01:27 PM - คุณปากแดงดอทคอมครับ สุดยอดเลยครับ ทั้งเรื่องการวิเคราะห์ ทั้งเรื่องความเป็นเหตุเป็นผลในกระบวนการทำปุ๋ยหมัก
- ถูกต้องครับที่ว่าขุยมะพร้าวมีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้กองปุ๋ยมีความพรุนที่ไม่ดี อากาศในกองจะไหลถ่ายเทไม่ดี ตัวขุยมะพร้าวเองก็ย่อยสลายได้ยาก การนำเศษใบไม้ ฟาง ผักตบ มาสลับหรือคลุกในชั้น จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ตัวขุยมะพร้าวเองก็ช่วยซับความชื้นอาจทำให้วัสดุในกองปุ๋ยแฉะได้ แต่ยังไงเราสามารถทดลองต่อไปได้ครับ ปุ๋ยที่ได้ยังไงก็มีคุณภาพสูงครับผม รับประกันได้ - ระวังการรับซื้อเศษพืชจะทำให้ต้นทุนการทำปุ๋ยแพงเกินไป จากกองละ 1 พันจะกลายเป็นกองละ 4 พันได้ - ชอบที่คุณปากแดงสังเกตว่าลึกลงไปวัสดุเริ่มแห้ง อันนี้ชอบมากครับ ถ้าสมาชิกได้ลงมือทำแบบนี้ก็จะได้เข้าใจความเป็นเหตุเป็นผลที่อธิบายได้ด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่สูตรผีบอก การทำกองต่อไปก็ไม่ยากแล้วครับ - เข้าใจแล้วนะครับที่คุณครูใหญ่ดวงพรอยากให้พวกเราสมาชิกลงมือทำ ... ก็เพื่อให้สมาชิกได้มีโอกาสเรียนรู้จากการที่ครูน้อย tera แนะนำและอธิบายให้กับท่านที่ลงมือทำไงครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ปากแดงดอทคอม ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 10:21:46 PM - ระวังการรับซื้อเศษพืชจะทำให้ต้นทุนการทำปุ๋ยแพงเกินไป จากกองละ 1 พันจะกลายเป็นกองละ 4 พันได้ ขอบคุณครับอาจารย์ ตรงนี้ผมก็คิดไว้นะครับ แต่ตอนนี้เป็นตอนเรียนรู้ก่อนครับ พอจบกระบวนการเรียนรู้ตรงนี้ก็จะมานั่งวิเคราะห์ต่้อว่าจะลดต้นทุนได้อย่างไรอีก ถ้ารับซื้อจุดคุ้มทุนจะอยู่ที่กี่บาท ถ้าไ่ม่คุ้มต้องหาวิธีอื่น นี่ก็มอง ๆ แปลงไกล้ ๆ กันเค้าปลูกข้าวโพดไว้ครับว่าจะลองไปคุยดูว่าหลังจากล้มข้าวโพดแล้วจะขอเค้ามาได้มั้ย ถ้าไม่ได้นี่จะต้องซื้อด้วยราคาเท่าไหร่ ตอนนี้ขับรถไปไหนสายตาจับจ้องหาเศษพืชที่คนเค้ามองข้ามตลอดเวลาเลยครับ :D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: Tommy_LA ที่ พฤษภาคม 27, 2012, 10:55:27 PM - ทำโครงการนี้ แม่โจ้ไม่หวังว่าหมอกควันจะลดครับ มันจะลดได้ยังไงในเมื่อสาเหตุของการเผามีมากมายอย่างที่พูดมาแล้ว แม่โจ้ช่วยได้เฉพาะการบริการวิชาการ เอาความรู้ไปช่วยให้เกษตรกรนำเศษพืชมาใช้ประโยชน์แทนการเผา สอนให้เกษตรกรเอาวิกฤติเป็นโอกาส แม่โจ้ไม่มีงบประมาณครับ พวกผมมีหน้าที่สอนอย่างเดียว จะไปบังคับไปสั่งให้ผู้ว่าราชการหรือรัฐมนตรีจัดงบประมาณมาช่วยหมอกควันได้อย่างไร ทำแค่นี้ก็ผิดปกติของจานทั่วไปแล่ว ท่าน อ. ว่า กระทรวง ทบวง กรม ไหน ควรเป็นแม่งานครับ- เท่าที่ทราบ แต่ละจังหวัดไม่มีงบช่วยหมอกควันครับผม มีบ้างก็ในระดับล้านบาท - ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจจริงเกี่ยวกับหมอกควันพิษ ไม่อยากให้พี่น้องไทยเจ็บป่วยจากหมอกควัน เอกชนได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวหนี ก็น่าจะจัดงบด่วนให้จังหวัดละสัก 1 พันล้าน แปดจังหวัดก็แปดพันล้าน เอาไปแก้ปัญหาในทุกตำบลทุกหมู่บ้าน เศษพืชทุกเส้นถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน เป็นปุ๋ยให้หมด เงินนี้เอาไปจ้างคนเฝ้าป่า เอาไปจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรที่ต้องการเผาป่าเพื่อปลูกข้าวโพด แปดพันล้านบาทเปรียบเทียบกับแสนล้านบาทแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพนี่ ผมว่าเทียบกันไม่ได้เลยครับ (ผมไม่ได้ว่ารัฐบาลใดครับ ผมว่าทุกรัฐบาลใส่ใจไม่เพียงพอเหมือน ๆ กัน) - ทำอย่างนี้สัก 10 ปี การเผาก็น่าจะหายไปครับ กระทรวงเกษตรฯ หรือ กระทรวงทรัพย์ครับ กรมไหน หากอยู่ในสาย ผมจะได้กระซิบบอกได้ครับ หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: 2502 ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 08:20:51 AM อาจารย์คะ ได้ขึ้นกองปุ๋ยตามที่อาจารย์แนะนำ แต่ไม่ถึงสิบห้าชั้นหรอกนะคะ ทำเท่าที่มีแรงจะขนฟางและขี้วัวได้ สลับกับชั้นของสับปะรดสับ ได้ซักประมาณ เจ็ด_แปดชั้น เมื่อคินนี้ฝนตก เช้านี้เลยไม่ต้องรดน้ำ คงไม่ได้ส่งการบ้านอาจารย์หรอกค่ะ แต่เรียนมาให้ทราบว่า เจ้าของฟางและขี้วัว เขามาเห็นตอนเช้านี้ แล้วเขาสนใจมาก ๆ เขาบอกว่าจะลองทำ แต่ให้พ้นช่วงข้าวนาปีก่อน เพราะจะได้มีฟางเยอะ ๆ และถ้าใครโม่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก็จะให้มาโม่ที่โรงวัวด้วย ปกติเขาก็ให้รถมาโม่ข้าวโพดที่โรงวัวอยู่แล้วค่ะ บางทีช่วงหน้าข้าวโพดหวาน ก็ไปหักต้นข้าวโพดมาให้วัวกิน เรื่องต้นทุนด้านขี้วัว ฟาง ซังข้าวโพด เป็นอันว่าตัดไป เหลือแต่ค่าน้ำมันที่ใช้วิ่งขนเท่านั้นแหละค่ะ ถ้าเขาเริ่มทำเมื่อไหร่ จะเรียนให้ทราบเป็นระยะ ๆ นะคะ คงต้องไปศึกษาเรื่องการโพสรูปด้วย เพราะใช้ไม่เป็น :D คุณดวงพรคะ คงไม่ได้ร่วมสนุกกับทางเวปหรอกค่ะ เพราะความสามารถไม่ให้ อย่างน้อยก็ยังถ่ายรูปไม่ได้ และโพสรูปไม่เป็นอีกด้วยค่ะ เพราะไม่กล้าใช้กล้องของคุณสามี เขาหวงมาก ๆ แค่เฉพาะเลนซ์อย่างเดียวก็หลักหมื่นแล้ว เดี๋ยวของเขาเสีย ขอลุ้นและเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันกันดีกว่าค่ะ :-[[/quot คุณ 2502 สมัครแข่งหมักปุ๋ย ชิงรางวัลจากเวปด้วยใช่ใหมคะ ดวงพรจะได้บรรจุชื่อ ลงในรายชื่อด้วยน่ะค่ะ สมาชิกท่านใดดูการบรรยายการหมักปุ๋ย ใช้ปุ๋ยหมักกับพืชต่างๆแล้วก็มาลงชื่อหมักแข่งกันเป็นกิจกรรมสนุกๆและได้ประโยชน์ด้วยกันนะคะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 08:59:21 AM - ระวังการรับซื้อเศษพืชจะทำให้ต้นทุนการทำปุ๋ยแพงเกินไป จากกองละ 1 พันจะกลายเป็นกองละ 4 พันได้ ขอบคุณครับอาจารย์ ตรงนี้ผมก็คิดไว้นะครับ แต่ตอนนี้เป็นตอนเรียนรู้ก่อนครับ พอจบกระบวนการเรียนรู้ตรงนี้ก็จะมานั่งวิเคราะห์ต่้อว่าจะลดต้นทุนได้อย่างไรอีก ถ้ารับซื้อจุดคุ้มทุนจะอยู่ที่กี่บาท ถ้าไ่ม่คุ้มต้องหาวิธีอื่น นี่ก็มอง ๆ แปลงไกล้ ๆ กันเค้าปลูกข้าวโพดไว้ครับว่าจะลองไปคุยดูว่าหลังจากล้มข้าวโพดแล้วจะขอเค้ามาได้มั้ย ถ้าไม่ได้นี่จะต้องซื้อด้วยราคาเท่าไหร่ ตอนนี้ขับรถไปไหนสายตาจับจ้องหาเศษพืชที่คนเค้ามองข้ามตลอดเวลาเลยครับ :D - เยี่ยมครับผม แต่ให้ระวังว่าต้นข้าวโพดต้องผ่านเครื่องโม่ก่อนขึ้นกองปุ๋ยนะครับ (ข้าวโพดหวานหรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ครับ) ให้ไปหาเศษซังและเปลือกข้าวโพดที่เขาโม่เอาเม็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เศษพวกนี้เขามักเผาทิ้งครับ ของฟรี หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: ดวงพร ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:01:02 AM - ระวังการรับซื้อเศษพืชจะทำให้ต้นทุนการทำปุ๋ยแพงเกินไป จากกองละ 1 พันจะกลายเป็นกองละ 4 พันได้ ขอบคุณครับอาจารย์ ตรงนี้ผมก็คิดไว้นะครับ แต่ตอนนี้เป็นตอนเรียนรู้ก่อนครับ พอจบกระบวนการเรียนรู้ตรงนี้ก็จะมานั่งวิเคราะห์ต่้อว่าจะลดต้นทุนได้อย่างไรอีก ถ้ารับซื้อจุดคุ้มทุนจะอยู่ที่กี่บาท ถ้าไ่ม่คุ้มต้องหาวิธีอื่น นี่ก็มอง ๆ แปลงไกล้ ๆ กันเค้าปลูกข้าวโพดไว้ครับว่าจะลองไปคุยดูว่าหลังจากล้มข้าวโพดแล้วจะขอเค้ามาได้มั้ย ถ้าไม่ได้นี่จะต้องซื้อด้วยราคาเท่าไหร่ ตอนนี้ขับรถไปไหนสายตาจับจ้องหาเศษพืชที่คนเค้ามองข้ามตลอดเวลาเลยครับ :D ครูใหญ่เข้าประจำห้องแล้วค่ะเช้านี้ ;D ;D ;D ชื่นใจจริง ที่นักเรียนคนที่ 1 ลำดับที่1 มีความตั้งใจมากมายกับการหมักปุ๋ยแบบใหม่ขนาดนี้คะแนนคงนำลิ่วคนอื่นแน่ๆ ;D ;D คนอื่นๆที่ลงชื่อไว้แล้ว ทะยอยๆส่งการบ้านอาจารย์นะคะ....ถ้าได้ลงมือทำไปแล้ว หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:12:34 AM - ทำโครงการนี้ แม่โจ้ไม่หวังว่าหมอกควันจะลดครับ มันจะลดได้ยังไงในเมื่อสาเหตุของการเผามีมากมายอย่างที่พูดมาแล้ว แม่โจ้ช่วยได้เฉพาะการบริการวิชาการ เอาความรู้ไปช่วยให้เกษตรกรนำเศษพืชมาใช้ประโยชน์แทนการเผา สอนให้เกษตรกรเอาวิกฤติเป็นโอกาส แม่โจ้ไม่มีงบประมาณครับ พวกผมมีหน้าที่สอนอย่างเดียว จะไปบังคับไปสั่งให้ผู้ว่าราชการหรือรัฐมนตรีจัดงบประมาณมาช่วยหมอกควันได้อย่างไร ทำแค่นี้ก็ผิดปกติของจานทั่วไปแล่ว ท่าน อ. ว่า กระทรวง ทบวง กรม ไหน ควรเป็นแม่งานครับ- เท่าที่ทราบ แต่ละจังหวัดไม่มีงบช่วยหมอกควันครับผม มีบ้างก็ในระดับล้านบาท - ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจจริงเกี่ยวกับหมอกควันพิษ ไม่อยากให้พี่น้องไทยเจ็บป่วยจากหมอกควัน เอกชนได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวหนี ก็น่าจะจัดงบด่วนให้จังหวัดละสัก 1 พันล้าน แปดจังหวัดก็แปดพันล้าน เอาไปแก้ปัญหาในทุกตำบลทุกหมู่บ้าน เศษพืชทุกเส้นถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน เป็นปุ๋ยให้หมด เงินนี้เอาไปจ้างคนเฝ้าป่า เอาไปจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรที่ต้องการเผาป่าเพื่อปลูกข้าวโพด แปดพันล้านบาทเปรียบเทียบกับแสนล้านบาทแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพนี่ ผมว่าเทียบกันไม่ได้เลยครับ (ผมไม่ได้ว่ารัฐบาลใดครับ ผมว่าทุกรัฐบาลใส่ใจไม่เพียงพอเหมือน ๆ กัน) - ทำอย่างนี้สัก 10 ปี การเผาก็น่าจะหายไปครับ กระทรวงเกษตรฯ หรือ กระทรวงทรัพย์ครับ กรมไหน หากอยู่ในสาย ผมจะได้กระซิบบอกได้ครับ - ผมว่าทำเป็นโครงการประชานิยมได้เลย - ให้งบผ่านผู้ว่าจะดีกว่า เพราะผู้ว่าคุมได้ทุกกรมที่อยู่ในจังหวัด - ที่ผ่านมาในการแก้ไขปัญหาหมอกควันพิษเจ้าหน้าที่เกษตรจะนิ่งเงียบ ทสจ.แต่ละจังหวัดก็ทำงานแต่ในตึกทำแต่ในกระดาษ สิ่งแวดล้อมภาคยิ่งเงียบ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ไม่มีผลงาน จนอดีต สส.ต้องออกโรงฟ้องอธิบดี - ถ้ามีงบให้ เงินต้องลงถึงพื้นที่ตั้งแต่เดือนกันยาตุลานี้แล้ว เพราะพฤศจิกานี่เขาเริ่มเผาฟางเผาเศษข้าวโพดกันแล้ว - อยากให้มีระบบหักเงินงบประมาณของ อปท.ที่ปล่อยให้มีการเผา มีเงินพิเศษให้ อปท. ผญบ.ที่มีผลงานดีเด่น อยากให้มีระบบดีดไข่เจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลย อยากให้มีระบบสายสืบที่โทรเข้าหา call center - ไม่อยากให้ใช้งบประมาณในรูปของการซื้อเครื่องย่อยเศษพืช 160 ล้านอย่างปีนี้ เพราะทุกวันนี้ของก็ยังไม่มาเลย แล้วเครื่องย่อยมันไปเกี่ยวอะไรกับฟางกับซังข้าวโพดครับ ? - ให้มีการตรวจสอบการใช้เงินอย่างละเอียด (หลังจากหัก % แล้ว !) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: tera ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:20:13 AM อาจารย์คะ ได้ขึ้นกองปุ๋ยตามที่อาจารย์แนะนำ แต่ไม่ถึงสิบห้าชั้นหรอกนะคะ ทำเท่าที่มีแรงจะขนฟางและขี้วัวได้ สลับกับชั้นของสับปะรดสับ ได้ซักประมาณ เจ็ด_แปดชั้น เมื่อคินนี้ฝนตก เช้านี้เลยไม่ต้องรดน้ำ คงไม่ได้ส่งการบ้านอาจารย์หรอกค่ะ แต่เรียนมาให้ทราบว่า เจ้าของฟางและขี้วัว เขามาเห็นตอนเช้านี้ แล้วเขาสนใจมาก ๆ เขาบอกว่าจะลองทำ แต่ให้พ้นช่วงข้าวนาปีก่อน เพราะจะได้มีฟางเยอะ ๆ และถ้าใครโม่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก็จะให้มาโม่ที่โรงวัวด้วย ปกติเขาก็ให้รถมาโม่ข้าวโพดที่โรงวัวอยู่แล้วค่ะ บางทีช่วงหน้าข้าวโพดหวาน ก็ไปหักต้นข้าวโพดมาให้วัวกิน เรื่องต้นทุนด้านขี้วัว ฟาง ซังข้าวโพด เป็นอันว่าตัดไป เหลือแต่ค่าน้ำมันที่ใช้วิ่งขนเท่านั้นแหละค่ะ ถ้าเขาเริ่มทำเมื่อไหร่ จะเรียนให้ทราบเป็นระยะ ๆ นะคะ คงต้องไปศึกษาเรื่องการโพสรูปด้วย เพราะใช้ไม่เป็น :D คุณดวงพรคะ คงไม่ได้ร่วมสนุกกับทางเวปหรอกค่ะ เพราะความสามารถไม่ให้ อย่างน้อยก็ยังถ่ายรูปไม่ได้ และโพสรูปไม่เป็นอีกด้วยค่ะ เพราะไม่กล้าใช้กล้องของคุณสามี เขาหวงมาก ๆ แค่เฉพาะเลนซ์อย่างเดียวก็หลักหมื่นแล้ว เดี๋ยวของเขาเสีย ขอลุ้นและเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันกันดีกว่าค่ะ :-[[/quot คุณ 2502 สมัครแข่งหมักปุ๋ย ชิงรางวัลจากเวปด้วยใช่ใหมคะ ดวงพรจะได้บรรจุชื่อ ลงในรายชื่อด้วยน่ะค่ะ สมาชิกท่านใดดูการบรรยายการหมักปุ๋ย ใช้ปุ๋ยหมักกับพืชต่างๆแล้วก็มาลงชื่อหมักแข่งกันเป็นกิจกรรมสนุกๆและได้ประโยชน์ด้วยกันนะคะ ;D - คุณน้อง 2502 ครับ น้องเป็นผู้หญิง น้องต้องเป็นช้างเท้าหน้าของครอบครัวสิครับ น้องต้องเป็นถังข้าวสารอย่างที่คนทำงานบ้านผมเป็นสิครับ ฮิฮิ บอกช้างเท้าหลังของบ้านไปเลยว่า หัวหน้าครอบครัวคนนี้อยากได้กล้องดิจิตอลปัญญาอ่อนสักอัน ราคาไม่เกิน 8 พัน หรือถ้าไม่อยากตายให้รีบให้ซื้อ Canon G12 ราคา 17,000 บาท ใช้ถ่ายรูปกองปุ๋ยได้ดีนักแลครับ (ซื้อแบตของปลอมสำรองไว้ก็ดี ราคาไม่เกิน 2 พัน) หัวข้อ: Re: ชวนสมาชิกทำปุ๋ยหมักวิธีใหม่ของแม่โจ้ ไม่ต้องพลิกกลับกอง สองเดือนเสร็จ เริ่มหัวข้อโดย: konthain(นพ) ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 09:23:13 AM - ทำโครงการนี้ แม่โจ้ไม่หวังว่าหมอกควันจะลดครับ มันจะลดได้ยังไงในเมื่อสาเหตุของการเผามีมากมายอย่างที่พูดมาแล้ว แม่โจ้ช่วยได้เฉพาะก |